นายเอาไปคืนเลย

นายทุนลดต้นทุน(งดถุง) ในขณะทีี่ตัวเองยังคงใช้พลาติกเหมือนเดิม(ถ้าไม่ใช้ต้นทุนเพิ่มมหาศาล) แล้วบอกงดเพราะรักษ์โลก งงมั้ย

เลื่อนลอย

ค่อยๆ ลดไปทีละอย่างอันไหน จำเป็นใช้ก็ต้องใช้ ไม่ใช่แค่ พลาสติกที่มันเป็นปัญหาอย่างเดียว กระดาษก็ใช้สารเคมีเยอะในกระบวนการต่างๆเหมือนกัน ใช้พลังงานเยอะอีกเผลอๆ มากกว่า พลาสติกด้วยซ้ำ ปัญหามันอยู่ที่การจัดการขยะพลาสติกตะหาก ซึ่ง ปท เรามันยังไม่มีอะไรมารองรับ ไม่เผาก็ฝังกลบ มีแค่ 2 อย่างนี้

ทุกอย่างมันค่อยเป็นค่อยไปทั้งนั้นแหละครับ

สมัยก่อนตอนเค้ารณรงค์ให้เลิกสูบบุหรี่บนรถเมล์ คนสูบก็ออกมาด่ากัน ผมจำได้เลยว่าญาติผมหลายคนบอกว่าไม่ให้สูบบนรถเมล์งั้นก็ห้ามสูบที่อื่นด้วยสิวะ ฯลฯ แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการปรับตัวของสังคมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

จากในอดีตที่สูบบุหรี่กันที่ไหนเมื่อไรก็ได้ ทุกวันนี้คนสูบบุหรี่ถ้าหน้าไม่ด้านจริงไม่ควักมาสูบริมถนนแล้วเพราะถูกมองอย่างรังเกียจเป็นอย่างมากจากคนอื่นๆในสังคม ส่วนรถเมล์ โรงพยาบาล สถานศึกษา กลายเป็นที่ต้องห้ามไปแล้ว ... กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ใช้เวลาเป็นสิบๆปี

หรืออย่างโครงการตาวิเศษสมัยเราเด็กๆ ถ้าจำได้สมัยนั้นคนซื้อของมา แกะห่อแล้วทิ้งเลย เดินๆอยู่ถุยน้ำลายเลย คนอื่นในสังคมก็มองเฉยๆ แต่ด้วยการณรงค์อย่างต่อเนื่องทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ยอมถือขยะเดินหาถังแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้คือการนับหนึ่ง เรายังไม่รู้ว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนับสอง สาม สี่ ห้า ต่อไปหรือไม่ แต่ถ้าเราอยากให้มันไปถึงจุดนั้น เราก็ช่วยๆกันไปก่อนครับ ถ้ามันล้มเหลวจะถอยกลับมาศูนย์อีกครั้งก็ค่อยว่ากัน

อาจจะ​เรื่องสุขอนามัย​หรือเปล่า

จริงงงงง

เข้าใจว่าเจตนาดีหวังดี อยากให้สังคมปรับทิศทางและจิตสาธารณะมากขึ้นไปทีละลำดับ ทุกคนก็คาดหวังไม่ต่างกัน แม้ตัวอย่างที่ยกมาจะคนละเรื่อง บวกคำว่า 'ช่วยๆกันไปก่อนครับ ถ้ามันล้มเหลวจะถอยกลับมาศูนย์อีกครั้งก็ค่อยว่ากัน' ได้ยินประโยคแบบนี้มานานแทบทุกเรื่อง ทว่าสุดท้ายภาระก็ตกอยู่ที่ผู้บริโภคนิรันดร์ นายทุนลอยตัวเสมอ โดนหลอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ช่วยอย่างที่นำกระแสมาอ้าง โยนให้พวกเรามาถกเถียงกันเอง ผลออกมาไม่เกิดประโยชน์ สูญเปล่า ทั้งที่พวกเราพร้อมที่จะร่วมมือและเห็นด้วยอย่างเต็มใจ จึงไม่ชอบอะไรที่เลื่อนลอย รอๆไปก่อน ทำอะไรต้องเริ่มจากต้น ไม่ใช่ผลักมาปลายอย่างสวยหรู ลองคิดดูถ้านายทุนปรับที่ตัวเองก่อน แล้วมาขอความร่วมมือ รับรองว่างดงาม สง่างาม

เทคโนโลทึ่ช่วยย่อยสลายพลาสติกได้อย่างรวดเร็วและไม่เกิดมลพิษ ไม่ยากเกินมันสมองของมนุษย์หรอกครับ มนุษย์สร้างได้ก็ทำลายได้เหมือนกัน

ค่อยๆเริ่มครับ ดีกว่าไม่เริ่มต้น

ปล. สิงคโปร์สามารถกำจัดขยะพลาสติกได้อย่างรวดเร็ว ลองเสริชในยูทูปดูครับ น่าสนใจมาก โดยใช้พลังงานความร้อนในการกำจัดขยะไปสร้างกระแสไฟฟ้าได้อีก

งั้นคุณรอนายทุนไปก่อนก็ได้ครับ ไม่ว่ากันฮะ

จย้าาา

ลดถุงพลาสติก คือ ลดขยะ ที่ย่อยยาก แต่ไม่ได้ช่วยโลกร้อน
บางอย่างลดไม่ได้ ก็ต้องใช้ไป แต่ต้องมีกระบวนการช่วยลดขยะที่ตามมา ทำยังไง

ต้นทุนสูงขึ้นแน่นอนครับ แต่ว่าเทรนด์มันมาซักพักก็คงแบบค่อยเป็นค่อยไปแหละ จะให้ทำอะไรตูมตามทันทีก็คงลำบาก อีกอย่างข้อดีของพลาสติดหลายๆ อย่างก็คงหาวัสดุทดแทนลำบากด้วย

ส่วนตัวใช้ถุงผ้ามา 2 ปีได้แล้วครับ