ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 20500
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 14:34
ถูกแบนแล้ว
Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย
ขอตั้งอีกกระทู้เพราะเห็นช่วงเช้า มีคนอยากได้เป็นแบบภาษาไทย ผมเลยมาแปลให้

ผู้สันทัดภาษาอังกฤษเชิญดูคลิปด้านล่างไปเลย

Liverpool เริ่มต้นเกมด้วยแผนการยืน 4-3-3 แต่เวลาเล่นจริงในสนามนั้น เป็น 4-4-2 มากกว่า




ขณะที่ Man City มาในแผน 4-3-3 ที่ใช้ประจำ



ทั้งเป๊ปและ klopp ชอบเล่นเกมรุกและบีบสูง และทั้งคู่ก็เล่นตามนั้นในเกมนัดนี้

Man City เป็นทีมที่เชี่ยวชาญ ในการต่อบอลทำเกมขึ้นมาจากโกลและแผงหลัง

เป๊ปชอบใช้โกลและแผงหลังที่ถนัดเล่นบอลด้วยเท้า เวลาได้บอลแล้วไม่ล่ก และครองบอลดี เวลามีฝั่งตรงข้ามเข้ามาบีบสูง

แต่ City ประสบปัญหาในการทำเกมขึ้นมาจากแดนหลังในเกมนี้

เพราะงั้น Liverpool ทำยังไง ถึงบีบให้ City ทำพลาดระหว่างการทำเกมขึ้นมาได้?

Liverpool บีบสูงอย่างดุดัน และบีบกันเป็นหน่วยๆ ไม่ใช่แค่รายบุคคล



นักเตะ Liverpool ไม่ได้ประกบตัวที่จะมารับบอล แต่บีบคนที่ครองบอลอยู่ เป็นทีม



แล้วมันมีประโยชน์ยังไงกับ Liverpool ล่ะ?

การ Pressing ถูกแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
1. ให้คนเดียววิ่งไล่บอล ในขณะที่คนอื่นนั้น ไปประกบตัวที่จะมารับบอล
และแบบที่ 2 ที่ Barcelona ใช้เป็นประจำคือ
2. บีบผู้เล่นที่ครองบอลอยู่โดยบีบกันหลายคน บีบสุด และพยายามบังทางที่จะจ่ายบอล และไม่ให้เวลาครองบอลได้เลย

ถ้าใช้การบีบแบบแรกกับผู้เล่นแมนซิ ผู้เล่นแมนซิจะมีเวลาและพื้นที่เหลือเฟือ ในการทำเกมขึ้นมาได้

เพราะฉะนั้น Liverpool เลยใช้การ Pressing แบบที่ 2 เพื่อไม่ให้คนที่ครองบอลมีเวลาคิด มีเวลาครองบอล และทำเกม ด้วยการบังทางจ่ายบอลด้วย

อย่างในรูปนี้ ที่ฟิมิโน่วิ่งเข้าบีบสุด เพื่อไม่ให้คนที่ได้บอลอยู่ ได้มีเวลาหายใจหรือคิด



แต่ Ederson จ่ายออกมาด้านข้างได้ ในขณะที่ตัวอื่นของ Liverpool ก็บีบขึ้นมาเช่นกัน

เพราะฉะนั้น ทันทีที่ผู้เล่นแมนซิได้บอล ก็มีตัวผู้เล่น Liverpool คนนึง เข้าบีบแล้ว



และพอส่งไปให้กับกุนโดกัน ซึ่ง Gundogan ก็โดนประกบอยู่เช่นกัน เลยรีบจ่ายกลับไปให้ Fernandinho

พอ Fernandinho ได้บอลปุ้บ เขาก็ถูกประกบโดยผู้เล่น Liverpool 4 คน



ปกติแล้ว ถ้าใช้การ Pressing แบบที่ 1 คือเน้นประกบตัว Fernandinho และตัวผู้เล่นอื่น จะมีเวลาคิด และเลือกตัวจ่ายที่ขยับแล้วมีช่องได้

แต่เมื่อ Liverpool บีบกันหลายคน ทำให้ผู้เล่นตัวอื่นถูกปิดหมด ยกเว้น De bruyne



แต่ Fernandinho ถูกบีบเข้ามาเร็วมาก จึงทำให้ไม่มีเวลาเงยหน้าขึ้นมามองหาตัวที่ว่าง



ทำให้เขาจ่ายขึ้นไปข้างหน้า แล้วติด แต่ดีที่บอลกระดอนไปเข้าทาง Gundogan และชิ่งขึ้นมาให้ Delph ได้


และนี่ก็เหมือนเดิม คือมีผู้เล่น 3 ตัว กำลังประกบ Delph ที่ครองบอลอยู่ และบังทางจ่ายทั้งหมด ทำให้ Delph ต้องพาบอลขึ้นไปเอง


และในที่สุด Can ก็บีบเข้ามาจากด้านหลัง ทำให้ Man City เสียบอลไปจากการโดนบีบต่อเนื่อง



และนี่ไม่ใช่ครั้งเดียวที่ Man City เสียการครองบอล Liverpool ใช้วิธีเดิมตลอดทั้งเกม เพื่อทำให้ Man City นั้นเกิดความผิดพลาด

กลยุทธของ Liverpool นั้นเรียบง่าย คือพยายามตัดจุดเด่นที่สุดของ Man City ออกไปจากเกม

ซึ่งก็คือความใจเย็นเมื่อครองบอลอยู่ การมีเวลาคิดเมื่อมีบอล

แทนที่จะให้ผู้เล่น Man City มีเวลาคิด Liverpool นั้นบีบเร็วกันทีละหลายๆคน เพื่อไม่ให้มีเวลาครองบอลเลย

อ่าว งี้บางคนอาจจะคิด แล้วการบีบสูงของ Man City ล่ะ? มาดูความแตกต่างของ 2 วิธีการ Pressing กัน

Liverpool แย่งบอลมาได้ และมีแค่ Sane ที่ Pressing อยู่ ในขณะที่ Delph นั้นรีบวิ่งกลับไปในแนวรับ ในขณะที่ฟูลแบคของ Liverpool นั้นยัง Pressing อยู่



ทำให้ Matip จ่ายไปให้ Ox แล้ว Ox เลี้ยงบอลหนี Gundogan ที่เข้าบีบ จนบอลมาถึง Wijnaldum ที่จ่ายออกไปให้ Robertson

เมื่อบอลถึง Robertson คนที่เข้ามา Pressing มีแค่ Sterling



ทำให้สถานการณ์เป็นการบีบแบบ 1 ต่อ 1



การ Pressing ของ Man City นั้น ส่วนใหญ่เป็นการบีบแบบ 1 ต่อ 1 ซึ่งหมายถึง มีคนเดียวไล่บีบ ตัวที่ครองบอลอยู่ของ Liverpool

ในขณะที่การบีบของ Liverpool นั้น เป็นลักษณะ 3 ต่อ 1 หรือ 4 ต่อ 1 และพยายามจะรุมคนที่ครองบอลอยู่

และในเมื่อคนที่ครองบอลอยู่โดนปิดทางจ่ายบอลหมด เขาก็จะโดนบีบให้จ่ายเสีย หรือทำพลาด

ปกติคุณไม่ค่อยเห็น ทีมไหน ชนะด้วยการ Pressing หรอก แต่เกมนี้ Liverpool ทำได้ดีกว่า City ก็เพราะการเตรียมการ Pressing ที่ดี

Liverpool พยายามใช้บอลยาวจากแนวหลัง เพื่อคลายความกดดัน จากที่ Man City Pressing เข้ามา และพยายามเก็บจังหวะสอง

จากรูปคือการโยนข้าม แผงของ City ที่ขึ้นมาบีบ ด้วยบอลยาว และทีนี้ก็พยายามเก็บจังหวะสอง



Otamendi โถมตัวโหม่งบอล แต่ จังหวะสอง เป็น Firmino ที่เก็บบอลได้ และจ่ายให้กับ Ox



พอ Liverpool เก็บบอลได้ จะสวนกลับ ก็แค่ต้องเอาชนะแผงหลังของ City เพราะแนวกองกลางของ City ถูกบอลยาว โยนข้ามมาแล้ว


แผงหลังของ City นั้นยังยืนอย่างเหนียวแน่น แต่ Salah นั้นฉีกอยู่ริมเส้น ทำให้ Otamendi ต้องคอยพะวงที่จะตาม Salah อยู่ ทำให้ Ox มีพื้นที่


Otamendi ออกไปประกบ Salah ทำให้พื้นที่เปิดว่าง ให้ Ox เลี้ยงลุยเข้าไปได้


พอ Ox เลี้ยงเข้าไป Otamendi ก็ต้องกลับมาตำแหน่งเดิมช้า ทำให้ Ox มีจังหวะซัด ตู้ม เป็นลูกแรก



ปกติแล้ว กองกลาง จะถอยลงมาต่ำมาก เวลาที่คู่ต่อสู้โยนยาว

แต่เราเห็นในเกม Palace กับ Man City เช่นกันที่ Palace ใช่วิธีเดียวกัน เพราะกองกลางของ Man City ไม่กลับมาป้องกัน เวลาโดนโยนยาวใส่

และถึงแม้ กองหลัง ของ City จะโหม่งได้ แต่ในเมื่อกองกลางไม่มี

ทำให้ไม่มีใครลงมาเก็บบอลจังหวะสองได้เลย

เพราะงั้น Palace ก็ได้ใช้วิธีเดียวกันคือ โยนข้ามแผงกองกลาง และพยายามเก็บจังหวะสอง เพื่อสวนกลับใส่ City

ในขณะที่ City ใช้วิธีรุกเดิม ซึ่งทำให้เขา ประสบความสำเร็จเป็นจ่าฝูงอยู่ในหัวตารางอยู่ทุกวันนี้

โดยให้ปีกถ่างออกเพื่อดึง ฟูลแบ็คคู่ต่อสู้ออกมา ทำให้เกิดช่องว่าง ระหว่างฟูลแบ็ค กับ เซนเตอร์ของฝั่งตรงข้าม ทำให้กองกลางของ City เจาะเข้าไปได้

Sterling ยืนฉีกออกกว้าง ทำให้ Robertson ต้องออกไปประกบ



เมื่อ Robertson ออกไปประกบ Sterling ทำให้มีพื้นที่มหาศาลสำหรับ De bruyne อย่างที่ Man City ทำเป็นประจำทุกเกม



Sterling และ Sane ถ่างออกริมเส้นสุดๆ ทำให้มีช่องระหว่างฟูลแบ็ค กับเซนเตอร์

ลูกที่ City ตีเสมอ 1-1 ก็เช่นกัน Sane ฉีกออกด้านข้าง ทำให้กองกลางของ City มีพื้นที่ในการสอดเข้าไป



แต่ Gomez มองบอลตลอดเวลา ทำให้ไม่เห็น ว่า Sane กำลังขยับไปทางไหน

และในระหว่างที่ Gomez คลาดสายตาไป Sane นั้นได้ผ่านไปแล้ว





วิ่งเข้าไปในพื้นที่ ที่เขาเองได้สร้างไว้ในตอนแรก


และก็ ตู้มม โกลหน้าหล่อตรู กลายเป็นหน้าเหวอเลย


และอีกครั้ง ที่ City จ่ายพลาดเข้าเท้า Mane เพราะโดน Pressing จาก Liverpool แต่ลูกนี้ Mane ซัดชนเสา ทำให้รอดตัวไป




และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่ City โดนรุมบีบ เพราะแนวรุก ไม่ได้ถอยลงมาช่วย



ทำให้จ่ายติด Salah



และ Salah จ่ายให้ Mane ซัดด้วยซ้าย ตู้มม เข้าไป



สรุปนะฮะ City ชอบเล่นเกมรุก แต่เกมนี้มันเป็นผลเสียกับทีมเอง เพราะเราเห็นกันครั้งแล้วครั้งเล่า ที่แนวรุก City ไม่ได้ลงมาช่วยแผงหลังเลย

ในขณะที่ Liverpool ตัวผู้เล่นแนวรุก ลงมาช่วยกองกลาง และกองกลางขยับขึ้นไปช่วยบีบกับแนวรุก

เป๊ปนั้นถูกขนานนามในการเปลี่ยนแทคติก แต่ระหว่างเกมนี้ เขาไม่ได้เปลี่ยนอะไรจากเกมที่ผ่านๆมาเลย

หรืออาจเป็นเพราะ เขายังไม่ได้แพ้เลยสักเกม ทำให้เขาคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไร

แต่อย่างไรก็ตาม Credit นั้น ตกอยู่กับ Klopp ที่ไม่ให้ City ใช้จุดแข็งของตัวเอง และถูกบีบให้เสียบอล จนกลายเป็นจุดอ่อนไปเลย

ความถนัดของ City คือการ ค่อยๆต่อบอลขึ้นมาจากแนวรับ และการบีบสูง Liverpool พยายามรุมเข้าไป และไม่ให้เวลาผู้เล่น City ครองบอล บีบให้ City นั้นพลาด

Credit จาก Video channel www.youtube.com/nouman94

คนแปล: ตรูเอง


แก้ไขล่าสุดโดย MiLDiiZ เมื่อ Wed Jan 17, 2018 15:06, ทั้งหมด 2 ครั้ง
113
0
หากโดน 193 เรื้อน จะถูกแบน
Lavigne , zmyx28 , Galuliony , threesmart , ฉันเหนื่อย , BuSu , ก้อง ณ พัทลุง , Radiant , Megalomania , งักกี้ซัง , ★จอห์นミเล่นหนอน★ , kathany , ลิงกินขี้ , โสยบอย ไม่เคย ไม่กล้า , Te Saksan , Sologood_Return , angrybirds , I'm Henry , free notes , Aduka , Crankhead21 , ฉงน , torcw , nwd- , Wayland , l3igboss , ผมเป็นคนชอบJET , KIATTISAK , k-wiiTz , Fatduck , JummaTaeng , Luis Toomrez , zasd , JokeCupZ , noneluck , REPRESENT , Juve_Del , joe88 , Sharkky , vit_bank , NickValensi , WORLD_CLASS , อู๊ดจู๊ด , jojoyim , Game_thekop , rushrain , Photo-lomo , Payetllu่uou , taefowler , Choi Je Jin , ApachE1892 , pstp , Coffee_ART , OBSiDian , tee_ko , Dark Schneider , MiNAMino_ , Brendan Rodger , pong700 , B-be Berriez'z , SeoYoonYul , AlexRiderStormBreaker , ติ่มซำ , sl2eaMs , Maxsperrow13 , Boon me , HOMJEAW~ , Kris Pinto , arhus , P1RaTE , Incent , itmyway , JamesT , B_and_J , judass_stanley , Holikababe , xaax , kop1979 , DEMBA , Gnot , badlovea , indevidal , Sr-7 , foamkp , sasuke , Liverpool_never_back_down , มากมาย , sacashi , วาสนาหมาวัด , Oatpower7 , itoonggy , StevieG0808 , MR.EMRE , khonhimkhong , BlueShid , loveontherock , รั่วจริงจริง , da4udazii , FM_THEKOP , chairato , bata_kp , `Dou|3|e~Up` , june_pinkfloyd , assassin9991 , GREEN_SMOKER , hutdbk , กังฟูแพนด้า , ปลา วาฬทราย , I AM GOD , เซจา , ก่อกองทราย , punkapooza , TheKopHero
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: กรูไม่สนใจ คนที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในชีวิต
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Aug 2006
ตอบ: 188
ที่อยู่: หาดใหญ่ ไทยแลนด์
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 14:35
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
ขอบคุณครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 May 2009
ตอบ: 278
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 14:35
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
ขอบคุณครับ
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
อวาตาร์&ลายเซ็นต์ผิดกฏ
Status: ไอเลิฟลิเวอร์พูล
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jan 2008
ตอบ: 4113
ที่อยู่: แอนฟิลด์
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 14:50
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
บีบซะ กุน สเตอริ้ง เล่นไม่ออกเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งเจลีก
Status: อากาศดีสบายกายบรรยากาศดีสบายใจ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 May 2009
ตอบ: 5276
ที่อยู่: Bangkok,Thailand
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 14:51
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
ขอบคุณครับ

ขออนุญาตให้ความเห็นนิดนึงนะครับ ผมว่าที่จริงแล้วคู่กลางของซิตี้ไม่ถนัดในการครองบอลหรือสร้างเกมส์รุกนะครับ ถ้าลองมีนักเตะแบบซาบี้ หรือบุสเกตในทีม ผมว่าหงส์ไม่น่าจะไล่บอลจนเสียรูปขบวนแบบนี้ได้

เกมส์เพรสเร็วจุดประสงค์คือเพรสให้จ่ายพลาด หรือรอดักจังหวะจ่าย แต่กลับกันคือถ้าเค้าไม่จ่ายแต่เลี้ยงพลิกไปเองล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

สิ่งที่เกิดคือจะเกิดช่องว่างบางจุดที่นักเตะไม่อยู่กันนั่นเอง ยิ่งถ้าเจอพวกติดกสิลพลิกแล้วลากบอลไปเองได้แบบป็อกบา หรืออิเนียสต้า ผมว่าเผลอๆซิตี้สวนกลับเป็นตูม

อีกในนึงคือซิตี้ต้องมีคนพาบอลจากหลังมากลาง และจากกลางมาหน้า พาหมายถึงลากบอลมาเลยนะ ไม่ใช่จ่าย

อย่างนึงที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือ เพรสแบบหงส์เปลืองแรงมาก สักนาทีที่ 75 เป็นต้นไปเห็นชัดเลยว่าแรงจะหมดกันแล้ว และเป็นที่มาของการเสียประตูแบบงงๆ ง่ายๆ บอลไหลมาเขตโทษเร็วมาก เข้ามาเป็นเสียวทุกลูก

นัดนี้สะท้อนได้อย่างนึงว่า ซิตี้ นั้นจุดแข็งคือระบบและความเข้าใจในวิธีการเล่นของโค้ช และยังคงมีจุดอ่อนให้เห็น แต่จุดอ่อนที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ทุกทีมที่จะโจมตีได้ อย่างน้อยแมนยูก็ทีมนึงละที่ผมคิดว่าไม่น่าได้


7
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status: ดช.ถั่ว
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Sep 2013
ตอบ: 3705
ที่อยู่: Anywhere
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 14:54
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
ขอบคุณครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งลีกเอิง
Status: You'll Never Walk Alone
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 4666
ที่อยู่: Anfield Nathawee
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 15:04
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณมากครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะหมู่บ้าน
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Oct 2014
ตอบ: 14977
ที่อยู่: Somewhere
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 15:06
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
เหมือนคล็อปจะเรียนรู้จากนัดแรกพอสมควร
เพราะนัดแรก ตอนโดนยิง 5-0 นั้น
ทีมลิเวอร์ปล่อยแมนซิ มีเวลาคิดเยอะเกิน
ถึงขนาดเดอบอย ยังออกมาบอกว่าอยากเจอลิเวอทุกนัดเลย
เพราะว่าทีมเขามีเวลาได้คิด ก็ชัดเจนถือว่าคล็อปมาถูกทางละ
3
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 20500
ที่อยู่: Anfield
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 15:13
ถูกแบนแล้ว
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
ก้อง ณ พัทลุง พิมพ์ว่า:
ขอบคุณครับ

ขออนุญาตให้ความเห็นนิดนึงนะครับ ผมว่าที่จริงแล้วคู่กลางของซิตี้ไม่ถนัดในการครองบอลหรือสร้างเกมส์รุกนะครับ ถ้าลองมีนักเตะแบบซาบี้ หรือบุสเกตในทีม ผมว่าหงส์ไม่น่าจะไล่บอลจนเสียรูปขบวนแบบนี้ได้

เกมส์เพรสเร็วจุดประสงค์คือเพรสให้จ่ายพลาด หรือรอดักจังหวะจ่าย แต่กลับกันคือถ้าเค้าไม่จ่ายแต่เลี้ยงพลิกไปเองล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น

สิ่งที่เกิดคือจะเกิดช่องว่างบางจุดที่นักเตะไม่อยู่กันนั่นเอง ยิ่งถ้าเจอพวกติดกสิลพลิกแล้วลากบอลไปเองได้แบบป็อกบา หรืออิเนียสต้า ผมว่าเผลอๆซิตี้สวนกลับเป็นตูม

อีกในนึงคือซิตี้ต้องมีคนพาบอลจากหลังมากลาง และจากกลางมาหน้า พาหมายถึงลากบอลมาเลยนะ ไม่ใช่จ่าย

อย่างนึงที่ไม่พูดไม่ได้เลยคือ เพรสแบบหงส์เปลืองแรงมาก สักนาทีที่ 75 เป็นต้นไปเห็นชัดเลยว่าแรงจะหมดกันแล้ว และเป็นที่มาของการเสียประตูแบบงงๆ ง่ายๆ บอลไหลมาเขตโทษเร็วมาก เข้ามาเป็นเสียวทุกลูก

นัดนี้สะท้อนได้อย่างนึงว่า ซิตี้ นั้นจุดแข็งคือระบบและความเข้าใจในวิธีการเล่นของโค้ช และยังคงมีจุดอ่อนให้เห็น แต่จุดอ่อนที่เป็นอยู่ ไม่ใช่ทุกทีมที่จะโจมตีได้ อย่างน้อยแมนยูก็ทีมนึงละที่ผมคิดว่าไม่น่าได้


 


นั่นอ่ะครับ คือถ้า แมนซิมี silva นัดนี้ ผมว่า Liverpool เผลอๆไม่รอด

เพราะ silva เอาตัวรอดเก่งกว่า gundogan ทักษะเฉพาะตัว อาจจะทำให้รอดจากการโดนบีบได้ดีกว่า

และใช่ มันเปลืองแรงมาก จะเห็นว่าทั้งฤดูกาล ผมว่านัดนี้ล่ะ ที่ Klopp สั่งบีบหนักสุดแล้ว นัดอื่นนี่ธรรมดาไปเลย

แต่ที่เสียประตู เพราะเปลี่ยนชานออกด้วย มาเป็นตาเฒ่ามิลเนอร์ ตามเขาไม่ค่อยทันแล้ว ทำเสียใบเหลืองเช่นเคย
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 3015
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 15:20
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
เกเก้นเพรสซิ่ง คือการวิ่งไล่บีบแบบ 2-1 3-1 หรือ 4-1 ซึ่งถ้าผู้เล่นคนอื่นที่ไม่ได้ช่วยบีบคอยประกบตัวแนวรุกคู่แข่งมันก็มีโอกาสที่คู่แข่งจะยกบอลหรือวางบอลยาวเอาตัวรอดออกไปได้
และจะทำให้มีประสิทธิภาพสูงสุดคือเพรซกันให้เป็นระบบและเพรซทั้งทีม การแก้แผนนี้คือ วางบอลยาว ใช้กองหน้าเอาชนะจังหวะปะทะกลางอากาศ หรือเก็บตกจังหวะสองให้ได้ มันจะทำให้แนวรับของหงส์มีพื้นที่ว่างและถูกคู่แข่งลงโทษได้ (เพราะฉะนั้นหงส์ถึงซื้อฟานไดจ์มาเพื่อปิดการโจมตีจากลูกกลางอากาศคู่แข่ง) ซึ่งแมนซิตี้ไม่ได้ใช้การเปิดบอลยาวเพราะแนวรุกนั้นเล่นลูกกลางอากาศไม่ดี ผมแอบคิดเหมือนเจ้าของกระทู้เป็บเชื่อมั่นในระบบเกมรุกเลยไม่คิดจะปรับเปลี่ยนแทคติคอะไร ทั้งที่สมัยดวลกับJK ตอนคุมบาเยิร์น เป็บเคยให้ มาติเนซ ดันไปเล่นกองหน้าเพื่อเล่นวางบอลยาวแก้ เกเก้นเพรสซิ่งของ JK แต่อย่างว่าแหละข้อเสียของแผนนี้คือ มันบีบไม่ได้ทั้งเกม หงส์หลังนาทีที่ 70 - 75 นักเตะหลายคนเริ่มหมดแรงละ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 Dec 2017
ตอบ: 2066
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 15:21
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
สุดยอด
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะท้ายซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Sep 2017
ตอบ: 696
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 15:21
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
ยังไม่ได้ดู แต่แผล่บให้ในความขยัน

วันหลังทำอีกนะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: you'll never อุ๋ง alone
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2017
ตอบ: 21427
ที่อยู่: with patchanan
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 15:47
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
สุดยอดครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักบอลลีกภูมิภาค
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 5007
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 16:00
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
สมบอย ไม่เคย ไม่กล้า พิมพ์ว่า:
เหมือนคล็อปจะเรียนรู้จากนัดแรกพอสมควร
เพราะนัดแรก ตอนโดนยิง 5-0 นั้น
ทีมลิเวอร์ปล่อยแมนซิ มีเวลาคิดเยอะเกิน
ถึงขนาดเดอบอย ยังออกมาบอกว่าอยากเจอลิเวอทุกนัดเลย
เพราะว่าทีมเขามีเวลาได้คิด ก็ชัดเจนถือว่าคล็อปมาถูกทางละ  


นัด 5-0 เอาจริงๆตอนแรกตอนโดนนำ1-0แล้วผู้เล่นเท่ากัน
ผมเชื่อลึกๆว่ากลับมาได้ เพราะมันช่องเข้าทำ เข้าโจมตี
แต่ก็นั้นแหละ เละเป็นโจ๊ก
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลไทยพรีเมียร์ลีก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2017
ตอบ: 1667
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Jan 17, 2018 16:09
[RE: Tactic นัด Liverpool vs Man City แปลไทย]
Thank you for your kind. Hope Liverpool will be champion of Premier Trophy soon.
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel