ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 1402
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 11:41 am
Resident Evil ตอนที่ 32 “ Chris Redfield part 2”
Resident Evil ตอนที่ 32 “ Chris Redfield part 2”



6เดือนต่อมา....

คริสที่รอดมาได้สูญเสียความทรงจำบางส่วนไปเพราะความสะเทือนใจอย่างรุนแรงและแรงกระแทกที่หัว เขาหนีออกมาจากโรงพยาบาลด้วยความสับสน และใช้ชีวิตอย่างไร้จุดหมายได้แต่เมาไปวันๆเพื่อหนีอดีตอันเจ็บปวด แต่ในที่สุดเพียร์สก็ตามหาเขาจนเจอ ขณะที่คริสกำลังมีเรื่องกับคนในบาร์ เพียร์สที่กินสเต็กแอบสังเกตุการณ์อยู่ก็ทนไม่ไหวต้องเข้ามาห้าม





"ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีวันได้เห็นคริสเรด ฟิลด์ในสภาพทุเรศๆแบบนี้"

"แกเป็นใคร"

"เพียร์ส...เพียร์ส นีวานส์"

"ไม่เห็นจะรู้จัก"

"งั้นเหรอ แล้วนี่ล่ะ"

เพียร์สเปิดภาพการก่อการร้ายที่ผ่านมาให้คริสดู

"คุณหนีไปจากความจริงไม่ได้คริส อดีตมันไม่มีวันหายไปไม่ว่าคุณจะไปอยู่ที่ไหน"

"ถ้ายังนึกไม่ออกอีก... นี่ล่ะ"

เขาเปิดภาพของเพื่อนร่วมทีมที่ตายไปให้คริสดู

"ดูนี่สิ! อย่าหลบสายตานะ!"



"พวกเค้าทุกคนเป็นลูกน้องของคุณ พวกเค้าตายภายใต้การนำทีมของคุณ"

"คุณยังติดค้างพวกเค้าอยู่นะคริส! คุณต้องนึกให้ออก!"

"ถ้าคุณลืมมันหมดซะที่นี่ ทุกอย่างก็สูญเปล่า พวกเค้าก็ตายเปล่า!"

"พอแล้ว!"

ความทรงจำที่เจ็บปวดเริ่มเด่นชัดขึ้นมาเหมือนภาพที่ขาดช่วง ระหว่างเพียร์สกำลังโกรธและผิดหวังที่หัวหน้าของเขาตกต่ำลงได้ถึงเพียงนี้ คริสก็มองไปยังเสื้อของเพียร์สและเห็นตราสัญลักษ์ของBSAA

"BSAA...."

"...ใช่ ที่ที่คุณควรอยู่"

"พวกเราทุกคนรออยู่"

"ทุกคนเหรอ"

เพียร์สส่งสัญญาณให้สมาชิกทุคคนที่แอบนั่งปะปนอยู่ในร้ายลุกขึ้นมา เหล่าBSAAชุดใหม่ที่พร้อมจะปฏิบัติหน้าที่



"เรามาพาตัวคุณกลับไป หัวหน้า"

"ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม..."

ในที่สุด เพียร์สก็ตามคริสกลับมานำทีมจนได้ แม้จะยังได้ความทรงจำกลับคืนมาไม่ครบ แต่คริสก็เริ่มต้นภารกิจใหม่ที่ประเทศจีน ระหว่างทางที่ได้ต่อสู้กับจาโวเห็นลูกน้องบางคนตายไป เขาก็เริ่มประติดประต่อความทรงจำเข้าด้วยกันและฟื้นฟูมันขึ้นมาทีละน้อย

จนในที่สุดเมื่อคริสได้เห็นดักแด้จาโวอีกครั้ง ความทรงเกี่ยวลูกน้องในอดีตก็ฟื้นกลับมาโดยสมบูรณ์

"ฟินน์..." คริสรำพึงออกมา



"เพียร์ส"

"ครับ?"

"เกิดอะไรขึ้นกับเอด้า หว่อง?"

"หัวหน้าจำได้แล้ว!"

"มันอยู่ไหน"

"เธอเป็นคนอยู่เบื้องหลังองค์กรนีโออัมเบรลล่า"

"การก่อการร้ายที่เกิดขึ้น-"

"ชั้นถามว่ามันอยู่ไหน!"

คริสตะคอกถามด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวเหมือนไม่ใช่ตัวเขาคนเดิม เพียร์สนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบ

"...ตั้งแต่เกิดเหตุวุ่นวายนี้มีคนพบเห็นตัวเธอหลายคน ใช่ครับ เธออยู่ในเมืองนี้....ตอนนี้"

คริสลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้าเคียดแค้น

"บอกทุกคนว่าให้เดินทางต่อได้แล้ว"

"ครับ..."



เดินหน้าต่อจนมาถึงจุดที่พบเจคและเชอร์รี่อีกครั้ง ทั้งคู่จะถูกศัตรูล้อมทำให้คริสและเพียร์สที่อยู่ด้านบนต้องยิงช่วยเหลือ หลังจากจัดการศัตรูจนหมด คริสได้สบตากับเจคพร้อมครุ่นคิดอะไรบางอย่าง หลังจากเจคกับเชอร์รี่วิ่งหายไปเพียร์สก็บอกว่าควรจะตามไปปกป้องสองคนนั้น เพราะนีโออัมเบรลล่ากำลังตามล่าทั้งคู่อยู่ แต่คริสที่ยังคงต้องการแก้แค้นเอด้าก็อ้างว่าหน้าที่ของBSAAคือการจำกัดBOW โดยไม่ฟังเหตุผลของเพียร์ส







หลังจากนั้นลูกทีมคนหนึ่งของคริสจะถูกสัตว์ประหลาดงูยักษ์ล่องหนงาบไป คริสวิ่งตามไปโดยไม่รอคนที่เหลือในทีม แต่คริสก็ตามมันไม่ทันระหว่างที่คริสกำลังเหวี่ยงใส่ดินฟ้าอากาศอยู่ เพียร์สก็ตามมา และต่อว่าอย่างโมโหที่คริสวู่วามหุนหันพันแล่น แต่คริสตอกกลับอย่างเย็นชา

"ถ้าไม่พอใจก็เชิญไปอยู่ที่อื่น ที่นี่คือทีมของชั้น ถ้านายไม่ทำตามคำสั่ง ชั้นก็จะหาคนอื่นมาแทน

"คุณพูดอะไรน่ะ รู้ตัวบ้างมั้ย?"

"กลับไปเข้าที่ซะ ทหาร"





แล้วคริสก็มุ่งหน้าไล่ตามเอด้าต่อไปอย่างไม่แยแส จนมาถึงห้องในตึกร้างแห่งหนึ่ง เพียร์สเห็นบรรยากาศไม่สู้ดีก็รีบเตือนคริสให้ออกคำสั่งออกไปจากที่นี่ คริสก็ไม่สนใจ และแล้วลูกน้องคนสุดท้ายที่ตามมาก็ถูกยิงเข็มฉีดไวรัสพร้อมกับที่เอด้าคนนั้นปรากฏตัว

"ตามหาชั้นอยู่เหรอ หนุ่มๆ?"

"เอด้า!"

เธอกระโดดหนีไป ส่วนลูกน้องที่กลายเป็นดักแด้ก็กำลังจะฟักตัว เพียร์สจะยิงทิ้งแต่ถูกคริสห้ามเอาไว้ทำให้ดักแด้ฟักตัวออกมาจนได้ หลังจากสู้เสร็จคริสก็จะหัวเสียจนต่อยเข้าที่ผนัง







"ใจเย็นสิ คริส"

"หลังจากที่มันทำกับพวกเราอย่างนี้น่ะเหรอ!"

"ทหารของเราต้องตายไปกี่คนแล้วเพราะนังนั่น!"

"ผมรู้ ผมก็อยู่ที่นั่นด้วย แต่ความแค้นของคุณมันช่วยอะไรไม่ได้หรอก"

"ถ้าคุณไม่ได้หลงอยู่แต่กับการแก้แค้นส่วนตัวจนขาดความรอบคอบล่ะก็ คนที่ตายไปในวันนี้อาจจะรอดบ้างก็ได้!"





"หุปปากซะ..."

"คุณยังสนใจภารกิจของเราอยู่บ้างมั้ย!?"

"หุปปาก!!!"

"รู้สึกเสียใจแทนคนที่ตายไปเพราะเชื่อฟังคุณจริงๆ!!"

คริสที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้ก็เหวี่ยงเพียร์สกระเด็นไปติดผนัง แต่เพียร์สก็ไม่ยอมแพ้

"เกิดอะไรขึ้นกับคริส เรดฟิลด์คนเดิมกันแน่!"

"คุณเป็นอะไรไปแล้วน่ะ!!"

"ดีจริงๆที่ฟินน์ไม่ต้องมาเห็นคุณในสภาพแบบนี้"

คริสโดนตอกแบบนั้นเข้าไปก็จุก แต่ก็ยังดึงดังจะตามเอด้าต่อไป เขาผลักเพียร์สไปให้พ้นทาง แต่เพียร์สก็ตัดสินใจจะตามเขาไปด้วย

"ในสภาพแบบนี้...ต้องมีคนคอยดูแลคุณ...ไม่ว่าคุณจะต้องการหรือไม่ก็ตาม"





ทั้งคู่ติดตามเอด้าต่อไปจนถึงโรงงานที่ผลิตไวรัสของนีโออัมเบรลล่า คริสพบตัวเอด้าและยิงออกไปแต่ก็ไม่โดน เธอหนีไปอีกครั้งแต่คริสก็ไม่ยอมปล่อยไปและสั่งให้เพียร์สไปล้อมอีกทางจนในที่สุดเธอก็จนมุม ในขณะที่คริสกำลังจะยิง ก็มีคนๆหนึ่งเข้ามาขัดขวาง











"คริส!"

"ลีออน?"

"นายมาทำอะไรที่นี่?"

"ลดปืนลงซะ คริส เธอเป็นพยานคนสำคัญ นายฆ่าเธอไม่ได้นะ"

"พยานบ้าอะไร มันเป็นคนทำเรื่องทั้งหมดนี่!"

"ไม่ใช่! ตัวการคือดีเรค ซิมมอนส์! ที่ปรึกษาศูนย์ป้องกันความปลอดภัยแห่งชาติ"

"ลูกทีมของชั้นต้องตายหมดเพราะนังนี่!"

"และชั้นก็ต้องเสียประชากรไปเจ็ดหมื่นกว่าคนรวมทั้งประธานาธิบดี! เพราะซิมมอนส์!"

คริสมองไปทางเอด้าที่ยิ้มเย้ยหยันอยู่ด้านหลังลีออน ถึงแม้ลีออนจะมีเหตุผลแต่เค้าก็อภัยให้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้







"นังนี่ทำงานให้นีโออัมเบรลล่า...นายเข้าใจความหมายของมันใช่มั้ย"

"ชั้นเข้าใจดี..."

"แล้วนายยังจะปกป้องมันอีกเหรอ"

"...ใช่ ชั้นจะทำ"

หลังจากได้ยินคำตอบที่จริงใจของลีออน คริสก็เงียบไป เอด้าจึงอาศัยจังหวะนั้นโยนระเบิดแฟลชและฉวยโอกาศโหนสลิงหนีไป(แหม หนีง๊ายง่าย) ขณะที่คริสกำลังจะตามไปลีออนก็รั้งเอาไว้







"คริส"

"เราต้องการสิ่งเดียวกัน"

"เข้าใจล่ะ"

"BSAAจะจัดการเรื่องของเอด้าเอง"

"นายดูแลเรื่องซิมมอนส์ให้ดีแล้วกัน

"ฝากด้วยนะ"

"คริส...."

"ชั้นรู้ว่านายจะเลือกทางที่ถูกต้อง"







เมื่อวิ่งออกมา เอด้าก็ขับรถหนีไปแล้วเพียร์สกระโดดขึ้นรถฮัมวี่บริเวณนั้นแล้วสตาร์ทรถ(ยานพานหะเกมนี้มันขโมยง่ายจริง โดดขึ้นปุ๊บใช้ได้เลย ไม่มีการล็อคอะไรทั้งสิ้น) คริสที่กระโดดขึ้นประจำป้อมปืนด้านหลังก็พูดขึ้นว่า

"เพียร์ส"

"นายคงจะพูดถูกเรื่องที่ชั้นหนีความจริง"

"หัวหน้า?"

การได้พบกับลีออนทำให้คริสได้สติขึ้นมา ได้มองปัญหาในจุดยืนที่ใหญ่กว่าแค่ความแค้นของตัวเอง

"ตามเป้าหมายให้ทันได้ไหม "

"ไม่หยุดจนกว่าจะตามทันแน่นอนครับ" เพียร์สยิ้มด้วยความดีใจที่หัวหน้าคนเดิมของเขากลับมาแล้ว



จนมาถึงหอคอยที่เอด้าหนีขึ้นไปกบดาน พอเข้าไปถึงก็จะได้ยินเสียงที่เอด้าพูดโทรศัพท์กับซิมมอน เธอบอกว่าโลกนี้กำลังจะเปลี่ยนไป ทั้งหมดนั่นแหล่ะ ทั้งตัวแกและก็คนอื่นๆ อย่ากลัวไปเลย สิ่งที่ชั้นมอบให้แกก็คือสิ่งเดียวกับที่แกมอบให้ชั้นเท่านั้นเอง

เมื่อไปถึงยอด เอด้าก็จะถูกต้อนจนมุมพอดี (ช่วงที่ไล่ตามจะเห็นเอด้าเป็นระยะ ใส่เสื้อสีฟ้าบ้างแดงบ้าง แล้วคริสมันไม่สงสัยเรอะว่ามันแปลกๆ -*- หรือฉุกใจว่ามันมีเอด้าสองคนไรเงี้ย)





"ยังไม่รู้จักเลิกราเลยนะ"

"แม้นายจะเสียลูกทีมไปหมดเป็นครั้งที่สองแล้ว"

"..."

"แหม ชั้นว่านะ หลังจากนี้ พอดูประวัตินายแล้วเนี่ย ไม่น่าเข้าร่วมทีมด้วยเลยเนอะ"

"แก..."

"อย่าไปสนคำยั่วของมันครับ หัวหน้า..."

"อ้ะ ชั้นก็เกือบจะลืมขอบใจพวกลูกน้องนายไปแล้วสิ ที่ช่วยเป็นร่างทดลองให้ได้ดีขนาดนั้น"

คริสยิงใส่มือเอด้าที่ถือหลอดไวรัสอยู่จนกระเด็นตกลงไป

"ตั้งแต่ตอนนั้น ชั้นก็อยากจะฆ่าแกมาตลอด"

"แต่นี่ไม่ใช่เรื่องของการแก้แค้น"

"แต่เป็นเรื่องของความถูกต้อง"

"มันจบแล้ว เอด้า"

"นั่นสินะ จบแล้วจริงๆ ป่านนี้มิซไซล์ก็คงจะเตรียมออกตัวแล้วล่ะมั้ง"

"ออกตัวเหรอ?"

"เดจาวูมั้ยล่ะ แรคคูนซิตี้อีกครั้ง! แต่ครั้งนี้จะไม่ใช่แค่เมืองๆเดียวหรอกนะ"

"มันจะแพร่ไปทั่วโลกใบนี้!"

ทันใดนั้นเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งก็บินมาเหนือยอดตึก สไนเปอร์เล็งกระบอกปืนมาที่เอด้าและเหนี่ยวไก





"อึ่กก!!"

"เสร็จมันจนได้!"

"ระ....ร้ายกาจไม่เบานะ"

"แต่ยังไง ก็ไม่มีใคร..."

"หยุดมันได้แล้ว...."

ท่ามกลางความสับสนของคริสและเพียร์ส ใครกันที่จัดการเอด้า? แล้วทำด้วยเหตุผลอะไร? เอด้าก็ตกลงไปตายที่พื้นเบื้องล่าง ในหีบที่เอด้าถือมา ยังเหลือไวรัสอีกหลอดหนึ่ง คริสสั่งให้เพียร์สนำติดตัวไปด้วย จากนั้นทั้งคู่ก็มุ่งหน้าไปยังโรงเก็บเครื่องบิน(คิดจะขับก็ขับได้อีกแล้ว...)และทะยานขึ้น ทั้งคู่ควบคุมเครื่องและพยายามจะหยุดยั้งมิซไซล์ แต่สุดท้าย....มันก็สายเกินไปอยู่ดี







มิซไซล์พุ่งตัวออกจากฐานและกำลังมุ่งหน้าไปที่ใจกลางเมือง! ทันใดนั้นเองคริสก็รีบติดต่อกับลีออนเพื่อเตือนให้ลีออนรีบหนีออกมา







มิซไซล์ทำงานตามเป้าหมายได้อย่างสมบูรณ์แบบ มันทำปฏิกริยาแล้วระเบิดขึ้นที่ใจกลางเมืองท่ามกลางผู้คนมากมาย และแพร่หมอกควันสีดำปนเปื้อนเชื้อไวรัส แปรสภาพให้คนทั้งหมดที่สูดดมไอหมอกนั้นให้กลายเป็นผู้ติดเชื้อ เพียงไม่กี่วินาที ทั้งเมืองก็ตกอยู่ในสภาวะโกลาหล มีแต่เสียงกรีดร้องระงมจากเหยื่อที่ถูกกัดทึ้งและเสียงคำรามจากผู้ติดเชื้อ







เมื่อลีออนตอบกลับมาก็ทำให้คริสโล่งใจที่เขาไม่เป็นอะไร ลีออนอยู่ใจกลางสถานการณ์กลางเมืองที่ย่ำแย่นั้นและต้องการที่จะไปหยุดยั้งซิมมอนส์ แต่ยังมีเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่งคือการไปช่วยเหลือเจคและเชอร์รี่ที่ถูกจับตัวไปที่ฐานขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล เขาจึงต้องฝากให้คริสไปช่วยทั้งคู่แทนตัวเขาเอง

"คริส...เจค มัลเลอร์เป็นลูกชายของอัลเบิร์ต เวสเกอร์"

"เวสเกอร์เหรอ?"

"ใช่ เขามีแอนติบอดี้ที่สามารถต่อต้านไวรัสได้"

"เข้าใจแล้ว ชั้นจัดการเอง"

"โอเค ขอบใจจริงๆ"

"เดี๋ยวลีออน อย่าเพิ่งวาง....ชั้นมีเรื่องจะบอกนาย"

"เอด้า หว่องตายแล้ว..."

ลีออนนิ่งเงียบไปนานก่อนจะตอบรับข้อความของคริส







"เข้าใจแล้ว..."

"...."

"เชอร์รี่กับเจครอนายอยู่ รีบไปเถอะ"

ขับเครื่องบินมาถึงฐานน้ำมัน พอเข้าไปข้างในลิฟต์เพียร์สก็จะบอกว่าช่างน่าขันนักที่เรื่องราวมันเป็นแบบนี้ ชายที่เคยจะทำลายโลกนี้ให้สิ้นซากโดยใช้เวลาไปทั้งชีวิต ตอนนี้ลูกชายของหมอนั่นกลับเป็นสิ่งเดียวที่จะช่วยโลกเอาไว้ได้ และ...คนที่ฆ่าพ่อของเขา ก็กำลังจะมาช่วยชีวิตเขาเอง... เรื่องมันกลับตาลปัตรดีชะมัด คริสยิ้มแล้วบอกว่ามันอาจจะเป็นชะตากรรมก็ได้





"ตั้งสามปีมาแล้ว นับตั้งแต่ชั้นฆ่าเวสเกอร์ "

"ชั้นคงทำแบบแบบนี้ตลอดไปไม่ได้หรอก"

"หลังจากเสร็จภารกิจนี้ ชั้นก็จะเกษียณเสียที"

"อะไรนะ? เดี๋ยวสิครับ.."

"คงต้องมีใครสักคนมาแทนที่ชั้น"

"ชั้นจะดีใจมาก ถ้าคนๆนั้นเป็นนาย"

"ผม...ผมไม่เหมาะสมหรอก"

"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก นายมาได้ไกลขนาดนี้แล้วนะ"

คริสใช้เวลาในวัยหนุ่มทั้งชีวิตเพื่อต่อสู้กับอาวุธชีวภาพ...BSAAคือผลผลิตจากการรวมกลุ่มพรรคพวกที่มีอุดมการณ์เดียวกัน ในอีกไม่นานเมื่อเวลาผ่านไป ทั้งเขาและจิลเองก็คงจะไม่สามารถปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพได้อย่างเดิมอีกแล้ว เขาจึงหาคนรุ่นใหม่ที่เป็นความหวังที่จะช่วยชี้นำBSAAต่อจากเขามาตลอด และตอนนี้ เขาก็เชื่อว่าเพียร์สเป็นความหวังนั้นของเขาแล้ว...





ลิฟต์ลงมาถึงชั้นล่างสุดพอดี คริสบอกว่าไปกันเถอะ เริ่มต้นภารกิจสุดท้ายของแคมเปญนี้ เมื่อผ่านด่านไปจนถึงห้องควบคุมกรงขังของเจคกับเชอร์รี่ คริสก็ทำการปลดล็อคทั้งคู่ซะ แล้วก็มุ่งหน้าไปต่อเพื่อไปพบกับทั้งสองคน เมื่อพบกันแล้วคริสก็เปิดเผยความจริงที่ว่าตัวเองเป็นคนฆ่าเวสเกอร์ให้เจครู้ เจคโกรธและหยิบปืนออกมาจ่อหน้าคริสท่ามกลางเสียงทัดทานของเชอร์รี่และเพียร์ส แต่คริสก็ไม่หวาดหวั่น ซ้ำยังอนุญาติให้เจคยิงเขาได้เลยถ้าต้องการ แต่อย่าทรยศโลกใบนี้



"นายทำเพราะหน้าที่ หรือเพราะการตัดสินใจของนายเอง" เจคถามถึงวาระสุดท้ายของพ่อ

"ทั้งสองอย่าง" เมื่อคิดย้อนไป ถึงแม้มันไม่ใช่ภารกิจ คริสก็คิดว่าเป็นหน้าที่ของตนเองที่จะต้องหยุดเวสเกอร์ให้ได้ เพราะเขาเคยเป็นคนในทีมเดียวกันกับเวสเกอร์ เป็นหนึ่งในคนที่เห็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมด เขามีส่วนต้องรับผิดชอบ

เมื่อได้ยินคำตอบนั้นเจคก็ลั่นไก.... แต่สุดท้ายกระสุนนัดนั้นก็ผากแก้มของคริสไป เจคตัดสินใจพักปัญหาของเขาเอาไว้ก่อน ทั้งสี่คนเตรียมตัวจะหนีออกไปจากที่นี่กัน ทว่าที่ใจกลางฐานทัพ BOW ขนาดใหญ่ยักษ์ก็ฟักตัวออกมาจากดักแด้ หากปล่อยให้มันออกไปสู่โลกภายนอกได้ก็คงจะต้องมีคนล้มตายอีกมากมาย แต่การนำตัวเจคไปส่งเพื่อสกัดวัคซีนก็สำคัญเช่นกัน คริสจึงตัดสินใจว่าเขาจะจัดการกับมันเอง ให้เจคและเชอร์รี่รีบหนีไปซะ





และแล้วก็มาถึงลาสบอสของคริสเสียที 'เฮออส' เป็นอาวุธชีวภาพขนาดยักษ์มีหน้าตาคล้ายหัวกระโหลกลำตัวปลาหมึก คริสและเพียร์สพยายามต้านทานและในขณะเดียวกันก็ต้องวิ่งหนีน้ำทะเลที่ไหลทะลักเข้ามาท่วมฐานทัพและไต่ระดับสูงขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อมาถึงประตูไฟฟ้าบานหนึ่ง เฮออสเอื้อมมือมาพยายามจะจับคริส แต่เพียร์สเข้ามาขวางไว้ ทำให้มันจับเพียร์สขว้างไปยังกำแพงแทน





เคราะห์ร้ายของเพียร์ส แชนขวาของเขาถูกท่อนเหล็กแทงทะลุขยับตัวไม่ได้ ทำให้เฮออสโจมตีซ้ำโดยการโยนบานประตูเหล็กขนาดใหญ่กลิ้งมาทับร่างกายซีกขวาของเขาซ้ำอีก คริสพยายามจะวิ่งมาช่วยแต่ก็ถูกรวบตัวเอาไว้ ในวินาทีที่คริสกำลังจะถูกศัตรูบดขยี้ในกำมือ เพียร์สก็เห็นบางสิ่งบางอย่างที่กระเด็นออกมาจากกระเป๋าของเขา











ซี-ไวรัสที่เขาหยิบติดตัวมาจากกระเป๋าของเอด้า.... เพียร์สฉีดมันเข้าร่างกายโดยไม่ลังเล แขนขวาของเขางอกขึ้นมาใหม่กลายเป็นอาวุธชีวภาพที่ปล่อยสายฟ้าได้ เขาพยายามควบคุมสติของตัวเองเอาไว้และช่วยคริสกำจัดศัตรู

เมื่อปราบมันลงได้ คริสก็จะวิ่งเข้ามาดูอาการของเพียร์ส







"อึ่กก...."

"เพียร์ส!"

"หะ...หัวหน้า"

"ทำใจดีๆไว้ นายต้องไม่เป็นไร"

"ผม..ผมขอโทษ"

"อะ...ผม...ทำไป"

"เพื่อBS..A..A!"

"เพื่..ออนาคต...!"

เพียร์สพยายามรวบรวมคำพูดอย่างยากลำบาก





ชั้นรู้... นายทำด้วยเจตนาดี"

"ขอเพียง..."

"ขอเพียงแค่หัวหน้า...ยังอยู่...."

"อย่าพูดแบบนั้นนะ!"

"เราต้องรอดไปทั้งคู่"

"เข้าใจใช่มั้ย?""

เพียร์สนิ่งไปและพยักหน้า หัวหน้าที่เขารู้จักไม่มีวันทอดทิ้งลูกน้องเด็ดขาด แต่สิ่งที่เพียร์สคิดก็คือคริสนั้นเป็นเสาหลักของทุกสิ่ง เป็นคนที่สำคัญที่สุดต่อBSAA ตราบใดที่ยังมีคริสอยู่ ก็จะมีคนที่เป็นจุดศูนย์รวมคอยชักจูงและชี้นำคนใหม่ๆให้ยืดหยัดต่อต้านอาวุธชีวภาพอยู่เสมอ....





คริสพาเพียร์สหนีไปยังทางออก แต่เมื่อใกล้ถึง เพียร์สก็ล้มลงพร้อมส่งเสียงร้องอย่างทรมานออกมา ร่างเขากำลังแปรสภาพมากขึ้น เพียร์สบอกให้คริสไปซะเถอะแต่คริสไม่ยอมหนีเอาตัวรอดคนเดียว
คริสพยุงเพียร์สจนมาถึงยานช่วยเหลือ เขาพาเพียร์สไปนั่งข้างๆระหว่างที่กดให้เครื่องเริ่มทำงาน คริสเร่งมือกดคำสั่ง แต่เพียร์สที่นั่งอยู่กำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขามองไปที่ตราสัญลักษณ์BSAAที่แขนเสื้อของตัวเอง









ประตูยานเปิดออก คริสพยุงเพียร์สขึ้นมา แล้วเพียร์สก็ยัดบางอย่างใส่มือเขาแล้วผลักเขาเข้ายานไป







"อย่านะ! หยุด!"

เพียร์สกดปิดประตูยาน โดยที่ตัวเองยังยืนอยู่ด้านนอก คริสรีบลุกขึ้นมาแต่ก็สายเกินไป ประตูนั้นปิดสนิทแล้ว คริสทุบประตูพร้อมร้องตะโกน

"เพียร์ส! อย่าทำแบบนี้ เปิดประตูซะ!"

"เจ้าบ้าเอ้ย หยุดนะ! ฟังชั้น!"

"นายยังรอดไปได้! เรายังรอดไปด้วยกันได้!!"







คริสดิ้นรนจะเปิดประตูให้ได้ เพียร์สค่อยๆประคองร่างของตัวเองไปยังคันโยกปล่อยตัว เขาชั่งใจครู่หนึ่งก่อนจะกดคันบังคับลงไป

เสียงสัญญาณดังขึ้น ยานช่วยเหลือกำลังจะปล่อยตัว

"ไม่!!!!!!!!"

"เพียร์ส!! เปิดประตูเดี๋ยวนี้ นี่คือคำสั่ง!"

เพียร์สไม่พูดอะไร เขาเดินมายืนอยู่ที่หน้ายานเพื่ออำลาคริสที่พิงประตูยานอย่างสิ้นหวัง







"อย่าทำแบบนี้...."

เพียร์สส่งยิ้มให้หัวหน้าของเขาเป็นครั้งสุดท้าย แล้วยานก็ออกตัว คริสตะโกนเรียกชื่อเพียร์สขณะที่ยานแล่นห่างออกไปเรื่อยๆ เพียร์สที่ยืนอยู่ท่ามกลางฐานทัพที่พังทลายยืนมองคริสจนลับตา...











เมื่อยานถูกปล่อยออกจากฐานทัพกลางทะเล คริสก็ตกอยู่ในห้วงคำนึง แต่ทันใดนั้น เฮออสที่รวบรวมพลังเฮือกสุดท้ายก็ว่ายตามมาเกาะยานของคริสเอาไว้ คริสตอบโต้อะไรไม่ได้ แต่แล้วก็มีสายฟ้าถูกยิงออกมาจากฐานทัพปะทะเข้าที่ร่างของมัน ทำให้มันร่วงลงไปที่ก้นทะเล และเกิดระเบิดขึ้น เฮออสถูกกำจัดในที่สุด







ที่พื้นผิวน้ำ คริสที่รอดชีวิตมาได้มองออกไปยังทะเลด้านนอก เขามองดูอะไรบางอย่างที่เพียร์สยัดใส่มือเขา...







ที่ฟากฟ้า เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยกำลังมุ่งหน้ามา ภารกิจของคริส...เสร็จสิ้นแล้ว



-----------------------------------

บทส่งท้าย...

คริสนั่งกินสเต็กอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง... พร้อมกับครุ่นคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา







แล้วทหารนายหนึ่งเดินเข้ามารายงานว่ามีภารกิจใหม่

"งั้นเหรอ...."

"รีบไปจัดการกันเถอะ"

"ครับ!"







คริสลุกขึ้นแล้วเดินไปยังประตู...เขาไม่ได้เกษียณอย่างที่เคยตั้งใจไว้

เฉกเช่นเดียวกับที่เพียร์สฝากฝังอนาคตของBSAAไว้ในมือเขา

เขาจะสู้ต่อไปตราบจนลมหายใจสุดท้าย

ท่ามกลางแสงสว่างที่โอบล้อม

คริสมุ่งหน้าต่อไป

ก้าวต่อไป





THE END.

-----------------------------------

Cedit : http://taepoppuri.exteen.com/

*************************************************************************************
ติดตามย้อนหลังได้ตาม Link ด้านล่างนะครับ

Resident Evil ตอนที่ 1 ประวัติ Umbrella Coporation
Resident Evil ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้นความหลอนบนรถไฟสายสยอง
Resident Evil ตอนที่ 3 ปฐมบทความหลอนในคฤหาสน์ลึกลับ
Resident Evil ตอนที่ 4 มหันตภัยที่คืบคลานสู่เมืองแรคคูน
Resident Evil ตอนที่ 5 อวสานเมืองสวรรค์ Raccoon City
Resident Evil ตอนที่ 6 บันทึกความทรางจำ เมืองแห่งความเศร้า
Resident Evil ตอนที่ 7 ตระกูลแอชฟอร์ดและการกลับมาของเวสเกอร์
Resident Evil ตอนที่ 8 ปลุกชีพราชินี 'อเล็กเซีย'
Resident Evil ตอนที่ 9 โศกนาฏกรรมส่งท้ายแด่ตระกูลแอชฟอร์ด
Resident Evil ตอนที่ 10 'ยุทธการจาเวียร์ !' (ตอนพิเศษ)
Resident Evil ตอนที่ 11 'พลาก้า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ !'
Resident Evil ตอนที่ 12 'แผนร้ายของ ออสมุน แซด
Resident Evil ตอนที่ 13 'ชะตากรรมของ หลุยส์ เซร่า
Resident Evil ตอนที่ 14 ''เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด"
Resident Evil ตอนที่ 15 'กลับสู่อเมริกา'
Resident Evil ตอนที่ 16 '' ใจกลางมหาสมุทร "
Resident Evil ตอนที่ 17 '' ปริศนาทั้งสอง "
Resident Evil ตอนที่ 18 '' ปริศนาซ่อนเร้น "
Resident Evil ตอนที่ 19 '' ทุกสิ่งแขวนอยู่บนเส้นด้าย "
Resident Evil ตอนที่ 20 '' ไร้ซึ่งทางหนี "
Resident Evil ตอนที่ 21 '' จุดจบของราชินี "
Resident Evil ตอนที่ 22 " Uroboros Part 1 "
Resident Evil ตอนที่ 23 " Uroboros Part 2 "
Resident Evil ตอนที่ 24 “Terra – Save”
Resident Evil ตอนที่ 25 “Contemplation”
Resident Evil ตอนที่ 26 “Judgment”
Resident Evil ตอนที่ 27 “Metamorphosis”
Resident Evil ตอนที่ 28 “ ประวัติ Virus of Resident Evil part 1 ”
Resident Evil ตอนที่ 29 “ ประวัติ Virus of Resident Evil part 2 ”
Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”
Resident Evil ตอนที่ 31 “ Chris Redfield part 1”
เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 49742
ที่อยู่: สเปอร์ส&ชมรมคนรักหนัง&เนย
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 12:32 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 32 “ Chris Redfield part 2”]
คริส แมร่งโครตเท่
รักแท้หรือแค่...สงสาร

โดย whitehunter เมื่อวันที่ 30 April 2019 20.04 [เหตุผล]
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 1402
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 12:43 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 32 “ Chris Redfield part 2”]
kalakasong พิมพ์ว่า:
คริส แมร่งโครตเท่  


คริส หอวัง อ่ะนะเท่ ถุย

เข้าร่วม: 22 Oct 2012
ตอบ: 49742
ที่อยู่: สเปอร์ส&ชมรมคนรักหนัง&เนย
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 12:52 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 32 “ Chris Redfield part 2”]
petemaker II พิมพ์ว่า:
kalakasong พิมพ์ว่า:
คริส แมร่งโครตเท่  


คริส หอวัง อ่ะนะเท่ ถุย

 


เล่นเอง ถรุย เอง เก่งที่สวด
รักแท้หรือแค่...สงสาร

โดย whitehunter เมื่อวันที่ 30 April 2019 20.04 [เหตุผล]
เข้าร่วม: 19 Aug 2008
ตอบ: 53
ที่อยู่: โอล์ดแทรฟฝุ่น
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 1:03 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 32 “ Chris Redfield part 2”]
คริส เรดฟิลด์
เพียร์ส นีแวน

เอิ่ม....










เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 368
ที่อยู่: Bunyawat RoboCyber Club
โพสเมื่อ: Tue Sep 01, 2015 4:18 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 32 “ Chris Redfield part 2”]
ซึ้งมากตอนนี้ เล่นเองน้ำตาซึมเบย
เข้าร่วม: 17 Dec 2009
ตอบ: 153
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Thu Sep 10, 2015 2:54 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 32 “ Chris Redfield part 2”]
เอ่อ ผญ ชุดสีน้ำเงิน นี่ Carla นะครับ ไม่ใช่ Ada



http://residentevil.wikia.com/wiki/Carla_Radames
0
0