[RE: กลายเป็นคนต่อต้านศาสนา]
Good love's พิมพ์ว่า:
ผมไม่ได้นับถือศาสนาพุทธนะ แต่เท่าที่อ่านมาคือคุณต้องแยกประเด็นอะ
ช่วยเหลือเด็ก คนยากจนก็ประเด็นหนึ่ง ช่วยวัด พระสงฆ์ก็อีกประเด็น การช่วยคนยากไร้ก็ได้บุญจากการได้ช่วยคนยากไร้ ช่วยพระก็ได้บุญจากการช่วยพระ
เหมือนกินผักได้วิตามิน ร่างกายได้ประโยชน์ กินเนื้อ ร่างกายก็ได้ประโยชน์แต่ได้จากโปรตีน คุณจะไปกินผักแล้วถามคำถามว่าไม่เห็นจะได้โปรตีนเลยได้ยังไง
ส่วนไอ้การช่วยเด็กแล้วรู้สึกได้ประโยชน์มากกว่ามันเป็นความคิดของคุณ แต่ไอ้การบริจาคให้วัด แล้วไม่รู้สึกว่าทำประโยชน์เนี่ย ผมว่าต้องกลับไปอ่านพระไตรปิฏกแล้วแหละ
นี่ก็เป็นปัญหาของศาสนา คนมักจะบอกให้ทำสิ่งนู้นสิ่งนี้ โดยไม่บอกว่าทำไปเพื่ออะไร ทั้งที่ในคำสอนของศาสนาก็บอกไว้แล้ว
เป็นคำตอบที่ประเสริฐมากครับ น่าเสียดายที่คำตอบแบบนี้มาจากคนนอกศาสนาพุทธ แต่ดีและล้ำลึกกว่าคนพุทธหลายๆคนในที่นี้ ไม่ใช่พูดเพื่อเอาใจ แต่พูดผมชมจากใจจริง
ในมุมมอง
โยม " จะบวชมากันไมวะ วันๆไม่ทำอะไร เป็นพระเปล่า (ไร้ประโยชน์) บวชเปลืองข้าวสุก ทำไมไม่ปฏิบัติ ทำไมไม่ไปนิพพาน"
พระ "ทำไมโยมไม่ทำตัวอยู่ในศีล5 บางคนยังปล้นฆ่า บางคนยังผิดกาเมฯ บางคนเมาหัวราน้ำ คนแบบโยมจะหาดีจากไหน"
ครับมุมมองใครมุมมองมัน ผมยกมาเฉยๆ
ตอนผมเป็นเณรเปนพระ ผมบิณฑบาตร ผมก็ไม่คิดไร แค่อยากจะหาข้าวกิน เพราะไม่บิณ ฯ ผมก็ไม่เดือดร้อน ก็แค่หิวเท่านั้น จนไปเจอ อาม่าแก่ๆคนนึง ผมรับบาตรแกทุกวัน จากวันเป็นเดือน เดือนเป็นปี ผมสงสัยไม่ไหว ผมเลยถามแก
" โยม ใส่บาตรเพื่ออะไร "
แกมองหน้าผมแล้วยิ้มๆ " ไม่ใส่พระก็หิวสิลูกเอ้ย (แกเรียกผมลูก) โยมก็ใส่เท่าที่โยมไหว ไม่ไหววันไหนก็คงล้มหายตายจากกันไปนั่นแหละ อยู่ให้นานๆนะลูกนะ อยู่ให้โยมได้ใส่บาตรทุกวัน อย่าเพิ่งหนีสึก"
คำพูดแก ทำเอาผมสตั้น หลังจากนั้นไม่เท่าไรแกก็ตาย ผมก็ช่วยอะไรทางครอบครัวเค้าไม่ได้ นอกผ้าไตรและทำบุญใส่ซองเปนเจ้าภาพสวดศพ เวลาทำวัตรสวดมนต์ก็กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศล (ที่น่าจะมี)ให้แก
ผมมันสายเปรียญ เรียนบาลี ผมสอบได้เปรียญ5 นธ.เอก รับคำสั่งเจ้าอาวาสให้เปนครูสอนพระในวัด มีพระหนุ่มรูปนึงมาบวช แต่ไม่ยอมเรียน วันๆเอาแต่กวาดถูศาลา ซ่อมหน้าต่างบานประตู ผมสงสัยเลยถาม
" หลวงพี่ ไปทำแบบนั้นทำไม มานั่งเรียนกับผมดีกว่า สิ้นปีจะได้ลงสอบเป็นมหาเปรียญกับเค้าบ้าง "
พระหนุ่มตอบ " คนเรียนเยอะแล้วครับจารย์ ผมมันหัวไม่ดี ผมซ่อมพวกนี้ดีกว่าผมถนัด อีกอย่างถ้าผมไม่ทำแล้วใครจะทำ "
คำตอบพระทำเอาผมสตั้น คิดในใจ "เออ จริงของมัน ไม่น่าเสือกเลยกุ"
เคยทำหน้าที่พระ โดนนิมนต์ไปคุมสอบธรรมศึกษาในคุก แน่นอนละ ผมไม่อยากเหยียบเข้าไปในนั้นหรอก แต่ด้วยหน้าที่ จะหลีกพ้นยังไงไหว แต่สิ่งที่เจอคือนักโทษบางคนก็ตั้ใจและขวนขวาย สนใจธรรมะ หลายคนมาคุยกับผม นึกว่าชีวิตนี้จะไมไ่ด้มาเจอพระแล้ว คิดถึงศาสนาขึ้นมาจับจิต สำนึกผิดในสิ่งที่เคยกระทำ หากย้อนเวลากลับไปได้จะไม่ทำผิดแบบนั้นเด็ดขาด ผมฟังก็ได้แต่นิ่ง เพราะไม่รู้ว่าเค้าพูดเพื่อเอาใจพระหรือสำนึกจริงๆ
ธรรมจักร เป็นธรรมบทแรกที่พระพุทธเองค์แสดง หัวใจของธรรมจักรคือ ทางสายกลาง แค่นั้นเอง ผมจะพูดสั้นๆกระชับนะ คือ การทำอะไรที่ ไม่เป็นประโยชน์ ทำแล้วเกิดทุกข์แก่ตนเองและคนอื่น ง่ายๆคือสิ่งที่ตึงไปและหย่อนไป นั่นไม่ใช่ทางสายกลางทั้งมวล
จากข้อข้างบน ผมเลยพยายามทำตัวให้เป็นกลางเข้าไว้ ทำตัวนิ่งๆ ผมเจอคนเยอะ หลายคนก็หลายความคิด ต้องการให้พระเป็นแบบนั้นแบบนี้ ชี้นำพระว่าทำไมไม่ทำแบบนั้นแบบนี้ ผมก็นิ่งๆ คนบางคิดดีทำดี มาดี คบหาพระด้วยใจบริสุทธิ์ก็มี คนบางคนคิดเลว แต่พยายามทำดี คบหาพระเพื่อผลประโชย์ก็มี ฉะนั้น ทำตัวกลางๆนิ่งๆไม่เอนเอียงตาม นั่นแหละคือดีที่สุด
ตอนเป็นพระผมไม่สอนนะ ใครจะเมาก็เมาไป ใครจะเล่นหวยก็เล่นไป บางคนบอกทำไมหลวงพี่ไม่ห้ามเค้า พระประสาอะไรวะ สุดท้ายผมก็คิดได้ว่า ทำตัวเองให้เป็นน้ำเปล่าน่ะดีที่สุด เป็นน้ำ ให้คนที่ต้องการน้ำน่าจะดีที่สุด คนอื่นจะเป็นยังไงปล่อยตามวัฎฎจักร แต่วันใดกินเผ็ดแล้วหิวน้ำก็ค่อยมาหาผม
สิ่งที่จขกท.คิด มันไม่ผิด แต่จขกท.ควรจะเข้าใจชีวิตของคนอื่นเยอะๆ ชีวิตมันยุ่งเหยิงกันทุกคนแหละ แต่อย่าเอาความยุ่งเหยิงของตัวเองไปแปดเปื้อนคนอื่นเค้า
สาธุ เอวัง