BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: ไอ้ลูกแมวตัวเล็ก
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 3743
ที่อยู่: in your heart
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 19:47
[RE: เปิดนาที ตร.ศาลส่งปืนให้ “เสมียนทนาย” ก่อนลั่นไกใส่พล.ต.ต.หลังกราดยิงสนั่น]
leeloe พิมพ์ว่า:
indigoxblue พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
เกินกว่าเหตุเต็มๆ ยิงจากนอกห้องด้วยคิดว่ายิงจากด้านหลังแล้วยิงซ้ำแน่นอน...เพราะผู้ตายโดนไปหกนัด ฆ่าคนตายโดนเจตนา กับปืนผิดมือน่าจะโดน...ตำรวจก็ต้องโดนสอบด้วย
ข่าวว่าเป็น .45 จริงๆ โดนไปนัดสองนัดน่าจะทรุดแล้ว...แต่คงอะดีนารีนหลั่งเห็นลูกพี่โดนยิง เลยซ้ำซะหมดแม๊คเลย หนักอยู่สู้คดีกันอีกนาน มันชักยังไงตำรวจนี่พิกลมากรอสรุปคดีแล้วกัน  

ท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ หรือเคยยิงคนจริงๆมาก่อนเหรอครับ  

มันมีหลักกฏหมายอยู่ระหว่างป้องกันตัวกับเกินกว่าเหตุ ฎีกาด้วยครับ อย่างในกรณีนี้ถ้าเป็นตำรวจเหมือนโดนบังคับว่ายิงห้าห้ามเอาตายล่ะมั่งเพราะศาลจะมองว่าตำรวจจะต้องชำนาญในการยิงปืน หรือไม่ก็ยิงไม่เกินสองนัด แต่ถ้าบุคคลธรรมดาถาพิสูจน์ว่าไม่ชำนาญใช้ปืนจริงๆ น่าตะรอดหรือโทษเบากว่าอาจจะอ้างตกใจ อะไรก็แล้วแต่ไป เพราะเคยมีฎีกาโจรจะข่มขื่นผู้หญิงมั่ง ผู้หญิงตกใจเลยยิงไปหมดแม้ก แต่ในกรณีนั้นเหมือนมันทางตันด้วยหนีไม่ได้ ญ ต้องสู้อย่างเดียว โดยสรุปก็หวังแต่ศาลเมตตาและมองตามความจริง รายละเอียดจริงมีเยอะมากขนาดที่ใช้เวลาเป็นตายคิดไม่ทันหรอกครับ
อ้อเพิ่มให้ โดยส่วนตัวมองว่าตำรวจผิดและเสมียนทนายผิด น่ะเพราะหลักของการป้องกันตนเอง คือไม่สามารถพึ่งผลของกฏหมายได้ด้วยภัยอันตรายใกล้จะถึงในกรณีดังกล่าว การวิ่งหาตำรวจก็คือพึ่งกฏหมายนั้นแหละครับ จะโดนคดีอะไรว่ากันอีกที  


ผมทราบทั้งกฎหมายและทราบทั้งยุทธวิธีครับ
ในเรื่องการยิงเพื่อป้องกัน ตำรวจที่ยิงใช้กฎหมายมาตราเดียวกับประชาชนทั่วไปนี่แหละครับ
หลักพิจารณาก็หลักเดียวกัน
ผมขออนุญาตเรียถามท่านหน่อยนะครับ
ยิงนัดเดียว เจตนาฆ่าไหม สองนัดเจตนาฆ่าไหม
มันเจตนาฆ่าหมดแหละครับ
อีกอย่างในสถานการณ์จริง จำเป็นไหมต้องยิงนัดเดียวหรือสองนัด
ใส่หมดแม๊กหมดแหละครับ ยังไงก็เอาชีวิตเหมือนกัน
การที่เรามานั่งพิจารณาเคสต่างๆย้อนหลังโดยที่เราไม่ได้อยู่
มันอาจทำให้เราคิดไปได้ว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้
เค้าเรียกว่า monday morning quaterbacking ครับ
ซึ่งไม่เกี่ยวเลยชำนาญไม่ชำนาญ เผชิญเหตุจริงๆ เชื่อผม ล่กทุกคน

เรื่องนี้ถามว่าเสมียนทนายจะผืดไหม
ต้องดูครับว่าขณะที่ยิง ภยันตรายยังเกิดต่อเนื่องอยู่หรือเปล่า
การป้องกันไม่จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของตัวเองเท่านั้นนี่ครับ ถูกไหม
ชีวิตแลกชีวิต และเป็นวิถีทางที่น้อยที่สุดที่จะทำให้คนในห้องพิจารณา
ผ่านพ้นภยันตรายตรงนั้นไปได้ ผมว่ามันพอสมควรแก่เหตุนะครับ
ส่วนยิงหกนัดหรือนัดเดียวนี่ผมมองว่าไม่ต่าง เพราะเจตนายิงให้ตายเหมือนกัน
ซึ่งมันก็สมควรแก่เหตุ ตามหลักสัดส่วนและหลักวิถีทางที่น้อยที่สุดถูกไหมครับ

ปล. ไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ
แก้ไขล่าสุดโดย indigoxblue เมื่อ Wed Nov 13, 2019 19:48, ทั้งหมด 1 ครั้ง
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไอ้แมวน้อย
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 42077
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Wed Nov 13, 2019 21:56
[RE: เปิดนาที ตร.ศาลส่งปืนให้ “เสมียนทนาย” ก่อนลั่นไกใส่พล.ต.ต.หลังกราดยิงสนั่น]
Spoil
indigoxblue พิมพ์ว่า:
leeloe พิมพ์ว่า:
indigoxblue พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
เกินกว่าเหตุเต็มๆ ยิงจากนอกห้องด้วยคิดว่ายิงจากด้านหลังแล้วยิงซ้ำแน่นอน...เพราะผู้ตายโดนไปหกนัด ฆ่าคนตายโดนเจตนา กับปืนผิดมือน่าจะโดน...ตำรวจก็ต้องโดนสอบด้วย
ข่าวว่าเป็น .45 จริงๆ โดนไปนัดสองนัดน่าจะทรุดแล้ว...แต่คงอะดีนารีนหลั่งเห็นลูกพี่โดนยิง เลยซ้ำซะหมดแม๊คเลย หนักอยู่สู้คดีกันอีกนาน มันชักยังไงตำรวจนี่พิกลมากรอสรุปคดีแล้วกัน  

ท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ หรือเคยยิงคนจริงๆมาก่อนเหรอครับ  

มันมีหลักกฏหมายอยู่ระหว่างป้องกันตัวกับเกินกว่าเหตุ ฎีกาด้วยครับ อย่างในกรณีนี้ถ้าเป็นตำรวจเหมือนโดนบังคับว่ายิงห้าห้ามเอาตายล่ะมั่งเพราะศาลจะมองว่าตำรวจจะต้องชำนาญในการยิงปืน หรือไม่ก็ยิงไม่เกินสองนัด แต่ถ้าบุคคลธรรมดาถาพิสูจน์ว่าไม่ชำนาญใช้ปืนจริงๆ น่าตะรอดหรือโทษเบากว่าอาจจะอ้างตกใจ อะไรก็แล้วแต่ไป เพราะเคยมีฎีกาโจรจะข่มขื่นผู้หญิงมั่ง ผู้หญิงตกใจเลยยิงไปหมดแม้ก แต่ในกรณีนั้นเหมือนมันทางตันด้วยหนีไม่ได้ ญ ต้องสู้อย่างเดียว โดยสรุปก็หวังแต่ศาลเมตตาและมองตามความจริง รายละเอียดจริงมีเยอะมากขนาดที่ใช้เวลาเป็นตายคิดไม่ทันหรอกครับ
อ้อเพิ่มให้ โดยส่วนตัวมองว่าตำรวจผิดและเสมียนทนายผิด น่ะเพราะหลักของการป้องกันตนเอง คือไม่สามารถพึ่งผลของกฏหมายได้ด้วยภัยอันตรายใกล้จะถึงในกรณีดังกล่าว การวิ่งหาตำรวจก็คือพึ่งกฏหมายนั้นแหละครับ จะโดนคดีอะไรว่ากันอีกที  


ผมทราบทั้งกฎหมายและทราบทั้งยุทธวิธีครับ
ในเรื่องการยิงเพื่อป้องกัน ตำรวจที่ยิงใช้กฎหมายมาตราเดียวกับประชาชนทั่วไปนี่แหละครับ
หลักพิจารณาก็หลักเดียวกัน
ผมขออนุญาตเรียถามท่านหน่อยนะครับ
ยิงนัดเดียว เจตนาฆ่าไหม สองนัดเจตนาฆ่าไหม
มันเจตนาฆ่าหมดแหละครับ
อีกอย่างในสถานการณ์จริง จำเป็นไหมต้องยิงนัดเดียวหรือสองนัด
ใส่หมดแม๊กหมดแหละครับ ยังไงก็เอาชีวิตเหมือนกัน
การที่เรามานั่งพิจารณาเคสต่างๆย้อนหลังโดยที่เราไม่ได้อยู่
มันอาจทำให้เราคิดไปได้ว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้
เค้าเรียกว่า monday morning quaterbacking ครับ
ซึ่งไม่เกี่ยวเลยชำนาญไม่ชำนาญ เผชิญเหตุจริงๆ เชื่อผม ล่กทุกคน

เรื่องนี้ถามว่าเสมียนทนายจะผืดไหม
ต้องดูครับว่าขณะที่ยิง ภยันตรายยังเกิดต่อเนื่องอยู่หรือเปล่า
การป้องกันไม่จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของตัวเองเท่านั้นนี่ครับ ถูกไหม
ชีวิตแลกชีวิต และเป็นวิถีทางที่น้อยที่สุดที่จะทำให้คนในห้องพิจารณา
ผ่านพ้นภยันตรายตรงนั้นไปได้ ผมว่ามันพอสมควรแก่เหตุนะครับ
ส่วนยิงหกนัดหรือนัดเดียวนี่ผมมองว่าไม่ต่าง เพราะเจตนายิงให้ตายเหมือนกัน
ซึ่งมันก็สมควรแก่เหตุ ตามหลักสัดส่วนและหลักวิถีทางที่น้อยที่สุดถูกไหมครับ

ปล. ไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ
 
 

สำหรับผมนะ ผมว่าผมไม่เคยบอกนะว่าจริงๆ แล้วน่าจะต้องอย่างนั้น น่าจะต้องอย่างนี้ หรือหลัก monday morning quaterbacking ที่ท่านยกมานั่นแหละ...
ผมแค่ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นแบบนั้นรึเปล่า? เพราะพิจารณาจากเนื้อหาและรูปที่ออกมาก็วิจารณ์เท่าที่เห็นเบื้องต้นตอนนี้แค่นั้น และผมจะบอกทุกครั้งว่า แล้วแต่พยานหลักฐานที่มีและต้องรอเขามาสรุปคดีจริงๆ ให้ฟังอีกครั้งหลังศาลตัดสินแล้วกันถึงจะจบได้...

สำหรับเคสนี้อันนี้ก็ข่าวอีกด้านจากทางเมีย พล.ต.ต.ธารินทร์ ผมตัดมาบางส่วน
"จึงหยิบปืนมายิงเอง จากด้านนอกยิงผ่านกระจก จากนั้น พล.ต.ต.ธารินทร์ ก็ฟุ่บลงบนโต๊ะแล้ว แต่ทาง นายธนากร ก็เดินเข้าไปยิงซ้ำอีก ทั้งที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ได้ยิงออกนอกห้องเลย เพราะเขาไม่ตั้งใจจะทำร้ายใครที่ไม่เกี่ยวข้อง มันแสดงให้เห็นว่า นายธนากร มีเจตนาจะฆ่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ให้เสียชีวิต"
ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3052522

ถ้าสอบแล้วจริงตามคำให้การนี้ก็ตอบคำถามได้ว่าทำไมเข้าตั้งหกนัด ก็ตามนั้นแหละรอศาลตัดสิน...

ปล. จริงครับไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ แต่ถ้าพยานและหลักฐานมันชี้ชัดจนศาลตัดสินว่าทำเกินกว่าเหตุตำรวจก็คุกได้เหมือนกัน...ล่กจนหมดแม๊กผมว่าอ้างกับศาลยาก เพราะฉะนั้นความชำนาญเกี่ยวข้องแน่นอนรวมถึงจำนวนกระสุนด้วย ยิงหนึ่งนัดกับหกนัดยังไงก็ต่างแน่นอน เพราะมันเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่ผมมโนเอาเอง

เคสนี้ขนาดในหน้าที่แท้ๆ ชำนาญอาวุธปืน ทำตามขั้นตอนยิงขู่ตั้งสองนัด ยิงจริงนัดเดียวแต่ตายเลยยังเกือบคุก ต้องสู้กันยันศาลฏีกา ถ้า สตท แกกดห้านัดผมว่ายังไงก็คุก แต่แน่ละเคสบายเคสละนะ...ว่ากันไปตามขั้นตอนและเนื้อหา
ที่มา https://www.posttoday.com/social/general/564710
https://www.matichon.co.th/newsroom-analysis/news_1136960
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: ไอ้ลูกแมวตัวเล็ก
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 3743
ที่อยู่: in your heart
โพสเมื่อ: Thu Nov 14, 2019 01:30
[RE: เปิดนาที ตร.ศาลส่งปืนให้ “เสมียนทนาย” ก่อนลั่นไกใส่พล.ต.ต.หลังกราดยิงสนั่น]
popoing พิมพ์ว่า:
Spoil
indigoxblue พิมพ์ว่า:
leeloe พิมพ์ว่า:
indigoxblue พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
เกินกว่าเหตุเต็มๆ ยิงจากนอกห้องด้วยคิดว่ายิงจากด้านหลังแล้วยิงซ้ำแน่นอน...เพราะผู้ตายโดนไปหกนัด ฆ่าคนตายโดนเจตนา กับปืนผิดมือน่าจะโดน...ตำรวจก็ต้องโดนสอบด้วย
ข่าวว่าเป็น .45 จริงๆ โดนไปนัดสองนัดน่าจะทรุดแล้ว...แต่คงอะดีนารีนหลั่งเห็นลูกพี่โดนยิง เลยซ้ำซะหมดแม๊คเลย หนักอยู่สู้คดีกันอีกนาน มันชักยังไงตำรวจนี่พิกลมากรอสรุปคดีแล้วกัน  

ท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ หรือเคยยิงคนจริงๆมาก่อนเหรอครับ  

มันมีหลักกฏหมายอยู่ระหว่างป้องกันตัวกับเกินกว่าเหตุ ฎีกาด้วยครับ อย่างในกรณีนี้ถ้าเป็นตำรวจเหมือนโดนบังคับว่ายิงห้าห้ามเอาตายล่ะมั่งเพราะศาลจะมองว่าตำรวจจะต้องชำนาญในการยิงปืน หรือไม่ก็ยิงไม่เกินสองนัด แต่ถ้าบุคคลธรรมดาถาพิสูจน์ว่าไม่ชำนาญใช้ปืนจริงๆ น่าตะรอดหรือโทษเบากว่าอาจจะอ้างตกใจ อะไรก็แล้วแต่ไป เพราะเคยมีฎีกาโจรจะข่มขื่นผู้หญิงมั่ง ผู้หญิงตกใจเลยยิงไปหมดแม้ก แต่ในกรณีนั้นเหมือนมันทางตันด้วยหนีไม่ได้ ญ ต้องสู้อย่างเดียว โดยสรุปก็หวังแต่ศาลเมตตาและมองตามความจริง รายละเอียดจริงมีเยอะมากขนาดที่ใช้เวลาเป็นตายคิดไม่ทันหรอกครับ
อ้อเพิ่มให้ โดยส่วนตัวมองว่าตำรวจผิดและเสมียนทนายผิด น่ะเพราะหลักของการป้องกันตนเอง คือไม่สามารถพึ่งผลของกฏหมายได้ด้วยภัยอันตรายใกล้จะถึงในกรณีดังกล่าว การวิ่งหาตำรวจก็คือพึ่งกฏหมายนั้นแหละครับ จะโดนคดีอะไรว่ากันอีกที  


ผมทราบทั้งกฎหมายและทราบทั้งยุทธวิธีครับ
ในเรื่องการยิงเพื่อป้องกัน ตำรวจที่ยิงใช้กฎหมายมาตราเดียวกับประชาชนทั่วไปนี่แหละครับ
หลักพิจารณาก็หลักเดียวกัน
ผมขออนุญาตเรียถามท่านหน่อยนะครับ
ยิงนัดเดียว เจตนาฆ่าไหม สองนัดเจตนาฆ่าไหม
มันเจตนาฆ่าหมดแหละครับ
อีกอย่างในสถานการณ์จริง จำเป็นไหมต้องยิงนัดเดียวหรือสองนัด
ใส่หมดแม๊กหมดแหละครับ ยังไงก็เอาชีวิตเหมือนกัน
การที่เรามานั่งพิจารณาเคสต่างๆย้อนหลังโดยที่เราไม่ได้อยู่
มันอาจทำให้เราคิดไปได้ว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้
เค้าเรียกว่า monday morning quaterbacking ครับ
ซึ่งไม่เกี่ยวเลยชำนาญไม่ชำนาญ เผชิญเหตุจริงๆ เชื่อผม ล่กทุกคน

เรื่องนี้ถามว่าเสมียนทนายจะผืดไหม
ต้องดูครับว่าขณะที่ยิง ภยันตรายยังเกิดต่อเนื่องอยู่หรือเปล่า
การป้องกันไม่จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของตัวเองเท่านั้นนี่ครับ ถูกไหม
ชีวิตแลกชีวิต และเป็นวิถีทางที่น้อยที่สุดที่จะทำให้คนในห้องพิจารณา
ผ่านพ้นภยันตรายตรงนั้นไปได้ ผมว่ามันพอสมควรแก่เหตุนะครับ
ส่วนยิงหกนัดหรือนัดเดียวนี่ผมมองว่าไม่ต่าง เพราะเจตนายิงให้ตายเหมือนกัน
ซึ่งมันก็สมควรแก่เหตุ ตามหลักสัดส่วนและหลักวิถีทางที่น้อยที่สุดถูกไหมครับ

ปล. ไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ
 
 

สำหรับผมนะ ผมว่าผมไม่เคยบอกนะว่าจริงๆ แล้วน่าจะต้องอย่างนั้น น่าจะต้องอย่างนี้ หรือหลัก monday morning quaterbacking ที่ท่านยกมานั่นแหละ...
ผมแค่ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นแบบนั้นรึเปล่า? เพราะพิจารณาจากเนื้อหาและรูปที่ออกมาก็วิจารณ์เท่าที่เห็นเบื้องต้นตอนนี้แค่นั้น และผมจะบอกทุกครั้งว่า แล้วแต่พยานหลักฐานที่มีและต้องรอเขามาสรุปคดีจริงๆ ให้ฟังอีกครั้งหลังศาลตัดสินแล้วกันถึงจะจบได้...

สำหรับเคสนี้อันนี้ก็ข่าวอีกด้านจากทางเมีย พล.ต.ต.ธารินทร์ ผมตัดมาบางส่วน
"จึงหยิบปืนมายิงเอง จากด้านนอกยิงผ่านกระจก จากนั้น พล.ต.ต.ธารินทร์ ก็ฟุ่บลงบนโต๊ะแล้ว แต่ทาง นายธนากร ก็เดินเข้าไปยิงซ้ำอีก ทั้งที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ได้ยิงออกนอกห้องเลย เพราะเขาไม่ตั้งใจจะทำร้ายใครที่ไม่เกี่ยวข้อง มันแสดงให้เห็นว่า นายธนากร มีเจตนาจะฆ่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ให้เสียชีวิต"
ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3052522

ถ้าสอบแล้วจริงตามคำให้การนี้ก็ตอบคำถามได้ว่าทำไมเข้าตั้งหกนัด ก็ตามนั้นแหละรอศาลตัดสิน...

ปล. จริงครับไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ แต่ถ้าพยานและหลักฐานมันชี้ชัดจนศาลตัดสินว่าทำเกินกว่าเหตุตำรวจก็คุกได้เหมือนกัน...ล่กจนหมดแม๊กผมว่าอ้างกับศาลยาก เพราะฉะนั้นความชำนาญเกี่ยวข้องแน่นอนรวมถึงจำนวนกระสุนด้วย ยิงหนึ่งนัดกับหกนัดยังไงก็ต่างแน่นอน เพราะมันเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่ผมมโนเอาเอง

เคสนี้ขนาดในหน้าที่แท้ๆ ชำนาญอาวุธปืน ทำตามขั้นตอนยิงขู่ตั้งสองนัด ยิงจริงนัดเดียวแต่ตายเลยยังเกือบคุก ต้องสู้กันยันศาลฏีกา ถ้า สตท แกกดห้านัดผมว่ายังไงก็คุก แต่แน่ละเคสบายเคสละนะ...ว่ากันไปตามขั้นตอนและเนื้อหา
ที่มา https://www.posttoday.com/social/general/564710
https://www.matichon.co.th/newsroom-analysis/news_1136960  


เคสนี้พบาดตรวไม่ได้นำสืบครูฝึกยุทธวิธีเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญครับ
มันเป็นหลักวิชาการเฉพาะอาชีพ ไม่ใช่ข้อกฎหมายที่ศาลท่านจะรู้เองครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไอ้แมวน้อย
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 42077
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Thu Nov 14, 2019 01:32
[RE: เปิดนาที ตร.ศาลส่งปืนให้ “เสมียนทนาย” ก่อนลั่นไกใส่พล.ต.ต.หลังกราดยิงสนั่น]
indigoxblue พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
Spoil
indigoxblue พิมพ์ว่า:
leeloe พิมพ์ว่า:
indigoxblue พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
เกินกว่าเหตุเต็มๆ ยิงจากนอกห้องด้วยคิดว่ายิงจากด้านหลังแล้วยิงซ้ำแน่นอน...เพราะผู้ตายโดนไปหกนัด ฆ่าคนตายโดนเจตนา กับปืนผิดมือน่าจะโดน...ตำรวจก็ต้องโดนสอบด้วย
ข่าวว่าเป็น .45 จริงๆ โดนไปนัดสองนัดน่าจะทรุดแล้ว...แต่คงอะดีนารีนหลั่งเห็นลูกพี่โดนยิง เลยซ้ำซะหมดแม๊คเลย หนักอยู่สู้คดีกันอีกนาน มันชักยังไงตำรวจนี่พิกลมากรอสรุปคดีแล้วกัน  

ท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ หรือเคยยิงคนจริงๆมาก่อนเหรอครับ  

มันมีหลักกฏหมายอยู่ระหว่างป้องกันตัวกับเกินกว่าเหตุ ฎีกาด้วยครับ อย่างในกรณีนี้ถ้าเป็นตำรวจเหมือนโดนบังคับว่ายิงห้าห้ามเอาตายล่ะมั่งเพราะศาลจะมองว่าตำรวจจะต้องชำนาญในการยิงปืน หรือไม่ก็ยิงไม่เกินสองนัด แต่ถ้าบุคคลธรรมดาถาพิสูจน์ว่าไม่ชำนาญใช้ปืนจริงๆ น่าตะรอดหรือโทษเบากว่าอาจจะอ้างตกใจ อะไรก็แล้วแต่ไป เพราะเคยมีฎีกาโจรจะข่มขื่นผู้หญิงมั่ง ผู้หญิงตกใจเลยยิงไปหมดแม้ก แต่ในกรณีนั้นเหมือนมันทางตันด้วยหนีไม่ได้ ญ ต้องสู้อย่างเดียว โดยสรุปก็หวังแต่ศาลเมตตาและมองตามความจริง รายละเอียดจริงมีเยอะมากขนาดที่ใช้เวลาเป็นตายคิดไม่ทันหรอกครับ
อ้อเพิ่มให้ โดยส่วนตัวมองว่าตำรวจผิดและเสมียนทนายผิด น่ะเพราะหลักของการป้องกันตนเอง คือไม่สามารถพึ่งผลของกฏหมายได้ด้วยภัยอันตรายใกล้จะถึงในกรณีดังกล่าว การวิ่งหาตำรวจก็คือพึ่งกฏหมายนั้นแหละครับ จะโดนคดีอะไรว่ากันอีกที  


ผมทราบทั้งกฎหมายและทราบทั้งยุทธวิธีครับ
ในเรื่องการยิงเพื่อป้องกัน ตำรวจที่ยิงใช้กฎหมายมาตราเดียวกับประชาชนทั่วไปนี่แหละครับ
หลักพิจารณาก็หลักเดียวกัน
ผมขออนุญาตเรียถามท่านหน่อยนะครับ
ยิงนัดเดียว เจตนาฆ่าไหม สองนัดเจตนาฆ่าไหม
มันเจตนาฆ่าหมดแหละครับ
อีกอย่างในสถานการณ์จริง จำเป็นไหมต้องยิงนัดเดียวหรือสองนัด
ใส่หมดแม๊กหมดแหละครับ ยังไงก็เอาชีวิตเหมือนกัน
การที่เรามานั่งพิจารณาเคสต่างๆย้อนหลังโดยที่เราไม่ได้อยู่
มันอาจทำให้เราคิดไปได้ว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้
เค้าเรียกว่า monday morning quaterbacking ครับ
ซึ่งไม่เกี่ยวเลยชำนาญไม่ชำนาญ เผชิญเหตุจริงๆ เชื่อผม ล่กทุกคน

เรื่องนี้ถามว่าเสมียนทนายจะผืดไหม
ต้องดูครับว่าขณะที่ยิง ภยันตรายยังเกิดต่อเนื่องอยู่หรือเปล่า
การป้องกันไม่จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของตัวเองเท่านั้นนี่ครับ ถูกไหม
ชีวิตแลกชีวิต และเป็นวิถีทางที่น้อยที่สุดที่จะทำให้คนในห้องพิจารณา
ผ่านพ้นภยันตรายตรงนั้นไปได้ ผมว่ามันพอสมควรแก่เหตุนะครับ
ส่วนยิงหกนัดหรือนัดเดียวนี่ผมมองว่าไม่ต่าง เพราะเจตนายิงให้ตายเหมือนกัน
ซึ่งมันก็สมควรแก่เหตุ ตามหลักสัดส่วนและหลักวิถีทางที่น้อยที่สุดถูกไหมครับ

ปล. ไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ
 
 

สำหรับผมนะ ผมว่าผมไม่เคยบอกนะว่าจริงๆ แล้วน่าจะต้องอย่างนั้น น่าจะต้องอย่างนี้ หรือหลัก monday morning quaterbacking ที่ท่านยกมานั่นแหละ...
ผมแค่ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นแบบนั้นรึเปล่า? เพราะพิจารณาจากเนื้อหาและรูปที่ออกมาก็วิจารณ์เท่าที่เห็นเบื้องต้นตอนนี้แค่นั้น และผมจะบอกทุกครั้งว่า แล้วแต่พยานหลักฐานที่มีและต้องรอเขามาสรุปคดีจริงๆ ให้ฟังอีกครั้งหลังศาลตัดสินแล้วกันถึงจะจบได้...

สำหรับเคสนี้อันนี้ก็ข่าวอีกด้านจากทางเมีย พล.ต.ต.ธารินทร์ ผมตัดมาบางส่วน
"จึงหยิบปืนมายิงเอง จากด้านนอกยิงผ่านกระจก จากนั้น พล.ต.ต.ธารินทร์ ก็ฟุ่บลงบนโต๊ะแล้ว แต่ทาง นายธนากร ก็เดินเข้าไปยิงซ้ำอีก ทั้งที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ได้ยิงออกนอกห้องเลย เพราะเขาไม่ตั้งใจจะทำร้ายใครที่ไม่เกี่ยวข้อง มันแสดงให้เห็นว่า นายธนากร มีเจตนาจะฆ่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ให้เสียชีวิต"
ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3052522

ถ้าสอบแล้วจริงตามคำให้การนี้ก็ตอบคำถามได้ว่าทำไมเข้าตั้งหกนัด ก็ตามนั้นแหละรอศาลตัดสิน...

ปล. จริงครับไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ แต่ถ้าพยานและหลักฐานมันชี้ชัดจนศาลตัดสินว่าทำเกินกว่าเหตุตำรวจก็คุกได้เหมือนกัน...ล่กจนหมดแม๊กผมว่าอ้างกับศาลยาก เพราะฉะนั้นความชำนาญเกี่ยวข้องแน่นอนรวมถึงจำนวนกระสุนด้วย ยิงหนึ่งนัดกับหกนัดยังไงก็ต่างแน่นอน เพราะมันเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่ผมมโนเอาเอง

เคสนี้ขนาดในหน้าที่แท้ๆ ชำนาญอาวุธปืน ทำตามขั้นตอนยิงขู่ตั้งสองนัด ยิงจริงนัดเดียวแต่ตายเลยยังเกือบคุก ต้องสู้กันยันศาลฏีกา ถ้า สตท แกกดห้านัดผมว่ายังไงก็คุก แต่แน่ละเคสบายเคสละนะ...ว่ากันไปตามขั้นตอนและเนื้อหา
ที่มา https://www.posttoday.com/social/general/564710
https://www.matichon.co.th/newsroom-analysis/news_1136960  


เคสนี้พบาดตรวไม่ได้นำสืบครูฝึกยุทธวิธีเป็นพยานผู้เชี่ยวชาญครับ
มันเป็นหลักวิชาการเฉพาะอาชีพ ไม่ใช่ข้อกฎหมายที่ศาลท่านจะรู้เองครับ
 

ก็ว่ากันไปครับท่าน
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 26 Oct 2010
ตอบ: 29310
ที่อยู่: D:
โพสเมื่อ: Thu Nov 14, 2019 11:26
ถูกแบนแล้ว
[RE: เปิดนาที ตร.ศาลส่งปืนให้ “เสมียนทนาย” ก่อนลั่นไกใส่พล.ต.ต.หลังกราดยิงสนั่น]
popoing พิมพ์ว่า:
Spoil
indigoxblue พิมพ์ว่า:
leeloe พิมพ์ว่า:
indigoxblue พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
เกินกว่าเหตุเต็มๆ ยิงจากนอกห้องด้วยคิดว่ายิงจากด้านหลังแล้วยิงซ้ำแน่นอน...เพราะผู้ตายโดนไปหกนัด ฆ่าคนตายโดนเจตนา กับปืนผิดมือน่าจะโดน...ตำรวจก็ต้องโดนสอบด้วย
ข่าวว่าเป็น .45 จริงๆ โดนไปนัดสองนัดน่าจะทรุดแล้ว...แต่คงอะดีนารีนหลั่งเห็นลูกพี่โดนยิง เลยซ้ำซะหมดแม๊คเลย หนักอยู่สู้คดีกันอีกนาน มันชักยังไงตำรวจนี่พิกลมากรอสรุปคดีแล้วกัน  

ท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ หรือเคยยิงคนจริงๆมาก่อนเหรอครับ  

มันมีหลักกฏหมายอยู่ระหว่างป้องกันตัวกับเกินกว่าเหตุ ฎีกาด้วยครับ อย่างในกรณีนี้ถ้าเป็นตำรวจเหมือนโดนบังคับว่ายิงห้าห้ามเอาตายล่ะมั่งเพราะศาลจะมองว่าตำรวจจะต้องชำนาญในการยิงปืน หรือไม่ก็ยิงไม่เกินสองนัด แต่ถ้าบุคคลธรรมดาถาพิสูจน์ว่าไม่ชำนาญใช้ปืนจริงๆ น่าตะรอดหรือโทษเบากว่าอาจจะอ้างตกใจ อะไรก็แล้วแต่ไป เพราะเคยมีฎีกาโจรจะข่มขื่นผู้หญิงมั่ง ผู้หญิงตกใจเลยยิงไปหมดแม้ก แต่ในกรณีนั้นเหมือนมันทางตันด้วยหนีไม่ได้ ญ ต้องสู้อย่างเดียว โดยสรุปก็หวังแต่ศาลเมตตาและมองตามความจริง รายละเอียดจริงมีเยอะมากขนาดที่ใช้เวลาเป็นตายคิดไม่ทันหรอกครับ
อ้อเพิ่มให้ โดยส่วนตัวมองว่าตำรวจผิดและเสมียนทนายผิด น่ะเพราะหลักของการป้องกันตนเอง คือไม่สามารถพึ่งผลของกฏหมายได้ด้วยภัยอันตรายใกล้จะถึงในกรณีดังกล่าว การวิ่งหาตำรวจก็คือพึ่งกฏหมายนั้นแหละครับ จะโดนคดีอะไรว่ากันอีกที  


ผมทราบทั้งกฎหมายและทราบทั้งยุทธวิธีครับ
ในเรื่องการยิงเพื่อป้องกัน ตำรวจที่ยิงใช้กฎหมายมาตราเดียวกับประชาชนทั่วไปนี่แหละครับ
หลักพิจารณาก็หลักเดียวกัน
ผมขออนุญาตเรียถามท่านหน่อยนะครับ
ยิงนัดเดียว เจตนาฆ่าไหม สองนัดเจตนาฆ่าไหม
มันเจตนาฆ่าหมดแหละครับ
อีกอย่างในสถานการณ์จริง จำเป็นไหมต้องยิงนัดเดียวหรือสองนัด
ใส่หมดแม๊กหมดแหละครับ ยังไงก็เอาชีวิตเหมือนกัน
การที่เรามานั่งพิจารณาเคสต่างๆย้อนหลังโดยที่เราไม่ได้อยู่
มันอาจทำให้เราคิดไปได้ว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้
เค้าเรียกว่า monday morning quaterbacking ครับ
ซึ่งไม่เกี่ยวเลยชำนาญไม่ชำนาญ เผชิญเหตุจริงๆ เชื่อผม ล่กทุกคน

เรื่องนี้ถามว่าเสมียนทนายจะผืดไหม
ต้องดูครับว่าขณะที่ยิง ภยันตรายยังเกิดต่อเนื่องอยู่หรือเปล่า
การป้องกันไม่จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของตัวเองเท่านั้นนี่ครับ ถูกไหม
ชีวิตแลกชีวิต และเป็นวิถีทางที่น้อยที่สุดที่จะทำให้คนในห้องพิจารณา
ผ่านพ้นภยันตรายตรงนั้นไปได้ ผมว่ามันพอสมควรแก่เหตุนะครับ
ส่วนยิงหกนัดหรือนัดเดียวนี่ผมมองว่าไม่ต่าง เพราะเจตนายิงให้ตายเหมือนกัน
ซึ่งมันก็สมควรแก่เหตุ ตามหลักสัดส่วนและหลักวิถีทางที่น้อยที่สุดถูกไหมครับ

ปล. ไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ
 
 

สำหรับผมนะ ผมว่าผมไม่เคยบอกนะว่าจริงๆ แล้วน่าจะต้องอย่างนั้น น่าจะต้องอย่างนี้ หรือหลัก monday morning quaterbacking ที่ท่านยกมานั่นแหละ...
ผมแค่ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นแบบนั้นรึเปล่า? เพราะพิจารณาจากเนื้อหาและรูปที่ออกมาก็วิจารณ์เท่าที่เห็นเบื้องต้นตอนนี้แค่นั้น และผมจะบอกทุกครั้งว่า แล้วแต่พยานหลักฐานที่มีและต้องรอเขามาสรุปคดีจริงๆ ให้ฟังอีกครั้งหลังศาลตัดสินแล้วกันถึงจะจบได้...

สำหรับเคสนี้อันนี้ก็ข่าวอีกด้านจากทางเมีย พล.ต.ต.ธารินทร์ ผมตัดมาบางส่วน
"จึงหยิบปืนมายิงเอง จากด้านนอกยิงผ่านกระจก จากนั้น พล.ต.ต.ธารินทร์ ก็ฟุ่บลงบนโต๊ะแล้ว แต่ทาง นายธนากร ก็เดินเข้าไปยิงซ้ำอีก ทั้งที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ได้ยิงออกนอกห้องเลย เพราะเขาไม่ตั้งใจจะทำร้ายใครที่ไม่เกี่ยวข้อง มันแสดงให้เห็นว่า นายธนากร มีเจตนาจะฆ่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ให้เสียชีวิต"
ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3052522

ถ้าสอบแล้วจริงตามคำให้การนี้ก็ตอบคำถามได้ว่าทำไมเข้าตั้งหกนัด ก็ตามนั้นแหละรอศาลตัดสิน...

ปล. จริงครับไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ แต่ถ้าพยานและหลักฐานมันชี้ชัดจนศาลตัดสินว่าทำเกินกว่าเหตุตำรวจก็คุกได้เหมือนกัน...ล่กจนหมดแม๊กผมว่าอ้างกับศาลยาก เพราะฉะนั้นความชำนาญเกี่ยวข้องแน่นอนรวมถึงจำนวนกระสุนด้วย ยิงหนึ่งนัดกับหกนัดยังไงก็ต่างแน่นอน เพราะมันเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่ผมมโนเอาเอง

เคสนี้ขนาดในหน้าที่แท้ๆ ชำนาญอาวุธปืน ทำตามขั้นตอนยิงขู่ตั้งสองนัด ยิงจริงนัดเดียวแต่ตายเลยยังเกือบคุก ต้องสู้กันยันศาลฏีกา ถ้า สตท แกกดห้านัดผมว่ายังไงก็คุก แต่แน่ละเคสบายเคสละนะ...ว่ากันไปตามขั้นตอนและเนื้อหา
ที่มา https://www.posttoday.com/social/general/564710
https://www.matichon.co.th/newsroom-analysis/news_1136960  


ผมสมมตินะ ต่อให้ผมเปนคนยิงปืนแม่น ชำนาญจากสนามซ้อม แต่จะมีซักกี่คนที่เคยยิงคนจริงๆ ยิงจุเไหนจะตาย

สมมติผมเปนทนายคนนี้ ซัดจากนอกห้องเข้าไป ยิงโดนส่วนแถวๆท้อง. สองนัด ขาสองนัด แล้วผมจะรุ้ได้ไงปืนมันแรงขนาดไหน ภาพจากการยิงคนมันก้มาจากหนังกับเกมเท่านั้นละถึงนึกภาพออกว่ายิงท้องแล้วอาการเปนไง

ส่วนมากในหนังมันไม่ตายไงใช้ปืนพกยิงท้องมันยังสวนกลับมาได้ แล้วถ้ายิงไปแบบนี้แล้วคนโดนยิงอยถ่วภาพแบบ คุกเข่า แต่ปืนยังไม่หลุดจากมือ ในหนังมันก้มีอีกเยอะที่มันจะสวนขึ้นมาได้ มันกัต้องซัดไปอีกให้มันหยุดอะ หรือคุณกล้าเดินเข้าไปเอาปืนออกจากมือคนร้ายตอนที่ยังไม่หลุดมือ คือภาพในหัวมันมาจากหนังกับเกมอะว่าพวกนี้สวนได้

สิ่งที่บอกคือเราไม่มีทางรุ้ไงว่าคนนั้นมันหมดสภาพหรือยัง ไม่มีใครเคยเหนคนจริงๆโดนยิงมาก่อนหรอกมั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้ช่วยแมวมอง
Status: We're All Made Here
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 42077
ที่อยู่: อย่ารู้เลย..
โพสเมื่อ: Thu Nov 14, 2019 12:39
[RE: เปิดนาที ตร.ศาลส่งปืนให้ “เสมียนทนาย” ก่อนลั่นไกใส่พล.ต.ต.หลังกราดยิงสนั่น]
a.Raptor พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
Spoil
indigoxblue พิมพ์ว่า:
leeloe พิมพ์ว่า:
indigoxblue พิมพ์ว่า:
popoing พิมพ์ว่า:
เกินกว่าเหตุเต็มๆ ยิงจากนอกห้องด้วยคิดว่ายิงจากด้านหลังแล้วยิงซ้ำแน่นอน...เพราะผู้ตายโดนไปหกนัด ฆ่าคนตายโดนเจตนา กับปืนผิดมือน่าจะโดน...ตำรวจก็ต้องโดนสอบด้วย
ข่าวว่าเป็น .45 จริงๆ โดนไปนัดสองนัดน่าจะทรุดแล้ว...แต่คงอะดีนารีนหลั่งเห็นลูกพี่โดนยิง เลยซ้ำซะหมดแม๊คเลย หนักอยู่สู้คดีกันอีกนาน มันชักยังไงตำรวจนี่พิกลมากรอสรุปคดีแล้วกัน  

ท่านเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ หรือเคยยิงคนจริงๆมาก่อนเหรอครับ  

มันมีหลักกฏหมายอยู่ระหว่างป้องกันตัวกับเกินกว่าเหตุ ฎีกาด้วยครับ อย่างในกรณีนี้ถ้าเป็นตำรวจเหมือนโดนบังคับว่ายิงห้าห้ามเอาตายล่ะมั่งเพราะศาลจะมองว่าตำรวจจะต้องชำนาญในการยิงปืน หรือไม่ก็ยิงไม่เกินสองนัด แต่ถ้าบุคคลธรรมดาถาพิสูจน์ว่าไม่ชำนาญใช้ปืนจริงๆ น่าตะรอดหรือโทษเบากว่าอาจจะอ้างตกใจ อะไรก็แล้วแต่ไป เพราะเคยมีฎีกาโจรจะข่มขื่นผู้หญิงมั่ง ผู้หญิงตกใจเลยยิงไปหมดแม้ก แต่ในกรณีนั้นเหมือนมันทางตันด้วยหนีไม่ได้ ญ ต้องสู้อย่างเดียว โดยสรุปก็หวังแต่ศาลเมตตาและมองตามความจริง รายละเอียดจริงมีเยอะมากขนาดที่ใช้เวลาเป็นตายคิดไม่ทันหรอกครับ
อ้อเพิ่มให้ โดยส่วนตัวมองว่าตำรวจผิดและเสมียนทนายผิด น่ะเพราะหลักของการป้องกันตนเอง คือไม่สามารถพึ่งผลของกฏหมายได้ด้วยภัยอันตรายใกล้จะถึงในกรณีดังกล่าว การวิ่งหาตำรวจก็คือพึ่งกฏหมายนั้นแหละครับ จะโดนคดีอะไรว่ากันอีกที  


ผมทราบทั้งกฎหมายและทราบทั้งยุทธวิธีครับ
ในเรื่องการยิงเพื่อป้องกัน ตำรวจที่ยิงใช้กฎหมายมาตราเดียวกับประชาชนทั่วไปนี่แหละครับ
หลักพิจารณาก็หลักเดียวกัน
ผมขออนุญาตเรียถามท่านหน่อยนะครับ
ยิงนัดเดียว เจตนาฆ่าไหม สองนัดเจตนาฆ่าไหม
มันเจตนาฆ่าหมดแหละครับ
อีกอย่างในสถานการณ์จริง จำเป็นไหมต้องยิงนัดเดียวหรือสองนัด
ใส่หมดแม๊กหมดแหละครับ ยังไงก็เอาชีวิตเหมือนกัน
การที่เรามานั่งพิจารณาเคสต่างๆย้อนหลังโดยที่เราไม่ได้อยู่
มันอาจทำให้เราคิดไปได้ว่า ทำไมไม่ทำแบบนั้น ทำไมไม่ทำแบบนี้
เค้าเรียกว่า monday morning quaterbacking ครับ
ซึ่งไม่เกี่ยวเลยชำนาญไม่ชำนาญ เผชิญเหตุจริงๆ เชื่อผม ล่กทุกคน

เรื่องนี้ถามว่าเสมียนทนายจะผืดไหม
ต้องดูครับว่าขณะที่ยิง ภยันตรายยังเกิดต่อเนื่องอยู่หรือเปล่า
การป้องกันไม่จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของตัวเองเท่านั้นนี่ครับ ถูกไหม
ชีวิตแลกชีวิต และเป็นวิถีทางที่น้อยที่สุดที่จะทำให้คนในห้องพิจารณา
ผ่านพ้นภยันตรายตรงนั้นไปได้ ผมว่ามันพอสมควรแก่เหตุนะครับ
ส่วนยิงหกนัดหรือนัดเดียวนี่ผมมองว่าไม่ต่าง เพราะเจตนายิงให้ตายเหมือนกัน
ซึ่งมันก็สมควรแก่เหตุ ตามหลักสัดส่วนและหลักวิถีทางที่น้อยที่สุดถูกไหมครับ

ปล. ไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ
 
 

สำหรับผมนะ ผมว่าผมไม่เคยบอกนะว่าจริงๆ แล้วน่าจะต้องอย่างนั้น น่าจะต้องอย่างนี้ หรือหลัก monday morning quaterbacking ที่ท่านยกมานั่นแหละ...
ผมแค่ตั้งข้อสงสัยว่าอาจจะเป็นแบบนั้นรึเปล่า? เพราะพิจารณาจากเนื้อหาและรูปที่ออกมาก็วิจารณ์เท่าที่เห็นเบื้องต้นตอนนี้แค่นั้น และผมจะบอกทุกครั้งว่า แล้วแต่พยานหลักฐานที่มีและต้องรอเขามาสรุปคดีจริงๆ ให้ฟังอีกครั้งหลังศาลตัดสินแล้วกันถึงจะจบได้...

สำหรับเคสนี้อันนี้ก็ข่าวอีกด้านจากทางเมีย พล.ต.ต.ธารินทร์ ผมตัดมาบางส่วน
"จึงหยิบปืนมายิงเอง จากด้านนอกยิงผ่านกระจก จากนั้น พล.ต.ต.ธารินทร์ ก็ฟุ่บลงบนโต๊ะแล้ว แต่ทาง นายธนากร ก็เดินเข้าไปยิงซ้ำอีก ทั้งที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ ไม่ได้ยิงออกนอกห้องเลย เพราะเขาไม่ตั้งใจจะทำร้ายใครที่ไม่เกี่ยวข้อง มันแสดงให้เห็นว่า นายธนากร มีเจตนาจะฆ่า พล.ต.ต.ธารินทร์ ให้เสียชีวิต"
ที่มา https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_3052522

ถ้าสอบแล้วจริงตามคำให้การนี้ก็ตอบคำถามได้ว่าทำไมเข้าตั้งหกนัด ก็ตามนั้นแหละรอศาลตัดสิน...

ปล. จริงครับไม่มีกฎหมายบอกว่าตำรวจห้ามยิงเอาตายครับ แต่ถ้าพยานและหลักฐานมันชี้ชัดจนศาลตัดสินว่าทำเกินกว่าเหตุตำรวจก็คุกได้เหมือนกัน...ล่กจนหมดแม๊กผมว่าอ้างกับศาลยาก เพราะฉะนั้นความชำนาญเกี่ยวข้องแน่นอนรวมถึงจำนวนกระสุนด้วย ยิงหนึ่งนัดกับหกนัดยังไงก็ต่างแน่นอน เพราะมันเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่ผมมโนเอาเอง

เคสนี้ขนาดในหน้าที่แท้ๆ ชำนาญอาวุธปืน ทำตามขั้นตอนยิงขู่ตั้งสองนัด ยิงจริงนัดเดียวแต่ตายเลยยังเกือบคุก ต้องสู้กันยันศาลฏีกา ถ้า สตท แกกดห้านัดผมว่ายังไงก็คุก แต่แน่ละเคสบายเคสละนะ...ว่ากันไปตามขั้นตอนและเนื้อหา
ที่มา https://www.posttoday.com/social/general/564710
https://www.matichon.co.th/newsroom-analysis/news_1136960  


ผมสมมตินะ ต่อให้ผมเปนคนยิงปืนแม่น ชำนาญจากสนามซ้อม แต่จะมีซักกี่คนที่เคยยิงคนจริงๆ ยิงจุเไหนจะตาย

สมมติผมเปนทนายคนนี้ ซัดจากนอกห้องเข้าไป ยิงโดนส่วนแถวๆท้อง. สองนัด ขาสองนัด แล้วผมจะรุ้ได้ไงปืนมันแรงขนาดไหน ภาพจากการยิงคนมันก้มาจากหนังกับเกมเท่านั้นละถึงนึกภาพออกว่ายิงท้องแล้วอาการเปนไง

ส่วนมากในหนังมันไม่ตายไงใช้ปืนพกยิงท้องมันยังสวนกลับมาได้ แล้วถ้ายิงไปแบบนี้แล้วคนโดนยิงอยถ่วภาพแบบ คุกเข่า แต่ปืนยังไม่หลุดจากมือ ในหนังมันก้มีอีกเยอะที่มันจะสวนขึ้นมาได้ มันกัต้องซัดไปอีกให้มันหยุดอะ หรือคุณกล้าเดินเข้าไปเอาปืนออกจากมือคนร้ายตอนที่ยังไม่หลุดมือ คือภาพในหัวมันมาจากหนังกับเกมอะว่าพวกนี้สวนได้

สิ่งที่บอกคือเราไม่มีทางรุ้ไงว่าคนนั้นมันหมดสภาพหรือยัง ไม่มีใครเคยเหนคนจริงๆโดนยิงมาก่อนหรอกมั้ง  

มันก็มีสองแบบแหละครับ คนชำนาญกับคนที่ไม่ชำนาญ...สำหรับเจ้าหน้าที่มันถึงต้องมีการเรียนการซ้อมไงครับไม่ใช่ลิงที่จะหยิบปืนปุ๊บแล้วยิงแล้วใช้ชำนาญเลย...ขั้นตอนสอบสวนเขาก็ถึงมีไงว่าจำลองสถานการณ์การยิงเพื่อประกอบการตัดสินไงครับ ยิงจากมือใหม่ยิงจากมืออาชีพเขายังรู้เลย...
ที่คุณพูดก็ถูกครับเคสที่เกิดก็มีนานมาแล้วที่ตำรวจเฝ้าร้านทองท่านนั้นไงโดนสวนตายเช่นกันเพราะโจรยังไม่ตายสนิท มันประเมินยากแหละ...ก็ควรว่ากันไปตามสถานการณ์ครับ

ผมคิดว่าท่านยังเข้าใจอะไรหลายอย่างคลาดเคลื่อนอยู่มากๆ เอาเป็นว่าค่อยๆ ศึกษาไปครับถ้ามีข้อสงสัยมากกว่านี้ลองแวะไปที่นี่ดู gun.in.th, gunsandgames thailand มีคนเชี่ยวชาญทั้งทางกฏหมาย และเชิงยุทธวิธีมากกว่าผมอยู่มากมายครับ น่าจะตอบได้หมดทุกคำถามที่ท่านสงสัย..

ส่วนข้อเสนอแนเบื้องต้นของท่านผมตอบแบบง่ายๆ เลยนะ สมมุติถ้าคุณไม่ใช่เจ้าหน้าที่เป็นประชาชนธรรมดา แล้วเกิดซวยไปเจออะไรซักอย่างที่ต้องยิงคนขึ้นมาจริงๆ แล้วยิงไปแล้วจนเขาล้มฟุบไป...ตรงนี้คือจังหวะที่ดีที่ท่านจะหนี หรือออกจากสถานการณ์นั้น...ท่านจะเดินเข้าไปซ้ำทำไมครับผมถามแค่นี้ คนปกติไม่เคยใช้ปืนหรือไม่ได้เป็นคนโรคจิตเห็นเลือดทะลักนี่ต้องชะงักมือไม้สั่นไปแล้ว ประเภทเดินเข้าไปซ้ำให้ตายสนิทนี่แปลกแล้วครับ นอกจากจะเสี่ยงไม่เข้าเรื่องแล้วก็จะวนลูปต่อเจอฟ้องเกินกว่าเหตุอีก

ส่วนเรื่องคดีนี้ ไม่ขอพูดถึงอีกรอฟังสรุปแล้วกันครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4, 5, 6
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel