เกรดเป็นแค่ตัวกรองว่ามีคุณสมบัติผ่านเบื้องต้นรึเปล่าแค่นั้นครับ มันคัดคนได้ดีระดับนึง ทำให้มีโอกาสและตัวเลือกมากกว่าคนเกรดน้อย แต่พอทำงานจริงๆเกรดไม่ได้ช่วยไรมากแต่มันก็การันตีพื้นฐานได้ว่าเจองานแบบนี้ควรจะทำอย่างไร
สรุปเกรดสูงๆมีประโยชน์จริง

เกรดยังไงก็เกี่ยวครับเพราะเป็นใบเบิกทางสำหรับที่ทำงานเเรก ยกเว้น จขกท จะเรียนสายที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นหลักพวกออกเเบบ ถ่ายรูป นิเทศ อันนั้นอาจต้องทำโปรไฟล์เก็บผลงานเเทน

ในความเป็นจริงถ้าคุณลองสมัครเข้าบริษัทใหญ่เเละเป็นสากลที่เค้ามีสิทธิ์เลือกผู้สมัครงาน ส่วนใหญ่มองเกรดกับชื่อมหาวิทยาลัยก่อนด้วยซ้ำ ไม่อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดก็อดไป

ความสำคัญของเกรดจะหมดไปเมื่อท่านมีประสบการณ์ทำงานเเละย้ายงาน อันนี้อยู่ที่ตัวบุคคลเเล้วคับ อันนี้จากประสงการณ์จริง

ปล. ตอบจขกท. ถ้าเป็นผมผมเอา 3.25 นะ เพื่อนผมที่จบมาด้วยกันมีคนเลี่ยงลงวิชาสำคัญไปเเล้วไปลงวิชาสายสังคมเพื่อปั้นเกรด วิชายสายสังคมมันกลายเป็นหน่วยกิตไล่ๆวิชาภาคเลย เกรดมันก็ประมาณ 3 กว่า มันยังบอกเองเลยว่ารู้สึกกลวงๆ+ที่ทำงานตอนสมัครงานเค้าก็ถามเรื่องนี้อยู่

นั่นสิ แต่เลือกเข้าทำงานไม่เท่าไร แต่นี่มีผลกับเงินเดือนเฉย

ผมทำสำนักงานใหญ่แบงค์แห่งหนึ่ง

เข้าทำงานหลังเพื่อนที่ทำที่นี่มาก่อน แต่ฐานสตาร์ทสูงกว่าเพราะมหาลัยกับเกียรตินิยม

เกรดเกี่ยวแค่งานที่แรกจริงๆครับ พอหลังจากนั้นไม่ดูละ ดูที่ประสบการณ์การทำงานล้วนๆ

ปล. จากผม เกรด2.2 มอย่านคลอง6 55+

แต่ถ้าเลือกได้ เลือก3.6 ครับบ

คหสต. นะครับ อาจจะแรงไปนิด

ถ้าตามที่ท่านบอกก็จริงครับ

เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกใจอ่ะนะที่บริษัทใหญ่ๆเค้าเลือกกรองชื่อมหาลัยก่อน

ถามว่าชีวิตยึดติดกับเกรดไหม ก็ไม่ใช่ครับ เพราะหลักๆเกรดน่ะเค้าดูแค่ตอนจบใหม่ๆ หลังจากนั้นเค้าดูประสบการณ์

เกรดบอกอนาคตไม่ได้หรอกครับ เพราะไม่มีใครรู้

แต่มันบอกสิ่งที่ ‘เราทำมาจริงๆในอดีต’ ต่างหากครับ

ถ้าคุณรับคนเข้าทำงานคุณจะเลือกใครครับ ท่านจะเชื่อคนขายฝันที่ในอดีตยังไม่ได้แสดงอะไรให้เห็นหรอ

เลือกได้ เลือกเกียรตินิยมเพราะมีภาษีกว่า

ยังงงอยู่ ที่มีคนคิดว่าเกรด ไม่มีผลต่อการทำงาน

แค่ปลอบใจตัวเองหรือป่าว

3.60/4.00 สิครับ


เคยเห็นประกาศรับสมัครงาน ระบุว่า "ต้องได้เกียรตนิยม" มั้ยครับ .... ผมไม่เคยเห็นนะ ผมเคยเห็นแต่ระบุเกรด เช่น PTT SCG มันระบุมาเลยว่าต้องเกรดเท่าไหร่


เวลาผม Screen คน มาสัมพาษณ์ ผมไม่ได้ดู "เกียรตนิยม" เลยครับ ผมดูแต่เกรด หรือตอน HR, Head Hunter ส่งมาให้ CV มาให้ ใบปะหน้า ก็ระบุมาแค่เกรดนะครับ
ไม่มีแบบ 3.38 (2nd Class Honor), 3.64 (1st Class Honor), 3.5

คุณจะได้พูดถึงเกียรนิยม ก็ตอน ได้เข้า สัมพาษณ์งาน แล้ว แค่นั้นแหละครับ แต่ขั้นตอนก่อนหน้านั้น ผมกล้าการันตีว่า เกรดล้วนๆ

แล้วผมขอแนะนำเลยนะครับ ถ้าคุณยังเรียนอยู่ ทำเกรดให้สวยไว้ก่อนครับ


เอาตรงๆนะครับ ผมก็จบมา ได้เกียรตินิยมอันดับ 2 จากมหาลัยมีชื่อ


เวลา สัมพาษณ์งาน ฝรั่ง หรือ คนญี่ปุ่นมันไม่เห็นดูเกียรตนิยมเลย ...... มันไปดูเกรด


เคยบินไปสัมพาษณ์งานที่ SG เป็น บ.ของ US ฝรั่ง มันหยิบ Transcript ไปไล่ดูทีละวิชาเลย ว่าได้เกรดอะไรบ้าง .... งงเลย ( สัมพาษณ์มาก็เยอะ พึ่งเคยเจอพวกไล่ Transcrpit ดู )

อ้าวผมนึกว่าส่วนมากมหาลัยจะกำหนด ว่าถ้าได้ D จะไม่ได้เกียรตินิยมเป็นส่วนมากสะอีก

ปล.มหาลัยดัง ภาคใต้

555 หมายถึงยังไงครับ เทอันดับ1 เอาอันดับ2
ผมหมายถึงว่า เขาจะมองแตกต่างกันขนาดไหนครับ ระหว่างอันดับ 1 - 2

ขอบคุณสำหรับความเห็นครับ

อธิบายได้ดีครับ ให้ 20

ผมว่ารอเท่ากันยังไงก็ต้องมานั่งรอคนอื่นรับอยู่ดี555

เห็นด้วยครับ ยิ่งถ้าคนพูดเก่งๆจะทำให้ได้คะแนนเยอะโคตรๆ

ตอนปี 1 ลั่นกับพ่อแม่แบบจริงจังไว้ว่าจะจบเกียรตินิยมอันดับ 2 เพราะตอนนั้นอยากทำงานเอกชน เกรดน่าจะสำคัญ ท่านก็หัวเราะแบบสบประมาทบอกเอาเรียนจบก็พอ

พอเรียนมาเรื่อยๆ ความคาดหวังจากคนรอบตัวอยากให้ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 ก็มาเรื่อยๆ เกรดก่อนเทอมท้าย 3.47 ขาดแค่ 0.3 จะได้ 3.5 เกียรตินิยมอันดับ 1

ผมไม่อยากใช้ชีวิตตามที่ใครคาดหวัง ก็เลยไม่ใส่ใจไรกับเทอมท้ายมาก เกรดเทอมท้ายค่อนข้างเละ แต่สุดท้ายก้อจบ 3.46 ได้แค่เกียรตินิยมอันดับ 2 ไป

ถ้าถามว่าแตกต่างไหม ผมว่าแตกต่างนะ ตอนรับปริญญาจะอยูแถวหน้าๆตามลำดับเกียรตินิยม เกียรตินิยมอันดับ 1 จะได้เหรียญเรียนดีเป็นที่ระลึก

ส่วนเวลาไปสมัครงานเอกชน ก็เป็นปัจจัยนึงที่ใช้พิจารณรับทำงาน และถ้าท่านสมัครงานผ่านบางที่เขามีค่าเกียรตินิยมให้เพิ่มด้วยนะ

แต่ถ้าข้าราชการก็ไม่มีผลครับ เพราะเขาดูวุฒิว่าตรงกับที่รับสมัครไหมกับลำดับคะแนนได้เท่าไร ไม่ได้สนใจเกียรตินิยมอะไร

เอาเป็นถ้ามีโอกาสก็ตั้งใจเรียนให้ดีที่สุดจะดีกว่า ได้เกียรตินิยมก็ดีเพิ่มโอกาสหาง่านง่าย ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร