ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
แข้งบุนเดสลีกา
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 4329
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Fri Mar 04, 2016 23:58
[LIVE MUSIC REVIEW] Take That Live in Bangkok 2016
ขึ้นชื่อว่าเป็นตำนานและต้นตำรับของแนวคิด “Boyband” ทั้งที ถึงจะรู้จักเพลงของ Take That ไม่มากเท่าไหร่ แต่ลาภตกถึงมือพอดี เลยขอไปชมให้เป็นบุญตาซักหน่อย



คอนเสิร์ตจัดขึ้นในคืนวันพฤหัส (3 มีนาคม) ที่ผ่านมา สำหรับสถานที่คือ Exhibition Hall ซึ่งถือว่าเล็กกว่า Impact Arena และ Thunder Dome อย่างเห็นได้ชัด คิดว่าการประกาศคอนเสิร์ตที่กะทันหันไปหน่อย บวกกับการโปรโมตที่น้อยนิดทำให้ต้องลดขนาดสถานที่จัดงาน แต่ถึงแบบนั้นแล้วก็คิดว่ายอดขายบัตรน่าจะไม่ถึง 85% อยู่ดี เพราะเมื่อมาถึงในงานพบที่นั่งว่างเป็นจำนวนพอสมควร บวกกับโซนที่ตัวเองอยู่ก็เป็นบัตรฟรีเกือบยกโซนเช่นกัน ถือเป็นงาน socialize ก๊วนสปอนเซอร์ชัดๆ กลายเป็นว่าเห็นแฟนคลับจริงๆ แค่สองแถวหน้าสุดกับที่นั่งฝั่งริมๆ ตรงกลางถ้าไม่นับเจ้าของบัตรฟรีก็ค่อนข้างโบ๋เบ๋ เมื่อไฟดับลงบรรดาแฟนเพลงซึ่งบอกได้เลยว่าคนมางานเป็นฝรั่งมากกว่าครึ่ง จึงรีบไปหาที่นั่งและที่ยืนที่ดีที่สุด ไม่สนใจที่นั่งที่ระบุในบัตรทั้งสิ้นแล้ว



สามหนุ่ม Gary Barlow, Mark Owen และ Howard Donald เริ่มต้นโชว์ด้วยเพลง Shine จากอัลบั้ม Beautiful World (2006) ที่ถือว่าเป็นเพลงดังของวง และปีที่ปล่อยมาเป็นปี 2006 จึงน่าจะเป็นเพลงที่เรียกความสนใจได้จากทั้งแฟนรุ่นเก่าและนักฟังเพลงรุ่นใหม่ เรียกบรรยากาศครึกครื้นจากคนดูทุกวัยได้พอสมควร

ต่อมาคือทีเด็ด Hold Up a Light เมื่อ Mark Owen สมาชิกของวงขอทักทายโดยการลงจากเวทีไปร้องเพลงกับเหล่าแฟนๆ ที่เด็ดคือแกเล่นกับเก้าอี้ว่างๆ โดยการไปนั่งร้องเพลงตรงเก้าอี้นั้นเสียเลย จนคนรีบกรูมาตรงที่แกนั่ง ได้กอดได้เซลฟี่จนฟิน (แต่ ณ จุดนี้สงสารคนที่นั่งแถวนั้นอยู่แล้วมาก) ที่สำคัญคือแกเดินนานและทั่วถึงมาก ใส่มงกุฎดอกไม้จากแฟนคลับเดินขึ้นเวที ก่อนจะโยนลงมาให้ผู้โชคดีรับไป

ยุทธวิธีเอาใจแม่ยกยังไม่จบ เมื่อสมาชิกวงไม่ได้กล่าวภาษาไทยแค่คำว่า “สวัสดีครับ” แต่ยังเตรียมโพยใส่ในแจ็คเก็ต คลี่ออกมาแล้วพูดเป็นกลอนอะไรสักอย่างที่ฟังไม่ออกด้วย ทำนองว่า “คิด-ทุงมากขรั่บ” เสียงแฟนคลับกรี๊ดกันระนาว ถึงตอนนี้คือช่วงสนทนากับแฟนๆ ชาวไทยและขอเสียงเหล่า English(wo)men ซึ่งจัดหนักจัดเต็มกันมาก ทำเอาเจ้าบ้านอายไปหน่อย ทั้งในแง่ปริมาณและความดังเสียงกรี๊ด



สำหรับการแสดงเพลง Pray ถือว่าน่าสนใจเพราะเป็นเพลงแรกที่สามหนุ่มออกสเต็ปวาดลวดลายเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนๆ รวมถึงความตกตะลึงเล็กน้อยของคนมางานว่าแม้อายุของทั้งสามคนรวมกันได้ 136 ปีแต่พวกพี่ยังเอาอยู่ บวกกับการนำดนตรีของเพลงมาทำใหม่ทำให้มีความสดและทันสมัยขึ้นตามคลิปข้างบน ทำให้เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงาน

มาร์กรับหน้าที่ร้องเดี่ยวในเพลง Four Minute Warning ของตัวเองขณะที่อีกสองคนถือโอกาสไปพัก จนเมื่อจบเพลงไปก็ให้แกรี่ขึ้นมาทำหน้าที่เดี่ยวแทนบ้างในเพลง Let Me Go ที่แม้จะเป็นเพลงที่แต่งจากประสบการณ์ของตัวเองและภรรยาเมื่อสูญเสียลูกสาวที่ยังไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลก แต่เนื้อเพลงให้กำลังใจและดนตรีสนุกสนาน ทำให้คนดูสนุกไปกับนักร้อง ทั้งสองเพลงนี้เป็นผลงานเดียวของแต่ละคนที่มีแนวดนตรีค่อนข้างต่างจาก Take That ทำให้ได้อารมณ์แนวดนตรีอื่นด้วย



สมาชิกที่เหลือของวงกลับมาสมทบกับแกรี่เมื่อเพลงของเขาจบลงและแสดงเพลง The Flood ต่อ ต่อมาคือการเดี่ยวเปียโนและตามมาด้วยเพลง A Million Love Songs กับ Babe แบบสั้นๆ ก่อนจะพักเบรกสนทนากับผู้ชมอีกครั้ง

ในครั้งนี้ ศิลปินกล่าวว่าแม้นี่จะเป็นหนึ่งในเพลงดังของวง แต่พวกเขาไม่ได้เล่นเพลงนี้มาสักพักแล้ว และไม่ได้อยู่ในเซ็ทลิสท์ดั้งเดิมสำหรับคืนนี้ด้วย แต่ได้มีโอกาสเจอกับแฟนคลับคนหนึ่งของวงขณะไปเที่ยวเล่น โดยแฟนคลับคนนั้นได้ขอร้องให้พวกเขาแสดงสดเพลงนี้ ทางวงจึงสนองความต้องการโดยการซ้อมเพลงก่อนการแสดงจริงไม่กี่ชั่วโมง เล่น How Deep Is Your Love งานคัฟเวอร์ของ Bee Gees ซึ่งในเวอร์ชั่นของวงนี้ก็ประสบความสำเร็จมากเช่นกัน เรียกได้ว่าทำให้แฟนเพลงรู้สึกพิเศษไปอีกระดับ



อีกหนึ่งไฮไลท์ของงานคือเมื่อวงเล่นเพลงดังอมตะ Back For Good ที่ทางผู้จัดงานมีโปรเจ็คท์แบบลับๆ หนีบแผ่นกระดาษแปะตัวหนังสือใหญ่เห็นชัดว่า WANT YOU BACK ให้กับทุกที่นั่งในฮอลล์และมีข้อความนัดให้ผู้ร่วมงานชูป้ายขณะเล่นเพลงนี้ ซึ่งทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีทั้งผู้ชมชาวไทยและฝรั่ง สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับนักร้องและเรียกรอยยิ้มจากศิลปินได้

ในส่วนอังกอร์ของเพลงคือ Rule the World ที่นักร้องขอให้แฟนคลับช่วยกันเปิดไฟจากโทรศัพท์เพื่อส่องแสงให้เข้ากับธีมเพลงประกอบภาพยนตร์ Stardust นี้ และจบลงด้วยเพลง Never Forget ซึ่งเป็นเพลงที่เหล่าคนดูในงานปรบมือพร้อมศิลปินได้อย่างพร้อมเพรียงและเป็นจังหวะ เป็นอีกหนึ่งในความทรงจำอันน่าประทับใจ ปิดท้ายคืนนี้ไปอย่างสวยงาม

เรียกได้ว่าบอยแบนด์รุ่นเก๋าวงนี้มีคุณสมบัติทุกประการที่ทำให้แม่ยกเหนียวแน่นมาตลอด 20 ปี ทั้งเพลงฟังง่ายติดหู ท่าเต้นเป๊ะๆ สนุกสนาน หน้าตาดูดี เฟรนด์ลี่กับผู้ชม และพยายามเอ็นเตอร์เทนตลอดต้นจนจบ

ข่าวดีคือเมื่อจบคอนเสิร์ต แกรี่สัญญากับแฟนๆ ว่าโชว์ครั้งต่อไปในกรุงเทพจะไม่ต้องรอถึง 20 ปีแบบนี้แล้ว และมีข่าวว่าสมาชิกดั้งเดิมของวงจะกลับมารวมตัวกันเนื่องในโอกาสครบ 25 ปีของวงในปี 2017 นี้ สำหรับ Robbie Williams ได้เซย์เยสแล้ว แต่ Jason Orange ยังไม่มีข่าว แต่ทางวงก็ยังคาดหวังการตอบรับจากเจสันตลอดมา ต้องรอดูว่าจะมีการใจอ่อนหรือไม่ในปีหน้านี้ และถ้าโอกาสดี ครั้งหน้าที่เราเห็น Take That ในไทย ไม่ใช่แค่ไม่ต้องรอถึง 20 ปี แต่อาจจะได้เห็นสมาชิกรุ่นก่อตั้งอย่างครบถ้วนกัน

SETLIST
Spoil
1. Shine (with Electric Light Orchestra intro)
2. Greatest Day
3. Get Ready For It
4. Hold Up a Light
5. Patience
6. Pray
7. Up All Night
8. Said It All
9. Could It Be Magic
10. Hey Boy
11. Four Minute Warning [Owen's Solo]
12. Let Me Go [Barlow's Solo]
13. The Flood
14. Piano Medley
15. A Million Love Songs
16. Babe
17. How Deep Is Your Love
18. Back For Good
19. These Days
20. Relight
- encore -
21. Rule the World
22. Never Forget  
2
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 5502
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Mar 05, 2016 00:15
ถูกแบนแล้ว
[RE: [LIVE MUSIC REVIEW] Take That Live in Bangkok 2016]
วงนี้เพลงเพราะเยอะ และประวัติน่าสนใจมากครับในการยืนหยัด
เพลงเก่าๆย้อนไปดูMV ถ้าเกิดยุคนี้ รับรอง กระแสถล่มทลาย หล่อมาก sexyมาก เพลงเพราะเป็นตำนานเลย ยิ่งมีตัวโจ๊กเกอร์อย่างเฮียร็อบด้วยนี่ วงนี้แมนขึ้นมากด้วยลุคแบดบอย

อยากให้กลับมารวมแล้วออกอัลบั้มห้าคนอีกครั้งเหมือนเมื่อไม่กี่ปีก่อน ชอบมาก
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: Once a Foal, always a Foal ❤
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Jul 2014
ตอบ: 9862
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Mar 05, 2016 00:56
[RE: [LIVE MUSIC REVIEW] Take That Live in Bangkok 2016]
VidukaSmithKewellRioWood พิมพ์ว่า:
วงนี้เพลงเพราะเยอะ และประวัติน่าสนใจมากครับในการยืนหยัด
เพลงเก่าๆย้อนไปดูMV ถ้าเกิดยุคนี้ รับรอง กระแสถล่มทลาย หล่อมาก sexyมาก เพลงเพราะเป็นตำนานเลย ยิ่งมีตัวโจ๊กเกอร์อย่างเฮียร็อบด้วยนี่ วงนี้แมนขึ้นมากด้วยลุคแบดบอย

อยากให้กลับมารวมแล้วออกอัลบั้มห้าคนอีกครั้งเหมือนเมื่อไม่กี่ปีก่อน ชอบมาก  



เรื่องเม็มเราว่าสี่คนลงตัวกว่านะ รู้สึกเหมือนร็อบไม่ใช่ Take That ยังไงไม่รู้ พูดงี้จะโดนตบมั้ยหว่า 555

จริงๆ ฟังมาตั้งแต่สมัย Back For Good เปิดทุกห้าง แต่ถามเรา เรากลับชอบ Circus มากกว่านะ รู้สึกเหมือนทุกเพลงมันเล่าเรื่องต่อเนื่องกัน ส่วนตัวชอบ Hello มากๆ ท่าเต้นโคตรน่ารัก แบบ รักกกกกก

แต่รอบนี้ไม่ได้ไปอะ กินแกลบอยู่บ้าน
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 5502
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Mar 05, 2016 01:04
ถูกแบนแล้ว
[RE: [LIVE MUSIC REVIEW] Take That Live in Bangkok 2016]
Take Thatเกิดได้เพราะมี5คน เพราะมีร็อบอยู่ด้วยมันถึงได้เป็นTake Thatครับ
ผมก็อ่านข่าวมานะ คงไม่โดนตบหรอกครับเพราะขนาดบาโลว์ยังบอกเองแบบขำๆเลยว่า สมาชิกTakethatมี4คน อีกคนเข้าๆออกๆ ออกแนวสมาชิกกึ่งๆถาวรมากกว่า
แต่ยังไงก็ต้องมี5ครับ แฟนเพลงอีกครึ่งโลกรอร็อบกันทั้งนั้น ส่วนตัวผมก็ชอบที่มี5มากกว่า
การที่บอยแบนด์ หรือเกิร์ลกรุ๊ป มีแต่คาแรคเตอร์เหมือนๆกันทั้งวง มันไร้ความครีเอทและความน่าตื่นตาตื่นใจมากเลย น่าเบื่อพูดง่ายๆ
เฮียร้อบคือเสน่ห์ที่สุดแล้ว
อ้อผมไม่ใช่ติ่งวงนี้นะครับไม่ได้crazyอะไรขนาดนั้น ไม่ได้ติ่งเฮียร็อบด้วยฟังเพลงเดี่ยวแกก็ไม่กี่เพลง ผมพูดถึงมวลรวมของวง ใครจะชอบ4ชอบ5ก็แล้วแต่ครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel