“มนุษย์ต่างดาว” ในทรรศนะ “สตีเฟน ฮอว์กิ้ง”
ชายผู้ไขความลับ ... แห่งจักรวาล !?
.
“สตีเฟน ฮอว์กิ้ง” นักฟิสิกส์ชื่อดังแห่งยุค
และผู้ไขความลับแห่งจักรวาล จากไปอย่างสงบ
ในวัย 76 ปีที่บ้านพักของเขาในเมืองเคมบริดจ์
ประเทศอังกฤษ เมื่อวันพุธ (14 มี.ค.)
ตามเวลาท้องถิ่น ตามแถลงการณ์ของครอบครัว
.
สตีเฟน ฮอว์กิ้ง เป็นศาสตราจารย์
ประจำมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เขาเป็นที่รู้จัก
จากการทำนายเชิงทฤษฎีที่ว่า หลุมดำควรปล่อยรังสี
ซึ่งปัจจุบันมีชื่อว่า รังสีฮอว์กิ้ง และเขายังเป็น
ผู้เขียนหนังสือ A Brief History of Time
ซึ่งกลายเป็นหนังสือขายดี นอกจากนี้
เขายังเป็นที่รู้จักทั้งในแง่วิชาการ
และความมีอารมณ์ขันอีกด้วย
ขณะที่เขาต้องต่อสู้กับโรคเซลล์ประสาทนำคำสั่งเสื่อม
(Motor Neurone Disease-MND )
หรือโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงมาเกือบชั่วชีวิต
.
เป็นที่น่าสนใจว่า “สตีเฟน ฮอว์กิ้ง”
นักฟิสิกส์ดาราศาสตร์เลื่องชื่อชาวอังกฤษ
ถูกสอบถามเรื่อง “สิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญา”
จากต่างดาวอยู่บ่อยครั้ง และแทบทุกครั้ง
นอกเหนือจากการแสดงความเห็นในเชิง “เป็นไปได้”
ที่จะปรากฏอารยธรรมต่างดาว ซึ่งมีสิ่งมีชีวิต
ที่ก้าวหน้ามากพอที่จะท่องไปทั่วจักรวาลแล้ว
ฮอว์กิ้งไม่ลืมที่จะแสดงความ “กลัว” ในการเผชิญหน้า
กับ “มนุษย์ต่างดาว” เหล่านี้เอาไว้ด้วยทุกครั้งไป
.
ย้อนกลับไปในการถ่ายทำภาพยนตร์สารคดี
แนววิทยาศาสตร์-ดาราศาสตร์ให้กับ “คิวริออสซิตีสตรีม”
ผู้ให้บริการวิดีโอผ่านเว็บไซต์ www.curiositystream.com
ชื่อ “สถานที่ยอดนิยมของสตีเฟน ฮอว์กิ้ง”
ความยาว 26 นาที นักวิทยาศาสตร์
ที่ได้ชื่อว่า ชาญฉลาดที่สุดผู้หนึ่งนับตั้งแต่
อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ก็มีโอกาสได้สอดแทรก
ความคิดเห็นเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว
เอาไว้อีกครั้งด้วยคำเตือนเช่นเคย
.
ภาพยนตร์สารคดีดังกล่าว เขียนเรื่องให้ สตีเฟน ฮอว์กิ้ง
ขึ้นยานสำรวจอวกาศห้วงลึกชื่อ “เอส.เอส. ฮอว์กิ้ง”
เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบ 5 จุด
ประกอบด้วย การเดินทางไปสังเกตการณ์
การเกิด “บิ๊กแบง” ที่เป็นจุดเริ่มต้นกำเนิดจักรวาล,
การเดินทางไปเยี่ยมชม “มอนสเตอร์แบล็กโฮล”
หลุมดำขนาดมหึมา ที่ตั้งอยู่ใจกลางกาแล็กซี
ทางช้างเผือก, การเดินทางไปเยือน “กลีเซ 832ซี”
ดาวเคราะห์คล้ายโลกนอกระบบสุริยะ
ที่นักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่า สามารถเป็นแหล่งอาศัย
ของสิ่งมีชีวิตได้ หลังจากนั้นก็เดินทางทัวร์ “ดาวเสาร์”
ซึ่งอยู่ภายในระบบสุริยะเดียวกับโลกเรา
สุดท้ายจึงร่อนลงจอดยัง “ซานตา บาร์บารา”
ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งฮอว์กิ้ง
เคยไปใช้ชีวิตอยู่ชั่วขณะหนึ่ง เมื่อได้รับ
การทาบทามจาก สถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย
(แคลเท็ต) ให้ยกครอบครัวไปทำงานที่นั่น
.
ขณะเดินทางไปเยี่ยมชมอารยธรรมต่างดาว
ที่สร้างขึ้นตามจินตนาการของศิลปิน
ด้วยเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์กราฟิก (ซีจี)
บน กลีเซ 832ซี สตีเฟน ฮอว์กิ้ง กล่าวกับผู้ชมว่า
วันหนึ่ง เราอาจได้รับสัญญาณจากดาวเคราะห์
เหมือนเช่นดาวเคราะห์ดวงนี้
.
“แต่ถ้าจะตอบกลับสัญญาณดังกล่าว
เราควรระมัดระวัง การเผชิญหน้ากับอารยธรรมต่างดาว
ที่มีความก้าวหน้า อาจลงเอย เหมือนกับการที่
ชนพื้นเมือง อเมริกันเผชิญหน้ากับ (คริสโตเฟอร์) โคลัมบัส
ผลที่เกิดอาจไม่ดีนัก” ฮอว์กิ้งกล่าว
.
ความกลัวต่อมนุษย์ต่างดาวและอารยธรรมต่างดาว
ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นกับฮอว์กิ้ง ในสารคดีทางช่อง ดิสคัฟเวอรี
เมื่อปี 2010 สตีเฟน ฮอว์กิ้ง เคยให้เหตุผล
แห่งความกลัวเอาไว้อย่างละเอียดว่า
ถ้าหากสิ่งมีชีวิตทรงภูมิปัญญาในต่างดาวมีอยู่จริง
ในจักรวาลอันไพศาลนี้ มนุษย์ต่างดาวเหล่านั้นอาจ
“ไม่เป็นมิตร” อย่างที่มนุษย์บนโลกเราคาดหวังไว้ก็เป็นได้
.
-จินตนาการของศิลปินถึงการโจมตี
ของกลุ่มยานต่างดาวต่อโลกมนุษย์
.
ฮอว์กิ้งระบุว่า หน่วยสำรวจส่วนหน้า
ของอารยธรรมต่างดาวอาจตระเวนไปทั่วจักรวาล
ในยานอวกาศขนาดมหึมา เป้าหมายเพื่อแสวงหา
วัสดุที่เป็นประโยชน์ ต่ออารยธรรมของตน
หลังจากที่บริโภคทรัพยากรธรรมชาติ
บนดาวของตนเองจนหมดสิ้นแล้ว
.
“มนุษย์ต่างดาวที่มีความก้าวหน้า ทางวิทยาการดังกล่าวนั้น
อาจกลายเป็นชนเผ่าเร่ร่อนของจักรวาล
มองหาดาวเคราะห์สักดวงเพื่อเข้าพิชิต
เอาเป็นอาณานิคมของตัวเอง” ฮอว์กิ้งระบุ
.
“ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็มีความเป็นไปได้ว่า
มนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ อาจเข้าไปฉกฉวย
ประโยชน์จากดาวเคราะห์ใหม่ แต่ละดวงไปเรื่อยๆ
เพื่อประโยชน์ในการสร้างยานอวกาศเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
แล้วเคลื่อนกำลังต่อไป ใครจะไปรู้ว่า
ขีดจำกัดของพวกนี้อยู่ตรงไหน”
.
ในตอนหนึ่งของสารคดีชุดดังกล่าว สตีเฟน ฮอว์กิ้ง
ยังเสนอแนะไว้ด้วยว่า สายพันธุ์ทรงภูมิปัญญา
จากต่างดาวเหล่านี้ อาจมีความสามารถ
ในการเก็บเกี่ยวพลังงานจากดาวฤกษ์
ทั้งดวงไปเป็นของตัวเองได้
.
“เพื่อการนี้ พวกนั้นอาจเพียงแค่ติดตั้งกระจกสะท้อนแสง
นับล้านชิ้นไว้ในห้วงอวกาศ ล้อมดาวฤกษ์
ที่ตกเป็นเป้าหมายไว้ทั้งดวง ก่อนที่จะป้อนพลังงาน
ของดวงดาวที่รวบรวมได้ไปเก็บไว้
ในจุดเก็บรวบรวมเพียงจุดเดียว”
.
แนวความคิดเรื่องมนุษย์ต่างดาวของฮอว์กิ้ง
เป็นเพียง 1 ในหลายๆ แนวคิดในเรื่องนี้
โดยส่วนใหญ่แล้วนักดาราศาสตร์ทั่วไป เชื่อว่า
อารยธรรมต่างดาวใดๆ ที่มีขีดความสามารถเพียงพอ
ที่จะเดินทางข้ามอวกาศกว้างใหญ่ มายังโลกมนุษย์ได้
ก็ต้องมีความศิวิไลซ์เพียงพอ ที่จะก้าวข้ามความคิด
ทำลายล้างเพื่อยึดครองดังกล่าวไปได้แล้วเช่นกัน !!!
.....