[RE: ลุงกัลขโมยซีน!!!แรชฟอร์ดเบิ้ลอีก"ผี"พิการยังฮ็อตทุบ'ปืน'ระทึก 3-2]
Famelaini พิมพ์ว่า:
gowito1 พิมพ์ว่า:
boy1000 พิมพ์ว่า:
เกมนี้ก็มันส์ดีนะ แต่ทำไมต้องแข่งพร้อมเอาร์บวก-กลัคบัค คู่นั้นก็โครตมันส์เลย กลายเป็นดูไม่รู้เรื่องทั้ง 2 คู่ซะงั้น
แต่เท่าที่ดูก็ไม่น่าเชื่อ แมนยู จะใช้ตัวผู้เล่นชุดนี้ชนะ ปืน ได้ อันนี้ให้เครดิต LVG เต็มๆ พร้อมกับแจ้งเกิดเจ้าหนู แรชฟอร์ด อย่างเป็นทางการ ยิง 2 จ่าย 1 เก็บบอล พักบอล จ่ายบอลง่ายๆ สุดยอดเลย แล้วก็ชุดนี้น่าจะลองใช้ยาวๆนะ ถล่มมิลทิลแลน และก็ยังมาชนะปืนอีก เพิ่ม ไมค์ มาประคองหลังสักตัวน่าจะช่วยได้อีกเยอะ
ส่วนปืน จริงๆเหนือกว่านะ แต่เหมือนใจไม่สู้อ่ะ มาสู้ตอนโดนนำ 2 ลูกตลอด แล้วก็ไม่น่าเชื่อว่าระดับอเล็กซิสจะเจาะหลังชุดนี้ของแมนยูไม่ได้ เกมรุกพึ่งแต่โอซิล โอซิลโดนตัดออกจากเกมก็จบ ไม่มีความอันตรายเลย
ที่จริงเล่นดีก็นักเตะ เล่นแย่ก็นักเตะ โค้ช อย่าง ฟานกัล แกระดับโลกอยู่แล้ว
แผนการก็ทรงเดิมๆตั้งแต่คุมทีมไหนๆ แก้เกมก็โหด ถ้ามีตัวเลือกที่ดีอ่ะนะ
ชอบตรงปั้นดาวรุ่งได้โหดสมกับเป็นฟานกัล
ส่วนปืน ก็คงเหนื่อยหนักจากที่โดนบาซ่าทะลวงมา กับพวกเด็กๆของแมนยู วิ่งลงไปช่วยหลังกันดี ก็ช่วยประคองกองหลังได้ ทั้งๆที่ไม่มีเซ็นเตอร์ ธรรมชาติ
อันนี้แก้เกมได้แบบนี้ ก็เห็นมี เป๊บ อีกคนแหละ ที่ทำกับบาเยิร์นที่ช่วงนี้ขาดเซ็นเตอร์เหมือนกัน
ประเด็นฟานฮาล ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
ผมยอมรับเลยว่า เป็นแฟนคลับปรัชญาของเขา ผมตามดูเทปย้อนหลังตั้งแต่สมัยคุมAjax
เขาเล่นแบบนี้มาแต่ไรจริงๆ ครองบอลเยอะๆ พยายามใช้แดนหลังยัดบอลให้หน้าต่ำ แล้วถ่ายออกข้าง เป็นสามเหลี่ยม พอหาช่องไม่ได้ก็คืนหลังเริ่มต้นกันใหม่ ลองย้อนดูคลิปUCLปี1995ได้ครับ เกมโคตรง่วงกว่าแมนยูชุดนี้ซะอีก
มันน่าเห็นใจนะ โปรไฟล์เขามาแบบนี้ ปรัชญาเขาเป็นแบบนี้
(แล้วเขาก็เป็นกุนซือประเภทนั่งจดยิกๆมาแต่ไหนแต่ไรแล้วด้วย)
แต่บอร์ดบริหารไปเอาเขามาคุมทีมที่เน้นเอนเตอร์เทรน เหมือนเอามาให้แฟนบอลด่า พอสกอร์ไม่เป็นใจ รูปแบบการเล่นยังไม่ถูกใจแฟนบอลอีก
ทั้งๆที่สิ่งเหล่านั้นคือ สไตล์ของเขาที่ทำให้เขากลายเป็นกุนซือที่ยิ่งใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้
แต่สิ่งที่น่าชื่นชมในตัวฟานฮาล อย่างนึงคือ แกพยายามเปลี่ยนตัวเอง
คนที่ใช้ปรัชญาเดิมๆมาตลอดชีวิตการคุมทีม แต่ยอมเปลี่ยนเพื่อแมนยูมากขนาดนี้
ผมว่าตรงนี้แหละที่น่านับถือ
ดูจากนัดนี้ เกมในแนวรุกเร็วขึ้นมาก แบ็คเติมสูงกว่าปกติ ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะเน้นรัดกุมมากกว่านี้เยอะ
ฤดูกาลหน้า น่าสนใจตรงที่ว่า แมนยูจะมีทีมที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาก
เพราะส่งชื่อได้25คนก็จริง แต่เด็กๆเกือบสิบคน(อายุต่ำกว่า21)ที่ถูกดันขึ้นมาในปีนี้
จะทำให้แมนยูมีโควต้าตัวผู้เล่นมากขึ้น เพราะนอกจากจะสามารถเสริมนักเตะเวิร์ลคลาสเข้าทีมแล้ว ยังมีเด็กพวกนี้เป็นกำลังสำรองที่ลงแทนได้อย่างไร้กังวล ผมว่านี่แหละ คือจุดแข่งของแมนยูในฤดูกาลต่อจากนี้
ใครจะด่าLVGยังไงก็ตาม ผมก็ยังคงเชื่อว่า เขาเป็นหนึ่งในกุนซือที่ดีที่สุดคนนึงเสมอ
ที่สำคัญ ถึงเขาอาจจะไม่ได้ทิ้งถ้วยแชมป์ไว้ให้ แต่เมล็ดพันธุ์ที่เขาหว่านเอาไว้นี่แหละ
ที่จะทำให้แมนยูกลับมายิ่งใหญ่และ
ยั่งยืน
ในฐานะแฟนบอลคนนึง ผมไม่รีบหรอก ยังไงก็ยังเหลือเวลาให้เชียร์ตลอดชีวิตของผม
ที่จริงแกไม่ได้เปลี่ยนตัวเองนะครับ
ตอนคุมบาเยิร์นบุกหนักกว่านี้
เรียกว่าวัดกองหน้ากันเลยมากกว่า
ผมดูนี่บ่นประจำ แกเสริมเกมรับห่วงหลังบ้านบ้างก็ได้
ส่วนเกมที่บุกๆไปแล้วตัน มันเป็นเรื่องปกติ
ของรูปเกมครองบอล ที่จริงเราครองบอลเพื่อบุกตลอดเวลาครับ
แต่เวลาเจอเกมดีบโซนเพรส ที่เอาไว้ใช้สู้กับแนวบอลทรงเดียวกับติตี้กาก้าอยู่แล้ว
มันจะบุกไปแล้วตันวนกลับ หาช่องเข้าทำใหม่ กดดันไปเรื่อยๆ
ที่น่าเบื่ออ่ะ เพราะฝั่งตรงข้ามตั้งรับแล้วเจาะไม่เข้าครับ
ไม่แปลก แต่ที่แมนยู คือมันเจ่ะยังไงก็ไม่เข้าครับ นักเตะเล่นไม่ได้ตามที่ต้องการ แกก็เคยให้สัมภาษว่าขาดความแม่นยำ
แต่ที่บาเยิร์นมันก็เล่นแผนนี้ แต่เน้นวินัยการเล่นสูงมาก บังคับแนววิ่ง
ทำให้มีการทะเลาะกับนักเตะแก่ๆเก่าๆ กับพวกอินดี้ไม่ชอบ อยู่บ้าง
แต่ที่จริงทีมมืออาชีพก็ควรเล่นตามโค๊ชครับ ข้อแตกต่างมันต่างตรงที่
ที่บาเยิร์นตัวเกมรุกรายตัว มันโหดครับ ถึงจะใช้เด็กๆ ก็เด็กอย่าง มุลเลอร์ อลาบา แล้วทีมที่จะกันอยู่ มีน้อยครับ ที่กันได้ก็อินเตอรของมูครับ เอาลูซิโอ้ของพี่เสือไปด้วยช้ำหนักเลย
เวลาโดนอุดทำให้มันน่าเบื่อบ้างช่วงครับ แต่ที่แกไม่เคยสนเกมรับครับ เน้นบุกโคตรๆ 424 ก็ได้เห็นตอนแกคุมบาเยิร์นนี่แหละ เกมไหนยิ่งไม่ได้ แพ้เลยครับ ส่วนใหญ่จะกันไม่อยู่ ช่วงจูนกันติดครึ่งหลังของฤดูกาลแรกกับบาเยิร์น เลยหวดได้ทุกทีม
กวาดมาสองแชมป์กับเข้าชิง ucl ทั้งที่ไม่เคยหวังจากที่ที่ปีก่อนเราต้องปลดโค๊ชกลางฤดู แล้วบาเยิร์นก็เปลี่ยนเป็นสไตย์บุกเต็มตัว ในสมัยแกนี่แหละ จากเดิมที่เน้นเกมแน่นอน เหนียวเป็นหลัก แต่เกมรุกยังไม่เก่งถ้าเทียบกับทีมเจ้ายุโรป
ส่วนข้อแตกต่าง ระหว่าง บาเยิร์นของแก กับแมนยู ชุดนี้
คือนักเตะ มีวินัยมากกว่า วิ่งมากกว่า เล่นตามแผนเป๊ะๆเป็นทุนเดิมอยู่แล้วในเยอรมัน แล้วเกมเพรสซิ่งชิงบอลกลับมาตอนบุกพลาด เข้าแย้งบอลกลับได้ดีกว่า ซึ่งผลจะคล้ายรีบาวในบาสเก็ตบอลครับ
ยิ่งรีบาวได้เยอะยิ่งมีโอกาสชนะมากกว่า แต่บาส% การเข้าทำมันสูงกว่าเห็นผลเยอะกว่ามาก
แมนยูชุดนี้ก็เจอกำแพงเหมือนกับที่ บาเยิร์น อาแจค เจอในยุคแรกๆของแแกครับ คือบุกไป เจอตั้งรับแล้วเจาะไม่เข้าครับ
ตอนนี้เป็นช่วงที่ต้องทุ่มเทให้มากขึ้นครับ เพื่อให้เจาะประตูให้ได้
พอเจาะได้จะมีการเปิดหน้าแลกกัน
รูปเกมจะเปิด คราวนี้แหละมันส์ ฟานกัล แกไม่สนเกมรับอยู่แล้ว
เพราะแค่ครองบอลบุกทั้งเกมได้จริงๆ ไม่ชนะก็เสมอ ตามแนวของแก
ถ้าบุกแล้วตันน่าเบื่อ แสดงว่าชัดเจน ตรงนักเตะไม่ผ่านครับ
คือไม่ผ่านกองหลัง
เพราะเล่นมาทั้งหมดก็แนวทางเดิมๆของแก แกแก้เกมตามเกมโหดอยู่แล้ว ถ้ามีตัวเลือกให้แกเลือกนะ อันนี้ย้ำเลย
ส่วนใหญ่ที่บาเยิร์น จะมีตัวสำรองมหาโหดลงมาช่วยบุกเสมอ เวลาตันๆแล้วพอเจาะได้นะสนุกล่ะ ทีมแกครองบอลบุกต่อจนจบเกมได้สบายๆ
ตัวอย่าง เช่นในเกมพลิกนรกจากตามแมนยูสามลูกในโอลแทรฟฟอด แต่ไล่มา 3-2 เข้ารอบด้วยอเวโกล ท้ายเกมนี่ ติ๊ดชึ่งกันมันเลย ตัวมากกว่าด้วย เล่นไล่ลิงชิงบอลกัน ฆ่าเวลากันจนจบเกม
แกมาตายตอนทะเลาะกับเฮอเนสนั่นแหละ ที่บาเยิร์นแทรกแซงโค๊ชเยอะมาก แล้วฟานกัลก็ดื้อโคตรๆ ที่จริงเฮอเนสก็เก่งและห่วงทีมแหละ แต่พอไม่ลงรอยกันทีมก็แยก ปลดแกออกซะ
ถ้าแกมีเวลาคุมทีมยาวๆ ทีมอย่าง AZ แกยังทำจนเป็นแชมป์ นับประสาอะไรกับแมนยู ที่มีทุกอย่าง แล้วแกจะทำไม่ได้
แต่ข้อดีชัดเจน คือเด็กๆที่แกทิ้งไว้ มันยังเล่นพีคๆโหดๆได้อีกนานพื้นฐานเกมบุกมันยังอยู่ โค๊ชใหม่มาทำ มันก็ทำเกมรุกได้ได้ง่าย อย่างเช่นปู่จู๊ฟมาทำต่อ แกเสริมหลักๆเลยคือเกมรับเพื่อกันลูกสวนกับช่วยเพรสซิ่ง เสริมหน้าโหดขึ้นนิดหน่อย สานผลงานเข้าชิง ucl สองปีรวด เนี่ยแหละผลที่ก้าวผ่านช่วงน่าเบื่อบุกแล้วตัน ก็บุกต่อไปเจาะให้ได้ ไม่ว่าทีมไหน แต่ที่จริงมันก็ยากเย็นสุดๆแหละ