แกรี่ เนวิล-วิเคราะห์แทคติกLVG เกมพ่ายน่อลและชนะเอฟ3-0
ก่อนอื่นผมต้องขอโทษก่อนเลย ที่หยิบเอาเรื่องนี้มาพูด ช้าไปหน่อย
งานผมค่อนข้างยุ่ง เลยหาโอกาสแปลไม่ได้
ตอนนี้หาเวลาว่างได้แล้ว จึงขอหยิบเอาคลิปวิเคราะห์เกม ของแกรี่ เนวิล
มาแปลให้ท่านผู้ติดตามได้ลองเอาไปดู เอาไปอ่านกันเล่นๆระหว่างรอดาร์บี้แมนเชสเตอร์
รูปแบบเกมรับ : จากจุดอ่อน สู่จุดแข็ง
ความล้มเหลวในยุคของเดวิด มอยส์ คือ กรณีศึกษาที่ทำให้เห็นถึงความผิดพลาดในด้านแท็คติก
การทำเกมรุกแบบโบราณ (Old-fashioned) และรุกแบบมิติเดียว(One-dimensional) นั้นถูกคู่แข่งจับทางได้โดยง่าย
ในขณะเดียวกัน ระบบเกมรับ ก็แย่พอๆกับ เกมรุก โดยพวกเขาจะมักจะให้แดนหน้าวิ่งไล่บีบเพรสซิ่งสูง ในขณะที่แบ็คโฟว์ก็ลงไปรับลึกในแดนตัวเอง ส่งผลให้เกิดเป็นพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ระหว่างไลน์กองหน้ากับกองหลัง
และแทนที่พวกเขาจะเพรสซิ่งกันแบบCompact Shape แต่พวกเขาเลือกที่จะแยกกันเพรสซิ่ง
ผลลัพธ์ คือ เมื่อคู่แข่งหลุดจากการเพรสซิ่งมาได้ พวกเขาจะมีพื้นที่ และเวลาในการสร้างสรรค์เกมรุก
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ผ่านไป50เกม แนวรับของลูกทีมเดวิด มอยส์ เสียประตูให้คู่แข่งมากถึง 52 ประตู!!
มันเป็นเรื่องง่ายที่จะพูดว่า ทุกอย่างที่ฟานฮาลมี คือสิ่งที่แท็คติกของมอยส์ไม่มี หลุยส์ ฟานฮาล ปรับแนวรับด้วยวิธีบีบพื้นที่ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ด้วยการCompact หลุยส์ ฟานฮาล เคยอธิบายเอาไว้ว่า
“ A compact style in which the lines between the players should be no greater than five to 10 metres, which ensures the players need to expand as little energy as possible in covering”.
“สไตล์การคอมแพ็ค ไลน์ระหว่างผู้เล่นควรจะอยู่ห่างกันไม่เกิน5หรือ10เมตร สิ่งนี้จะทำให้ผู้เล่นของเราไม่ต้องใช้พลังงานมากนัก ในการคุมพื้นที่”
นอกจากนั้น พวกเขาจะอดทนรอจนกว่า คู่แข่งจะเข้ามาในพื้นที่ ที่เรียกว่า “Action Zone”
จากGifนี้ จะเห็นว่า ชไวนี่ และดาลีย์ บลินด์จะปรี่ออกมาสกัดบอลทันที เมื่อคู่แข่งเข้ามายังพื้นที่ที่เป็นAction Zone
รูปนี้เป็นตัวอย่างของการCompactในเกมที่เอาชนะแอสตัน วิลล่า
เมื่อคู่แข่งครองบอล แมนยูจะใช้วิธีสร้างShapeในลักษณะแบบนี้ขึ้นมา เพื่อลดช่องว่างและไม่ปล่อยให้คู่แข่งมีพื้นที่มากพอที่จะสร้างสรรค์เกมบุก เหมือนอย่างที่เราเคยเห็นในเกมที่ชนะลิเวอร์พูล และล่าสุดก็เกมที่เอาชนะเอฟเวอร์ตัน(แกรี่ได้พูดเอาไว้ในคลิป)
ถ้าไม่นับนัดที่พ่ายให้กับอาร์เซน่อล เราจะสังเกตเห็นว่า คู่ต่อสู้จะเจอกับความยากลำบากในการขึ้นเกมจากตรงกลางเสมอ
แต่แล้วทำไมสิ่งที่เคยเป็นจุดแข็ง และสัมฤทธิ์ผลมาตลอด มันกลับกลายเป็นจุดอ่อนให้อาร์เซน่อลล่อเป้าได้ง่ายๆ? นี่คืออีกหนึ่งประเด็นที่"แกรี่ เนวิลล์"จะวิเคราะห์ให้ดู
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจมากๆ คือ แกรี่ ไม่ได้มองว่า กองหลัง คือ จุดอ่อนที่ทำให้ทีมต้องพ่ายแพ้ แล้วมันเป็นเพราะอะไรหละ?
ภาพจากกล้องในสนาม ต้องการจะบอกอะไรครับ แหม่
ภาพนี้เป็นจังหวะก่อนเสียประตูแรก เราจะเห็นว่า แมนยูสามารถยืนCompactกันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่เมื่อลองสังเกตดีๆจะเห็นว่า การ์ซอลล่าหลอกล่อให้ชไวนี้ออกจากพื้นที่ และนำมาซึ่งการเปิดพื้นที่ให้อาร์เซน่อลได้โจมตี
(แกรี่เปรียบจังหวะนี้ว่า "เหมือนหมาวิ่งหากระดูก")
จริงอย่างที่แกรี่ วิเคราะห์หรือไม่? เราลองมาดูคลิปเต็มๆกันดีกว่า
(ผมแปลคลิป และใส่ซับภาษาไทยไว้ให้แล้วนะครับ)
VIDEO
(ถ้าแปลผิด หรือตกหล่นตรงไหนก็ขออภัยด้วยนะครับ)
Spoil
ปล.ส่วนตัวจขกท. ผมคิดว่า
การ์ซอลล่า คือ ตัวทำลายCompactของแมนยูก็จริง แต่ผมก็คิดว่า ถึงจะหลุดไปแล้ว ถ้ามีชไนเดอร์ลินลงแทนคาริค อย่างน้อยๆก็น่าจะช่วยตัดบอลได้ อันนี้ต้องโทษฟานฮาลในการเลือกตัวผู้เล่นด้วย
ปล2.จังหวะเสียประตูแรกจะโทษชไวนี่ซะทีเดียวก็ไม่ได้ ต้องโทษรูนนีย์ที่ตามประกบโกเกอแลงไม่อยู่ด้วย
ปล3.ในคลิปจังหวะเออเรร่า กางแขนสั่งการ บอกให้เพื่อนถอยลงมารักษาแนวคอมแพ็ค โคตรเท่ห์ไปเลย นี่แหละมาดจอมทัพตัวจริง หมูควรเอาเป็นตัวอย่างนะ
ปล4.มูฟเม้นท์แมนยูตอนไม่มีบอล มันช่างสวยงามจริงๆ
ใครมีความเห็นยังไง อย่าลืมคอมเม้นท์แลกเปลี่ยนความเห็นกันนะครับ
ถ้าเห็นด้วย เปลี่ยนจากกดแผล่บ เป็นกดโหวตกระทู้ดีกว่าครับ
จะได้แชร์ความรู้ไปให้ใครอีกหลายๆคน