ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: เบื้องหลังการถ่ายรูป
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 28143
ที่อยู่: ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลก เข้าร่วม: 13 Feb 2005
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:27
กูรวยแล้วเจอกัน !!
บทความน่าอ่านของ เกิน 8 บรรทัด



ยาวมากกว่า 8 บรรทัดนะครับ ต้องมีเวลาอ่านหน่อย













++++ "คนขับรถบรรทุก...กับ “กล่อง” ใบที่เปลี่ยนโลก" ++++

เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนขับรถสิบล้อครับ
แต่เป็นคนขับรถสิบล้อในประเทศ สหรัฐ อเมริกา ที่ชื่อว่า “มัลคอม แมคเคลน” Malcom McLean

มัลคอม แมคเคลน เกิดในปี 1914 ที่ นอร์ธ คาโรไลน่า
พ่อแม่ของมัลคอมเป็นชาวนา
ประกอบกับช่วงที่เขาเติบโตขึ้นมานั้นเป็นช่วง Great Depression
นั่นทำให้เขาไม่สามารถเรียนจบมัธยมปลายได้
เพราะต้องออกมาทำงานเป็นเด็กปั้มหาเลี้ยงชีพซะก่อน

แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขายอมจำนนต่อชะตาชีวิตที่โหดร้ายแต่อย่างใด

เพราะเมื่อ มัลคอม ทำงานที่ปั้มน้ำมันนั้นไปได้ซักพัก

เขาก็พบว่า

เจ้าของปั้มน้ำมันที่เขาทำงานอยู่นั้น
จ้างรถขนน้ำมันจากท่าเรือมาที่ปั๊มด้วยค่าจ้างอาทิตย์ละ 150 บาท
ซึ่งมันเป็นค่าจ้างที่มากกว่าที่เขาได้รับอยู่มาก

มัลคอมเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ
และก้มหน้าทำงานของเขาต่อไป

จนกระทั่งวันหนึ่งในปี 1934

เมื่อเขาเก็บเงินจากการทำงาน
และรวบรวมเงินลงทุนจากพี่น้องของเขาได้มากพอ

มัลคอมในวัย 20 ปีก็เดินเข้าไปบอกกับเจ้าของปั๊มว่า
เขาอยากรับหน้าที่ส่งน้ำมันให้เจ้าของปั้มเอง

“ให้ผมทำเถอะ”!!!

ไม่ว่าจะด้วยผลงานที่ผ่านมาของเขา...ความใจดีของเจ้าของปั้ม...หรือ เจ้าของปั๊มไม่ชอบขี้หน้าคนส่งน้ำมันเจ้าเก่าอยู่แล้ว

เจ้าของปั๊มก็ตกลงยกหน้าที่นี้ให้ มัลคอม

เขาจึงใช้เงิน 3,600 บาทที่เขารวบรวมได้
ซื้อรถบรรทุกมือสองพุๆคันนึงมาซ่อม
และเริ่มกิจการของตัวเอง

ปรากฏว่าเมื่อผ่านไปหนึ่งปี
มัลคอม กลายเป็นเจ้าของรถบรรทุก 2 คัน
และมีลูกจ้าง

แต่

เขาก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น
มัลคอมยังพยายามพัฒนาสิ่งที่เขาทำอยู่...ให้ดีขึ้นไปอีก

เขาเป็นคนแรกที่เริ่มคิดว่าจะวางแผนยังไงให้รถบรรทุกทุกคันทำเงินได้มากที่สุด
เป็นคนแรกที่ออกแบบเส้นทางขนส่งให้มีประสิทธิภาพ
เพื่อลดความสิ้นเปลืองให้มากที่สุด

และด้วยคุณสมบัติเหล่านี้

ทำให้เมื่อสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นขึ้นนั้น
เขามีรถบรรทุกถึง 172 คัน

และเมื่อเข้าสู่ช่วงทศวรรษที่ 1950
เขาเป็นเจ้าของรถบรรทุกมากกว่า 1700 คัน

เป็น “บริษัทรถบรรทุกที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งในสาม”
ของอเมริกาในขณะนั้น

จากเด็กปั๊ม ที่เรียนไม่จบ ม.6
มัลคอม..เดินมาไกลมาก!!

แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะหยุดเส้นทางของเขาอยู่แค่การเป็น “เจ๊เกียว”

มีบางอย่างที่เขาอยากพัฒนาให้ดีขึ้น
เขายังกระหายที่จะก้าวต่อไปอีก

และก็เป็นก้าวต่อไปของมัลคอมนี่แหล่ะ
ที่เปลี่ยนโลกใบนี้ไปตลอดกาล

จริงๆแล้ว...ก้าวสำคัญก้าวนี้ของมัลคอมเริ่มต้นขึ้นอย่างเงียบๆ และ หงุดหงิดตั้งแต่ปี 1937

4 ปีหลังจากที่เขาซื้อรถบรรทุกมือสองคันแรก

เช้าวันหนึ่งในปี 1937

มัลคอมในวัย 23 ปี ซึ่งยังขับรถบรรทุกด้วยตัวเองอยู่
ขับรถบรรทุกที่เต็มไปด้วยสินค้าเข้าไปยังท่าเรือที่นิวยอร์ก

ตั้งแต่เช้า...จรดเย็น
เขานั่งอยู่ในรถบรรทุก

รอให้พนักงานท่าเรือ (longshoreman) ในขณะนั้น
ค่อยๆหยิบสินค้าทีละชิ้นลงจากรถ
เพื่อจะค่อยๆเอาไปเก็บในโกดัง
ก่อนที่จะหยิบสินค้าทีละชิ้นจากโกดัง
ขึ้นไปเรียงบนเรือลำที่ต้องการ

ซึ่งนั่นคือวิธีการโหลดสินค้าของท่าเรือในขณะนั้น

ซึ่งเป็นวิธีเดียวกับที่ใช้กันมาเป็นพันปีก่อนหน้านี้

!!!

อ่านถึงตรงนี้คงพอเดาได้ไม่ยากใช้มั้ยครับว่า

คนที่ชอบทำอะไรให้มีประสิทธิภาพที่สุดอย่างมัลคอม

คนที่พยายามหาเส้นทางที่สั้นที่สุด
เพื่อใช้เวลาให้น้อยที่สุด
เพื่อให้รถทุกคันหาเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
คงไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่...กับวิธีโหลดของแบบนั้น

มันก็เป็นอย่างที่คุณเดาได้นั่นแหล่ะ
จริงๆแล้ว มัลคอมไม่ใช่แค่ไม่พอใจ

แต่ เขาหงุดหงิด และโกรธมาก กับสิ่งที่เกิดขึ้น

เป็นไปได้อย่างไรที่การขนส่งสินค้าจาก นิวยอร์ก ไป ลอนดอน
ใช้เวลาที่ท่าเรือทั้งสอง พอๆกับ เวลาที่เรือแล่นข้ามมหาสมุทร

เป็นไปได้อย่างไรที่ 50% ของค่าใช้จ่ายในการขนส่งทั้งหมด
ถูกใช้ไปกับการยกของขึ้น และ ลงจาก รถ และ เรือ

มันถูกต้องแล้วเหรอที่เสียต้องเวลาขนของนานขนาดนี้
ทำให้ทั้งเรือ และ รถบรรทุก ต้องจอดนิ่งอยู่ที่ท่าเรือเป็นเวลานานมากๆ
ทั้งที่ทั้ง เรือ และ รถ จะทำเงินได้ก็ต่อเมื่อมันวิ่งเท่านั้น

“ทำไมไม่ทำมันให้ดีกว่านี้"

"มันต้องมีวิธีที่ดีกว่านี้"

"มันเป็นเรื่องที่ต้องซีเรียสใช่ป่ะ”

!?!?!?!

นั่นเป็นสิ่งที่มัลคอมบอกกับตัวเองตอนนั้น

แต่ในวัย 23 ปีกับการเป็นเจ้าของบริษัทรถบรรทุกเล็กๆ
ทำให้เขาต้องดึงสติไว้นิดส์นึงก่อน

เขายังไม่มีพาวเวอร์มากพอที่จะเปลี่ยนสิ่งที่มีมาเป็นพันปีได้

และนั่นก็เป็นอีกครั้งที่เขาต้องเก็บบางเรื่องไว้ในใจ

จนกระทั่งในปี 1955

วันที่ มัลคอมในวัย 41 ปี
คิดว่าเขามีพาวเวอร์มากพอที่จะเปลี่ยนอะไรบางอย่าง

เขาตัดสินใจขาย McLean Trucking Co.
บริษัทรถบรรทุกที่ใหญ่ 1 ใน 3 ของอเมริกาที่เขาสร้างมากับมือ จนได้เงินมาประมาณ 750 ล้านบาท

มัลคอมจึงนำเงินที่ได้ ไปซื้อเรือ และ ท่าเรือ
(Pan-Atlantic Steamship Company และ Gulf Florida Terminal Company)
และเริ่มทำสิ่งที่เค้าเก็บไว้ในใจมานาน

ถึง มัลคอม จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมาตลอด
ทว่าสิ่งที่เขากำลังจะทำในตอนนั้นไม่ง่ายเอาซะเลย

จริงๆแล้วมันโคตรยากเลยด้วยซ้ำ

เขาเริ่มต้นด้วยการพยายามเอารถบรรทุกทั้งคันขึ้นเรือ
แล้วล็อครถไว้

ก่อนเปลี่ยนมาโหลดรถบรรทุกทั้งคัน
แล้วเอาหัวรถบรรทุกออก

แต่การส่งส่วนรถพ่วงไปกับเรือ
ทำให้อดนำมาใช้ประโยชน์ ไม่น่าจะใช่วิธีที่ดีนัก

จนมาลงตัวที่การสร้างกล่องขึ้นมาใส่ของ
แล้วยกทั้งกล่องขึ้นไปบนเรือซะเลย

ยูเรก้า!!!

นั่นน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด

แต่ความจริงก็คือ

ไอเดียในการใช้กล่องขนสินค้านั้นไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด

เพราะในปี 1929 บริษัทเอกชนเจ้าหนึ่ง
เคยมีการพยายามขนส่งรถกล่อง (boxcar) จากสหรัฐไปยังคิวบา

ในช่วงทศวรรษที่ 1940 กองทัพของสหรัฐ ก็เคยพยายามจะใช้กล่องขนส่งของจาก สหรัฐ ไปยัง แคนาดา
ปรากฏว่า วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายที่แพงกว่าวิธีที่ใช้กันมาเป็นพันปีถึง 10 เปอร์เซ็นต์

และจะแพงมากกว่าถึง 70 เปอร์เซ็นต์
หากคำนวณค่าส่งกล่องเปล่ากลับมายังท่าเรือที่สหรัฐด้วย

เป็นไปได้อย่างไร

!?!?!?

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ
กล่องมันยังไม่มีมาตรฐานเดียวกัน
ทำให้ยาก วุ่นวาย และใช้ค่าใช้จ่ายมากในการขนส่ง
รวมถึงเรือลำหนึ่งยังไม่สามารถขนกล่องได้เยอะพอ

ซึ่งหากวิธีนี้ไม่ได้รับการใช้กันอย่างแพร่หลายมากพอ
จะทำให้ต้นทุนสูงอยู่มาก
(economic of scales)

ฉะนั้นทางที่จะทำให้ไอเดียการใช้ "กล่อง" ขนส่งสินค้าของมัลคอมเป็นจริงได้ก็คือ

ต้องให้ท่าเรือ บริษัทเดินเรือ และ ระบบขนส่งทั้งหมดเห็นด้วย
และร่วมแจมกับไอเดียของเขา

ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่ยากที่สุด
เพราะหมายความว่าเขาไม่ได้กำลังเปลี่ยนแค่วิธีการขนส่ง
จากทีละชิ้น เป็นทีละกล่อง

แต่

เขากำลังเปลี่ยนนิยาม
และมุมของธุรกิจการขนส่งใหม่หมด

จากที่ธุรกิจต่างๆเคยแยกกันอย่างชัดเจน

เป็น ธุรกิจ รถบรรทุก รถไฟ ท่าเรือ เดินเรือ

ต่างคนต่างทำ...ไม่เคยสนใจ...ไม่เคยยุ่งกัน
มัลคอมต้องการให้ธุรกิจเหล่านี้มาใช้มาตรฐานเดียวกันหมด

มาตรฐานกล่องของเขา

ทุกการเปลี่ยนแปลงย่อมมีแรงต้าน
การเปลี่ยนแปลงใหญ่ๆอย่างนี้ก็เช่นกัน
ซึ่ง
แรงต้านที่รุนแรงที่สุดก็มาจากกลุ่มธุรกิจที่มีมานานที่สุด

"ธุรกิจขนส่งทางทะเล"

ต้องอธิบายก่อนครับว่า

เจ้าของกิจการขนส่งทางทะเลส่วนใหญ่ในขณะนั้นทั้งในยุโรป และสหรัฐ
แทบทั้งหมดจะเป็นตระกูลใหญ่ที่สืบเชื้อสายมาจากกัปตันเรือ
ไม่ก็ขุนนางในสมัยล่าอณานิคม

พวกเขามีประวัติศาสตร์ และ ความภาคภูมิใจที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนาน

ซึ่งวิธีการที่ มัลคอม เห็นว่าไม่ได้เรื่อง
และพยายามจะเปลี่ยนนี่แหล่ะ
เป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งใหญ่มายาวนาน

ทำให้พวกเขามีเงินมากพอที่จะใช้ชีวิตอยู่บนตึกระฟ้าในมหานครนิวยอร์ค
เปิดโอกาสให้พวกเขานอนตื่นสายๆ
ก่อนที่จะมานั่งกินบรันช์ และสูบซิการ์ใน ยอร์ช คลับได้

ดังนั้นมันจึงไม่น่าแปลกเลย

ที่สมาชิกสมาคมเดินเรือนานาชาติที่ประเทศฮอลแลนด์
จะหัวเราะเยาะ มัลคอม ซึ่งหน้าๆ
ตอนที่เขาข้ามน้ำข้ามทะเลเอาไอเดียไปขาย

หรือแม้แต่

เจ้าของท่าเรือ และ ธุรกิจเดินในสหรัฐ
ก็ยังมองเขาเป็นตัวตลก

ไม่แปลก...

เมื่อโลกทั้งใบเคยหมุนรอบตัวคนกลุ่มนี้มาตลอด
มันคงไม่ยากเกินที่จะเข้าใจว่า...

ไอ้เด็กเมื่อวานซืนจากธุรกิจใหม่อย่างรถบรรทุก
จะมายุ่มย่ามในเรื่องการขนส่งทางทะเล
ที่พวกเขาควบคุมมาอย่างยาวนานได้อย่างไร

ถึงแม้ "การขนส่งทางทะเล" ที่เป็น "หัวใจ" ของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้จะไม่เป็นใจให้ มัลคอม

เขาก็ไม่ถอดใจ...!!!

ในเมื่อไม้แก่มันดัดยากนัก
บางทีหาไม้อ่อนหน่อยน่าจะโน้มง่ายกว่า

นั่นทำให้ มัลคอม ไปจับมือกับ พวกธุรกิจรถไฟ และ รางรถไฟ
ธุรกิจที่เขามีสัมพันธ์อันดีมาตลอดตั้งแต่เขายังทำบริษัทรถบรรทุก
เพราะเกิดขึ้นมาในเวลาไล่เลี่ยกัน

ซึ่งในที่สุด “มัลคอม” ก็สามารถดึง
CB&Q Railroad C&EI Railroad และ SP Railroad
มาร่วมมือกับเขาได้

และเมื่อถึงตรงนี้
มันก็มากพอที่จะโน้มน้าวธนาคารต่างๆ
ให้ปล่อยเงินกู้กับเขาเป็นเงิน 15,000 ล้านบาท
ในเดือนมกราคม 1956

มัลคอมนำเงินก้อนมโหฬารนี้ไปซื้อเรือขนน้ำมันของกองทัพสหรัฐที่ใช้ในสงครามโลกครั้ง 2
เพื่อที่จะมาดัดแปลงเป็นเรือขนสินค้าที่ใหญ่ขึ้น

เขายังปรับปรุงท่าเรือ...ปรับปรุงเครน...รางรถไฟ

และ แน่นอน “กล่อง”
สิ่งที่เป็นพระเอกของเขา

ในที่สุด....

ในวันที่ 26 เมษายน 1956

มัลคอม แมคเคลน ก็ยืนอยู่ที่ท่าเรือในนิวเจอร์ซี
เพื่อมองดูกล่องใส่สินค้าขนาด 35 ฟุต จำนวน 58 ใบ

กล่องที่เขาตั้งชื่อว่า SS Ideal-X

เขามองดูกล่องเหล่านั้น
ค่อยๆถูกทยอยขนขึ้นเรือบรรทุกสินค้า
ที่เขาดัดแปลงมาจากเรือบรรทุกน้ำมันในสงครางโลก

ทันทีที่ SS Ideal-X ถูกขนขึ้นเรือจนหมด
มัลคอม ก็ผละจากท่าเรือที่นิวเจอร์ซี
รีบขึ้นเครื่องบินไปยัง ฮุสตัน
เพื่อไปดักรอ อดัม แอนด์ อีฟ แห่งตู้คอนเทนเนอร์
หรือ SS Ideal-X ทั้ง 58 กล่องของเขา อยู่ที่นั่น

และในวินาทีที่ชายชื่อ มัลคอม แมคเคลน
เริ่มมองเห็นตู้คอนเทนเนอร์รุ่นแรกของเขา
ค่อยๆขยับใกล้ Port of Huston เข้ามาเรื่อยๆ

ผู้ชายที่เข้มแข็งสุดๆอย่างเขา
ก็ร้องไห้ออกมา

เขาไม่ได้ร้องไห้เพราะเขาสามารถเอาชนะคำปรามาสของคนบางกลุ่มได้

แต่เขาร้องไห้เพราะในวินาทีที่เห็นกล่องเหล่านั้นมาถึง
เขารู้ทันทีว่า....

เขากำลังจะเปลี่ยนโลกใบนี้...ไปตลอดกาล

SS Ideal-X ของมัลคอมสามารถลดเวลาโหลดจาก 3 วัน เหลือ เพียง 8 ชม. ได้

และ

สามารถลดต้นทุนค่าขนส่งสินค้าจาก 5.86 เหรียญ/ตัน
ให้เหลือเพียงแค่ 16 เซนต์/ตัน

หรือถูกลง 39 เท่า!!!

ซึ่งหลังจากวันที่ 26 เมษายน 1956
การขนส่งสินค้าบนโลกใบนี้ก็เปลี่ยนไปตลอดกาลจริงๆ

หลังจากผมศึกษาประวัติของ "มัลคอม แมคเคลน" จบ
ผมก็อดถามตัวเองไม่ได้ว่า....

อะไรคือแรงผลักดันให้คนที่มีเงินสด "750 ล้านบาท" อยู่ในมือ
เดิมพันเงินทั้งหมดกับสิ่งที่เค้าเชื่อ

อะไรคือสิ่งที่ทำให้เขาเดินต่อ
ในยามที่โลกทั้งใบเหมือนจะยืนอยู่ตรงข้ามเขา

จริงๆลองคิดดูแล้ว

คนที่เปลี่ยนโลกใบนี้ได้...
มักจะมีคุณสมบัติบางอย่างคล้ายๆกันอยู่นะครับ

พวกเขาจะไม่ยอมหยุด
จนกว่าจะทำสิ่งที่พวกเขาเชื่อ...ให้เป็นจริงได้

"โธมัส อัลวา เอดิสัน" ที่ไม่ยอมหยุด
แม้ล้มเหลวกว่า 1000 ครั้ง
จนเปลี่ยนโลกสำเร็จ ด้วยหลอดไฟของเขา

"พี่น้องตระกูลไรท์" ที่ร่วงแล้ว...ร่วงอีก
จนเปลี่ยนโลกได้สำเร็จ
ด้วยเครื่องบินของพวกเขา

"มัลคอม แมคเคลน" ก็ทำอย่างเดียวกัน
กับ "ตู้คอนเทอนเนอร์"

ในงานศพของ แมคเคลน
เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2001 นั้น

"นอร์เมน มิเนต้า"
อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมของสหรัฐ
กล่าวคำไว้อาลัยถึงคนขับรถบรรทุกจากนอร์ธ คาร์โลไลน่า คนนี้ว่า

“พวกเราทุกคนล้วนเป็นหนี้ มัลคอล แมคเคลน และ วิชั่น ของเขา"
"ในการปฏิวัติโฉมหน้าของอุตสาหกรรมการขนส่งทางทะเล ไปตลอดกาล”

ก็น่าจะจริงนะครับ

เพราะมือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ ที่คุณใช้อ่านเรื่องของแกอยู่นี้

ก็ล้วนผ่านตู้คอนเทนเนอร์ มาแล้วทั้งนั้น

แต่ถ้าคุณบังเอิญนั่งอ่านอยู่ในร้านกาแฟ
ที่เสือกสร้างจากตู้คอนเทนเนอร์ด้วยล่ะก็

คุณติดหนี้ คนขับรถบรรทุก...ที่ชื่อ "มัลคอล แมคเคลน"
กับ “กล่อง” ใบที่เปลี่ยนโลก....ที่ชื่อ "SS Ideal-X"

อยู่เต็มๆ เลยนะคุณ

เกิน 8 บรรทัด
120
1
หากโดน 204 เรื้อน จะถูกแบน
Barcelonistu , aosnyce , **Mr_FloweR** , Developmomo , _น้ำแข็งใส_ , P2INCE , บักโอ้ , Tall-tree , EssentiaL , Guilty , Jeff , [[LorDDarK]] , O-nga , bankcodelove , SamingBP , Serpensortia , Suoui , kabushito , 9htZero , ป้าๆเพิ่มข้าว , สมเจียม , Street.Sc , ประยุทธ จอห์นโอเชีย , Dioze , laanserVG1986 , nuni_es , anupopon , PunPunUdomsil , ชาเขียว , KaiGerrard , FI2eecIOM_BLuE , oatzaa , Yu#MaNia , เทพมังกรเก้าปรากฏ , God_FowLeR , Chin-no-Suke , nonkung , Gig , luckinho , Little , Jamesbuff , dewscorpion , คุณกินโทกิ , magka , nichaojung , อารมณ์สุนทรีย์ , RichKid , jayza , WHY NOT , kokoriko , nooteb191 , QuaymO , blackcross , จ่าบูด , EArsenalK_gunner , neil legstrong , jojo_joestar , Renovatino , Hambretta , Max!Miz3 , nora(aron) , bbliv24 , extinction , ตะวันดวงสุดท้าย , itoonggy , mazzo the returner , mankungp , Goonner Indy , กังฟูแพนด้า , laws , bemainorr , Jimmycool , KR!T , campkungclassic , HarryKay , LoVaI2deN , gosonpak , biw_thekop , STEVIE#G8 , หว่องกาโว , หมูกรอบไหมจ้ะ , Archawin5 , fetusun , 7Hrs.ago , LaMiLoFt , Balotelli , FongNom , dogger2006 , SPx , toOnSir , ApeApe , ไม่หล่อแต่โสด , i7-PM , toffyman , boya , torLucifer , Rockhound Blueblood , 9276 , bingos , bitboyxx , จ่าแฟร้งค์ , -Owefil- , PinkPanther46 , IE_ManU , ก่อกองทราย , เจ้าชายผมแดง , ตุ๊ต๊ะหมีเล็ก , 4289 , m-blaq , ผมว่า , giggogtaxi , alll , Little magic , princeopor , สูงสุดคืนสู่สามัญ , edokzaad , iAmSuperSaiYan , Kris Pinto , nutsoy8za , risssss
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
คอมเมนเตเตอร์
Status: 楠エリサ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 06 Jan 2015
ตอบ: 27714
ที่อยู่: tripleS - Girls' Capitalism
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:28
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
หัวมู้หยาบคาย

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

あやせ舞菜 / 九井スナオ / 白石なぎさ / 橘内ひなた / 金松季歩 / 紺野るり / 宮野かな / 白花のん / 庵ひめか / 瀧本雫葉 / 朝日りん / 葉山さゆり
GRL GVNG https://youtu.be/0EC4m17bwLI
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Jul 2010
ตอบ: 40454
ที่อยู่: DD จงเจริ้ญ!!!
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:29
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
แผล่บให้เพราะยาว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Apr 2015
ตอบ: 7336
ที่อยู่: https://wd.thaibuffer.com/o/photo/773/kapook_world-769765.gif
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:33
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
บอก ว่า ยาวซัก 30 บรรทัดสิฟะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ปิดลายเซ็นชั่วคราว
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Apr 2016
ตอบ: 485
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:34
ถูกแบนแล้ว
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
ยาวเกิน ขอเรื้อนนะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: เบื้องหลังการถ่ายรูป
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 28143
ที่อยู่: ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลก เข้าร่วม: 13 Feb 2005
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:35
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
หนูนประกาศศึกหรอ มาเรื้อนกระทู้แบบนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แข้งดัทช์ลีก
Status: Happy
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 08 Jun 2010
ตอบ: 6805
ที่อยู่: This is Anfield.
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:35
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
สุดท้าย มัลคอม ก็มา ซื้อ สโมสรฟุตบอล MAN U
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 May 2014
ตอบ: 2615
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:35
ถูกแบนแล้ว
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
เสียดายเกินโควต้าในการอ่านหนังสือของปีนี้ไปเเล้ว
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้จัดการทีม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 16 Oct 2005
ตอบ: 38379
ที่อยู่: Kanagawa, Japan
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:38
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
ปกติ ขนาดมู้รูป 18+ 3G warning ถ้าไม่เด็ดจริงผมยังดูไม่หมดเรยฮะ..



นี่มาตัวหนังสือเน้นๆ ยังกะวิทยานิพนธ์..



1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Feb 2014
ตอบ: 687
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:40
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
ขอบคุณสำหรับบทความครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: เมสซี่เจ FC
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Nov 2014
ตอบ: 8869
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:40
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
นิลดำไม่ได้เรียนย่อความมาเหรอคับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
นักบอลถ้วย ก.
Status: Lonely but Loneliness
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6185
ที่อยู่: Theatre of dreams
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:41
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
Malcom McLean น่าสนใจครับ เดี่ยวลองไปหาอ่านประวัติดู
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: น้ำแข็งใสหวานเจี๊ยบบบบบบบ
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 28 May 2010
ตอบ: 26486
ที่อยู่: โต๊ะบอล
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:42
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
ที่มาของตู้คอนเทรนเนอร์ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันสินะ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status: เบื้องหลังการถ่ายรูป
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 11 Feb 2016
ตอบ: 28143
ที่อยู่: ดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ โลก เข้าร่วม: 13 Feb 2005
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:44
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
ชาเขียว พิมพ์ว่า:
นิลดำไม่ได้เรียนย่อความมาเหรอคับ  



ย่อไม่ได้ เพราะจะขาดเนื้อหาสำคัยไปหมด
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 30637
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri May 13, 2016 14:45
[RE: กูรวยแล้วเจอกัน !!]
เจ๋งมาก

จากเด็กปั้มจนมีเงิน 750ล้าน เป็นผมผมวางมือไปใช้เงินลั คิดว่าอยู่ได้ทั้งชีวิต


แต่พี่แกมีความเชื่อกับความคิดที่เอามาพฒนาโลกได้
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1, 2, 3, 4
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel