ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 1402
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 11:45 am
Resident Evil ตอนที่ 31 “ Chris Redfield part 1”
Resident Evil ตอนที่ 31 “ Chris Redfield part 1”



แนะนำตัวละคร



Chris Redfield

วันนที่เกิด : 1973
เพศ : ชาย
หมู่เลือด : O
ส่วนสูง : 185 เซนติเมตร
น้ำหนัก : 98 กิโลกรัม
อาชีพ : นักบินกองทัพอากาศสหรัฐ(ก่อนปี1998)
: พลแม่นปืนและนักบินผู้ช่วยของหน่วยสตาร์ทีมอัลฟ่า (1996-1998)
: Private Regional Biohazard Containment Unit(1998-2004)
: เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของกองกำลังผสมเฝ้าระวังภัยก่อการร้ายทางอาวุธชีวภาพ (2005-ปัจจุบัน)

ตัวเอกจากภาคแรก เรียกได้ว่าเป็นพระเอกดั้งเดิมที่เป็นรากฐานของซีรีย์นี้ เคียงคู่กับเวสเกอร์ที่เป็นตัวร้ายประจำซีรีย์ เมื่อสามปีก่อนคริส จิล และชีว่า ช่วยกันกำจัดเวสเกอร์ได้สำเร็จ(เรื่องราวในภาค5) หลังจากนั้นเขาก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่อยู่ในหน่วยBSAAที่เขากับเพื่อนๆร่วมก่อตั้งขึ้นมา และคอยหาคนรุ่นใหม่ที่มีอนาคตเพื่อที่ฝากฝังBSAAเอาไว้ แม้เค้าจะไม่อยู่แล้ว

นับแต่วันที่เขาถูกส่งไปปฏิบัติหน้าที่ที่แรคคูนซิตี้เมื่อสิบกว่าปีก่อน การต่อสู้กับอาวุธชีวภาพก็เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเขามาตลอด และมันจะเป็นภารกิจในชีวิตเขาตราบจนกว่าจะหมดลมหายใจคริสเป็นคนใจกว้าง มีคุณธรรมสูง เชี่ยวชาญการใช้อาวุธทุกประเภท ขับเครื่องและยานพาหนะทางทหารได้อย่างคล่องแคล่ว ร่างกายที่แข็งแกร่งจากการเตรียมพร้อมเพื่อเผชิญกับเวสเกอร์ก็ยังคงอยู่ กล่าวได้ว่าไอ้กล้ามปูดๆนั่นไม่เคยลดลงอีกเลย หลังจากภาค5...

*********************



Piers Nivans

วันที่เกิด : 1987
วันที่เสียชีวิต : 1 กรกฎาคม 2013
เพศ : ชาย
หมู่เลือด : A
อาชีพ : เจ้าหน้าที่กองกำลังผสมเฝ้าระวังภัยก่อการร้ายทางอาวุธชีวภาพ

มาชิกหนุ่มของหน่วยBSAAที่มีความเชี่ยวชาญด้านการใช้ปืนสไนเปอร์ เพียร์สเป็นนักแม่นปืนชั้นเยี่ยมตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้เข้าร่วมกับBSAA จนเมื่อคริสพบตัวเพียร์สเข้าก็ติดใจในความสามารถของเขาและชวนมาร่วมทีมเพียร์สให้ความนับถือและชื่นชมคริสเป็นอย่างโดยเขาชื่นชอบวิธีการปกครองลูกทีมของคริสที่ไม่ได้ปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างทหารยศต่ำทั่วไป แต่กลับดูแลเอาใส่ใจเสมือนว่าทุกคนเป็นครอบครัว และไม่คิดจะทอดทิ้งลูกทีมคนใดคนหนึ่งเพื่อบรรลุจุดประสงค์ใดเป็นอันขาดแม้จะเชี่ยวชาญด้านสไนเปอร์เป็นพิเศษแต่เขาก็ใช้อาวุธอื่นๆได้ดีเช่นกัน ในภารกิจปัจจุบันเขาทำหน้าที่เป็นมือขวาของคริส คอยประสานติดต่องานและลูกแลลูกทีมคนอื่นๆเช่นเดียวกับที่คริสทำ

------------------------------------------------------

ณ ประเทศอีโดเนีย

ท่ามกลางสมรภูมิที่การรบระหว่างกองกำลังBSAAและกลุ่มกองโจรผู้ครอบครองอาวุธชีวภาพกำลังเป็นไปอย่างดุเดือด ที่มุมหนึ่ง สมาชิกของหน่วยปฏิบัติการพิเศษทุกคนกำลังยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยเพื่อนร่วมทีมคนหนึ่งที่เสียชีวิตลง



"เค้าออกไปสืบข้อมูลภาคสนามคนเดียว..."

"ฟังนะทุกคน"

"หน้าที่ของBSAAคือการทำลายการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีภาพให้สิ้นซาก"

"และการจะทำแบบนั้นได้เราต้องร่วมแรงร่วมใจกัน"

"ไม่มีใครต้องตายเปล่า"

"ใช่แล้ว"

"ชั้นรู้ว่าทุกคนพร้อมที่จะสละชีวิตให้กับหน้าที่ของพวกเรา"

"แต่หน้าที่ของชั้นก็คือการทำให้พวกเราทุกคนรอดไปให้ได้ไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์แบบไหน"



คำพูดปลุกใจที่หนักแน่นของคริสทำเอาทหารมือใหม่คนหนึ่งร้องไห้ออกมา

"อย่าร้องน่า ฟินน์"

"ขอโทษครับ"

"ไม่มีการทิ้งใครไว้ข้างหลังเด็ดขาด ตราบที่ชั้นยังมีลมหายใจ"

"เข้าใจมั้ย!"

"รับทราบ!"

จากนั้นฟินน์ก็จะอธิบายข้อมูลของผู้ก่อการร้ายให้ทั้งทีมฟังว่ากลุ่มกองโจรนั้นใช้อาวุธชีวภาพชนิดใหม่ เขาเรียกพวกมันว่า จาโว มันมีพลังกายที่แข็งแกร่ง สติปัญญาที่ชาญฉลาด และสามารถปรับเปลี่ยนสภาพร่างกายในบริเวณที่ถูกทำร้ายได้ จากนั้นคริสก็จะสั่งให้กระจายตัวไปปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่ก่อนที่คริสจะเดินไป เขาก็สังเกตฟินน์เข้าพอดี





"หน้าใหม่สินะ เราน่ะ"

"ใช่ครับท่าน ฟินน์ แมคคอยเลย์ ครับ"

"ชั้นรู้ว่านายประหม่า ฟินน์ แต่ไม่ต้องกลัวนะ เราทุกคนอยู่ข้างนายเสมอ "

"ครับ ผมจะพยายามให้ดีที่สุดครับ"

คริสตบบ่าฟินน์แล้วเดินจากไป

"เค้าเจ๋งอย่างงี้เสมอเลยเหรอครับ?"

ฟินน์ออกอาการปลื้มหัวหน้าทีมจนเพียร์สต้องส่ายหัว จากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกระจายกำลังไป เพื่อจัดการกับกองโจรจาโว ระหว่างทาง จะได้พบกับจาโวชนิดต่างๆมากมายทั้งที่กลายพันธ์เป็นแบบสัตว์ปีก แบบที่แขนแปรสภาพกลายเป็นโล่ และได้เจอกับยักษ์BOWขนาดมหึมา เมื่อไปถึงสะพานคริสจะสั่งให้ฟินน์ระเบิดสะพานเพื่อตัดกำลังศัตรูซะ

หลังจากนั้นทีมของคริสจะเจอกับเชอร์รี่และเจค คริสรู้จักเชอร์รี่ผ่านทางการบอกเล่าของน้องสาวเขา ในระหว่างที่คุยกับเพียร์สก็สังเกตเห็นว่าเจคใส่เสื้อที่มีตราของกลุ่มกองโจรอยู่ แต่เชอร์รี่ก็อธิบายว่าเจคไม่ได้เป็นทหารรับจ้างแล้ว และแล้วก็มีวิทยุติดต่อเข้ามาบอกให้คริสระวังวัตถุขนาดใหญ่ที่กำลังเคลื่อนที่ไปทางทีมของคริส ซึ่งนั่นก็คือยักษ์BOWอีกตัวหนึ่ง





ทำให้คริสและเชอร์รี่ต้องหยุดการสนทนาแต่เพียงเท่านั้นและแยกย้ายกันไปกระทืบยักษ์ก่อน ระหว่างที่สู้กับมันเราสามารถกระโดดขึ้นไปบนตัวเพื่อถอนหนามแหลมรอบคอมันออกมาปักหน่อปรสิตที่ด้านหลังของมันได้ ....ชวนสงสัยว่าคริสมันเป็นเดอะ ฮัลค์หรือไรทำไมโคตรเว่อร์ขนาดนี้ เมื่อปราบมันได้เสร็จยักษ์นั้นก็จะละลายหายไปกลายเป็นกองเมือกน่าขยะแขยง

แล้วคริสก็จะเตรียมเฮลิคอปเตอร์ให้เชอร์รี่เพื่อส่งเธอและเจคออกไปจากเขตรบนี้ ก่อนที่ทั้งคู่จะจากไป คริสก็ถามเจคว่าเราเคยเจอกันมาก่อนไหม? แต่เจคกลับกวนส้นกลับมาด้วยการบอกว่าเขาจำไม่ได้หรอก ทหารหัวเตียนหน้าตาเหมือนกันไปหมด ทำเอาเพียร์สของขึ้นแต่คริสก็ห้ามเอาไว้ ซ้ำยังขำในความห่ามของเจค



เมื่อทั้งคู่จากไป เพียร์สก็ยังโมโหอยู่และบอกคริสว่าไม่น่าปล่อยให้เจครอดไปได้ ทหารอย่างเราต้องตายไปมากมายเพราะพวกกองโจรรับจ้าง แต่คริสก็เตือนให้คำนึงถึงภารกิจหลักเป็นอันดับแรก อย่าเสียสมาธิไปกับเรื่องอื่น เพียร์สนิ่งไปก่อนจะพยักหน้ารับเงียบๆ เมื่อคริสเดินจากไป ฟินน์ที่เห็นด้วยกับหัวหน้าทีมไปซะทุกเรื่องก็อดที่จะสอดไม่ได้

"ภารกิจในการต่อสู้กับพวกก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพไงครับ"

"ชั้นรู้น่าว่าเรามาทำอะไร ไอ้หน้าใหม่"





แล้วทีมของคริสก็จะเข้าสำรวจตึกแห่งหนึ่งที่ดูเหมือนเป็นศาลาว่าการของเมือง ที่โถงด้านล่างพวกเขาพบกับดักแด้รูปร่างมนุษย์เป็นจำนวนมาก ฟินน์บอกว่าเค้าตรวจคลื่นของสิ่งมีชีวิตได้จากข้างในดักแด้...นั่นหมายความว่าในเปลือกนี้มีคนอยู่งั้นเหรอ? แล้วก็ได้คำตอบเมื่อสำรวจไปลึกขึ้นแล้วเจอดักแด้อันหนึ่งที่ฟักตัวออกมาเป็นสัตว์ประหลาด

เมื่อสำรวจต่อไปคริสก็ได้พบห้องที่มีหลอดฉีดยากระจัดกระจายเต็มไปหมด แล้วผู้หญิงคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมา...





"ซี-ไวรัสไงล่ะ พวกกองโจรเรียกมันว่าอย่างนั้น"

เสียงนั้นทำเอาพวกคริสต้องตั้งท่าเตรียมยิงทันทีด้วยความตกใจ

"ดีใจจังมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยซะที"

"เธอเป็นใคร"

"ชั้นชื่อ เอด้า หว่อง หนึ่งในพนักงานที่นี่ พวกมันจับชั้นเป็นตัวประกัน"

"ซี-ไวรัสงั้นรึ มันทำให้เกิดจาโวพวกนั้นสินะ"

"ก็คงงั้นแหล่ะ ชั้นก็ได้ยินพวกมันพูดถึงอะไรทำนองนั้น

"เธอรู้อะไรอีก"

"ลดปืนลดก่อนจะดีมั้ยหนุ่มๆ"

"เสียใจด้วย จนกว่าเธอจะแสดงตัวให้น่าเชื่อถือน่ะนะ"

"เฮ้อ โอเค ชั้นได้ยินชื่อขององค์กรที่หนุนหลังพวกกองโจร"

"นีโออัมเบรลล่า"

"นีโออัมเบรลล่า?"

"ใช่ ถ้าได้ยินไม่ผิดน่ะนะ"

"มันเป็นคนผลิตซี-ไวรัสพวกนี้เหรอ"

"งั้นมั้ง"

"ขอบคุณที่ให้ความร่วมมือกับเรานะคุณผู้หญิง"

"ฟินน์ หน้าที่ของนายคือคุ้มครองเธอ"

"ครับผม"

แม้จะสั่งให้ฟินน์คอยประกบเธอไว้แล้ว แต่คริสก็ยังคงไม่วางใจจึงกระซิบกำชับเพียร์สอีกทีหนึ่ง

"เพียร์ส คอยจับตาดูเธอไว้นะ"

"ทราบอยู่แล้วครับ"



แล้วทีมของคริสก็จะมุ่งหน้ากลับมาที่ห้องโถงอีกครั้ง เหล่าดักแด้ที่พบในตอนแรกนั้นฟักตัวออกมาและพุ่งเข้าโจมตี ทำให้ทุกคนต้องล่าถอยขึ้นไปยังชั้นสองตามทางที่ผู้หญิงคนนั้นแนะนำ และต้องจัดการศัตรูไปพร้อมๆกับหาทางออกจากตึกหลังนี้ เมื่อไปถึงห้องโล่งแห่งหนึ่งเพียร์สก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นหายตัวไป...

"!"

"ผู้หญิงนั่นหายไปไหนแล้ว?"

"ฟินน์!"

"ห๊ะ!...ผม...ผมไม่รู้ ก็เมื่อกี้เค้ายังอยู่ตรงนี้เลย!"





ระหว่างที่ทั้งทีมกำลังสับสน ช่องประตูด้านบนก็มีลูกกรงหล่นมาปิดทับ คริสและเพียร์สก็โดดหลบไปอีกฟากทันพอดี ทำให้ทุกคนที่เหลือถูกขังอยู่ในห้องด้วยความตกใจ และแล้วผู้หญิงคนนั้นก็ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งที่ประตูอีกฝั่ง







"ขอบใจนะจ๊ะที่มาส่ง"

"เอด้า!"

"เอ้า ของขวัญที่ระลึกเล็กๆน้อยๆ"

พร้อยกับการส่งรอยยิ้มแสนชั่วร้าย ลูกบอลลูกหนึ่งถูกโยนเข้ามากลางห้องที่เหล่าBSAAยืนอยู่ แล้วเปลือกของมันก็แตกออก ส่งให้เข็มฉีดไวรัสจำนวนมากพุ่งออกมาฝังลงบนตัวของเหล่าลูกทีม





"ไม่นะ!"

เธอจากไปพร้อมส่งยิ้มเย้ยหยัน ณ เบื้องหลังทุกคนส่งเสียงครวญครางอย่างทรมานแสนสาหัส

"อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!"

ร่างของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนสภาพ ผิวหนังของพวกเขาเกิดเพลิงลุกไหม้พร้อมกับปล่อยเมือกเหนียวออกมา

"ไม่จริง! หยุดนะ บ้าที่สุด! อย่านะ!"









เหล่าBSAAดื้นทุรนทุราย แต่ก็ไม่มีอะไรหยุดยั้งการแปรสภาพได้แล้ว

"ฟินน์ แข็งใจไว้!"

"ไม่ใช่แบบนี้!"

ฟินน์ที่ร่างถูกเผาไหม้และถูกเมือกเหนียวปกคลุมไปทั่วพยายามลุกขึ้นมา

"บัดซบที่สุด! ไม่นะ!!!"

"หะ...หัวหน้า! "

ฟินน์ยื่นมือออกมาหาคริสราวกับจะขอความช่วยเหลือ คริสยื่นมือออกไปสุดแรงเอื้อมแต่ก็ไม่อาจสัมผัสได้





และในวินาทีต่อมาลูกทีมทั้งหมดก็กลายเป็นดักแด้ไปต่อหน้าต่อตาคริสและเพียร์ส โดยไร้ซึ่งเสียงใดๆ...คริสทรุดตัวลงอย่าสิ้นหวัง แต่แล้วเพียร์สก็เริ่มสังเกตเห็นลางร้าย ดักแด้ของสิ่งที่เคยเป็นเพื่อนของเขากำลังฟักตัว





"หัวหน้า เราต้องรีบไปแล้ว!"

"หัวหน้า! เร็วเข้า!"

แล้วดักแด้ก็ฟักตัวออกมาเป็นสัตว์ร้ายรูปร่างพิกลพิการ เสี้ยววินาทีนั้นคริสลังเลจะยิงใส่เหล่าลูกน้องที่แปรสภาพไป ทำให้สิ่งที่เคยเป็นฟินน์วิ่งเข้ามาโจมตีใส่เขาอย่างดุร้าย แล้วเหวี่ยงร่างของคริสไปกระทบกับพื้นคอนกรีต หัวของเขากระแทกพื้นอย่างรุนแรงจนสลบไป ในสติที่รางเลือน เพียร์สไม่ยอมทิ้งหัวหน้าของเขา หากแต่ยิงปะทะและลากเอาคริสไปด้วย...








To be Continue

Cedit : http://taepoppuri.exteen.com/


*************************************************************************************
ติดตามย้อนหลังได้ตาม Link ด้านล่างนะครับ

Resident Evil ตอนที่ 1 ประวัติ Umbrella Coporation
Resident Evil ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้นความหลอนบนรถไฟสายสยอง
Resident Evil ตอนที่ 3 ปฐมบทความหลอนในคฤหาสน์ลึกลับ
Resident Evil ตอนที่ 4 มหันตภัยที่คืบคลานสู่เมืองแรคคูน
Resident Evil ตอนที่ 5 อวสานเมืองสวรรค์ Raccoon City
Resident Evil ตอนที่ 6 บันทึกความทรางจำ เมืองแห่งความเศร้า
Resident Evil ตอนที่ 7 ตระกูลแอชฟอร์ดและการกลับมาของเวสเกอร์
Resident Evil ตอนที่ 8 ปลุกชีพราชินี 'อเล็กเซีย'
Resident Evil ตอนที่ 9 โศกนาฏกรรมส่งท้ายแด่ตระกูลแอชฟอร์ด
Resident Evil ตอนที่ 10 'ยุทธการจาเวียร์ !' (ตอนพิเศษ)
Resident Evil ตอนที่ 11 'พลาก้า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ !'
Resident Evil ตอนที่ 12 'แผนร้ายของ ออสมุน แซด
Resident Evil ตอนที่ 13 'ชะตากรรมของ หลุยส์ เซร่า
Resident Evil ตอนที่ 14 ''เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด"
Resident Evil ตอนที่ 15 'กลับสู่อเมริกา'
Resident Evil ตอนที่ 16 '' ใจกลางมหาสมุทร "
Resident Evil ตอนที่ 17 '' ปริศนาทั้งสอง "
Resident Evil ตอนที่ 18 '' ปริศนาซ่อนเร้น "
Resident Evil ตอนที่ 19 '' ทุกสิ่งแขวนอยู่บนเส้นด้าย "
Resident Evil ตอนที่ 20 '' ไร้ซึ่งทางหนี "
Resident Evil ตอนที่ 21 '' จุดจบของราชินี "
Resident Evil ตอนที่ 22 " Uroboros Part 1 "
Resident Evil ตอนที่ 23 " Uroboros Part 2 "
Resident Evil ตอนที่ 24 “Terra – Save”
Resident Evil ตอนที่ 25 “Contemplation”
Resident Evil ตอนที่ 26 “Judgment”
Resident Evil ตอนที่ 27 “Metamorphosis”
Resident Evil ตอนที่ 28 “ ประวัติ Virus of Resident Evil part 1 ”
Resident Evil ตอนที่ 29 “ ประวัติ Virus of Resident Evil part 2 ”
Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1284
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 12:30 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 31 “ Chris Redfield part 1”]
ทุกวันนี้ยังสงสัยว่าไอ้สองหน่อนี้มันรอดมาจากอีโดเนียได้ไงหว่า
เจอ Napad เป็นดง แถมเหลือเพียร์ซคนเดียวอีก
คริสแค่หมดสตินี่บุญมากแล้วนะ


0
0
เข้าร่วม: 18 Oct 2007
ตอบ: 1891
ที่อยู่: ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ
โพสเมื่อ: Mon Aug 31, 2015 1:07 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 31 “ Chris Redfield part 1”]
0
0