[RE: กระทรวงศึกษามีไอเดียสร้างโรงเรียนสำหรับ Elite ที่มีเฉพาะเด็กเก่งและหัวกะทิเข้าเรียนเท่านั้น]
Silence พิมพ์ว่า:
tgmann พิมพ์ว่า:
Silence พิมพ์ว่า:
ผมกลับเห็นด้วยกับการแยกเด็กว่ะ
เด็กที่เก่ง เวลาเรียน ผมบอกตรงๆ แม่งโคตรน่าเบื่อ เวลาครูในโรงเรียนรัฐสอน
สอนแบบ ซ้ำไปซ้ำมาเรื่องเดิมๆ กุเข้าใจตั้งแต่รอบแรกแล้ว เลยแม่งไม่ตั้งใจหนีไปเตะบอลแม่งเลย
ผมมีเพื่อนแบบนี้ 3-4 คน ในโรงเรียนประจำจังหวัด
ครูแม่ง ก็เบื่อผมกับแก๊งนี้จะเป็นจะตาย แต่แม่งทำอะไรไม่ได้ไง เวลามีไปแข่งโครงการ สอบแข่งนู่นนี่นั่น ก็ไอ้พวกนี้นี่แหละ ตัวยืน
สุดท้ายพวกแก๊งนี้ก็แยกย้ายไป มหิดลวิทย์ ไปเตรียม ไปทุน กพ. กันหมด
พอไปเรียนในโรงเรียนพวกนั้น เออ ค่อยสนุกกับการเรียนหน่อย
ไอ้ที่เป็นปัญหาของกระทรวงอ่ะ คือการทำให้เด็กที่อ่อนน่ะ ดีขึ้นได้ยังไง ไม่หนีไปเลว ไปแวนซ์ ยังไง อันนั้นก็ปัญหานึง
แต่ถ้าบอกว่ากระทรวงไม่ควรส่งเสิรมเด็กเก่งให้เป็นทรัพยากรที่มีคุณภาพของประเทศ
ผมว่าแนวคิดพวกคุณมีปัญหาแล้วล่ะ
เด็กที่เก่ง ควรที่จะได้รับการส่งเสริมเพื่อให้เก่งยิ่งขึ้นไป
ไม่ใช่ถูกปลูกฝังว่าต้องเท่าเทียมกันทุกอย่าง สุดท้ายเสียคนเก่งๆที่จะพัฒนาประเทศให้กับเรา ผมเห็นหลายๆคนได้ทุน กพ. มา สร้างสรรค์อะไรหลายๆอย่างให้ประเทศมากมาย
ถ้าคุณจะสนใจแต่ความเท่าเทียม มันก็เหมือนกับการล้างสมองคนอีกวิธีนั่นแหละ
แล้วก็ได้ข้าราชการห่วยๆ มา แล้วก็บ่นว่าทำไมประเทศแม่งไม่พัฒนา
แต่ผมไม่เห็นด้วยกับการแยกเด็กนะ
ฟังอาจจะดูแปลก แต่เชื่อผม มันมีการวิจัยมาแล้ว
ข้อดีของการแยกเด็กคือ เด็กเก่ง เด็กเรียน จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดี เพราะรอบๆมีแต่คนเก่งๆ ครูตั้งใจสอน
แต่... ปัญหาคือ แล้วไอ้เด็กเรียนแย่ ไม่ตั้งใจเรียนมันจะไปอยู่ไหน? คำตอบคือ ไปกองรวมกัน พากันโดดเรียน พากันทำเรื่องไม่เหมาะสม เกเร อบายมุข ครูก็เอือม ไม่ตั้งใจสอน เพราะสอนมันไปก็เหนื่อย แถมไม่ได้อะไร สร้างชื่อเสียงก็ไม่ได้ คิดว่าเป็นภาระ
แล้วไอ้เด็กเก่งๆที่มามัดรวมกันล่ะ มันเก่งเจอเก่ง ที่1เจอที่1 ไม่เคยแพ้มาเจอกัน การแข่งขันมหศาล กดดันเครียด ครูๆฝากความหวังทั้งหมด แต่การแข่งขันมันต้องมีที่1ถึงที่สุดท้ายอยู่แล้ว แล้วลองนึกภาพเด็กที่เคยได้ที่1มาตลอด มันได้ที่โหล่ของห้องสิครับ ทั้งๆที่คะแนนมันอาจจะมากกว่าทั้งรร.ที่เหลือด้วยซ้ำ ก็เป็นบาดแผลจิตใจไปอีก
การเอาเด็กมาคละกัน แล้วจัดระบบที่เหมาะสม ช่วยกันเรียน ทำงานเป็นทีม เน้นคะแนน +การเข้าสังคม การคิดต่อยอด เน้นความถนัดและความสนใจของแต่ละคนเป็นหลัก จึงจะเป็นคำตอบครับ
ถ้าอย่างงั้นอเมริกาจะสร้างมหาวิทยาลัยอย่าง MIT Yale Harvard ไปทำไมครับ
การแข่งขันมันเรื่องปกติของโลกมนุษย์อยู่แล้ว
ไอ้พวกเด็กเรียนแย่ Mindset แย่ เอาไปอยู่ไหนเหรอ
ผมก็บอกไปแล้วว่ากระทรวงต้อง Focus เด็กทุกกลุ่ม
เพียงแค่ใครที่มันเจ๋งจริง เอาไปส่งเสริมให้มันเจ๋งจริงๆ ใครที่มีแนวโน้มจะออกนอกทาง กระทรวงก็ต้องดูแล ไม่ได้บอกให้ทิ้ง
การที่เด็กห่วยไปรวมกัน แล้วคุณบอกว่ามันจะ Induce ให้เสียไปด้วยกัน
ผมมองมุมกลับว่า ถ้าเอาเด็กเก่งไปรวมกับเด็กห่วย สุดท้ายเด็กเก่งกลายเป็นเด็กห่วยไปด้วย มันน่าเสียดายยิ่งกว่าอีก
ไอ้ที่มีปัญหาอ่ะ ผมว่าการแนะแนว กับการประเมินเด็กมากกว่าว่าเค้าเหมาะสมกับจุดใหน
เด็กเก่ง ไม่ต้องพูดถึงหรอก เค้าได้รับการแนะแนวในสายวิชาการมากพออยู่แล้ว
แต่เด็กที่อ่อน โรงเรียนประเทศไทยก็ดันทุรังดันพวกเค้าไปสายวิชาการให้ได้ ทั้งๆที่เค้าอาจจะสามารถเป็นแรงงานที่ดี สามารถเป็นช่างที่เก่ง ได้
แต่พวกเราไม่มีการแนะแนวทางให้พวกเค้า ดันพวกเค้าเข้าสายวิชาการ ต่อไปเรื่อยๆ พอเค้าไม่ไหว ก็ดันไปบอกว่าพวกเค้านี่แหละปัญหา
ผมว่าประเทศเราอ่ะ ดูแลเด็กที่อ่อนได้ห่วยแตกมากกว่า
คุณมโน หรือ มีอ้างอิงครับ
ถ้ามโนเอง อาจจะลองดู ผลการศึกษาที่เค้าทำมาบ้างนะครับ
อันนี้ ref ผม
Akerlof, G.A., 1980. A theory of social custom, of which unemployment may be one consequence. The quarterly journal of economics, pp.749-775.
Murphy, R. and Weinhardt, F., 2013. Top of the class: The importance of rank position. Centre for the Economics of Education Discussion Paper, 1241.
Sacerdote, B., 2001. Peer Effects with Random Assignment: Results for Dartmouth Roommates. The Quarterly journal of economics, 116(2), pp.681-704.
ผลวิจัยแนะนำคละกันครับ
ถ้ามีอ้างอิง ของานวิจัยหน่อยครับ
เพราะเรื่องพวกนี้ถ้าเถียงกันแบบไม่มีevidence based มันคุยกันไม่จบครับ