พอดีไปเจอบทความที่ทาง Simon Stone นักข่าว Tier1 จาก BBC ที่ร่วมเดินทางไปกับคณะทัวร์ของยูไนเต็ด ที่ ออสเตรเลีย สิงค์โปร และ จีน ได้เขียนบทความที่น่าสนใจ
ที่ผมมองว่าน่าสนใจคิดว่าจากการไปร่วมทัวร์ยาวขนาดนี้ต้องรู้อะไรเชิงลึกมาไม่มากก็น้อยครับว่าทีมสตาฟและโอเล่ตอนนี้คิดจะเดินหน้าไปแบบไหน
อาจจะยาวไปนิดขออภัยด้วยนะครับ
ลิงค์ต้นฉบับ
Man Utd: Has strategy changed and is Ole Gunnar Solskjaer the driving force?
By Simon Stone
BBC Sport
https://www.bbc.co.uk/sport/football/49144693
Solskjaer is keen to bring young talent through into his Man Utd squad
ในวันอังคารที่จะถึงนี้ ยูไนเต็ดจะเดินทางเพื่อไปอุ่นเครื่องนัดรองสุดท้ายกับ Kristiansund ที่นอร์เวย์
โดยเหลือเวลาอีกเพียง 2 สัปดาห์ก่อนที่ตลาดจะปิด และ พรีเมียร์ลีคจะเริ่มขึ้นโอเล่ยังไม่ทำการซื้อตัว “บิ้กเนม” เลยสักคน ซึ่งตลาดนี้เป็นก้าวแรกในการออกเดินครั้งสำคัญของโอเล่
โดยขณะนี้ยังมีการพาดหัวข่าวมากมายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการโต้เถียงกันว่ายูไนเต็ดจะได้ใครมาเสริมอีก
แต่โค้ชหนุ่มอายุ 46 ปีกลับเลือกที่จะทำงานของเขาอย่างเงียบสงบ โดยเขาได้สิทธิขาดในการตัดสินใจ มากกว่า โจเซ่ มูรินโย่ และ หลุยส์ ฟานกัล
แสดงให้เห็นว่า ยูไนเต็ด ได้มีการเปลี่ยนแนวทางใหม่สำหรับการสร้างทีมแล้ว และ โอเล่คือหัวใจหลักในเรื่องนี้ ชัดเจนว่าจะไม่มีการดึงตัว “บิ้กเนม” ที่ไม่จำเป็น
อย่างกรณีของ เบล ของ มาดริด ที่พร้อมปล่อยตัวทันที แต่ ยูไนเต็ด ไม่ลงตลาดไปกับเรื่องนี้ ทั้งที่เบลถูกโยงกับการย้ายตัวมา ยูไนเต็ดตลอดตั้งแต่ที่ย้ายไป รีล มาดริดเมื่อปี 2013
โดยไม่ใช่ว่า โอเล่ จะต่อต้านการซื้อ “บิ้กเนม” แต่ตอนนี้เขาเลือกที่จะเลือกผู้เล่นที่ “เหมาะสม” กับที่ทีมต้องการมากกว่า กรณีของ ดิมาเรีย มาคิตายาน และไม่นานมาอย่างอเล็กซิส ซึ่งทั้งหมดไม่สามารถปรับตัวเข้ากับปรัชญาการทำทีมของยูไนเต็ดได้
นอกจากนี้เงินจำนวนมากได้มีการจ่ายไปเพื่อ เดปาย ฟานกัล ชไนเดลิน ชไวสไตรเกอร์ และ ล่าสุดเฟร็ด โดยทั้งหมดที่กล่าวมามีปัญหาเรื่อง ฟิตเนส และ การปรับตัวเข้ากับฟุตบอลอังกฤษ
โอเล่ต้องการทีมคนหนุ่ม ที่มีแรงกระตุ้นสูง ให้เหมือนทีมชุดของเซอร์อเล็ก ในกรณีของ มูรินโย่ และ ฟานกัล พวกเขาต้องเลือกตัวเลือกที่มีมาให้จากฝ่าย Recruitment โดยขึ้นกับ เอ็ด และ แมตต์ จัส ที่เป็นฝ่ายบริหาร
เมื่อปีที่แล้ว มูริโย่ กับ เอ็ดต้องมีปัญหากัน เมื่อตัวโค้ชต้องการขาย มาซิอัล และ ซื้อเซ็นเตอร์แบ็คมาเสริมทีมแทน แต่กับโดนระงับการที่จะขายดาวเตะชาวฝรั่งเศส และ ได้รับคำตอบมาว่าในผู้เล่นที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ไม่มีตัวไหนในเป้าหมายที่ดีกว่าเซ็นเตอร์ที่มีอยู่ในทีมอยู่แล้ว
เมื่อสัปดาห์ก่อน นิคกี้ บัตต์ ได้อัพเกรดขึ้นมาเป็น หัวหน้าทีมพัฒนาชุดใหญ่ โดยกองกลางชุดทริปเปิ้ลแชมป์จะทำงานใกล้ชิดกับโอเล่ ในการผลักดันเยาวชนจากอะคาเดมี่ขึ้นมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่
พัฒนาผู้เล่น และ เติมด้วยผู้เล่นที่ถูกจุด เป็นหนึ่งในสิ่งที่โอเล่กำลังทำ และ การกำจัดสิ่งที่เขาเห็นว่าเกินความต้องการก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
มันยังคงที่ต้องรอดูกันว่า เพชรฆาตหน้าทารก จะสามารถกำจัดดาวดังได้เด็ดขาดแบบที่เจ้านายเก่าของเขาทำมาตลอดได้หรือไม่ แต่ตอนนี้มีหลักฐานว่าเขาสามารถใช้วิธีให้ ขนมและแครอท เพื่อสร้างแรงกระตุ้นในทางบวกได้แล้ว
เป็นที่เข้าใจกันว่า เจสซี่ ลินกาด ได้โดนโซ้ยขนานใหญ่ไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมากับการใช้ โซเชียลมีเดียไม่เหมาะสม และ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ไม่มีการตอบโต้ที่แย่ๆ และ หันไปตอบรับด้วยการโชว์ฟอร์มที่ดีในการฝึกซ้อมแทน
โดยโอเล่ได้ตามสังเกตุพฤติกรรมของลินกาด ที่ปรับปรุงตัวได้ดี ให้ความช่วยเหลือน้องๆเยาวชน และ รับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก จึงให้โอกาสในการอภัยให้
หลังจากนี้ อะไรคือสิ่งที่โอเล่ต้องการให้ยูไนเต็ดเป็น?
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ไม่มีความชัดเจนว่า ยูไนเต็ดจะเล่นในแนวทางและสไตลแบบไหน
ด้วยระบบที่เปลี่ยนตลอด ผู้เล่นที่เข้ามา แล้วไม่เหมาะกับแนวทางการเล่น
ในบางครั้งมันก็เป็นการเซ็นสัญญาด้วยเงินจำนวนมหาศาล โดยไม่คิดให้ถี่ถ้วนเพียงพอว่าจะทำให้เหมาะสมกับภาพรวมของทีมอย่างไร
ยูไนเต็ดยังคงจะต้องการแต่งตั้งผู้อำนวยการด้านเทคนิคเพื่อแก้ไขการเสริมทัพ ถึงแม้ตอนนี้ยังต้องรออยู่ แม้ยังไม่มีคนดูแลในบทบาทนี้แบบสโมสรชั้นนำในยุโรปหลายทีม แต่โอเล่มีไอเดียที่ชัดเจนว่าต้องการให้ทีมของเขาเล่นอย่างไร กองหลัง4ตัว 2มิดฟิลด์ที่ลงมาเล่นได้ในแนวลึกหลังตัวรุก3ตัว และ กองหน้าเป้า เขาต้องการทุกคนที่มีความเร็วสูงอย่างยิ่ง และ ผู้เล่นที่สามารถสลับตำแหน่งกันได้ในแนวรุก
ดาเนี่ยล เจมส์ เป็นหน้าใหม่ที่เข้ามาด้วยค่าตัว15ล้านปอนด์ แม้บางคนที่โอลด์แทรฟฟอร์พยังมองว่าเป็นการเดิมพัน แต่ เขาเข้ากันได้ดีกับรูปแบบของโอเล่ที่วางไว้ และ ในการทัวร์ก็แสดงให้เห็นถึงการเป็นภัยคุกคามแก่แนวรับ ถึงแม้จะยังไม่สามารถเบิกสกอร์ได้.
จาก4เกมส์ มี8ครั้งที่เจมส์ต้องโดนเสียบตัวลอยจากฝ่ายตรงข้ามเพื่อหยุดเขาเพราะตามไม่ทัน โดย 3 ครั้งในนั้นเป็น โมฮาเม็ด ซิสโซโก้
โอเล่ได้บอกไว้ว่า ปรีซีซั่น มันไม่ใช่อะไรที่เกี่ยวกับผลการแข่งขันหรอกนะ มันเกี่ยวกับการหาสไตล์รูปแบบการเล่น และ ผู้เล่นที่ลงตัวกับมันมากกว่า เราได้ก้าวหน้ามาทีละก้าวกับการจะไปสู่ทีมที่เราต้องการ
มันเป็นข้อมูลเช่นกัน เพื่อดูว่ามาร์คัส แรชฟอร์ดและแอนโทนี่ มาซิอัล สามารถสลับตำแหน่งกันแล้วเป็นอย่างไร ทั้งคู่ได้ถูกลองใช้ทั้งเป็นกองหน้าตัวเป้า และ ตัวรุกริมเส้น โดยโอเล่กำลังอยู่ในกระบวนการที่จะทำให้พวกเขาอันตรายและทำประตูให้ได้มากขึ้น
แรชฟอร์ด สามารถทำได้13 ประตู มากที่สุดตั้งแต่ขึ้นมาชุดใหญ่ ส่วนมาซิอัลทำได้17 ประตูจากทุกถ้วยในปีแรกที่มาร่วมทีม ทางด้านลูกากู ผลงานตกลงจากปีแรกที่ทำได้27 ประตูเหลือเพียง 15ประตู
การเทรนนิ่งอย่างหนักที่ Waca
เมื่อยูไนเต็ดได้เซ็ตโปรแกรมทัวร์4นัดที่ออสเตรเลีย และ เอเชีย ที่เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 กค. มีคำถามมากมายว่าโปรแกรมแบบนี้จะรบกวนและส่งผลกระทบกับการเตรียมทีมของโอเล่รึเปล่า และยังมีคำถามเกี่ยวกับสถานการณ์ของ ลูกากู - แมคไกว - ปอกบา - กองกลางตัวใหม่
แต่สุดท้ายใน 20 วัน ด้านการจัดการของโอเล่ ก็แสดงออกมาอย่างชัดเจน อย่างเช่นแผนการเล่นที่จะใช้(ทั้ง4นัดใช้ 4-2-3-1) หลักจริยธรรม และ สิ่งที่ต้องการจากผู้เล่น และ ความไว้วางใจอย่างเต็มที่ในเหล่านักเตะเยาวชน
ผลงานน่าผิดหวังในช่วงปิดท้ายฤดูกาลที่แล้ว ทั้งการเสมอ ฮัดเดิ้ลฟิล และ แพ้คาบ้านให้กับคาร์ดิฟ ทำให้โอเล่ได้รู้ว่าขุมกำลังของเขาไม่มีความฟิตเพียงพอกับการวิ่งสู้ฟัดอย่างไม่หยุดอย่างที่เขาอยากจะใช้
ทีมสตาฟของยูไนเต็ด ได้ระบุปัญหานี้ และ ได้จัดโปรแกรมเทรนนิ่งเพื่อการนี้โดยเฉพาะใน 11 วัน ที่ สนาม Waca ในออสเตรเลีย
Training sessions have included extra high-intensity sessions this summer
โอเล่จัดโปรแกรมการซ้อมโหด 14 เซสชั่นใน10วัน โดยเปิดให้เฉพาะสื่อที่ได้เข้าชม ในบางเซสชั่น และ ไม่เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม
ผู้เล่นทุกคนได้เข้าร่วมทุกเซสชั่น ยกเว้นลูกากู ผู้ซึ่งไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียวจากทั้ง4นัด เพราะมีอาการบาดเจ็บ
โดยที่เซสชั่นในวันที่มีเกมส์แข่งขันจะเบาลงเช่นเดียวกับทุกสโมสร
น่าสนใจว่า การทำงานอย่างเข้มข้นกว่าปีที่แล้ว50% และระยะทางวิ่งรวมที่เพิ่มขึ้น10% จากนัดแรกกับ Perth Glory กับนัดที่สองกับ Leeds
แต่ด้วยอากาศร้อนและชื้นที่ สิงค์โปรและเซี่ยงไฮ้ ทำให้ในนัด อินเตอร์และท็อตแน่มทำให้ระยะทางวิ่งลดลงเล็กน้อย
แม้ว่าจะไม่ได้กลับไปสู่ยุคสมัยที่ต้องวิ่งระยะยาวเพื่อสร้างความอึด แต่โอเล่ ก็ให้ความสำคัญกับการวิ่งและคาดหวังว่าจะใส่สิ่งนี้ในการฝึกซ้อมส่วนใหญ่แม้ในระหว่างการซ้อมแทคติค
พวกเขายังเพิ่ม เชสชั่นยิม และการทำงานเพื่อป้องกัน อาการเจ็บ แฮมสตริง และ ขาหนีบ และยังเพิ่มยังมีโปรแกรมเสริมความแข็งแกร่งอีกด้วย
สิ่งนี้อาจถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นประจำอยู่แล้วแต่โอเล่รู้สึกว่าเขาต้องพูดถึงความฟิตกับทีมโดยด่วน
ในมุมมองของเขา มูรินโญ่ได้สร้างการเล่นสวนกลับไม่ใช่เพื่อครองเกมส์ และ วิ่งไล่เพรส แบบแมนเชสเตอร์ซิตี้, ลิเวอร์พูลและท็อตแนม และสิ่งนั่นคือแบบฉบับที่ยูไนเต็ดต้องการ
โดยธรรมชาติ ความฟิตที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นมากกว่า ความสามารทางด้านเทคนิค ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ ซิตี้เป็นจะครองความเป็นหนึ่งในพรีเมียร์ลีค เพราะมีอัตราการทำงานหนักที่สูง และเพิ่มด้วยทักษะและเทคนิคที่ยอดเยี่ยม
โอเล่ ได้บอกไว้ว่า “เราจะทำงานให้เข้มข้นหนักหน่วง และ การเพรสซิ่ง เราได้ผู้เล่นที่สามารถวิ่งได้ไม่หยุดและเราต้องการจะทำแบบนั้นให้ได้อย่างต่อเนื่อง”
การดำเนินโปรเจคอย่างสงบนิ่ง
อีกทิศทางนึงในช่วงปรีซีซั่นที่เปลี่ยนไปจากเดิมคือ ทางสโมสรไม่ได้โฟกัสกับการที่ต้องให้ผู้จัดการออกสื่อในทัวร์นี้
มีนักข่าวจำนวนไม่มากที่ได้เดินทางไปกับทริปครั้งนี้ และ โอเล่ไม่ต้องไปเผชิญหน้ากับสื่อในที่สาธารณะโดยใช้แนวทางตามรอย พอชเชตติโน่ ในเรื่องนี้
คุยกับสื่อโดยหลีกเลี่ยงการตอบคำถามเรื่องการซื้อขาย โดยปล่อยให้เป็นหน้าที่ทางสโมสรในการประกาศแบบ official ไปเลย
โอเล่จะไม่วิจารณ์ เอ็ด ออกสื่อแม้ว่าทางยูไนเต็ดจะจัดทัวร์ที่เดินทางไกลแสนไกล โดยที่แม้ว่าในความเป็นจริงไม่มีผู้จัดการคนไหนชอบปรีซีซั่นลักษณะนี้ แต่โอเล่จะจัดการทำงานให้ทีมได้รับแต่แง่ดีในเรื่องนี้
ไม่มีอะไรการันตีได้ว่ายูไนเต็ดจะเก็บชัยชนะได้มากแค่ไหนในตอนจบ และ โอเล่จะถูกตัดสินผลงานว่าอย่างไร
อีกเพียงอาทิตย์กว่า ตลาดซื้อขายของลีคอังกฤษจะปิดลง ขุมกำลังของเขายังไม่สมบูรณ์ตามที่เขาต้องการ
ชัดเจนว่าลูกากูน่าจะย้าย - เซ็นเตอร์แบ็คคนใหม่-โดนระบุไว้ว่าคือแมคไกว ที่เป็นเป้าหมายหลัก แต่มีลิสต์ทางเลือกอื่นอยู่และค่อนข้างแน่ว่าสโมสรจะได้มาสักคน
ทางสโมสรมั่นใจว่าจะรั้งตัวปอกบาไว้ได้ แต่ถ้าสุดท้ายปอกบาย้ายออกไปทางสโมสรก็ได้วางแผนที่จะดึงตัวแทนที่เป็นไปได้ในตลาดไว้แล้ว
ขุมกำลังชุดใหญ่หลายคนอาจจะต้องไป เมื่อโอเล่มีความตั้งใจที่จะใช้งานผู้เล่นดาวรุ่ง อย่าง เมสัน กรีนวู้ด ในยูโรป้าลีค มากกว่าเหล่าผู้เล่นชุดใหญ่ที่มีประสบการณ์แต่ไม่ได้ลงในเกมส์ลีค
ไม่ว่าสุดท้ายขุมกำลังสุดท้ายหลังตลาดปิดจะเป็นอย่างไร กุนซือชาวนอร์เวย์ก็จะทำงานกับทีมชุดนี้และ พูดว่า “ไม่มีผู้เล่นคนไหนในที่นี้ที่ผมไม่ตัองการ”
แน่นอนว่ายังมีความไม่แน่นอนในระดับสูงภายในทีมยูไนเต็ด และ โอเล่ หลังจากสิ้นสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
การรีเซตยูไนเต็ด ได้เกิดขึ้นแล้ว ยังมีสิ่งน่าสนใจที่ต้องค้นหาว่าเป้าหมายของเอ็ด และ เกรเซอร์ ในการตัดสินผลงานของโอเล่ อย่างไร ในทุกฤดูกาล ที่ผ่านมาคือถ้าพลาดโควต้า UCL ผู้จัดการทีมก็จะสูญเสียตำแหน่งไป และยูไนเต็ดก็จะเสียเงินจำนวนมากจากสปอนเซอร์หลักอย่างอดิดาส
แต่คราวนี้ เอ็ด ได้ตระหนักว่าจะไม่ทำผิดซ้ำ 3คน ก่อนหน้า เรื่องดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับสถานะ ของกุนซือชาวนอร์เวย์ ตราบที่ยังมีแสงสว่างแรงกล้าว่าเขาจะพาทีมเดินหน้าไปได้อย่างคู่ควรกับเครื่องแบบในโอลด แทรฟฟอร์ด
ไม่มีถนนที่เรียบง่าย มีการพูดคุยกันเป็นการส่วนตัวที่ออสเตรเลีย ว่าถ้ายูไนเต็ดต้องเริ่มฤดูกาลโดยไม่ได้กำลังเสริมเข้ามาเพิ่ม พวกเขาต้องมีโชคดี ในการเริ่มต้นที่จะไม่พบปัญหาหลักที่ยากๆ และ ต้องไม่ลดเกียร์ระดับความพยายาม
อย่างไรก็ดี 12 เดือนหลังจากพวกเขาได้ประสบปัญหาขัดแย้งกับผู้จัดการทีม อย่างน้อยตอนนี้ที่ห้องทำงานในโอลดแทรฟฟอร์ด ก็ค้นพบความร่วมแรงร่วมใจเดียวกันระหว่างชายผู้ดูแลทีม กับ ชายผู้สะพายกระเป๋า
มีสถิติที่น่าสนใจอีกอย่างคือ ในนัดที่โอเล่คุมทีมนัดแรก
เป็นทีมที่มีการเคลื่อนที่ของบอลต่อนาทีต่อนัดเร็วที่สุดในปีที่แล้ว และ เป็นทีมที่มีการเพลสซิ่งสูงเป็นอันดับที่2ต่อนัดล
สไตลของโอเล่น่าจะชัดเจนว่าต้องการเล่นเกมส์เร็วและความฟิตในการวิ่งสู้ฟัดเป็นอย่างมาก
ตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่าต้องการให้ยูไนเต็ดเป็นทีมที่มีอัตราการวิ่งทำงานหนักให้สูงที่สุดในลีคครับ
ดังนั้นต้องอาศัยความฟิตสูงมากถึงจะทำได้ตามรูปแบบที่โอเล่วางไว้
Fastest Ball-Moving Game
Premier League | 2018–19
Solskjær's United vs Cardiff – his first game in charge – produced the fastest ball movement in the Premier League. Also, it was the 2nd best pressing game.
It is no surprise it was a great performance.