เคยอ่าน​ tactical analysis ตอนแกคุมโมลแนวทางแก

ก็เป็นแบบที่ท่านบอกน่ะครับ​ เป็นบอลสมัยใหม่

เน้นครองบอลเน้นเพรสซิ่งแดนสูง​ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

ทำไปทำมาถึงกลายมเป็นแบบนี้ไปได้​ ทั้งๆที่นัดแรกๆ

ที่ผมพูดไปก็เห็นกันในนัดที่เจอคาร์ดิฟฟ์

ส่วนเรื่องผู้บริหารนี่ต้องทำใจอย่างเดียวครับ

ถ้ายังไม่ตั้ง​dofทีมก็จะเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆแหละครับ

วิสัยทัศน์​ด้านฟุตบอลของเอ็ดผมว่ายังสอบตกครับ

กลายเปนแบบ มู ซะงั้น จำได้เลยเคยมีคนบอกก่อนน้าเซนสัญญาน้าเก่งคือเน้นครองบอล เน้นบุก และสามารถปรับแผนแก้ตามรุปเกมของฝ่ายตรงข้ามได้โดยไม่ยึดติดกับแผน คือไม่มีแผนที่ตายตัว แล้วนี่ทำไปทำมากลายมาเปนยังงี้ได้ไง งง ใน งง

เรื่องตายยากมันก็ควรแหละครับ แต่มันไม่ใช่เรื่องเชิงรูปธรรม มันคือเรื่องจิตใจสู้ไม่ยอมแพ้ ผมก็ว่ามันดี

แต่ DNA ที่ผมพูดถึงคือ DNA ด้าน football ก็ บอลออกปีก traditional นี่แหละครับ

การเล่นทรงป๋าช่วง 2 ปีสุดท้าย ถ้ายกมาเล่นตอนนี้ก็ไม่ได้ลุ้นแชมป์แล้วล่ะ สู้ระบบปัจจุบันไม่ได้แล้ว

ผมเห็นด้วยเลยครับ ว่าบอลคุมโซนมันตามสปีดการเคลื่อนที่ของคู่แข่งไม่ทันแล้ว

ผีแดงตอนนี้ที่ัยังไม่มีคือ pressing กับการ build-up เกม, 2 ส่วนนี้คือหัวใจสำคัญของเกมสมัยนี้เลย พูดง่ายๆ คือ แย่งบอลยังไง และมีบอลจะบุกยังไง(แต่รายละเอียดมันเยอะมาก)

เรื่อง tactic สมัยแกทำโมลด์ คงต้องรอดูปีหนา แต่ถ้าพูดแบบไม่รักษาหน้าแกเลยก็บอลมันคนละเกรดกันกับที่นอร์เวย์

เห็นด้วยครับว่าบอลมันล้าสมัย และเป็นมาตั้งแต่ปลายยุคเซอร์แล้วจริงๆ

แต่ผมเข้าใจว่าอะไรที่มันเกี่ยวกับป๋านี่มันแตะต้องยาก ดึงมาวิจารณ์ยาก(ส่วนเทพแกก็เทพจริง)

แล้วมองกันง่ายๆอย่างท่านว่าแหละครับ

ครองบอลไม่แน่น แย่งคืนไม่ได้ แค่พื้นฐาน 2 ส่วนนี้มันก็แพ้ทีมใหญ่ๆทีมอื่นแล้ว

ผุ้บริหารมองไม่เห็น หรือไม่รู้ไม่สน หรือวิสัยทัศน์ไม่ดีก็ไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆ บริหารฟุตบอลเป็นอย่างนี้มา 6 ปีแล้ว

เท่าที่ดูท่านเหมาะเป็นแฟนพันธ์แท้มากกว่าผมอีกครับ 5555 ผมไม่รู้เรื่องอะไรพวกนี้เลย ผมเชียร์แมนยูเพราะเป็นทีมที่ไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ ส่วนเรื่องโอเล่ผมคิดว่าท่านคาดหวังมากไปครับ พอไม่ได้แบบที่หวังเลยจัดเต็มเลย คุมมาแค่ครึ่งฤดูกาล เล่นแย่มาสี่ห้านัดหลังๆ ผมคิดว่ายังไม่ชิบหายหรอกครับ ถ้าเทียบกับ มอยส์ กัล มู ผมไม่รู้ว่าอนาคตถ้าแมนยูมี dof ที่เข้าใจฟุตบอลจริงๆแล้ว ฟอร์มทีมยังไม่ดีขึ้นท่านจะยังด่า ceo ต่อมั้ยว่าตั้งมาทำไม

ปล.ถ้าโพสต์ผมตอนแรกทำให้ท่านรู้สึกแย่ ขอโทษด้วยครับ

จริงครับ​ เรื่อง​ buid-up phase กับ​ pressing นี่แย่มา

นานแล้วเพราะ​ positioning ทีมเราค่อนข้างแย่ครับ

การเคลื่อนที่เพื่อเพิ่ม​ passing lane ก็ไม่ดี​ การเคลื่อนที่

เป็น​ยูนิตเพื่อคุมพท.ในการ pressing ก็ไม่ดีอีก

ได้แต่หวังว่าช่วงปิดฤดูกาลแกจะเอาแนวทางเหล่านี้ไปพัฒนา

ต่อเพื่อให้ตามทันทีมหัวแถวในยุโรปได้สักทีครับ

ช่วง 10 นัดแรกที่ผลงานดีๆ แทบไม่เปลี่ยน First XI เลย

ผลพวงมันเริ่มตามมาแหละ เพราะเตะติดๆกัน จะให้วิ่งไล่เพลส เหมือนนัดบาซ่า ก็ทำไม่ได้ทุกนัดหรอก

ผมว่า ผจก และ นักเตะเรียนรู้และเติบโตไปพร้อมกันก็ดีนะ

อย่างมู เหมือนเอาโคชเวลตันมาคุมอะ

แต่ โซลชา ก็เร็วไปเหมือนกัน แต่ก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยงนะ อย่าง บาซ่า-เป๊ป เมดริด-ซีดาน

แต่ลิเวอร์พูล ก็ลองโคช Low Profile แบบ BR และเกือบรุ่งเหมือนกัน

ข้อดี คือ ความสดใหม่ที่พร้อมเรียนรู้ตลอด แต่ข้อเสียคือ ถ้าเรียนรู้แล้วได้สิ่งที่แย่กว่าเดิมก็มี อย่าง BR ยิงมายิงกลับไม่โกงหลังห่วย ปีต่อมา ไปเน้นรับเยอะมากๆ จนเกมรุกหาย แล้วยิ่งลน เปลี่ยน Formation ไปเรื่อยๆ แบบ 3-6-1 False nine ก็ยังทำ

ใช่ครับ เพราะ positioning มันจะรองรับ pressing และ build up

ไม่มีบอล ก็ต้อง pressing ได้บอลมาแล้วมันก็ต้อง build up สลับไปมา

ดูเวลาเจอทีมใหญ่แล้วเราต้องเล่นแบบเป็นรองตลอด แล้วการเล่นแบบมวยรองส่วนมากมันก็แพ้ไปตามรูปเกม เป็นส่วนน้อยเท่านั้นที่ชนะ

ยังจำเกมที่ชนะ Barca ในปี 08 ได้เลย เกมสู้ได้เยอะกว่า 2 ครั้งที่แพ้นัดชิง
แต่ถ้าเกมเป็นรองชัดเจน แทบหาโอกาสจู่โจมอันตรายๆไม่ได้ ก้แพ้ไป

ที่ผมด่าไปก็ยอมรับว่าเซงครับ​ คุมอารมณ์​ไม่ค่อยจะอยู่แล้ว

เพราะอดนอนตามดูทุกนัด​ แล้วเล่นกันแบบนี้​รู้สึกเสียเวลานอน

เสียอารมณ์​มาก​ แต่ก็ว่าใครไม่ได้เพราะผมเลือกจะดูเอง

แต่พอเย็นลงแล้ว​ ผมว่ามันก็รับได้ยากอยู่ดีครับที่ทีมกลางตาราง

บุกมายิง20กว่าครั้งในบ้านหลายๆเกม​ ผมว่ามันเกินไปหน่อย

ส่วนเรื่องถ้าตั้ง​ dof มาแล้วทีมไม่ดีขึ้นจะด่า​ ceo ไหม

ก็ต้องดูบทบาทของ​dofก่อนครับว่ามีบทบาทมากแค่ไหน

หรือเป็นแค่หุ่นเชิดของ​ceo​ แต่ผมเชื่อว่าทิศทางมันจะดีขึ้น

ครับ​ถ้าได้มือดีอย่างพอล มิทเชลมานะ​ หรืออย่างแย่​ได้

Van der saar มาก็ยังน่าจะดีกว่าให้เอ็ดดูแลต่ออะครับ

เบื่อแฟนแมนยูไนเต็ดขี้เปียกแบบนี้อะอะไรนิดหน่อยก็บ่นละครับ

เอ็ดหาเงินเก่ง แต่เรื่องฟุตบอลนี่ไม่ไหวจริงๆ ผมคิดว่าถ้าได้ พอล มิทเชล มาจริงๆ แกคงทำงานได้เต็มที่ เพราะบอร์ดกับเจ้าของทีมเราแทบไม่ค่อยยุ่งเกี่ยวกับอะไรพวกนี้ อยู่แล้ว แต่ยอมรับครับว่าเป็นเหมือนท่านตรงอดหลับอดนอนดูบอลแล้วทีมเล่นไม่ดีมันหงุดหงิดจริงๆ

ถ้าเป็นแบบนี้จนจบฤดูกาล ก็น่าจะหมดของจริงๆแล้วละ ฮรี่ๆๆ

ปล.ผมคิดว่าหมดมาตั้งแต่แพ้วูฟ fa ละ

ให้เวลากันก่อนมั้ยรีบเกิน

ข้อดีข้อเสียของโค้ชระดับท็อปกับโค้ช​ดาวรุ่ง

ก็เป็นอย่างที่ท่านว่าแหละครับ​ แต่อย่างโซลชากับBR

มันน่าเสี่ยงจริงครับ​ ตรงที่2คนนี้แกมีบางอย่างคล้ายๆกันนะ

คือแก2คนเป็นคนที่มีอุดมการณ์​มีปรัชญา​ในด้านฟุตบอล

ค่อนข้างแน่วแน่เลย​ แต่จะหวังให้ไปถึงระดับเป๊ปหรือซีดาน

นี่คงเป็นไปไม่ได้อะครับ​ มันมีเรื่องขององค์ประกอบนักเตะ

ด้วย​ ไม่ได้จะสบประมาทนะครับแต่ถ้าไม่มีเมสกับโด้

เป๊ปกับดานก็ไม่ประสบความสําเร็จ​แบบล้นฟ้าขนาดคว้า

6แชมป์ในปีเดียวหรือคว้าแชมป์​ยุโรป3ปีติดได้หรอกครับ

สิ่งที่ผมกลัวในการได้โค้ช​ low profile ที่มีปรัชญา

ชัดเจนอย่างโซลชากับบีร็อดคือ​ การสูญเสียแนวทาง

การทำทีมของตัวเองมากกว่าครับ​ ด้วยการที่ประสบการณ์​

ยังน้อย​ ยังไม่ประสบความสำเร็จกับแนวทางที่ตัวเองใช้

อาจทำให้หลงไปเปลี่ยนทางที่มันดีให้แย่ลง​ อย่างBRที่ท่านว่า

ผลงานดิ่งลงก็เพราะเปลี่ยนแนวทางการเล่​น เพราะแนวทาง

เดิมมันได้แค่เกือบประสบผลสำเร็จ(อาจเพราะซัวเรสด้วย

ส่วนนึง)​ โซลชาก็กำลังเป็นแบบนั้นครับ​ เปลี่ยนแนวทาง

ไปเล่นรับมากขึ้น​ โต้กลับมากขึ้น​ ทั้งๆที่ปรัชญาการทำทีม

ที่โมลผมว่ามันดีและทันสมัยอยู่แล้ว​ ถึงลีคจะคนละเกรดก็ตาม