7 ของสุดแปลกที่พบใน “จิ๊มิ๊” ผู้หญิง ยัดเข้าไปได้ไงวะเนี่ย?!!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Channel Whoask นะครับ อวัยวะในร่างกายคนเราก็นับว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่เหนือล้ำจินตนาการอย่างมากเลยล่ะ ยกตัวอย่างเช่น เส้นเลือดในร่างกายคนเรา ที่มีความยาวรวมกันทั้งหมดถึง 96,500 กิโลเมตร หรือหัวใจที่สามารถสูบฉีดเลือดวันนึงได้ถึง 2,000 แกลลอน แต่ที่เราจะพาทุกคนไปดูวันนี้ไม่ใช่เรื่องสุดเบสิกอะไรแบบนี้แน่นอน เพราะมันเป็นเรื่องของอาโบ๊ะจะมะผู้หญิงล้วนๆ เลยล่ะ กับ 7 สิ่งของสุดแปลกที่พบในจิ๊มิ๊ผู้หญิง แต่ละอันเอาเข้าไปได้ยังไงวะเนี่ย
ใครที่ขี้เกียจอ่านสามารถดูคลิปแทนได้เลยคร้าบ
7. โทรศัพท์มือถือ

ใครจะไปเชื่อกันว่าโทรศัพท์มือถือเครื่องเบ้อเร่อเท่อที่เราเห็นๆ กันอยู่เนี่ยมันจะเข้าไปอยู่ในจิ๊มิ๊ของผู้หญิงซะอย่างงั้น เพราะมันดูไม่สมเหตุสมผลอะไรเลยจริงป่ะ จะว่าเอาไปช่วยตัวเองก็ไม่ใช่แน่ๆ และที่มาที่ไปของเหตุการณ์นี้ก็คือ ในร้านอาหารแห่งนึงในประเทศโรมาเนีย ดันเกิดเหตุมือถือของคนในร้านหายไป ก็หากันตั้งนาน งมกันทั้งร้านก็หาไม่เจอ แต่เค้ามั่นใจว่าไม่ได้ทำหายแน่นอนเจ้าตัวเลยตัดสินใจแจ้งตำรวจ พอตำรวจมาถึงก็เลยสั่งให้เจ้าของเครื่องโทรเข้าเบอร์ตัวเอง สรุปเสียงโทรศัพท์ดันไปดังอยู่ใต้กระโปรงผู้หญิงคนหนึ่ง พอค้นตัวกันไปค้นตัวกันไป สารเจ้าก็เลยสารภาพว่าเธอเอาโทรศัพท์ไปยัดไว้ในนั้นเพื่อจะได้ทำการขโมยออกไป ถ้าคุณเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนั้นจะกล้าใช้งานกันต่อมั้ยเนี่ย
6. กุญแจรถ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับสาวคนหนึ่งที่อารมณ์ร้อนแบบสุดๆ ไม่ได้ร้อนเนื้อร้อนตัวแบบที่คิดกันนะครับ แต่เป็นอารมณ์หัวร้อนเพราะทะเลาะกับแฟนเนี่ยแหละ หลังจากมีปากเสียงกันอยู่นาน ต่างฝ่ายก็ต่างไม่ยอมกัน พอเถียงกันไปมาจนเดือดได้ที่ทั้งคู่ ผู้ชายก็เลยปรี๊ดแตก จะไปคว้ากุญแจรถเพื่อขับรถหนีปัญหาชีวิต ณ จุดนี้ออกไปให้พ้นๆ แต่ไม่รู้ว่าเป็นโชคดีหรือโชคร้ายของฝ่ายหญิงกันแน่นะครับ ที่มือเธอดันไวกว่า เลยคว้ากุญแจรถได้ก่อน แล้วไม่พูดพร่ำทำเพลงอะไรให้เจ็บคอ เทอก็ยัดกุญแจรถเข้าหว่างขา ใส่เข้าไปในจิ๊มิ๊ทันทีเพื่อปิดประตูหนีให้กับฝ่ายชาย ทีนี้จะเอาคืนก็คงไม่ง่ายแล้วล่ะครับ เพราะเข้าไปลึกสุดในขนาดปูพงษ์สิทธิ์ยังต้องยอมแพ้
แต่เหตุการณ์สุดเพี้ยนนี้ยังไม่จบ เพราะไม่ใช่แค่แฟนของเธอเท่านั้นหรอกนะที่เอากุญแจออกไปไม่ได้ ตัวเธอเองก็เอาออกไม่ได้เช่นกัน ทำให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต สุดท้ายก็ต้องไปโรงบาล
5. มีด
แค่นึกภาพว่ามีมีดเข้ามาแทงท้องนี่ก็หลอนจะแย่อยู่แล้วนะครับ ยังต้องมาจินตนาการว่ามีดเข้าไปอยู่ในจิ๊มิ๊ผู้หญิงอีกเหรอวะเนี่ย ซึ่งเหตุการณ์นี้ขอบอกว่าน่ากลัวสุดๆ แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่คิดกันหรอกครับ เพราะสาวจากฟลอริดาคนนึงเธอได้เข้าไปซื้อบุหรี่จำนวนมากเลยนะ ซื้อเยอะจนผิดสังเกต ดูมีพิรุทมากๆ จนตำรวจต้องเข้าไปสอบถามเธอว่ามีอะไรให้ช่วยมั้ย แล้วก็จับสงสัยได้ทำให้ต้องขอค้นร่างกายเธอ ซึ่งหลังจากค้นตัวได้สักพักก็พบว่าเธอพกอาวุธมีดเหน็บไว้ในชั้นระหว่างพุงตัวเอง
ถ้าเรื่องจบแค่นี้ก็คงไม่มีอะไรให้เราตื่นเต้นกันหรอกจริงมั้ย แต่เพราะเมื่อตำรวจค้นร่างกายไปเรื่อยๆ ก็ต้องตกใจสุดๆ เพราะเธอยังพกมีดอีกเล่มหนึ่งไว้ในช่องคลอดของตัวเองด้วย บ้าไปแล้ว
4. ขวดแก้ว
เราเองก็คงคุ้นหน้าคุ้นตากับขวดน้ำอัดลมแบบแก้วกันดีอยู่แล้วล่ะเนอะ ที่มันขายตามร้านของชำ เปิดขวด เทใส่ถุง ให้ชื่นใจเนี่ย ซึ่งทรงของมันปลายหัวก็จะเรียวๆ หน่อย แล้วค่อยขยายมาใหญ่ เหมาะสำหรับสอดใส่เป็นที่สุด ซึ่งสาวคนนี้ก็ไม่รู้นึกพิเรนทร์อะไรเหมือนกันนะ เธอทำการทดลองยัดขวดน้ำอัดลมเข้าร่างกายตัวเองทางน้องสาว
ซึ่งถ้ามันเป็นการยัดปกติก็คงไม่น่าแปลกใจอะไรหรอก เพราะขนาดดิลโด้อันใหญ่กว่านี้ตั้งเยอะหนังโป๊เค้ายังยัดกันได้ แต่ที่ต้องบอกว่าสยองสุดๆ ก็เพราะขวดน้ำอัดลมที่เข้าไปเนี่ยมันดันเกิดภาวะสุญญากาศขึ้นเนี่ยแหละ เลยทำให้ขวดมันติดหนึบกับน้องสาวของเธอแบบขยับเขยื้อนหรือเอาออกไม่ได้เลย ทำให้สาวผู้เคราะห์ร้ายรายนี้เธอต้องตัดสินใจโทรเรียกรถพยาบาล และถูกหามส่งโรงบาลทันที โดยเคสนี้ก็กลายเป็นกรณีศึกษาและทำคุณหมอต้องออกมาเตือนผู้หญิงทั้งหลายให้อย่าเอาอะไรแปลกปลอมยัดเข้าสู่ร่างกายตัวเองเด็ดขาด
3. โปสเตอร์
โปสเตอร์ติดฝาหนังบ้านกับน้องสาวของผู้หญิงดูจะไม่ใช่อะไรที่เหมาะสมกันสักเท่าไหร่ คือมันไม่เมคเซนส์เอาซะเลยดีกว่าว่ากันง่ายๆ เพราะโปสเตอร์มันไว้ใช้ติดฝาผนัง แล้วมันจะไปอยู่ในนั้นได้ยังไง จริงมั้ย โดยเคสนี้น่ะครับเกิดขึ้นจริงออกอากาศในประเทศอังกฤษเองเลย ซึ่งเหตุการณ์มันเกิดขึ้นจากการที่สาวคนนึงเธอถูกส่งตัวมาที่ห้องฉุกเฉิน ด้วยสาเหตุที่ว่า เธอมีอาการปวดน้องสาวอย่างรุนแรง ได้ยินดังนั้นคุณหมอก็เลยทำการลงมือตรวจสอบหาสาเหตุ
และสิ่งที่พบก็ต้องทำให้ทุกคนตกใจ เมื่อโปสเตอร์นักร้องหนุ่มดันไปอยู่ในช่องคลอดของเธอซะอย่างนั้น ทำเอาหลายคนหลอนกันไปเลยว่ามันเข้าไปอยู่ได้ยังไง เธอคิดอะไรอยู่ขณะที่ยัดมันเข้าไป เป็นอีกหนึ่งอุทธาหรณ์สอนหญิงเลยว่า อย่านำอะไรยัดเข้าไปมั่วซั่วถ้าไม่จำเป็น
2. ที่ม้วนผม
อีกหนึ่งเหตุการณ์เกี่ยวกับการล้วง ยัด งัด แคะ สำหรับสาวๆ ที่ดูแล้วออกจะน่าหวาดเสียวเป็นไม่น้อย กับเรื่องราวของสาวคนหนึ่งซึ่งรูมเมทของเธอได้ออกมาบอกเรื่องนี้ในเว็บไซต์ Reddit ว่า แม่สาวคนนี้เป็นอะไรก็ไม่รู้ อยู่ๆ ก็นึกคึกคะนองเอาที่ม้วนผมมียัดใส่เข้าไปในน้องสาวตัวเอง แถมความพีคมันอยู่ตรงที่ ที่ม้วนผมอันนั้นเพิ่งใช้เสร็จใหม่ๆ มาหมาดๆ ความร้อนก็ยังมีอยู่ ด้ามจับก๊ยังอุ่นๆ เธอคงคิดว่ามันจะฟินได้ที่เลยเอาใส่เข้าไปซะเลย
สุดท้ายความสนุกกลับสิ้นสุดที่การเจ็บตัว เพราะรูมเมทเธอคนนี้แหละที่ต้องโทรตามรถฉุกเฉินมาช่วยนำตัวเธอส่งโรงพยาบาล เพื่อเอามันออกมา จริงๆ เรื่องนี้คงไม่ต้องเตือนหรอกเนอะเพราะเชื่อว่าไม่มีใครทำแบบนี้อีกแล้วล่ะครับ
1. ไส้กรอก
และเรื่องสุดท้ายนี้ก็มาจากปากคำคุณหมอผู้ช่วยชีวิตเองเลยล่ะครับ โดยคุณหมอเล่าว่า เค้าเคยเจอเคสสุดแปลกที่เริ่มต้นเปิดฉากมาเหมือนกับเคสอีกนับร้อยที่เค้าเคยเจอ แต่สิ่งที่ทำให้มันแตกต่างก็คือ คนไข้รายนี้เดินเข้ามาด้วยอาการปวดท้อง ซึ่งเธอบังเอิญเป็นเพื่อนเก่าของหมอสมัยเรียนชั้นมัธยมด้วยกัน หมอก็เลยดีใจมากที่ได้เจอเพื่อนเก่า
แต่กลับกันสาวเจ้ากลับทำหน้าเหยเกและกระอักกระอ่วนเหมือนไม่ค่อยดีใจเท่าไหร่ที่ต้องมาเจอกันในสถานการณ์แบบนี้ ซึ่งถึงแม้คุณหมอจะรับรู้ได้ทันทีจากบรรยากาศรอบตัว แต่เค้าก็ไม่ได้ถามอะไรออกไป นอกจากวินิจฉัยโรคของอาการปวดท้องที่เพื่อนเจอ ซึ่งสุดท้ายคุณหมอก็พบว่าที่เพื่อนเก่าเค้าดูไม่ค่อยอยากคุยด้วยก็เพราะ จริงๆ แล้วเธอไม่ได้ปวดท้อง แต่เพราะเธอมีบางสิ่งติดอยู่ในจิ๊มิ๊ต่างหาก
และจุดพีคคือ สิ่งแปลกปลอมอันนั้นมันดันเป็นไส้กรอกเนี่ยแหละครับ สภาพแบบหักคาอยู่ครึ่งนึงแล้วเอาออกไม่ได้ ลำบากคุณหมอต้องมาทำทุกวิถีทางเพื่อเอามันออก นับว่าเป็นการรียูเนียนพบเจอเพื่อนเก่าที่ไม่ค่อยน่าประทับใจสักเท่าไหร่เลยล่ะ
นับว่าเป็นความแปลกที่สุดแสนจะอันตรายมากเลยนะครับกับสิ่งของเหล่านี้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ อย่าเอาสิ่งแปลกปลอมสอดใส่เข้าไปในร่างกายจะดีที่สุดนะ ขอเตือนด้วยความหวังดี และก่อนจากกันไปวันนี้ ก็ขอความกรุณาเพื่อนๆ ทุกคนช่วยกดซับสะไคร้ให้กับชาแนลน้องใหม่ของผมด้วยนะครับ สัญญาว่าจจะผลิตเรื่องราวดีๆ ออกมาให้ได้ชมกันอย่างต่อเนื่องเลยยยย
YouTube Channel :
https://www.youtube.com/channel/UCfE4hlMSjCQ9rXOtivnY2Xw?sub_confirmation=1
Facebook Page :
https://www.facebook.com/whoaskk/