ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Feb 2011
ตอบ: 844
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 21, 2019 15:13
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
โอกาสจะเจอดีๆยากอยู่นะสำหรับพุทธ มีอยู่ แต่เข้าถึงยาก
เพราะถ้าดีจริง คน...ก็รอเข้าคิวกันแน่น เพราะทุกคนมีปัญหา ใครๆก็มีปัญหา

ตอนนี้ก็ไปหาหมอดีกว่า น่าจะเข้าถึงง่ายกว่า และตรงจุดชัดเจน

พอดีขึ้น จิตใจพร้อม แล้วค่อยสร้างทางเลือกเพิ่ม ด้วยการหาพระดีๆ
มันก็เหมือนอีกวงการหนึ่งที่ต้องคลุกคลี ถึงจะเข้าใจ
ไม่ก็ดูว่าคนที่คุณเคารพนับถือ เขาไปหาใคร เราก็ลองตามไปดูบ้าง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2565
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 21, 2019 15:34
ถูกแบนแล้ว
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
หาพระก็ต้องมองที่พระดีครับ​ พระเก่งๆแก้ปัญหาให้ท่านได้มีอยู่​ แต่พระกะโหลกกะลาก็มีแยะ​ เหมือนคนทั่วไปมีทั้งดีทั้งชั่ว​ เก่งและไม่เก่งในเรื่องที่แตกต่างกัน

หาจิตแพทย์ชัวร์สุดเพราะเค้าเรียนด้านนี้มาโดยตรง​ ช่วยบรรเทาปัญหาให้ท่านแบบหวังผลได้มากกว่าไปพบพระ​ เพราะถ้าเจอพระเก่งท่านจะช่วยเหลือเราได้แน่นอน​ แต่ถ้าเจอพระดาดๆบางทีท่านอาจจะอาการหนักกว่าเก่าก็ได้

สมาธิเป็นยาทา​ วิปัสสนาเป็นยาใจ​ สมาธิคือการทำกายใจให้สงบระงับจากความฟุ้งซ่าน​ วิปัสสนาคือการเสริมปัญญาที่ช่วยให้มองปัญหาที่เป็นทุกข์ได้แตกฉาน​ จิตใจเราต้องมีสมาธิก่อนถึงจะเริ่มพิจารณาเรื่องราวต่างๆให้กลายเป็นปัญญาได้​ แต่ปัญญาในทางพระพุทธศาสนไม่ใช่หมายเอาถึงความรู้​ ไม่ใช่การอ่านการฟังเพื่อให้ได้รู้ถึงเรื่องราวแบบโลกๆ​

ปัญญาที่ช่วยตัดทุกข์ได้​ พระพุทธองค์ทรงวางไว้ในแง่เดียวคือปัญญารู้เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง​ มองทุกอย่างตามหลักไตรลักษณ์​ คือไม่เที่ยง​ เป็นทุกข์​ ไม่มีสาระตัวตนแก่นสารอย่างแท้จริง​ เป็นอนิจจัง​ ทุกขัง​ อนัตตา​ หาอะไรมาพึ่งพิงยึดเหนี่ยวไม่ได้เพราะต้องสูญสลายไปทั้งหมด​ ไม่ว่างาน​ เงิน​ คนที่เราชัง​ คนที่เรารัก​ รวมทั้งตัวเราเอง​ หรือโลกใบนี้​ วันนึงมันก็ต้องดับสูญ​ แต่สิ่งที่หายไปมันแค่ทางกายภาพ​ ส่วนสิ่งที่เหลืออยู่และจะยังคงนำเราให้ไปพบสุขและทุกข์ต่อไปนั่นคือดวงจิต​

พระพุทธองค์คงเป็นคนทุศีล​อย่างแน่แท้​ หากคำสอนเรื่องนรก​ สวรรค์​ เปรตผีอสูรกาย​ นาคครุฑ​ เทวดา​ พระอินท์​ พระพรหม​ พระนิพพาน​ เป็นแค่เรื่องแต่งที่ไม่มีอยู่จริง.. แต่พระองค์กลับทรงเน้นย้ำอยู่เสมอให้เราละกรรมชั่ว​ ประกอบกรรมดี​ ทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบานอยู่เสมอ​ เพื่อให้มีภพภูมิที่ดีต่อไป​ หากท่านไม่มั่นใจในสิ่งใดๆในโลกนี้​ ก็ขอให้ตระหนักถึงเรื่องกรรมเอาไว้ครับ​ ชาตินี้ทุกข์หนัก​ แต่ยังคิดดีทำดี​ พยายามทำตนให้พ้นจากบาปกรรมที่ทำใจหมองอยู่เสมอๆ​ ชาติหน้าเกิดใหม่ที่ๆท่านไปจะต้องสดชื่นแจ่มใสกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน​

Spoil
พระพุทธองค์ท่านทรงทิ้งความสุขสบาย​ ความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆด้าน​ สิ่งต่างไม่ได้ล้าหลังเพราะสิ่งที่ท่านได้รับ​ ล้วนแล้วแต่ทันสมัยที่สุดในโลกเวลานั้น.. แต่ท่านกลับหนีความสบายนั้น​เพื่อไปใช้ชีวิตในป่าในเขา​ สู้กับความยากลำบากนานัปประการเพราะตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเอาพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้​ เพื่อที่ว่าชาติถัดไปท่านจะได้ไม่ต้องมาเวียนเกิดเวียนตายอย่างไม่จบไม่สิ้นแบบนี้อีก​ ดังนั้น​ ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในชาตินี้​ ท่านจึงขอมอบให้กับความตั้งใจนั้น​ ละความรู้สึกทางโลกออกไปทั้งหมด​ เพื่อทำประโยชน์ครั้งใหญ่ให้กับตัวท่านเองและมหาชนผู้มีปัญญาเห็นตามได้..

ที่พิมพ์มาทั้งหมดแค่อยากให้ท่านได้กำลังใจนะครับ​ ถึงตอนนี้จะแย่แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่ดีก็จงสู้ต่อไป​ ความตายไม่ใช่จุดจบของทุกข์ในปัจจุบัน​ เพราะมันคือประตูแห่งการชดใช้หนี้ที่ท่านเคยก่อเอาไว้ในอดีต​ ถ้าทำดีมามากก็จะต้องได้รับกำไรมาเชยชม​ แต่หากท่านชั่วมามากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ย่อมขื่นขมไปตราบนานเท่านาน​ ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาดครับ.. การฆ่าคนตายเป็นบาปอันใหญ่หลวงนักหนีนรกไม่พ้นเลย อีกทั้งหากใจไม่ผ่องใสตายไปเป็นเปรตปีสัมภเวสีออกโหยหวนขอส่วนบุญนับร้อยนับพันปีแน่ๆ​ ถ้าตายแบบคับแค้นใจก็ต้องลงนรกตกอบายนับหมื่นนับแสนหรือนับล้านปีจนโลกแตกดับ.. จนโลกก่อตัวใหม่​ จนโลกแตกไปอีกรอบ​ ก็อาจจะยังไม่มีทางกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกถ้ากรรมเก่ามันหนักเกินไป​ ทุกคนอาจจะบอกว่าก็ไม่ได้อยากเกิดอีกนี่นา​ แค่อยากตายๆให้เรื่องมันจบๆไป.. แต่มันไม่จบครับ​ กฎธรรมชาติเขาเป็นแบบนี้มาแต่แรกแล้ว​ ถึงไม่มีพระพุทธองค์สิ่งนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง  


แก้คำผิดบ่อยหน่อยนะครับ​ มือถือจอเล็ก แต่อยากให้ท่านมีกำลังใจนะ​ สู้ๆครับ  


พูดง่าย แต่แค่สมาธิเอาจิตลงให้สงบได้ก็ยากฉิบหายยยยยยยยยยแล้วครับ แต่ที่ท่านพูดมาถูกหมดเลยนะ ทุกวันนี้ผมเห็นไอ้พวกบอกไม่ต้องทำสมาธิว่างๆ ดูเฉยๆ เหมือนขี้ลอยน้ำ แล้ว มามโนตัวเองว่าทำวิปัสสนาอยู่
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Jun 2019
ตอบ: 4407
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Oct 21, 2019 19:55
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
1. จิตแพทย์ ไม่ได้มีไว้รักษาโรคทางจิตเท่านั้นนะครับ สามารถไปปรึกษาจิตแพทย์ได้ ถ้าเครียดมากๆ แล้วรับมือกับมันไม่ได้
2. โบสถ์คริสเตียน คุณไม่เป็นคริสต์ก็ไปได้เสมอเลยครับ เพราะมันไม่ใช่สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา มันเป็นสถานที่พบปะ เป็นชุมชนซะมากกว่า กิจกรรมที่โบสถ์ทำวันอาทิตย์มันคือร้องเพลงนมัสการ ฟังคำสอน และพบปะพูดคุยให้กำลังใจ แบ่งปันแนวทางชีวติ บางทีก็เฮฮาสนุกสนานด้วยกัน ไปแล้ว ก็แนะนำตัวกับใครก็ได้ บอกเขาว่าไม่ได้เป็นคริสต์หรอก แต่ช่วงนี้เครียด มีคนบอกว่ามาโบสถ์แล้วมีคนคุย คนรับฟังให้คำปรึกษา คิดเสียเวลาเหมือนเราเรียนแล้วขึ้นไปชมรมนั่นแหละครับ
3. ผมเคยคุยกับอาจารย์ทางพุทธสายมหายานบางท่าน แนวคิดพุทธมหายานมีบางอย่างต่างจากเถรวาทที่เป็นพุทธส่วนใหญ่ในไทยนะ มหายานจะสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัญหา ความทุกข์ไม่ใช่เรื่องไม่ดี มันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เขาจะสอนให้เราอยู่ในสังคม ในชุมชนและเรียนรู้ที่จะเข้าใจและอยู่กับปัญหาได้ ซึ่งผมว่ามีแนวคิดคล้ายคริสต์อยู่เหมือนกัน เพราะคริสต์เชื่อว่าเราเป็นคนบาป และพระเจ้าสร้างให้มนุษย์อยู่ร่วมกันเป็นชุมชนเพื่อช่วยเหลือกัน เขาจะมีพวกกิจกรรมแนวพบปะแบ่งปันแนวคิดในการดำเนินชีวิตแบบนี้เรื่อยๆ ผมเคยไปที่ตึกสสส.ตรงแถวบ่อนไก่ คิดว่าแนวคิดค่อนข้างเวิร์คสำหรับคนมีปัญหาชีวิตนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2010
ตอบ: 448
ที่อยู่: เลวานดี้มหัศจรรย์จุงเบย!
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 13:15
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
หาพระก็ต้องมองที่พระดีครับ​ พระเก่งๆแก้ปัญหาให้ท่านได้มีอยู่​ แต่พระกะโหลกกะลาก็มีแยะ​ เหมือนคนทั่วไปมีทั้งดีทั้งชั่ว​ เก่งและไม่เก่งในเรื่องที่แตกต่างกัน

หาจิตแพทย์ชัวร์สุดเพราะเค้าเรียนด้านนี้มาโดยตรง​ ช่วยบรรเทาปัญหาให้ท่านแบบหวังผลได้มากกว่าไปพบพระ​ เพราะถ้าเจอพระเก่งท่านจะช่วยเหลือเราได้แน่นอน​ แต่ถ้าเจอพระดาดๆบางทีท่านอาจจะอาการหนักกว่าเก่าก็ได้

สมาธิเป็นยาทา​ วิปัสสนาเป็นยาใจ​ สมาธิคือการทำกายใจให้สงบระงับจากความฟุ้งซ่าน​ วิปัสสนาคือการเสริมปัญญาที่ช่วยให้มองปัญหาที่เป็นทุกข์ได้แตกฉาน​ จิตใจเราต้องมีสมาธิก่อนถึงจะเริ่มพิจารณาเรื่องราวต่างๆให้กลายเป็นปัญญาได้​ แต่ปัญญาในทางพระพุทธศาสนไม่ใช่หมายเอาถึงความรู้​ ไม่ใช่การอ่านการฟังเพื่อให้ได้รู้ถึงเรื่องราวแบบโลกๆ​

ปัญญาที่ช่วยตัดทุกข์ได้​ พระพุทธองค์ทรงวางไว้ในแง่เดียวคือปัญญารู้เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง​ มองทุกอย่างตามหลักไตรลักษณ์​ คือไม่เที่ยง​ เป็นทุกข์​ ไม่มีสาระตัวตนแก่นสารอย่างแท้จริง​ เป็นอนิจจัง​ ทุกขัง​ อนัตตา​ หาอะไรมาพึ่งพิงยึดเหนี่ยวไม่ได้เพราะต้องสูญสลายไปทั้งหมด​ ไม่ว่างาน​ เงิน​ คนที่เราชัง​ คนที่เรารัก​ รวมทั้งตัวเราเอง​ หรือโลกใบนี้​ วันนึงมันก็ต้องดับสูญ​ แต่สิ่งที่หายไปมันแค่ทางกายภาพ​ ส่วนสิ่งที่เหลืออยู่และจะยังคงนำเราให้ไปพบสุขและทุกข์ต่อไปนั่นคือดวงจิต​

พระพุทธองค์คงเป็นคนทุศีล​อย่างแน่แท้​ หากคำสอนเรื่องนรก​ สวรรค์​ เปรตผีอสูรกาย​ นาคครุฑ​ เทวดา​ พระอินท์​ พระพรหม​ พระนิพพาน​ เป็นแค่เรื่องแต่งที่ไม่มีอยู่จริง.. แต่พระองค์กลับทรงเน้นย้ำอยู่เสมอให้เราละกรรมชั่ว​ ประกอบกรรมดี​ ทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบานอยู่เสมอ​ เพื่อให้มีภพภูมิที่ดีต่อไป​ หากท่านไม่มั่นใจในสิ่งใดๆในโลกนี้​ ก็ขอให้ตระหนักถึงเรื่องกรรมเอาไว้ครับ​ ชาตินี้ทุกข์หนัก​ แต่ยังคิดดีทำดี​ พยายามทำตนให้พ้นจากบาปกรรมที่ทำใจหมองอยู่เสมอๆ​ ชาติหน้าเกิดใหม่ที่ๆท่านไปจะต้องสดชื่นแจ่มใสกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน​

Spoil
พระพุทธองค์ท่านทรงทิ้งความสุขสบาย​ ความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆด้าน​ สิ่งต่างไม่ได้ล้าหลังเพราะสิ่งที่ท่านได้รับ​ ล้วนแล้วแต่ทันสมัยที่สุดในโลกเวลานั้น.. แต่ท่านกลับหนีความสบายนั้น​เพื่อไปใช้ชีวิตในป่าในเขา​ สู้กับความยากลำบากนานัปประการเพราะตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเอาพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้​ เพื่อที่ว่าชาติถัดไปท่านจะได้ไม่ต้องมาเวียนเกิดเวียนตายอย่างไม่จบไม่สิ้นแบบนี้อีก​ ดังนั้น​ ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในชาตินี้​ ท่านจึงขอมอบให้กับความตั้งใจนั้น​ ละความรู้สึกทางโลกออกไปทั้งหมด​ เพื่อทำประโยชน์ครั้งใหญ่ให้กับตัวท่านเองและมหาชนผู้มีปัญญาเห็นตามได้..

ที่พิมพ์มาทั้งหมดแค่อยากให้ท่านได้กำลังใจนะครับ​ ถึงตอนนี้จะแย่แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่ดีก็จงสู้ต่อไป​ ความตายไม่ใช่จุดจบของทุกข์ในปัจจุบัน​ เพราะมันคือประตูแห่งการชดใช้หนี้ที่ท่านเคยก่อเอาไว้ในอดีต​ ถ้าทำดีมามากก็จะต้องได้รับกำไรมาเชยชม​ แต่หากท่านชั่วมามากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ย่อมขื่นขมไปตราบนานเท่านาน​ ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาดครับ.. การฆ่าคนตายเป็นบาปอันใหญ่หลวงนักหนีนรกไม่พ้นเลย อีกทั้งหากใจไม่ผ่องใสตายไปเป็นเปรตปีสัมภเวสีออกโหยหวนขอส่วนบุญนับร้อยนับพันปีแน่ๆ​ ถ้าตายแบบคับแค้นใจก็ต้องลงนรกตกอบายนับหมื่นนับแสนหรือนับล้านปีจนโลกแตกดับ.. จนโลกก่อตัวใหม่​ จนโลกแตกไปอีกรอบ​ ก็อาจจะยังไม่มีทางกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกถ้ากรรมเก่ามันหนักเกินไป​ ทุกคนอาจจะบอกว่าก็ไม่ได้อยากเกิดอีกนี่นา​ แค่อยากตายๆให้เรื่องมันจบๆไป.. แต่มันไม่จบครับ​ กฎธรรมชาติเขาเป็นแบบนี้มาแต่แรกแล้ว​ ถึงไม่มีพระพุทธองค์สิ่งนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง  


แก้คำผิดบ่อยหน่อยนะครับ​ มือถือจอเล็ก แต่อยากให้ท่านมีกำลังใจนะ​ สู้ๆครับ  
 


พูดง่าย แต่แค่สมาธิเอาจิตลงให้สงบได้ก็ยากฉิบหายยยยยยยยยยแล้วครับ แต่ที่ท่านพูดมาถูกหมดเลยนะ ทุกวันนี้ผมเห็นไอ้พวกบอกไม่ต้องทำสมาธิว่างๆ ดูเฉยๆ เหมือนขี้ลอยน้ำ แล้ว มามโนตัวเองว่าทำวิปัสสนาอยู่  


สมาธิเหมือนจะยากแต่ก็ไม่ยาก​ เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่ายเลย​ ถือเป็นสิ่งกลางๆที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ครับ​ เคล็ดลับคือทำทุกวัน​ รู้ลมเข้าออก​ มีสติอยู่เนืองๆ​ และตั้งเวลาฝึกฝนแบบเน้นๆเป็นประจำทุกวัน​ เช่น4ทุ่มทุกวันจะนั่งสมาธิ1ชม.ก่อนอน​ทำแบบนี้ต่อเนื่อง​ พอสมาธิทรงตัวเมื่อถึง4ทุ่มมันจะเข้าสมาธิให้เราเองเลย​ ได้สมาธิระดับไหน​ ฌานอะไร​ ถึงเวลามันวูบวาบขึ้นมาให้เราเห็นชัดๆเลย​ ดูเหมือนมันจะได้จะเป็นแบบง่ายๆเลยนะครับ​ แต่ถ้าเราทิ้งขว้างได้แล้วไม่รักษา.. เวลาจะตามของเก่าคืนนี่​ บางทีใช้เวลาเป็นปีๆเลยกว่าจะกลับเข้าร่องเข้ารอย​ เลยไม่รู้จะบอกว่ามันง่ายหรือยากดี​ เพราะก่อนจะได้ก็ฝึกแบบไม่กดดันแต่ทำทุกวัน​ พอสำเร็จแล้วไม่รักษาก็ค่อยๆเสื่อมไปทีละนิดๆ​ ใช้เวลาเป็นปีๆแบบไม่ได้สนใจทำสมาธิเลยมันก็พยายามแสดงตัวเป็นนิมิตจนเหลือแค่โอภาสต่างๆ​ เลยสุดท้ายก็มืดเหมือนคนปกติที่ไม่เคยฝึก​ อันนี้คือแอบบ่นเรื่องสมาธิให้ฟังนะครับ​ 555​

ส่วนพวกตามรู้ตามดูก็ลัดขั้นตอนไป​ จริงๆพระท่านสอนดีนะ​ แต่คนเอาไปทำรับไปไม่หมด​ เอาแค่ที่ตัวเองชอบใจ​ มันเลยลัดขั้นตอนไป​ จะเอาแต่ปัญญาๆ.. จนลืมไปว่ากำลังสมาธิของตนไม่พอจะประคองสติไว้ได้นานๆ​สุดท้ายแทนที่จะได้ปัญญา​ เลยกลายเป็นได้ความคิดฟุ้งซ่านแทนซะงั้น
แก้ไขล่าสุดโดย ฮัมมาบี้ เมื่อ Tue Oct 22, 2019 13:17, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ป๋าชูอาร์แซนเวนเกอร์มหัศจรรย์จุงเบย!
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2565
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Oct 22, 2019 13:22
ถูกแบนแล้ว
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
หาพระก็ต้องมองที่พระดีครับ​ พระเก่งๆแก้ปัญหาให้ท่านได้มีอยู่​ แต่พระกะโหลกกะลาก็มีแยะ​ เหมือนคนทั่วไปมีทั้งดีทั้งชั่ว​ เก่งและไม่เก่งในเรื่องที่แตกต่างกัน

หาจิตแพทย์ชัวร์สุดเพราะเค้าเรียนด้านนี้มาโดยตรง​ ช่วยบรรเทาปัญหาให้ท่านแบบหวังผลได้มากกว่าไปพบพระ​ เพราะถ้าเจอพระเก่งท่านจะช่วยเหลือเราได้แน่นอน​ แต่ถ้าเจอพระดาดๆบางทีท่านอาจจะอาการหนักกว่าเก่าก็ได้

สมาธิเป็นยาทา​ วิปัสสนาเป็นยาใจ​ สมาธิคือการทำกายใจให้สงบระงับจากความฟุ้งซ่าน​ วิปัสสนาคือการเสริมปัญญาที่ช่วยให้มองปัญหาที่เป็นทุกข์ได้แตกฉาน​ จิตใจเราต้องมีสมาธิก่อนถึงจะเริ่มพิจารณาเรื่องราวต่างๆให้กลายเป็นปัญญาได้​ แต่ปัญญาในทางพระพุทธศาสนไม่ใช่หมายเอาถึงความรู้​ ไม่ใช่การอ่านการฟังเพื่อให้ได้รู้ถึงเรื่องราวแบบโลกๆ​

ปัญญาที่ช่วยตัดทุกข์ได้​ พระพุทธองค์ทรงวางไว้ในแง่เดียวคือปัญญารู้เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง​ มองทุกอย่างตามหลักไตรลักษณ์​ คือไม่เที่ยง​ เป็นทุกข์​ ไม่มีสาระตัวตนแก่นสารอย่างแท้จริง​ เป็นอนิจจัง​ ทุกขัง​ อนัตตา​ หาอะไรมาพึ่งพิงยึดเหนี่ยวไม่ได้เพราะต้องสูญสลายไปทั้งหมด​ ไม่ว่างาน​ เงิน​ คนที่เราชัง​ คนที่เรารัก​ รวมทั้งตัวเราเอง​ หรือโลกใบนี้​ วันนึงมันก็ต้องดับสูญ​ แต่สิ่งที่หายไปมันแค่ทางกายภาพ​ ส่วนสิ่งที่เหลืออยู่และจะยังคงนำเราให้ไปพบสุขและทุกข์ต่อไปนั่นคือดวงจิต​

พระพุทธองค์คงเป็นคนทุศีล​อย่างแน่แท้​ หากคำสอนเรื่องนรก​ สวรรค์​ เปรตผีอสูรกาย​ นาคครุฑ​ เทวดา​ พระอินท์​ พระพรหม​ พระนิพพาน​ เป็นแค่เรื่องแต่งที่ไม่มีอยู่จริง.. แต่พระองค์กลับทรงเน้นย้ำอยู่เสมอให้เราละกรรมชั่ว​ ประกอบกรรมดี​ ทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบานอยู่เสมอ​ เพื่อให้มีภพภูมิที่ดีต่อไป​ หากท่านไม่มั่นใจในสิ่งใดๆในโลกนี้​ ก็ขอให้ตระหนักถึงเรื่องกรรมเอาไว้ครับ​ ชาตินี้ทุกข์หนัก​ แต่ยังคิดดีทำดี​ พยายามทำตนให้พ้นจากบาปกรรมที่ทำใจหมองอยู่เสมอๆ​ ชาติหน้าเกิดใหม่ที่ๆท่านไปจะต้องสดชื่นแจ่มใสกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน​

Spoil
พระพุทธองค์ท่านทรงทิ้งความสุขสบาย​ ความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆด้าน​ สิ่งต่างไม่ได้ล้าหลังเพราะสิ่งที่ท่านได้รับ​ ล้วนแล้วแต่ทันสมัยที่สุดในโลกเวลานั้น.. แต่ท่านกลับหนีความสบายนั้น​เพื่อไปใช้ชีวิตในป่าในเขา​ สู้กับความยากลำบากนานัปประการเพราะตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเอาพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้​ เพื่อที่ว่าชาติถัดไปท่านจะได้ไม่ต้องมาเวียนเกิดเวียนตายอย่างไม่จบไม่สิ้นแบบนี้อีก​ ดังนั้น​ ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในชาตินี้​ ท่านจึงขอมอบให้กับความตั้งใจนั้น​ ละความรู้สึกทางโลกออกไปทั้งหมด​ เพื่อทำประโยชน์ครั้งใหญ่ให้กับตัวท่านเองและมหาชนผู้มีปัญญาเห็นตามได้..

ที่พิมพ์มาทั้งหมดแค่อยากให้ท่านได้กำลังใจนะครับ​ ถึงตอนนี้จะแย่แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่ดีก็จงสู้ต่อไป​ ความตายไม่ใช่จุดจบของทุกข์ในปัจจุบัน​ เพราะมันคือประตูแห่งการชดใช้หนี้ที่ท่านเคยก่อเอาไว้ในอดีต​ ถ้าทำดีมามากก็จะต้องได้รับกำไรมาเชยชม​ แต่หากท่านชั่วมามากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ย่อมขื่นขมไปตราบนานเท่านาน​ ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาดครับ.. การฆ่าคนตายเป็นบาปอันใหญ่หลวงนักหนีนรกไม่พ้นเลย อีกทั้งหากใจไม่ผ่องใสตายไปเป็นเปรตปีสัมภเวสีออกโหยหวนขอส่วนบุญนับร้อยนับพันปีแน่ๆ​ ถ้าตายแบบคับแค้นใจก็ต้องลงนรกตกอบายนับหมื่นนับแสนหรือนับล้านปีจนโลกแตกดับ.. จนโลกก่อตัวใหม่​ จนโลกแตกไปอีกรอบ​ ก็อาจจะยังไม่มีทางกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกถ้ากรรมเก่ามันหนักเกินไป​ ทุกคนอาจจะบอกว่าก็ไม่ได้อยากเกิดอีกนี่นา​ แค่อยากตายๆให้เรื่องมันจบๆไป.. แต่มันไม่จบครับ​ กฎธรรมชาติเขาเป็นแบบนี้มาแต่แรกแล้ว​ ถึงไม่มีพระพุทธองค์สิ่งนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง  


แก้คำผิดบ่อยหน่อยนะครับ​ มือถือจอเล็ก แต่อยากให้ท่านมีกำลังใจนะ​ สู้ๆครับ  
 


พูดง่าย แต่แค่สมาธิเอาจิตลงให้สงบได้ก็ยากฉิบหายยยยยยยยยยแล้วครับ แต่ที่ท่านพูดมาถูกหมดเลยนะ ทุกวันนี้ผมเห็นไอ้พวกบอกไม่ต้องทำสมาธิว่างๆ ดูเฉยๆ เหมือนขี้ลอยน้ำ แล้ว มามโนตัวเองว่าทำวิปัสสนาอยู่  


สมาธิเหมือนจะยากแต่ก็ไม่ยาก​ เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่ายเลย​ ถือเป็นสิ่งกลางๆที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ครับ​ เคล็ดลับคือทำทุกวัน​ รู้ลมเข้าออก​ มีสติอยู่เนืองๆ​ และตั้งเวลาฝึกฝนแบบเน้นๆเป็นประจำทุกวัน​ เช่น4ทุ่มทุกวันจะนั่งสมาธิ1ชม.ก่อนอน​ทำแบบนี้ต่อเนื่อง​ พอสมาธิทรงตัวเมื่อถึง4ทุ่มมันจะเข้าสมาธิให้เราเองเลย​ ได้สมาธิระดับไหน​ ฌานอะไร​ ถึงเวลามันวูบวาบขึ้นมาให้เราเห็นชัดๆเลย​ ดูเหมือนมันจะได้จะเป็นแบบง่ายๆเลยนะครับ​ แต่ถ้าเราทิ้งขว้างได้แล้วไม่รักษา.. เวลาจะตามของเก่าคืนนี่​ บางทีใช้เวลาเป็นปีๆเลยกว่าจะกลับเข้าร่องเข้ารอย​ เลยไม่รู้จะบอกว่ามันง่ายหรือยากดี​ เพราะก่อนจะได้ก็ฝึกแบบไม่กดดันแต่ทำทุกวัน​ พอสำเร็จแล้วไม่รักษาก็ค่อยๆเสื่อมไปทีละนิดๆ​ ใช้เวลาเป็นปีๆแบบไม่ได้สนใจทำสมาธิเลยมันก็พยายามแสดงตัวเป็นนิมิตจนเหลือแค่โอภาสต่างๆ​ เลยสุดท้ายก็มืดเหมือนคนปกติที่ไม่เคยฝึก​ อันนี้คือแอบบ่นเรื่องสมาธิให้ฟังนะครับ​ 555​

ส่วนพวกตามรู้ตามดูก็ลัดขั้นตอนไป​ จริงๆพระท่านสอนดีนะ​ แต่คนเอาไปทำรับไปไม่หมด​ เอาแค่ที่ตัวเองชอบใจ​ มันเลยลัดขั้นตอนไป​ จะเอาแต่ปัญญาๆ.. จนลืมไปว่ากำลังสมาธิของตนไม่พอจะประคองสติไว้ได้นานๆ​สุดท้ายแทนที่จะได้ปัญญา​ เลยกลายเป็นได้ความคิดฟุ้งซ่านแทนซะงั้น  


ต้องมีวินัยจริงๆอะท่าน. เท่าที่ผมเคยถามดู เฉลี่ยๆคนที่ทำได้ สมาธิครั้งแรก นี่ 8 เดือน+
คนที่รู้จัก นอกจากเวลาคิดงานแล้วไม่คัยกะใคร มีสติจับกับคำบริกรรม เหมือนกับที่บอกว่ามีสติเนืองๆ (หรืออย่างกรณีคุณใช้ลมหายใจตลอด) เขาบอกทำแบบนี้ พอตอนนั่งสมาธิแบบเน้นๆ นี่ได้สมาธิเกือบทุกรอบ

แต่เขาไม่ฟังเพลง (เพลงนี่มันโคตรกวนเลยครับ) ไม่ติดสื่ออื่นๆ ละกามคุณ ๕ ถึงทำสมาธิได้อะ

เสื่อมปีนึงนี่ถือว่าน้อยนะครับผมเคยอ่านประวัติครูบาอาจารย์หลวงตามหาบัวเสื่อมไป 3 ปี( ถ้าจำไม่ผิดคือท่านไปเดินปัญญามากเกินไปแล้วไม่ทำสมาธิ )เคยเห็นครูบาอาจารย์เล่าให้ฟังว่าจิตมันมีธรรมชาติต้องเสื่อม ขนาดต่อให้ฝึกสมาธิอยู่ต่อเนื่องมันก็เสื่อมให้เห็นต่อหน้าต่อตาก็ยังมี บางครั้งก็ต้องเปลี่ยนวิธีทำสมาธิ ไปใช้กรรมฐานแบบอื่น





อ้อ รบกวนสอบถามนิดนึงครับ. การที่เราเปิดเสียง white noise กรอกหู เพื่อกันเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ช่วยได้เยอะไหมครับ (white noise เช่นเสียงพัดลมตัวใหญ่ๆดังๆหรือเสียงฝนตกหนักๆ พอเปิดแล้วอื้ออึงๆแบบนั้นอะครับ)
แก้ไขล่าสุดโดย armeros เมื่อ Tue Oct 22, 2019 15:48, ทั้งหมด 7 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2010
ตอบ: 448
ที่อยู่: เลวานดี้มหัศจรรย์จุงเบย!
โพสเมื่อ: Wed Oct 23, 2019 08:09
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
หาพระก็ต้องมองที่พระดีครับ​ พระเก่งๆแก้ปัญหาให้ท่านได้มีอยู่​ แต่พระกะโหลกกะลาก็มีแยะ​ เหมือนคนทั่วไปมีทั้งดีทั้งชั่ว​ เก่งและไม่เก่งในเรื่องที่แตกต่างกัน

หาจิตแพทย์ชัวร์สุดเพราะเค้าเรียนด้านนี้มาโดยตรง​ ช่วยบรรเทาปัญหาให้ท่านแบบหวังผลได้มากกว่าไปพบพระ​ เพราะถ้าเจอพระเก่งท่านจะช่วยเหลือเราได้แน่นอน​ แต่ถ้าเจอพระดาดๆบางทีท่านอาจจะอาการหนักกว่าเก่าก็ได้

สมาธิเป็นยาทา​ วิปัสสนาเป็นยาใจ​ สมาธิคือการทำกายใจให้สงบระงับจากความฟุ้งซ่าน​ วิปัสสนาคือการเสริมปัญญาที่ช่วยให้มองปัญหาที่เป็นทุกข์ได้แตกฉาน​ จิตใจเราต้องมีสมาธิก่อนถึงจะเริ่มพิจารณาเรื่องราวต่างๆให้กลายเป็นปัญญาได้​ แต่ปัญญาในทางพระพุทธศาสนไม่ใช่หมายเอาถึงความรู้​ ไม่ใช่การอ่านการฟังเพื่อให้ได้รู้ถึงเรื่องราวแบบโลกๆ​

ปัญญาที่ช่วยตัดทุกข์ได้​ พระพุทธองค์ทรงวางไว้ในแง่เดียวคือปัญญารู้เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง​ มองทุกอย่างตามหลักไตรลักษณ์​ คือไม่เที่ยง​ เป็นทุกข์​ ไม่มีสาระตัวตนแก่นสารอย่างแท้จริง​ เป็นอนิจจัง​ ทุกขัง​ อนัตตา​ หาอะไรมาพึ่งพิงยึดเหนี่ยวไม่ได้เพราะต้องสูญสลายไปทั้งหมด​ ไม่ว่างาน​ เงิน​ คนที่เราชัง​ คนที่เรารัก​ รวมทั้งตัวเราเอง​ หรือโลกใบนี้​ วันนึงมันก็ต้องดับสูญ​ แต่สิ่งที่หายไปมันแค่ทางกายภาพ​ ส่วนสิ่งที่เหลืออยู่และจะยังคงนำเราให้ไปพบสุขและทุกข์ต่อไปนั่นคือดวงจิต​

พระพุทธองค์คงเป็นคนทุศีล​อย่างแน่แท้​ หากคำสอนเรื่องนรก​ สวรรค์​ เปรตผีอสูรกาย​ นาคครุฑ​ เทวดา​ พระอินท์​ พระพรหม​ พระนิพพาน​ เป็นแค่เรื่องแต่งที่ไม่มีอยู่จริง.. แต่พระองค์กลับทรงเน้นย้ำอยู่เสมอให้เราละกรรมชั่ว​ ประกอบกรรมดี​ ทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบานอยู่เสมอ​ เพื่อให้มีภพภูมิที่ดีต่อไป​ หากท่านไม่มั่นใจในสิ่งใดๆในโลกนี้​ ก็ขอให้ตระหนักถึงเรื่องกรรมเอาไว้ครับ​ ชาตินี้ทุกข์หนัก​ แต่ยังคิดดีทำดี​ พยายามทำตนให้พ้นจากบาปกรรมที่ทำใจหมองอยู่เสมอๆ​ ชาติหน้าเกิดใหม่ที่ๆท่านไปจะต้องสดชื่นแจ่มใสกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน​

Spoil
พระพุทธองค์ท่านทรงทิ้งความสุขสบาย​ ความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆด้าน​ สิ่งต่างไม่ได้ล้าหลังเพราะสิ่งที่ท่านได้รับ​ ล้วนแล้วแต่ทันสมัยที่สุดในโลกเวลานั้น.. แต่ท่านกลับหนีความสบายนั้น​เพื่อไปใช้ชีวิตในป่าในเขา​ สู้กับความยากลำบากนานัปประการเพราะตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเอาพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้​ เพื่อที่ว่าชาติถัดไปท่านจะได้ไม่ต้องมาเวียนเกิดเวียนตายอย่างไม่จบไม่สิ้นแบบนี้อีก​ ดังนั้น​ ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในชาตินี้​ ท่านจึงขอมอบให้กับความตั้งใจนั้น​ ละความรู้สึกทางโลกออกไปทั้งหมด​ เพื่อทำประโยชน์ครั้งใหญ่ให้กับตัวท่านเองและมหาชนผู้มีปัญญาเห็นตามได้..

ที่พิมพ์มาทั้งหมดแค่อยากให้ท่านได้กำลังใจนะครับ​ ถึงตอนนี้จะแย่แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่ดีก็จงสู้ต่อไป​ ความตายไม่ใช่จุดจบของทุกข์ในปัจจุบัน​ เพราะมันคือประตูแห่งการชดใช้หนี้ที่ท่านเคยก่อเอาไว้ในอดีต​ ถ้าทำดีมามากก็จะต้องได้รับกำไรมาเชยชม​ แต่หากท่านชั่วมามากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ย่อมขื่นขมไปตราบนานเท่านาน​ ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาดครับ.. การฆ่าคนตายเป็นบาปอันใหญ่หลวงนักหนีนรกไม่พ้นเลย อีกทั้งหากใจไม่ผ่องใสตายไปเป็นเปรตปีสัมภเวสีออกโหยหวนขอส่วนบุญนับร้อยนับพันปีแน่ๆ​ ถ้าตายแบบคับแค้นใจก็ต้องลงนรกตกอบายนับหมื่นนับแสนหรือนับล้านปีจนโลกแตกดับ.. จนโลกก่อตัวใหม่​ จนโลกแตกไปอีกรอบ​ ก็อาจจะยังไม่มีทางกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกถ้ากรรมเก่ามันหนักเกินไป​ ทุกคนอาจจะบอกว่าก็ไม่ได้อยากเกิดอีกนี่นา​ แค่อยากตายๆให้เรื่องมันจบๆไป.. แต่มันไม่จบครับ​ กฎธรรมชาติเขาเป็นแบบนี้มาแต่แรกแล้ว​ ถึงไม่มีพระพุทธองค์สิ่งนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง  


แก้คำผิดบ่อยหน่อยนะครับ​ มือถือจอเล็ก แต่อยากให้ท่านมีกำลังใจนะ​ สู้ๆครับ  
 


พูดง่าย แต่แค่สมาธิเอาจิตลงให้สงบได้ก็ยากฉิบหายยยยยยยยยยแล้วครับ แต่ที่ท่านพูดมาถูกหมดเลยนะ ทุกวันนี้ผมเห็นไอ้พวกบอกไม่ต้องทำสมาธิว่างๆ ดูเฉยๆ เหมือนขี้ลอยน้ำ แล้ว มามโนตัวเองว่าทำวิปัสสนาอยู่  


สมาธิเหมือนจะยากแต่ก็ไม่ยาก​ เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่ายเลย​ ถือเป็นสิ่งกลางๆที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ครับ​ เคล็ดลับคือทำทุกวัน​ รู้ลมเข้าออก​ มีสติอยู่เนืองๆ​ และตั้งเวลาฝึกฝนแบบเน้นๆเป็นประจำทุกวัน​ เช่น4ทุ่มทุกวันจะนั่งสมาธิ1ชม.ก่อนอน​ทำแบบนี้ต่อเนื่อง​ พอสมาธิทรงตัวเมื่อถึง4ทุ่มมันจะเข้าสมาธิให้เราเองเลย​ ได้สมาธิระดับไหน​ ฌานอะไร​ ถึงเวลามันวูบวาบขึ้นมาให้เราเห็นชัดๆเลย​ ดูเหมือนมันจะได้จะเป็นแบบง่ายๆเลยนะครับ​ แต่ถ้าเราทิ้งขว้างได้แล้วไม่รักษา.. เวลาจะตามของเก่าคืนนี่​ บางทีใช้เวลาเป็นปีๆเลยกว่าจะกลับเข้าร่องเข้ารอย​ เลยไม่รู้จะบอกว่ามันง่ายหรือยากดี​ เพราะก่อนจะได้ก็ฝึกแบบไม่กดดันแต่ทำทุกวัน​ พอสำเร็จแล้วไม่รักษาก็ค่อยๆเสื่อมไปทีละนิดๆ​ ใช้เวลาเป็นปีๆแบบไม่ได้สนใจทำสมาธิเลยมันก็พยายามแสดงตัวเป็นนิมิตจนเหลือแค่โอภาสต่างๆ​ เลยสุดท้ายก็มืดเหมือนคนปกติที่ไม่เคยฝึก​ อันนี้คือแอบบ่นเรื่องสมาธิให้ฟังนะครับ​ 555​

ส่วนพวกตามรู้ตามดูก็ลัดขั้นตอนไป​ จริงๆพระท่านสอนดีนะ​ แต่คนเอาไปทำรับไปไม่หมด​ เอาแค่ที่ตัวเองชอบใจ​ มันเลยลัดขั้นตอนไป​ จะเอาแต่ปัญญาๆ.. จนลืมไปว่ากำลังสมาธิของตนไม่พอจะประคองสติไว้ได้นานๆ​สุดท้ายแทนที่จะได้ปัญญา​ เลยกลายเป็นได้ความคิดฟุ้งซ่านแทนซะงั้น  


ต้องมีวินัยจริงๆอะท่าน. เท่าที่ผมเคยถามดู เฉลี่ยๆคนที่ทำได้ สมาธิครั้งแรก นี่ 8 เดือน+
คนที่รู้จัก นอกจากเวลาคิดงานแล้วไม่คัยกะใคร มีสติจับกับคำบริกรรม เหมือนกับที่บอกว่ามีสติเนืองๆ (หรืออย่างกรณีคุณใช้ลมหายใจตลอด) เขาบอกทำแบบนี้ พอตอนนั่งสมาธิแบบเน้นๆ นี่ได้สมาธิเกือบทุกรอบ

แต่เขาไม่ฟังเพลง (เพลงนี่มันโคตรกวนเลยครับ) ไม่ติดสื่ออื่นๆ ละกามคุณ ๕ ถึงทำสมาธิได้อะ

เสื่อมปีนึงนี่ถือว่าน้อยนะครับผมเคยอ่านประวัติครูบาอาจารย์หลวงตามหาบัวเสื่อมไป 3 ปี( ถ้าจำไม่ผิดคือท่านไปเดินปัญญามากเกินไปแล้วไม่ทำสมาธิ )เคยเห็นครูบาอาจารย์เล่าให้ฟังว่าจิตมันมีธรรมชาติต้องเสื่อม ขนาดต่อให้ฝึกสมาธิอยู่ต่อเนื่องมันก็เสื่อมให้เห็นต่อหน้าต่อตาก็ยังมี บางครั้งก็ต้องเปลี่ยนวิธีทำสมาธิ ไปใช้กรรมฐานแบบอื่น





อ้อ รบกวนสอบถามนิดนึงครับ. การที่เราเปิดเสียง white noise กรอกหู เพื่อกันเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ช่วยได้เยอะไหมครับ (white noise เช่นเสียงพัดลมตัวใหญ่ๆดังๆหรือเสียงฝนตกหนักๆ พอเปิดแล้วอื้ออึงๆแบบนั้นอะครับ)  
 


ถ้าเปิดเสียงดังๆแล้วจิตใจสงบก็เป็นอันใช้ได้ครับ​ จริตนิสัยคนเรานั้นต่างกัน​ แต่เบื้องต้นท่านให้หาที่สงบปลอดเสียงรบกวนก็เพราะจะช่วยให้เป็นสมาธิไว​ เช่นพระป่าก็อาศัยในป่าฟังเสียงนกกระรอกใบไม้แทนเสียงคนจอแจ​ สภาพแวดล้อมจะช่วยให้ท่านจิตรวมเร็วเพราะสิ่งรอบข้างไม่ได้กระตุ้นให้ท่านคิดวอกแวก แต่ท้ายที่สุดเมื่อสมาธิหนักแน่นดีแล้วท่านก็จะออกจากป่า​ มาทดสอบตนเองกับสังคมทั่วไป​ เช่นย้ายกลับมาอยู่ในวัดที่ผู้คนแวะเวียนมากราบเรื่อยๆ​ นัยหนึ่งคือออกมาโปรดญาติโยม​ อีกนัยคือมาลองวิชาว่าจะพอรับมือกิเลสได้ไหม​ แต่เท่าที่ฟังมาพระทั้งหมดไม่มีใครอยากเข้ามาใกล้ผู้คน​ ท่านอยากอยู่ป่าสงบสงัดคนเดียว​ เพราะความวุ่นวายทำให้ท่านไม่มีเวลาทำความสงบอย่างเต็มที่​

พระป่าหลายรูปที่ทำสมาธิแบบตั้งใจจริงจะได้พวกวิชชา3กับอภิญญาเป็นของแถม​ แต่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติห้ามไม่ให้ไปแสดงต่อกน้าคน​ อย่างพระอาจารย์ที่ผมเคยไปบวชด้วยท่านก็รู้เรื่องหวยเรื่องเบอร์​ แต้ท่านไม่พูดให้โยมฟัง​ จะพูดมีลอยๆขึ้นมาบางทีเช่นเห็นฝูงปลาพยายามย้ายจากสระหนึ่งไปอีกสระหนึ่ง​ แต่ไปไม่ถึงมาตายกลางทางท่านก็ว่าหรือหวยจะออก.. ซึ่งวัดถัดมาเลขก็ออกตามนั้น​ เสาศาลาวัดก็ได้จากโยมที่มาฟังเทศน์ท่านแล้วเขาเอาไปตีเป็นหวยแล้ววันถัดๆไปก็มาทันทีเพราะท่านเปรยว่ายังขาดเสาอีก..ต้น​ มัคทายกวัดมักจะถูกหวยเสมอๆแต่ซื้อทีละ50บาท.. แอบท่านซื้อแล้วมาเล่าให้พวกพระฟัง​ ไปทำงานวัดกลับมามักฝันเห็นท่านไปบวกหวยตตัวนั้นตัวนี้​ เจอแบบนี้ใครละจะไม่ซื้อ​ แต่ท่านด่าเลยนะครับถ้าใครคิดจะเล่นหวย​ ท่านว่าเป็นการพนัน​ มีพระในวัดบางรูปอยากให้หวยคนซึ่งท่านก็ปราม​ ห้ามไม่ฟังท่านก็ไล่หนี.. เรื่องปาฏิหาริย์ท่านก็จะเล่าแค่ให้พระหรือโยมคนสนิทฟัง​บ้างเป็นครั้งคราว แต่ท่านบอกอย่าไปใส่ใจให้มาก​ เรื่องแบบนี้รู้เองเห็นเองแค่ตัวเราก็พอ​ พูดมากไปจะทำให้จิตฟุ้งซ่านเป็นบ้าเป็นบอได้
แก้ไขล่าสุดโดย ฮัมมาบี้ เมื่อ Wed Oct 23, 2019 08:12, ทั้งหมด 1 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ป๋าชูอาร์แซนเวนเกอร์มหัศจรรย์จุงเบย!
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2565
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Oct 23, 2019 09:19
ถูกแบนแล้ว
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
หาพระก็ต้องมองที่พระดีครับ​ พระเก่งๆแก้ปัญหาให้ท่านได้มีอยู่​ แต่พระกะโหลกกะลาก็มีแยะ​ เหมือนคนทั่วไปมีทั้งดีทั้งชั่ว​ เก่งและไม่เก่งในเรื่องที่แตกต่างกัน

หาจิตแพทย์ชัวร์สุดเพราะเค้าเรียนด้านนี้มาโดยตรง​ ช่วยบรรเทาปัญหาให้ท่านแบบหวังผลได้มากกว่าไปพบพระ​ เพราะถ้าเจอพระเก่งท่านจะช่วยเหลือเราได้แน่นอน​ แต่ถ้าเจอพระดาดๆบางทีท่านอาจจะอาการหนักกว่าเก่าก็ได้

สมาธิเป็นยาทา​ วิปัสสนาเป็นยาใจ​ สมาธิคือการทำกายใจให้สงบระงับจากความฟุ้งซ่าน​ วิปัสสนาคือการเสริมปัญญาที่ช่วยให้มองปัญหาที่เป็นทุกข์ได้แตกฉาน​ จิตใจเราต้องมีสมาธิก่อนถึงจะเริ่มพิจารณาเรื่องราวต่างๆให้กลายเป็นปัญญาได้​ แต่ปัญญาในทางพระพุทธศาสนไม่ใช่หมายเอาถึงความรู้​ ไม่ใช่การอ่านการฟังเพื่อให้ได้รู้ถึงเรื่องราวแบบโลกๆ​

ปัญญาที่ช่วยตัดทุกข์ได้​ พระพุทธองค์ทรงวางไว้ในแง่เดียวคือปัญญารู้เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง​ มองทุกอย่างตามหลักไตรลักษณ์​ คือไม่เที่ยง​ เป็นทุกข์​ ไม่มีสาระตัวตนแก่นสารอย่างแท้จริง​ เป็นอนิจจัง​ ทุกขัง​ อนัตตา​ หาอะไรมาพึ่งพิงยึดเหนี่ยวไม่ได้เพราะต้องสูญสลายไปทั้งหมด​ ไม่ว่างาน​ เงิน​ คนที่เราชัง​ คนที่เรารัก​ รวมทั้งตัวเราเอง​ หรือโลกใบนี้​ วันนึงมันก็ต้องดับสูญ​ แต่สิ่งที่หายไปมันแค่ทางกายภาพ​ ส่วนสิ่งที่เหลืออยู่และจะยังคงนำเราให้ไปพบสุขและทุกข์ต่อไปนั่นคือดวงจิต​

พระพุทธองค์คงเป็นคนทุศีล​อย่างแน่แท้​ หากคำสอนเรื่องนรก​ สวรรค์​ เปรตผีอสูรกาย​ นาคครุฑ​ เทวดา​ พระอินท์​ พระพรหม​ พระนิพพาน​ เป็นแค่เรื่องแต่งที่ไม่มีอยู่จริง.. แต่พระองค์กลับทรงเน้นย้ำอยู่เสมอให้เราละกรรมชั่ว​ ประกอบกรรมดี​ ทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบานอยู่เสมอ​ เพื่อให้มีภพภูมิที่ดีต่อไป​ หากท่านไม่มั่นใจในสิ่งใดๆในโลกนี้​ ก็ขอให้ตระหนักถึงเรื่องกรรมเอาไว้ครับ​ ชาตินี้ทุกข์หนัก​ แต่ยังคิดดีทำดี​ พยายามทำตนให้พ้นจากบาปกรรมที่ทำใจหมองอยู่เสมอๆ​ ชาติหน้าเกิดใหม่ที่ๆท่านไปจะต้องสดชื่นแจ่มใสกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน​

Spoil
พระพุทธองค์ท่านทรงทิ้งความสุขสบาย​ ความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆด้าน​ สิ่งต่างไม่ได้ล้าหลังเพราะสิ่งที่ท่านได้รับ​ ล้วนแล้วแต่ทันสมัยที่สุดในโลกเวลานั้น.. แต่ท่านกลับหนีความสบายนั้น​เพื่อไปใช้ชีวิตในป่าในเขา​ สู้กับความยากลำบากนานัปประการเพราะตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเอาพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้​ เพื่อที่ว่าชาติถัดไปท่านจะได้ไม่ต้องมาเวียนเกิดเวียนตายอย่างไม่จบไม่สิ้นแบบนี้อีก​ ดังนั้น​ ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในชาตินี้​ ท่านจึงขอมอบให้กับความตั้งใจนั้น​ ละความรู้สึกทางโลกออกไปทั้งหมด​ เพื่อทำประโยชน์ครั้งใหญ่ให้กับตัวท่านเองและมหาชนผู้มีปัญญาเห็นตามได้..

ที่พิมพ์มาทั้งหมดแค่อยากให้ท่านได้กำลังใจนะครับ​ ถึงตอนนี้จะแย่แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่ดีก็จงสู้ต่อไป​ ความตายไม่ใช่จุดจบของทุกข์ในปัจจุบัน​ เพราะมันคือประตูแห่งการชดใช้หนี้ที่ท่านเคยก่อเอาไว้ในอดีต​ ถ้าทำดีมามากก็จะต้องได้รับกำไรมาเชยชม​ แต่หากท่านชั่วมามากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ย่อมขื่นขมไปตราบนานเท่านาน​ ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาดครับ.. การฆ่าคนตายเป็นบาปอันใหญ่หลวงนักหนีนรกไม่พ้นเลย อีกทั้งหากใจไม่ผ่องใสตายไปเป็นเปรตปีสัมภเวสีออกโหยหวนขอส่วนบุญนับร้อยนับพันปีแน่ๆ​ ถ้าตายแบบคับแค้นใจก็ต้องลงนรกตกอบายนับหมื่นนับแสนหรือนับล้านปีจนโลกแตกดับ.. จนโลกก่อตัวใหม่​ จนโลกแตกไปอีกรอบ​ ก็อาจจะยังไม่มีทางกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกถ้ากรรมเก่ามันหนักเกินไป​ ทุกคนอาจจะบอกว่าก็ไม่ได้อยากเกิดอีกนี่นา​ แค่อยากตายๆให้เรื่องมันจบๆไป.. แต่มันไม่จบครับ​ กฎธรรมชาติเขาเป็นแบบนี้มาแต่แรกแล้ว​ ถึงไม่มีพระพุทธองค์สิ่งนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง  


แก้คำผิดบ่อยหน่อยนะครับ​ มือถือจอเล็ก แต่อยากให้ท่านมีกำลังใจนะ​ สู้ๆครับ  
 


พูดง่าย แต่แค่สมาธิเอาจิตลงให้สงบได้ก็ยากฉิบหายยยยยยยยยยแล้วครับ แต่ที่ท่านพูดมาถูกหมดเลยนะ ทุกวันนี้ผมเห็นไอ้พวกบอกไม่ต้องทำสมาธิว่างๆ ดูเฉยๆ เหมือนขี้ลอยน้ำ แล้ว มามโนตัวเองว่าทำวิปัสสนาอยู่  


สมาธิเหมือนจะยากแต่ก็ไม่ยาก​ เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่ายเลย​ ถือเป็นสิ่งกลางๆที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ครับ​ เคล็ดลับคือทำทุกวัน​ รู้ลมเข้าออก​ มีสติอยู่เนืองๆ​ และตั้งเวลาฝึกฝนแบบเน้นๆเป็นประจำทุกวัน​ เช่น4ทุ่มทุกวันจะนั่งสมาธิ1ชม.ก่อนอน​ทำแบบนี้ต่อเนื่อง​ พอสมาธิทรงตัวเมื่อถึง4ทุ่มมันจะเข้าสมาธิให้เราเองเลย​ ได้สมาธิระดับไหน​ ฌานอะไร​ ถึงเวลามันวูบวาบขึ้นมาให้เราเห็นชัดๆเลย​ ดูเหมือนมันจะได้จะเป็นแบบง่ายๆเลยนะครับ​ แต่ถ้าเราทิ้งขว้างได้แล้วไม่รักษา.. เวลาจะตามของเก่าคืนนี่​ บางทีใช้เวลาเป็นปีๆเลยกว่าจะกลับเข้าร่องเข้ารอย​ เลยไม่รู้จะบอกว่ามันง่ายหรือยากดี​ เพราะก่อนจะได้ก็ฝึกแบบไม่กดดันแต่ทำทุกวัน​ พอสำเร็จแล้วไม่รักษาก็ค่อยๆเสื่อมไปทีละนิดๆ​ ใช้เวลาเป็นปีๆแบบไม่ได้สนใจทำสมาธิเลยมันก็พยายามแสดงตัวเป็นนิมิตจนเหลือแค่โอภาสต่างๆ​ เลยสุดท้ายก็มืดเหมือนคนปกติที่ไม่เคยฝึก​ อันนี้คือแอบบ่นเรื่องสมาธิให้ฟังนะครับ​ 555​

ส่วนพวกตามรู้ตามดูก็ลัดขั้นตอนไป​ จริงๆพระท่านสอนดีนะ​ แต่คนเอาไปทำรับไปไม่หมด​ เอาแค่ที่ตัวเองชอบใจ​ มันเลยลัดขั้นตอนไป​ จะเอาแต่ปัญญาๆ.. จนลืมไปว่ากำลังสมาธิของตนไม่พอจะประคองสติไว้ได้นานๆ​สุดท้ายแทนที่จะได้ปัญญา​ เลยกลายเป็นได้ความคิดฟุ้งซ่านแทนซะงั้น  


ต้องมีวินัยจริงๆอะท่าน. เท่าที่ผมเคยถามดู เฉลี่ยๆคนที่ทำได้ สมาธิครั้งแรก นี่ 8 เดือน+
คนที่รู้จัก นอกจากเวลาคิดงานแล้วไม่คัยกะใคร มีสติจับกับคำบริกรรม เหมือนกับที่บอกว่ามีสติเนืองๆ (หรืออย่างกรณีคุณใช้ลมหายใจตลอด) เขาบอกทำแบบนี้ พอตอนนั่งสมาธิแบบเน้นๆ นี่ได้สมาธิเกือบทุกรอบ

แต่เขาไม่ฟังเพลง (เพลงนี่มันโคตรกวนเลยครับ) ไม่ติดสื่ออื่นๆ ละกามคุณ ๕ ถึงทำสมาธิได้อะ

เสื่อมปีนึงนี่ถือว่าน้อยนะครับผมเคยอ่านประวัติครูบาอาจารย์หลวงตามหาบัวเสื่อมไป 3 ปี( ถ้าจำไม่ผิดคือท่านไปเดินปัญญามากเกินไปแล้วไม่ทำสมาธิ )เคยเห็นครูบาอาจารย์เล่าให้ฟังว่าจิตมันมีธรรมชาติต้องเสื่อม ขนาดต่อให้ฝึกสมาธิอยู่ต่อเนื่องมันก็เสื่อมให้เห็นต่อหน้าต่อตาก็ยังมี บางครั้งก็ต้องเปลี่ยนวิธีทำสมาธิ ไปใช้กรรมฐานแบบอื่น





อ้อ รบกวนสอบถามนิดนึงครับ. การที่เราเปิดเสียง white noise กรอกหู เพื่อกันเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ช่วยได้เยอะไหมครับ (white noise เช่นเสียงพัดลมตัวใหญ่ๆดังๆหรือเสียงฝนตกหนักๆ พอเปิดแล้วอื้ออึงๆแบบนั้นอะครับ)  
 


ถ้าเปิดเสียงดังๆแล้วจิตใจสงบก็เป็นอันใช้ได้ครับ​ จริตนิสัยคนเรานั้นต่างกัน​ แต่เบื้องต้นท่านให้หาที่สงบปลอดเสียงรบกวนก็เพราะจะช่วยให้เป็นสมาธิไว​ เช่นพระป่าก็อาศัยในป่าฟังเสียงนกกระรอกใบไม้แทนเสียงคนจอแจ​ สภาพแวดล้อมจะช่วยให้ท่านจิตรวมเร็วเพราะสิ่งรอบข้างไม่ได้กระตุ้นให้ท่านคิดวอกแวก แต่ท้ายที่สุดเมื่อสมาธิหนักแน่นดีแล้วท่านก็จะออกจากป่า​ มาทดสอบตนเองกับสังคมทั่วไป​ เช่นย้ายกลับมาอยู่ในวัดที่ผู้คนแวะเวียนมากราบเรื่อยๆ​ นัยหนึ่งคือออกมาโปรดญาติโยม​ อีกนัยคือมาลองวิชาว่าจะพอรับมือกิเลสได้ไหม​ แต่เท่าที่ฟังมาพระทั้งหมดไม่มีใครอยากเข้ามาใกล้ผู้คน​ ท่านอยากอยู่ป่าสงบสงัดคนเดียว​ เพราะความวุ่นวายทำให้ท่านไม่มีเวลาทำความสงบอย่างเต็มที่​

พระป่าหลายรูปที่ทำสมาธิแบบตั้งใจจริงจะได้พวกวิชชา3กับอภิญญาเป็นของแถม​ แต่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติห้ามไม่ให้ไปแสดงต่อกน้าคน​ อย่างพระอาจารย์ที่ผมเคยไปบวชด้วยท่านก็รู้เรื่องหวยเรื่องเบอร์​ แต้ท่านไม่พูดให้โยมฟัง​ จะพูดมีลอยๆขึ้นมาบางทีเช่นเห็นฝูงปลาพยายามย้ายจากสระหนึ่งไปอีกสระหนึ่ง​ แต่ไปไม่ถึงมาตายกลางทางท่านก็ว่าหรือหวยจะออก.. ซึ่งวัดถัดมาเลขก็ออกตามนั้น​ เสาศาลาวัดก็ได้จากโยมที่มาฟังเทศน์ท่านแล้วเขาเอาไปตีเป็นหวยแล้ววันถัดๆไปก็มาทันทีเพราะท่านเปรยว่ายังขาดเสาอีก..ต้น​ มัคทายกวัดมักจะถูกหวยเสมอๆแต่ซื้อทีละ50บาท.. แอบท่านซื้อแล้วมาเล่าให้พวกพระฟัง​ ไปทำงานวัดกลับมามักฝันเห็นท่านไปบวกหวยตตัวนั้นตัวนี้​ เจอแบบนี้ใครละจะไม่ซื้อ​ แต่ท่านด่าเลยนะครับถ้าใครคิดจะเล่นหวย​ ท่านว่าเป็นการพนัน​ มีพระในวัดบางรูปอยากให้หวยคนซึ่งท่านก็ปราม​ ห้ามไม่ฟังท่านก็ไล่หนี.. เรื่องปาฏิหาริย์ท่านก็จะเล่าแค่ให้พระหรือโยมคนสนิทฟัง​บ้างเป็นครั้งคราว แต่ท่านบอกอย่าไปใส่ใจให้มาก​ เรื่องแบบนี้รู้เองเห็นเองแค่ตัวเราก็พอ​ พูดมากไปจะทำให้จิตฟุ้งซ่านเป็นบ้าเป็นบอได้  



ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบ

พระอาจารย์ที่ผมนับถือท่านบอกว่าอภิญญาใครจะได้เป็นเรื่องของ ของเก่าที่ทำมา. บางท่าน บรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว แต่ไม่เคยได้อภิญญาก็มีเช่นพระอาจารย์สิงห์ทอง ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ท่านว่าคนที่ได้มักจะเป็นพวก อธิษฐาน มาทางสายพุทธภูมิ หรือไม่ก็เป็นพระปัจเจก อัครสาวก หรืออะไรที่ประหลาดกว่าคนทั่วไป หรือไม่ก็ขึ้นกับจริตนิสัย ของเก่าในอดีต ถ้าจิตโลดโผนก็เห็น ถ้าไม่โลดโผนก็แค่สงบเฉยๆ แล้วออกรู้วิปัสสนาได้เหมือนกัน

เหมือนกับเรื่องสมาธิ ทานเองก็ยังบอกว่าไม่มีใครตอบได้ว่า ชาตินี้ ต่อให้ทำต่อเนื่องจะได้สมาธิได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับของเก่าและความขยันในชาตินี้ แต่ท่านบอกได้อย่างเดียวว่าอย่างน้อยการทำแบบนี้จะทำให้ภพชาติ มันตัดสั้นลง


ปล. ท่านใช้การดูลมหายใจเป็นกรรมฐาน. แปลว่าสติมั่นคงมาก. ผมใช้ลมหายใจทีไร ความคิดแทรกตลอด คือยังไม่สามารถทำให้รวมไปถึงขั้นเห็นแต่ลมหายใจ ได้ ไม่อย่างนั้นก็ลงภวังค์ไปเลย คือหลับนั่นเอง
แก้ไขล่าสุดโดย armeros เมื่อ Wed Oct 23, 2019 10:36, ทั้งหมด 4 ครั้ง
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2010
ตอบ: 448
ที่อยู่: เลวานดี้มหัศจรรย์จุงเบย!
โพสเมื่อ: Wed Oct 23, 2019 11:35
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
Spoil
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
หาพระก็ต้องมองที่พระดีครับ​ พระเก่งๆแก้ปัญหาให้ท่านได้มีอยู่​ แต่พระกะโหลกกะลาก็มีแยะ​ เหมือนคนทั่วไปมีทั้งดีทั้งชั่ว​ เก่งและไม่เก่งในเรื่องที่แตกต่างกัน

หาจิตแพทย์ชัวร์สุดเพราะเค้าเรียนด้านนี้มาโดยตรง​ ช่วยบรรเทาปัญหาให้ท่านแบบหวังผลได้มากกว่าไปพบพระ​ เพราะถ้าเจอพระเก่งท่านจะช่วยเหลือเราได้แน่นอน​ แต่ถ้าเจอพระดาดๆบางทีท่านอาจจะอาการหนักกว่าเก่าก็ได้

สมาธิเป็นยาทา​ วิปัสสนาเป็นยาใจ​ สมาธิคือการทำกายใจให้สงบระงับจากความฟุ้งซ่าน​ วิปัสสนาคือการเสริมปัญญาที่ช่วยให้มองปัญหาที่เป็นทุกข์ได้แตกฉาน​ จิตใจเราต้องมีสมาธิก่อนถึงจะเริ่มพิจารณาเรื่องราวต่างๆให้กลายเป็นปัญญาได้​ แต่ปัญญาในทางพระพุทธศาสนไม่ใช่หมายเอาถึงความรู้​ ไม่ใช่การอ่านการฟังเพื่อให้ได้รู้ถึงเรื่องราวแบบโลกๆ​

ปัญญาที่ช่วยตัดทุกข์ได้​ พระพุทธองค์ทรงวางไว้ในแง่เดียวคือปัญญารู้เห็นทุกสิ่งตามความเป็นจริง​ มองทุกอย่างตามหลักไตรลักษณ์​ คือไม่เที่ยง​ เป็นทุกข์​ ไม่มีสาระตัวตนแก่นสารอย่างแท้จริง​ เป็นอนิจจัง​ ทุกขัง​ อนัตตา​ หาอะไรมาพึ่งพิงยึดเหนี่ยวไม่ได้เพราะต้องสูญสลายไปทั้งหมด​ ไม่ว่างาน​ เงิน​ คนที่เราชัง​ คนที่เรารัก​ รวมทั้งตัวเราเอง​ หรือโลกใบนี้​ วันนึงมันก็ต้องดับสูญ​ แต่สิ่งที่หายไปมันแค่ทางกายภาพ​ ส่วนสิ่งที่เหลืออยู่และจะยังคงนำเราให้ไปพบสุขและทุกข์ต่อไปนั่นคือดวงจิต​

พระพุทธองค์คงเป็นคนทุศีล​อย่างแน่แท้​ หากคำสอนเรื่องนรก​ สวรรค์​ เปรตผีอสูรกาย​ นาคครุฑ​ เทวดา​ พระอินท์​ พระพรหม​ พระนิพพาน​ เป็นแค่เรื่องแต่งที่ไม่มีอยู่จริง.. แต่พระองค์กลับทรงเน้นย้ำอยู่เสมอให้เราละกรรมชั่ว​ ประกอบกรรมดี​ ทำจิตใจให้ผ่องใสเบิกบานอยู่เสมอ​ เพื่อให้มีภพภูมิที่ดีต่อไป​ หากท่านไม่มั่นใจในสิ่งใดๆในโลกนี้​ ก็ขอให้ตระหนักถึงเรื่องกรรมเอาไว้ครับ​ ชาตินี้ทุกข์หนัก​ แต่ยังคิดดีทำดี​ พยายามทำตนให้พ้นจากบาปกรรมที่ทำใจหมองอยู่เสมอๆ​ ชาติหน้าเกิดใหม่ที่ๆท่านไปจะต้องสดชื่นแจ่มใสกว่าที่เป็นอยู่แน่นอน​

Spoil
พระพุทธองค์ท่านทรงทิ้งความสุขสบาย​ ความสมบูรณ์พร้อมในทุกๆด้าน​ สิ่งต่างไม่ได้ล้าหลังเพราะสิ่งที่ท่านได้รับ​ ล้วนแล้วแต่ทันสมัยที่สุดในโลกเวลานั้น.. แต่ท่านกลับหนีความสบายนั้น​เพื่อไปใช้ชีวิตในป่าในเขา​ สู้กับความยากลำบากนานัปประการเพราะตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเอาพระนิพพานให้ได้ในชาตินี้​ เพื่อที่ว่าชาติถัดไปท่านจะได้ไม่ต้องมาเวียนเกิดเวียนตายอย่างไม่จบไม่สิ้นแบบนี้อีก​ ดังนั้น​ ชีวิตที่เหลือทั้งหมดในชาตินี้​ ท่านจึงขอมอบให้กับความตั้งใจนั้น​ ละความรู้สึกทางโลกออกไปทั้งหมด​ เพื่อทำประโยชน์ครั้งใหญ่ให้กับตัวท่านเองและมหาชนผู้มีปัญญาเห็นตามได้..

ที่พิมพ์มาทั้งหมดแค่อยากให้ท่านได้กำลังใจนะครับ​ ถึงตอนนี้จะแย่แต่ถ้าเรามีเป้าหมายที่ดีก็จงสู้ต่อไป​ ความตายไม่ใช่จุดจบของทุกข์ในปัจจุบัน​ เพราะมันคือประตูแห่งการชดใช้หนี้ที่ท่านเคยก่อเอาไว้ในอดีต​ ถ้าทำดีมามากก็จะต้องได้รับกำไรมาเชยชม​ แต่หากท่านชั่วมามากกว่าผลลัพธ์ที่ได้ย่อมขื่นขมไปตราบนานเท่านาน​ ดังนั้นห้ามตายเด็ดขาดครับ.. การฆ่าคนตายเป็นบาปอันใหญ่หลวงนักหนีนรกไม่พ้นเลย อีกทั้งหากใจไม่ผ่องใสตายไปเป็นเปรตปีสัมภเวสีออกโหยหวนขอส่วนบุญนับร้อยนับพันปีแน่ๆ​ ถ้าตายแบบคับแค้นใจก็ต้องลงนรกตกอบายนับหมื่นนับแสนหรือนับล้านปีจนโลกแตกดับ.. จนโลกก่อตัวใหม่​ จนโลกแตกไปอีกรอบ​ ก็อาจจะยังไม่มีทางกลับมาเกิดเป็นคนได้อีกถ้ากรรมเก่ามันหนักเกินไป​ ทุกคนอาจจะบอกว่าก็ไม่ได้อยากเกิดอีกนี่นา​ แค่อยากตายๆให้เรื่องมันจบๆไป.. แต่มันไม่จบครับ​ กฎธรรมชาติเขาเป็นแบบนี้มาแต่แรกแล้ว​ ถึงไม่มีพระพุทธองค์สิ่งนี้ก็ยังคงดำเนินต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง  


แก้คำผิดบ่อยหน่อยนะครับ​ มือถือจอเล็ก แต่อยากให้ท่านมีกำลังใจนะ​ สู้ๆครับ  
 


พูดง่าย แต่แค่สมาธิเอาจิตลงให้สงบได้ก็ยากฉิบหายยยยยยยยยยแล้วครับ แต่ที่ท่านพูดมาถูกหมดเลยนะ ทุกวันนี้ผมเห็นไอ้พวกบอกไม่ต้องทำสมาธิว่างๆ ดูเฉยๆ เหมือนขี้ลอยน้ำ แล้ว มามโนตัวเองว่าทำวิปัสสนาอยู่  


สมาธิเหมือนจะยากแต่ก็ไม่ยาก​ เหมือนจะง่ายแต่ก็ไม่ง่ายเลย​ ถือเป็นสิ่งกลางๆที่ทุกคนสามารถฝึกฝนได้ครับ​ เคล็ดลับคือทำทุกวัน​ รู้ลมเข้าออก​ มีสติอยู่เนืองๆ​ และตั้งเวลาฝึกฝนแบบเน้นๆเป็นประจำทุกวัน​ เช่น4ทุ่มทุกวันจะนั่งสมาธิ1ชม.ก่อนอน​ทำแบบนี้ต่อเนื่อง​ พอสมาธิทรงตัวเมื่อถึง4ทุ่มมันจะเข้าสมาธิให้เราเองเลย​ ได้สมาธิระดับไหน​ ฌานอะไร​ ถึงเวลามันวูบวาบขึ้นมาให้เราเห็นชัดๆเลย​ ดูเหมือนมันจะได้จะเป็นแบบง่ายๆเลยนะครับ​ แต่ถ้าเราทิ้งขว้างได้แล้วไม่รักษา.. เวลาจะตามของเก่าคืนนี่​ บางทีใช้เวลาเป็นปีๆเลยกว่าจะกลับเข้าร่องเข้ารอย​ เลยไม่รู้จะบอกว่ามันง่ายหรือยากดี​ เพราะก่อนจะได้ก็ฝึกแบบไม่กดดันแต่ทำทุกวัน​ พอสำเร็จแล้วไม่รักษาก็ค่อยๆเสื่อมไปทีละนิดๆ​ ใช้เวลาเป็นปีๆแบบไม่ได้สนใจทำสมาธิเลยมันก็พยายามแสดงตัวเป็นนิมิตจนเหลือแค่โอภาสต่างๆ​ เลยสุดท้ายก็มืดเหมือนคนปกติที่ไม่เคยฝึก​ อันนี้คือแอบบ่นเรื่องสมาธิให้ฟังนะครับ​ 555​

ส่วนพวกตามรู้ตามดูก็ลัดขั้นตอนไป​ จริงๆพระท่านสอนดีนะ​ แต่คนเอาไปทำรับไปไม่หมด​ เอาแค่ที่ตัวเองชอบใจ​ มันเลยลัดขั้นตอนไป​ จะเอาแต่ปัญญาๆ.. จนลืมไปว่ากำลังสมาธิของตนไม่พอจะประคองสติไว้ได้นานๆ​สุดท้ายแทนที่จะได้ปัญญา​ เลยกลายเป็นได้ความคิดฟุ้งซ่านแทนซะงั้น  


ต้องมีวินัยจริงๆอะท่าน. เท่าที่ผมเคยถามดู เฉลี่ยๆคนที่ทำได้ สมาธิครั้งแรก นี่ 8 เดือน+
คนที่รู้จัก นอกจากเวลาคิดงานแล้วไม่คัยกะใคร มีสติจับกับคำบริกรรม เหมือนกับที่บอกว่ามีสติเนืองๆ (หรืออย่างกรณีคุณใช้ลมหายใจตลอด) เขาบอกทำแบบนี้ พอตอนนั่งสมาธิแบบเน้นๆ นี่ได้สมาธิเกือบทุกรอบ

แต่เขาไม่ฟังเพลง (เพลงนี่มันโคตรกวนเลยครับ) ไม่ติดสื่ออื่นๆ ละกามคุณ ๕ ถึงทำสมาธิได้อะ

เสื่อมปีนึงนี่ถือว่าน้อยนะครับผมเคยอ่านประวัติครูบาอาจารย์หลวงตามหาบัวเสื่อมไป 3 ปี( ถ้าจำไม่ผิดคือท่านไปเดินปัญญามากเกินไปแล้วไม่ทำสมาธิ )เคยเห็นครูบาอาจารย์เล่าให้ฟังว่าจิตมันมีธรรมชาติต้องเสื่อม ขนาดต่อให้ฝึกสมาธิอยู่ต่อเนื่องมันก็เสื่อมให้เห็นต่อหน้าต่อตาก็ยังมี บางครั้งก็ต้องเปลี่ยนวิธีทำสมาธิ ไปใช้กรรมฐานแบบอื่น





อ้อ รบกวนสอบถามนิดนึงครับ. การที่เราเปิดเสียง white noise กรอกหู เพื่อกันเสียงรบกวนจากสิ่งแวดล้อม ช่วยได้เยอะไหมครับ (white noise เช่นเสียงพัดลมตัวใหญ่ๆดังๆหรือเสียงฝนตกหนักๆ พอเปิดแล้วอื้ออึงๆแบบนั้นอะครับ)  
 


ถ้าเปิดเสียงดังๆแล้วจิตใจสงบก็เป็นอันใช้ได้ครับ​ จริตนิสัยคนเรานั้นต่างกัน​ แต่เบื้องต้นท่านให้หาที่สงบปลอดเสียงรบกวนก็เพราะจะช่วยให้เป็นสมาธิไว​ เช่นพระป่าก็อาศัยในป่าฟังเสียงนกกระรอกใบไม้แทนเสียงคนจอแจ​ สภาพแวดล้อมจะช่วยให้ท่านจิตรวมเร็วเพราะสิ่งรอบข้างไม่ได้กระตุ้นให้ท่านคิดวอกแวก แต่ท้ายที่สุดเมื่อสมาธิหนักแน่นดีแล้วท่านก็จะออกจากป่า​ มาทดสอบตนเองกับสังคมทั่วไป​ เช่นย้ายกลับมาอยู่ในวัดที่ผู้คนแวะเวียนมากราบเรื่อยๆ​ นัยหนึ่งคือออกมาโปรดญาติโยม​ อีกนัยคือมาลองวิชาว่าจะพอรับมือกิเลสได้ไหม​ แต่เท่าที่ฟังมาพระทั้งหมดไม่มีใครอยากเข้ามาใกล้ผู้คน​ ท่านอยากอยู่ป่าสงบสงัดคนเดียว​ เพราะความวุ่นวายทำให้ท่านไม่มีเวลาทำความสงบอย่างเต็มที่​

พระป่าหลายรูปที่ทำสมาธิแบบตั้งใจจริงจะได้พวกวิชชา3กับอภิญญาเป็นของแถม​ แต่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติห้ามไม่ให้ไปแสดงต่อกน้าคน​ อย่างพระอาจารย์ที่ผมเคยไปบวชด้วยท่านก็รู้เรื่องหวยเรื่องเบอร์​ แต้ท่านไม่พูดให้โยมฟัง​ จะพูดมีลอยๆขึ้นมาบางทีเช่นเห็นฝูงปลาพยายามย้ายจากสระหนึ่งไปอีกสระหนึ่ง​ แต่ไปไม่ถึงมาตายกลางทางท่านก็ว่าหรือหวยจะออก.. ซึ่งวัดถัดมาเลขก็ออกตามนั้น​ เสาศาลาวัดก็ได้จากโยมที่มาฟังเทศน์ท่านแล้วเขาเอาไปตีเป็นหวยแล้ววันถัดๆไปก็มาทันทีเพราะท่านเปรยว่ายังขาดเสาอีก..ต้น​ มัคทายกวัดมักจะถูกหวยเสมอๆแต่ซื้อทีละ50บาท.. แอบท่านซื้อแล้วมาเล่าให้พวกพระฟัง​ ไปทำงานวัดกลับมามักฝันเห็นท่านไปบวกหวยตตัวนั้นตัวนี้​ เจอแบบนี้ใครละจะไม่ซื้อ​ แต่ท่านด่าเลยนะครับถ้าใครคิดจะเล่นหวย​ ท่านว่าเป็นการพนัน​ มีพระในวัดบางรูปอยากให้หวยคนซึ่งท่านก็ปราม​ ห้ามไม่ฟังท่านก็ไล่หนี.. เรื่องปาฏิหาริย์ท่านก็จะเล่าแค่ให้พระหรือโยมคนสนิทฟัง​บ้างเป็นครั้งคราว แต่ท่านบอกอย่าไปใส่ใจให้มาก​ เรื่องแบบนี้รู้เองเห็นเองแค่ตัวเราก็พอ​ พูดมากไปจะทำให้จิตฟุ้งซ่านเป็นบ้าเป็นบอได้  



ขอบคุณมากครับสำหรับคำตอบ

พระอาจารย์ที่ผมนับถือท่านบอกว่าอภิญญาใครจะได้เป็นเรื่องของ ของเก่าที่ทำมา. บางท่าน บรรลุมรรคผลนิพพานแล้ว แต่ไม่เคยได้อภิญญาก็มีเช่นพระอาจารย์สิงห์ทอง ลูกศิษย์หลวงปู่มั่น ท่านว่าคนที่ได้มักจะเป็นพวก อธิษฐาน มาทางสายพุทธภูมิ หรือไม่ก็เป็นพระปัจเจก อัครสาวก หรืออะไรที่ประหลาดกว่าคนทั่วไป หรือไม่ก็ขึ้นกับจริตนิสัย ของเก่าในอดีต ถ้าจิตโลดโผนก็เห็น ถ้าไม่โลดโผนก็แค่สงบเฉยๆ แล้วออกรู้วิปัสสนาได้เหมือนกัน

เหมือนกับเรื่องสมาธิ ทานเองก็ยังบอกว่าไม่มีใครตอบได้ว่า ชาตินี้ ต่อให้ทำต่อเนื่องจะได้สมาธิได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับของเก่าและความขยันในชาตินี้ แต่ท่านบอกได้อย่างเดียวว่าอย่างน้อยการทำแบบนี้จะทำให้ภพชาติ มันตัดสั้นลง


ปล. ท่านใช้การดูลมหายใจเป็นกรรมฐาน. แปลว่าสติมั่นคงมาก. ผมใช้ลมหายใจทีไร ความคิดแทรกตลอด คือยังไม่สามารถทำให้รวมไปถึงขั้นเห็นแต่ลมหายใจ ได้ ไม่อย่างนั้นก็ลงภวังค์ไปเลย คือหลับนั่นเอง  
 


ลมหายใจดูจะถูกกับจริตผมที่สุดครับ​ เพราะธรรมชาติเป็นคนชอบคิดฟุ้งซ่าน​ ต้องดึงสติให้อยู่กับตัว​ สมัยก่อนคิดแม้กระทั่งตอนหลับ​ คือวางแผนงานไม่จบเหนื่อยเลยนอน พอหลับก็จับงานนั้นมาคิดต่อ​ ตื่นมาก็จดสิ่งที่คิดได้ในฝันแล้วทำงานต่อจนจบ เรียกว่าไม่ให้สมองพักกันเลย​ ต่อมาเริ่มหัดทำสมาธิจริงจัง​ ลองกรรมฐานหลายๆแบบ​ พบว่าลมหายใจช่วยได้มากจริงๆ​ คราวนี้หลับฝันก็จะรู้ว่ากำลังฝัน​ คือสามารถบังคับความฝันได้ ถ้าฝันดีก็อาจจะฝันต่อ​ ฝันไม่ดีก็ปลุกตัวเองตื่น​ แรกๆนี่ตื่นเต้นและสนุกกับมันมาก​ แถมยังไปเข้ากลุ่มฝรั่งแลกเปลี่ยนประสบการณ์เรื่องนี้​อีก​ จนสุดท้ายก็เลิกเพราะมันมีแต่ทำให้ฟุ้งหนักกว่าเก่า​ แล้วไปเล่นลมหายใจควบกับกสินแสงสว่าง​ คราวนี้หนักเลยเพราะเรื่องราวมันจะปรากฎมาให้เราเห็นจังๆในขณะที่ตื่นอยู่​

ตอนนั้นเพื่อนเริ่มมองว่าผมเพี้ยนมากละ​ เจอใครสนิทหน่อยชวนเขาทำสมาธิกันหมด​ เพราะตอนนั้นผมมองสมาธิเป็นเรื่องกล้วยมาก​ อยากให้เขาทำได้แบบเรา​และคิดว่าถ้าเขาทำอย่างที่เราทำเขาจะต้องพบความสำเร็จแน่ๆ ซึ่งหัดให้หลายคนแต่เขาบอกทำไม่ได้กันเลย​ นั่งหลับตาก็มืดสนิท​ ตอนนั้นผมงงเพราะเห็นเขาพยายามอยู่แต่ไม่สำเร็จได้ยังไง​ ทั้งๆที่ผมตอนนั้นแทบไม่ต้องทำอะไรดวงแสงก็ปรากฎอยู่ต่อหน้าขณะลืมตาแม้ในเวลาเที่ยงกันออกไปยืนกลางแจ้งดวงแสงนั้นก็ยังแสดงตัวสว่างจ้าอยู่​ หนักเข้าถึงกับเขียนตำราย่อมๆเกี่ยวกับการทำสมาธิให้ได้ผลลัพธ์เร็วที่สุดไปให้เพื่อนอ่าน​ กว่าจะรู้ตัวก็ผ่านไปเป็นปีจนคนเขาบอกให้กลับไปบวชเถอะ​ 555​ แต่ผมรู้ตัวว่ายังไม่พร้อมเลยหยุดยัดเยียดกิเลสส่วนตัวให้กับชาวบ้าน​ ต้องยอมรับเลยว่าสมาธิมันสนุกจริงๆ​ ตอนนั้นผมไม่ได้คิดถึงเรื่องพระนิพพานเท่าไหร่เพราะใจมุ่งจะเอาแต่พลังจิตเป็นหลัก​ แต่ทุกๆอย่างมันจะต้องเดินไปพร้อมๆกัน​ สมาธิจะดีได้ต้องมีเมตตา​ ต้องรักษาศีล​ ระวังกายใจให้มาก​ ความก้าวหน้าถึงจะมีให้เห็นได้

กรรมฐาน40กองเป็นหลักใหญ่ในการฝึกสมาธิ​ แถมเรายังสามารถซอยย่อยและดัดแปลงนำวิธีนอกตำรามาใช้ได้อีกนับไม่ถ้วน​ เรียกว่าการทำสมาธิเป็นเรื่องสากลที่คนทุกชาติทุกศาสนาสามารถเข้าถึงได้หมด​ เรื่องนี้จึงไม่แปลกที่คนศาสนาอื่นจะทำได้แบบเราบ้าง​ แต่จุดแข็งของพระพุทธศาสนาคือการเน้นให้เอากำลังที่ได้ไปใช้ในการตัดกิเลสเป็นหลัก​ ถ้าหมดตัณหาก็ถือว่าถึงนิโรธคือความดับทุกข์​ ถ้าตัดไม่ขาดแต่กิเลสเบาบางทุกข์ที่มีก็จะค่อยๆจางลงเอง​ นับว่าเป็นงานระยะยาวที่เราต้องทำแบบไม่รู้กำหนดจบ​ แต่ก็มีกำลังใจจะทำเพราะความก้าวหน้ามันค่อยๆแสดงตัวออกมาเป็นระยะๆตามกำลังความเพียรที่เรามี

ต้องขอบคุณท่านมากๆนะครับที่เหมือนมาให้ผมระบายเรื่องราวหลายๆเรื่องที่ไม่เคยบอกกับใคร​ กระทู้นี้เลยเหมือนเป็นอีกที่ที่ผมได้พูดเรื่องราวในใจบางเรื่องออกไป​ สุดท้ายจึงขออวยพรให้ท่านได้รับความก้าวหน้าในการปฏิบัติยิ่งๆขึ้นไป​ ยินดีที่ได้พูดคุยนะครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ป๋าชูอาร์แซนเวนเกอร์มหัศจรรย์จุงเบย!
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2565
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 01:16
ถูกแบนแล้ว
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:

 


http://www.soccersuck.com/boards/topic/1818013/4/#41486679

เฮ้อ ผมละเบื่อแนวนี้จริงๆ เลื่อนลงมาจากในลิงค์นี้นิดนึงครับ ความคิดเห็นของ bxdekza
แก้ไขล่าสุดโดย armeros เมื่อ Fri Oct 25, 2019 01:18, ทั้งหมด 2 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2010
ตอบ: 448
ที่อยู่: เลวานดี้มหัศจรรย์จุงเบย!
โพสเมื่อ: Fri Oct 25, 2019 18:51
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:

 


http://www.soccersuck.com/boards/topic/1818013/4/#41486679

เฮ้อ ผมละเบื่อแนวนี้จริงๆ เลื่อนลงมาจากในลิงค์นี้นิดนึงครับ ความคิดเห็นของ bxdekza  


เค้าไปอ่านประสบการณ์คนอื่น​แล้วนำมาใช้กับตนเอง​ โดยยังไม่เคยฝึกฝนจนถึงจุดนั้น​ ข้ามขั้นไปไกลเลยนะครับ​ -​_-"
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ป๋าชูอาร์แซนเวนเกอร์มหัศจรรย์จุงเบย!
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 2565
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sun Oct 27, 2019 22:46
ถูกแบนแล้ว
[RE: ศาสนาพุทธมีที่ให้ปรึกษาหรือระบายแบบคริสมั๊ยครับ]
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:
armeros พิมพ์ว่า:
ฮัมมาบี้ พิมพ์ว่า:

 


http://www.soccersuck.com/boards/topic/1818013/4/#41486679

เฮ้อ ผมละเบื่อแนวนี้จริงๆ เลื่อนลงมาจากในลิงค์นี้นิดนึงครับ ความคิดเห็นของ bxdekza  


เค้าไปอ่านประสบการณ์คนอื่น​แล้วนำมาใช้กับตนเอง​ โดยยังไม่เคยฝึกฝนจนถึงจุดนั้น​ ข้ามขั้นไปไกลเลยนะครับ​ -​_-"  


รบกวนสอบถามท่านนิดนึงได้ไหมครับ ว่า ที่เคยเขียนเรื่องทำสมาธิให้ง่ายที่สุด ทำอย่างไร

ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel