ผู้ตั้ง
ข้อความ
เข้าร่วม: 31 Oct 2014
ตอบ: 1396
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Tue Aug 18, 2015 9:25 pm
Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”
Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”



แนะนำตัวละคร

เจค มัลเลอร์



-เขาเป็นลูกชายของอัลเบิร์ต เวสเกอร์ ตัวร้ายผู้โด่งดังประจำซีรีย์นี้นั่นเอง แต่เจคไม่เคยรู้จักพ่อของตัวเองมาก่อน เพราะเวสเกอร์ทิ้งแม่เค้าไปตั้งแต่ยังท้องอยู่ เจคเติบโตมากับแม่แค่สองคน ตัวเค้าเองมีพลังกายที่แข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป (แต่ยังไม่ถึงขั้นเทพแบบเดอะเมตทริกซ์เท่าเวสเกอร์) และยังมีสายเลือดพิเศษที่เค้าไม่รู้ตัว

เจคใช้ความสามารถพิเศษที่แข็งแกร่งนี้ในการหาเลี้ยงตัวเองและแม่ด้วยการเป็นทหารรับจ้าง แต่หลังจากแม่ตายไป เจคก็ไร้จุดหมายในการมีชีวิตอยู่ เค้ามองเห็นเงินเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตเพราะเค้าคิดว่าถ้ามีเงินมากพอตั้งแต่ยังเด็กก็คงรักษาแม่เค้าได้ และแม่ก็คงไม่ป่วยตาย ปัจจุบันเจคร่อนเร่อยู่ในประเทศอีโดเนีย(ประเทศที่แคปคอมสมมุติขึ้นมา) เลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างเป็นบอดี้การ์ด เป็นทหาร เป็นผู้ก่อการร้ายหรืออะไรก็ตามแต่ที่คนจะจ่ายเงินให้

เชอร์รี่ เบอร์กิ้นส์



ลูกสาวของวิลเลี่ยม เบอร์กิ้นส์ เชอร์รี่เคยปรากฏตัวในภาค2 เป็นเด็กที่ลีออนและแคลร์ช่วยเหลือ หาวัคซีนมาให้และพาหนีออกมาจากแรคคูนซิตี้ เหตุการณ์นั้นทำให้เชอร์รี่เสียพ่อและแม่ไป แต่เธอก็ยังมีลีออนและแคลร์เป็นผู้ใหญ่ที่คอยดูแล แม้จะไม่ได้เจอกันบ่อยนักแต่เธอก็ยังคิดถึงทั้งคู่เสมอ ปัจจุบันเธอเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลของสหรัฐอเมริกา ซึ่งต่อต้านการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ จากการฝึกฝนในภาคนี้เชอร์รี่เติบโตเป็นสาวบู๊เต็มขั้น ใช้ปืนได้อย่างเชี่ยวชาญ อาวุธประจำตัวคือกระบองไฟฟ้า

--------------------------------------------------------------------------------

ประเทศอีโดเนียซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของยุโรป

ชายหนุ่มคนหนึ่งโยนแอปเปิ้ลเล่นและนั่งผิวปากอยู่ในแหล่งรวมพลของกลุ่มกองโจร เขามองเข็มฉีดยาที่บรรจุตัวยาบางอย่างเอาไว้ภายในและจึงฉีดมันเข้าที่ต้นคออย่างไม่แยแส ใช่แล้ว เขาคือเจค มัลเลอร์ หนึ่งในทหารรับร้างที่กลุ่มโจรนี้จ้างมา



ในห้องห่างไปไม่ไกล สมาชิกในกองกำลังคนอื่นๆก็ฉีดตัวยานี้เข้าไปเช่นกัน แต่นั่นกลับทำให้พวกเขาเจ็บปวดทรมานแสนสาหัสและกลายร่างจนมีรูปลัษณ์เป็นกึ่งคนกึ่งสัตว์ประหลาดน่าสยดสยองที่เรียกว่าจาโว หนึ่งในนั้นวิ่งอย่างคลุ้มคลั่งออกมาทำร้ายเจค

"ไอ้นี่น่ะ มันเป็นยากระตุ้นกำลังอะไรทำนองนั้นสินะ แต่ชั้นไม่รู้สึกอะไรเลยว่ะ"

"ว่าแต่นายรู้อะไรมั้ย พวกเราน่าจะเรียกค่าจ้างให้มากกว่านี้นะ"



แม้ศัตรูจะใช้มีดตัดแอปเปิ้ลที่ถืออยู่จนขาดกระเด็นเฉี่ยวหน้าไปนิดเดียว แต่เจคก็ไม่สะทกสะท้าน และจัดการกับจาโวตัวนั้นด้วยมือเปล่าอย่างสบายๆ และแล้วเชอร์รี่ที่แอบดูเหตุการณ์อยู่ก็โผล่ออกมา

"คุณฉีดยานั่นไปแล้วรึเปล่า?"

"...อ่าฮะ ถ้าอยากได้กับเค้าบ้างละก็เธอต้องไปเซ็นสัญญาจ้างกับผู้หญิงที่ชั้นล่างนั่นน่ะ แต่ก็ไม่แนะนำหรอกนะ"

เจคพูดพลางมองที่ร่างของศัตรูที่กำลังเปลี่ยนสภาพกลายเป็นฝุ่นผง
เชอร์รี่มองดูเวลา ถ้าหากเป็นคนทั่วไปเจคก็คงจะต้องกลายร่างไปแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเจคมีแอนติบอดี้(สารที่เป็นภูมิต้านทาน)อยู่ในตัว หน้าที่ของเชอร์รี่คือการหาตัวผู้มีแอนติบอดี้แล้วคุ้มครองคนๆนั้นและนำตัวไปส่งให้กับรัฐบาล

"เจค มัลเลอร์ คุณอาจจะเป็นกุญแจสำคัญในการช่วยโลกเราได้"

"ชั้นว่า เราเอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่านะ"



เจคและเชอร์รี่หนีกลุ่มโจรที่ไล่ตามมา โดยมีผู้หญิงคนหนึ่งแอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่



เมื่อหนีมายังที่ปลอดภัย เจคก็เริ่มต้นต่อรองธุรกิจทันที

"เอาล่ะสาวน้อย บอกค่าตัวไว้ก่อนเลยละกันนะ ค่าวางมัดจำสองแสน อีกสองแสนจ่ายหลังจบงาน ส่วนค่าจัดการพวกB.O.Wตัวแสบนั่นคิดต่างหากเป็นรายตัวนะครับผม"

"เข้าใจผิดแล้ว ชั้นไม่ได้มาจะจ้างคุณ"

"...อ้าว แล้วมาทำไมล่ะ"

"เราต้องการเลือดของคุณ!"

"อ้อ เป็นพวกกาชาดเหรอ"

"ไม่ใช่! ฟังนะ พวกที่โจมตีเราล้วนแต่เป็นคนที่ติดเชื้อด้วยไวรัสตัวใหม่ที่ชื่อว่าซี-ไวรัส แบบเดียวกับที่คุณฉีดเข้าไปเมื่อกี้นี้ แต่คุณไม่กลายร่างเพราะคุณมีเลือดที่มีสารต่อต้านไวรัส! ตอนนี้วัคซีนคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการหยุดยั้งการก่อการร้ายด้วยอาวุธชีวภาพ เลือดของคุณจะช่วยชีวิตคนได้มากมายนะเจค เราต้องการคุณ!"

เจคนิ่งเงียบไปนาน จนสุดท้ายก็พูดออกมาว่า..

"50ล้านเหรียญ เงินสด ห้ามต่อรอง ตกลงมั้ย"

"ด้วยราคานี้ ชั้นจะยอมบริจาคเลือดสักกระติกนึงละกัน"



จากนั้น ทั้งคู่ก็เดินทางไปด้วยกันเพื่อหลบหนีออกจากอีโดเนีย ระหว่างทางก็ได้เจอกับ Ustanak อาวุธชีวภาพที่ร้ายกาจฆ่าเท่าไหร่ก็ไม่ตาย มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อไล่ล่าเจคตามคำสั่งของนีโออัมเบรลล่า หลังจากสู้และหนีหัวชุกหัวชุน ทั้งสองคนก็ได้พบกับคริสที่นำทีมBSAAมาควบคุมสถานการณ์ในอีโดเนียพอดี

เชอร์รี่แนะนำตัวเองกับเหล่าทหารBSAAทั้งหลาย ทำให้คริสจำเธอได้เพราะแคลร์เคยเล่าเรื่องของเชอร์รี่ให้เขาฟัง(เรื่องที่แคลร์เจอกับเชอร์รี่ในแรคคูนซิตี้ และคอยปกป้องเธอตอนเด็กในภาค2) ระหว่างนั้นเพียรส์ก็สังเกตเห็นเจคที่ยังใส่เสื้อของกลุ่มผู้ก่อการร้ายอยู่ แต่คริสก็ห้ามเพียรส์ที่อยากจะจับกุมเจคเอาไว้ด้วยเหตุผลว่าตอนนี้สิ่งที่สำคัญมากกว่าคือภารกิจหลักในการกำจัดB.O.W.ต่างหาก
คริสติดต่อกับHQให้เตรียมเฮลิคอปเตอร์ไว้ให้เชอร์รี่กับเจค แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะแยกตัวจากไปคริสก็ถามเจคขึ้นมา



"เฮ้ นายน่ะ"

"เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่า?"

"หึ โทษทีนะพวก ทหารหัวเกรียนอย่างนายหน้าตาเหมือนกันหมด ชั้นจำไม่ได้หรอก"

"ฮะๆ งั้นชั้นคงจำผิดน่ะ"

กล่าวคือคริสสะดุดใจ รู้สึกคลับคล้ายคลับคาว่าเคยเจอเจคมาก่อนเป็นเพราะว่าเจคทำให้เขาคิดถึงใครบางคน นั่นก็คือเวสเกอร์ แต่ตอนนั้นคริสยังไม่รู้ว่าเจคคือลูกชายของเวสเกอร์

หลังจากขึ้นเฮลิคอปเตอร์ที่คริสเตรียมไว้ให้แล้ว เจคก็ถามเชอร์รี่เรื่องของคริสเพราะดูเหมือนเจคจะขัดใจอะไรบางอย่าง แต่แล้วเจคก็เปลี่ยนใจเลิกถาม ตอนนั้นเองUstanakก็ตามขึ้นมาล่าตัวเจคจนสุดท้ายก็ทำให้เครื่องตก ทั้งคู่คว้าร่มชูชีพเอาไว้ได้ แต่เมื่อมาถึงพื้นก็พบว่าเชอร์รี่บาดเจ็บสาหัส ถูกแผ่นเหล็กขนาดใหญ่ปักกลางหลัง ขณะที่เจคกลัดกลุ้มไม่รู้จะทำยังไงดีเชอร์รี่ก็ได้สติตื่นขึ้นมา



"ดึงออกให้ที"

"เธอจะเสียเลือดจนตายนะ"

"ไม่ต้องห่วง ดึงออกให้ที"

"...ชั่นเตือนเธอแล้วนะ"

เจคดึงแผ่นเหล็กออก เชอร์รี่บิดตัวด้วยความเจ็บปวด แต่แผลของเธอกลับค่อยๆสมานตัวเอง ทำเอาเจคตกใจตาค้าง



"....อะไรกันเนี่ย"

"...เรื่องมันยาวน่ะ"

"เลือดเธอมากกว่ามั้งที่น่าจะเอาไปทำวัคซีนน่ะ"

"พวกเค้าทดลองแล้วล่ะ..."

"...ทดลองจนชั้นแทบจะทนไม่ไหว แต่ก็ไม่ได้ผล"

ตั้งแต่ลีออนและแคลร์ช่วยเชอร์รี่ออกมาจากแรคคูนซิตี้ ทางการก็ได้ทำการทดลองกับเธอมากมายเพราะรู้ว่าเธอมีความสามารถในการฟื้นตัวจากการที่เคยได้รับวัคซีนจี-ไวรัส แต่ถึงแม้จะต้องผ่านการทดสอบแสนทรมาน เชอร์รี่ก็อยากจะมีประโยชน์ในการช่วยเหลือคนอื่นเช่นที่ลีออนและแคลร์เคยช่วยเธอเอาไว้...

จากนั้นทั้งคู่ก็ค้นหาแฟลชไดรฟ์ข้อมูลของเจคที่ต้องใช้ในการสร้างไวรัสที่ดันหล่นหายไประหว่างกระโดดลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ และได้พบกับศัตรูชนิดใหม่ จาโวประเภทกลายพันธ์ขั้นรุนแรงที่ไม่ได้เปลี่ยนไปแค่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย แต่จะสร้างเมือกเหนียวเป็นเปลือกหุ้มร่างกายก่อนจะฟักออกมาเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดใหม่ เจคเปรยว่าดีชะมัดที่ตัวเองมีแอนติบอดี้ ไม่งั้นป่านนี้หลังจากไม่รู้อิโหน่อิเหน่ฉีดไอ้ยานั้นเข้าไปก็ไม่หล่อแล้ว พอหาแฟลชไดรฟ์ในความมืดยามค่ำคืนจนครบ ก็เข้าไปหลบในกระท่อมรอพายุหิมะซา... แล้วเจคก็ชวนคุย

"เป็นมานานแล้วเหรอ ไอ้พลังฟื้นตัวนั่นน่ะ"

"...พ่อชั้นเป็นนักวิทยาศาสตร์น่ะ เค้าทดลองเกี่ยวกับB.O.W."

"เกิดเรื่องที่ทำให้ชั้นต้องติดเชื้อ แต่ก็โชคดีที่มีคนหาวัคซีนมาให้ได้ทันเวลา"

"ไวรัสในร่างกายจึงปรับตัว แล้วก็ได้เป็นความสามารถนี้มานับแต่นั้น"

"แล้วพ่อของเธอล่ะ"

"เค้าตายแล้วล่ะ ด้วยการทดลองของเค้าเอง ตอนที่เค้าตาย ร่างของเค้ากลายพันธ์ไปเสียจนชั้นจำเค้าไม่ได้เลย"

"ขอโทษนะ...ชั้นไม่ได้ตั้งใจ"

"ไม่เป็นไร อย่างน้อยชั้นก็ได้สิ่งสำคัญมาจากบทเรียนครั้งนั้น ได้เจอกับลีออนและแคลร์ ทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดในชีวิตของชั้น"

"พวกเค้าเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยชั้นเอาไว้ จนถึงตอนนี้ ชั้นก็ยังอยากเดินทางตามรอยพวกเขา"

"จงอย่ายอมแพ้ ไม่ว่าโอกาสจะน้อยเพียงใด"





ขณะที่บรรยากาศกำลังเป็นใจ กองโจรก็ไล่ตามมาถล่มกระท่อมพอดี ทั้งสองคนต่อสู้และต้องเอาตัวรอดจากภูเขาหิมะถล่มด้วยการขี่สโนวไบค์หลบหนี จนไปสุดทางที่เหมืองแห่งหนึ่ง ทว่าเมื่อเข้าไปก็เจอกับUstanakที่รออยู่แล้ว แล้วเราจะได้เล่นเกมซ่อนหากับUstanak...โดยการหลบซ่อนๆตามมุมตึกหรือซ่อนตัวในกล่องถังต่างๆ
แต่แล้วUstanakก็จะหาตัวเราพบแล้วไล่ล่าอยู่ดี เจคและเชอร์รี่จึงต้องขับรถขุดแร่ชนสู้กับUatanakและบดขยี้จนมันแน่นิ่งไป เมื่อออกมาก็พบว่าเป็นเวลาเช้าแล้ว..



เชอร์รี่ชี้ให้ดูจุดนับพบกับทีมช่วยเหลือที่อยู่ไกลออกไป แต่กองโจรก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วรุมยิงใส่ทั้งคู่ ระหว่างที่ยิงตอบโต้กันนั้น Ustanakที่ฟื้นตัวขึ้นมาก็เข้าโจมตีจากด้านหลัง ซัดจนเชอร์รี่กระเด็น แล้วก็เหยียบตัวเจคเอาไว้ เจคมองไปที่เชอร์รี่อย่างเป็นห่วง แต่แล้วผู้หญิงในตอนเริ่มที่เป็นคนว่าจ้างกองโจรก็เดินเข้ามามองเจคด้วยสายตาเย้ยหยัน



"เธอนี่เอง ลูกของเวสเกอร์"

"เวสเกอร์อะไรวะ"

"ก็ชายคนที่พยายามจะทำลายโลกนี้ไงล่ะ จอมวายร้าย อัลเบิร์ต เวสเกอร์ เขาคือพ่อของเธอ"

"ว่าไงนะ"

"นั่นแหล่ะ คือเหตุผลที่ทำให้เธอมีสายเลือดพิเศษยังไงล่ะ"

เมื่อพูดจบ เธอก็ส่งสัญญาณให้Ustanakจัดการเจคจนสลบไป

6เดือนต่อมา...

เจคนอนอยู่บนเตียงทดลอง ณ ห้องทดลองของนีโออัมเบรลล่า ตลอดหกเดือนที่ผ่านมาเขาถูกทำการตรวจสอบและทดลองมากมายหลายอย่างถึงคุณสมบัติของสายเลือดของเขา



ในวันนี้เจ้าหน้าที่ก็เดินเข้ามาคุมตัวเขาไปทดลองเช่นเคย แต่เมื่อเห็นช่องว่างเจคก็ตัดสินใจโจมตีใส่ผู้คุมทันที



เมื่อจัดการเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในห้องแล้วหลบหนีออกมาจนพบกับเชอร์รี่ที่ถูกจับตัวมาพร้อมกัน



ทั้งคู่ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งถึงเจคจะเขินนิดหน่อยหน่อยที่ชุดคนป่วยของเชอร์รี่มันน้อยชิ้นซะเหลือเกิน เชอร์รี่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจคบ้าง เจคตอบว่าพวกนั้นวิจัยและทดลองร่างกายของเขาเพื่อต้องการที่จะหาทางเพิ่มประสิทธิภาพของซี-ไวรัสให้ร้ายกาจยิ่งกว่าเดิม และเขาก็ได้รู้เรื่องใหม่อีกเรื่องนึงคือพ่อของเขา...



"เธอรู้จักอัลเบิร์ต เวสเกอร์หรือเปล่า?"

"...รู้สินะ...พวกมันพูดเรื่องเขาเยอะแยะเลย ทั้งเรื่องที่เขามีแอนติบอดี้ต่อต้านไวรัสทุกประเภท แต่กลับเอาไปใช้ในทางที่เลวร้าย แล้วสุดท้ายก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด และโดนฆ่าตายไป"

"หึ แล้วชั้นก็ไม่เคยรู้อะไรเลย เข้าใจมาตลอดว่ามันก็คงเป็นแค่ไอ้ผู้ชายห่วยๆที่ทิ่งครอบครัวไป"

"เปล่าเลย ที่จริงแล้วมันเป็นไอ้บ้าเสียสติที่คิดจะทำลายโลกนี้ แล้วก็เกือบจะทำสำเร็จด้วย!"

เจคโกรธที่ตัวเองเพิ่งมารู้ความจริงและก็รู้สึกโทษทุกอย่างทั้งเรื่องที่ตัวเองแปลกแยกจากคนอื่น เรื่องที่ต้องมาเจออะไรร้ายๆ ต้องโดนไล่ล่า ว่าเป็นความผิดพ่อ การที่ตัวเองไม่ได้ทำตัวเป็นคนดีๆอย่างชาวบ้านเขาก็อาจจะเป็นเพราะสายเลือดชั่วๆนี้ก็ได้ แต่เชอร์รี่กลับบอกว่าเรื่องที่เวสเกอร์ทำก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวอะไรกับเจค ส่วนเรื่องราวในตอนนี้ และเรื่องที่เจคทำ เป็นสิ่งที่เจคจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง ไม่สามารถโทษคนอื่นได้

หลังจากงอนกันเล็กน้อย เจคและเชอร์รี่ก็หาทางออกจากตึกทดลองนี้ จนโผล่มายังชั้นบน เป็นคฤหาสถ์ที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีน หลังต้องแก้ปริศนาหยอดเหรียญเปิดประตูแล้วก็จะวิ่งมาพบกับห้องควบคุม ซึ่งมีข้อมูลของเจคตลอดการทดลองทั้ง6เดือนบันทึกอยู่ เจคเจอมือถือของเชอร์รี่ที่ศัตรูเก็บเอาไว้ในห้องนี้จึงส่งให้เชอร์รีจัดการติดต่อกับศูนย์บัญชาการซะ(6เดือนแบตมันยังไม่หมดเรอะ...) และระบุจุดนัดพบที่กลางเมือง



แล้วก็จะเจอกับเหตุการณ์ชวนอึ้งว่าแคปคอมคิดได้ยังไงคือการหนีรถถังในคฤหาสถ์ พอออกมาข้างนอกได้แล้วเจคก็จะแว้นมอไซค์ให้เชอร์รี่ซ้อนท้ายและขับหนี เราจะได้บังคับเป็นเจคขี่มอไซค์หนีเหล่าเฮลิคอปเตอร์และเหล่าจาโวแบบโคตรเว่อร์ยิ่งกว่าหนังไมเคิลเบย์



หนีจนมอไซค์พังก็จะได้พักเหนื่อยครู่หนึ่งก่อนศัตรูจะมาล้อมอีกรอบ
แต่เจคก็สังเกตเห็นบางอย่างเข้าที่ตึกด้านบน



"โอ้ะโอ เรดฟิลด์กับพวกลูกเสือของหมอนั่นก็มาเจอเรื่องวุ่นๆที่นี่เหมือนกันแฮะ"

หลังจากจัดการศัตรูโดยมีกลุ่มของคริสคอยช่วยโจมตีจากด้านบน เชอร์รี่ก็จะกระตุ้นให้เจครีบไปต่อ แต่เมื่อเห็นสายตาของคริส เจคจึงครุ่นคิดบางอย่าง

"เขาจะรู้มั้ยนะ ว่าเวสเกอร์คือพ่อของชั้น"





"คงไม่รู้นะ ทำไมเหรอ"

"...ช่างเถอะ เขาคงแค่ไม่ถูกชะตาด้วยเฉยๆมั้ง"

ตั้งแต่เจอกันครั้งเมื่อหกเดือนก่อนที่อีโดเนีย เจคก็รู้สึกไม่ค่อยชอบคริสเป็นทุนเดิม
เช่นเดียวกับที่คริสรู้สึกว่าเจคมีอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่วัยรุ่นเลือดร้อนทั่วไป...

หลังจากนั้นก็เดินทางมาจนถึงลานเก็บตู้คอนเทนเนอร์ที่มีไฟลุกไหม้ เชอร์รี่ตกใจเมื่อพบกับลีออนและเฮเลน่า

"ลีออน!"

"เชอร์รี่? เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง"



"...มันเป็นภารกิจลับของราชการค่ะ"

"ใช่...ชั้นได้ยินมาว่าเธอกลายเป็นเอเจนท์แล้ว"

"แล้วลีออน คุณมาทำอะไรที่นี่"

"มาเปิดโปงตัวการที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมดนี้ ดีเรค ซิมมอนส์"

"!...ไม่จริง ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ เขาเป็นผู้บังคับบัญชาของหนูนะ...เรากำลังจะไปพบเขาที่จุดนับพบอยู่"

"มันอยู่ที่ไหน?"

เมื่อค้นพบว่าผู้บังคับบัญชาที่เป็นคนมอบหมายหน้าที่ตามหาและคุ้มครองตัวเจคเพื่อนำมาสร้างวัคซีนคือคนร้ายที่เป็นตัวการ เชอร์รี่ก็ยังคงเชื่อไม่ลงและลังเลใจที่จะบอกสถานที่นับพบกับลีออน ระหว่างที่เชอร์รี่อึกอัก ลีออนก็เดินเข้ามาประชิด

"บอกชั้นมา"

"เฮ้ย!"

เจคเข้าใจว่าลีออนข่มขู่เชอร์รี่ก็เลยผลักออกลีออนออกไป แต่เชอร์รี่ก็ห้ามไว้ เจคจึงดึงตัวเชอร์รี่มากระซิบ



"ไหนว่าเป็นมีคำสั่งห้ามติดต่อกับคนแปลกหน้าไง"

"ลีออนไม่ใช่คนแปลกหน้า! เขาเป็นคนช่วยชีวิตชั้นไว้ที่แรคคูนซิตี้"

"ก็ได้..."

ทันใดนั้นUstanakเจ้าเก่าก็ปรากฏตัวที่ยอดตู้คอนเทนเนอร์ มาโยนถังน้ำมันใส่กลุ่มตัวเอก ลีออนยื่นมือไปจะช่วยเชอร์รี่ แต่เจคก็พุ่งตัวไปคว้าเชอร์รี่เอาไว้แล้วกลิ้งไปข้างๆ หลังจากหลบได้อย่างหวุดหวิด



ลีออนเหลือบไปมองเจคที่กำลังช่วยฉุดเชอร์รี่ให้ลุกขึ้นยืน แล้วลีออนก็แอบยิ้มออกมา...(อารมณ์คุณพ่อเห็นลูกโตเป็นสาว) จากนั้นเฮเลน่าก็เตือนให้ระวังUstanakที่เตรียมจะพุ่งเข้าใส่ ทั้งสี่คนจึงตั้งท่าเตรียมตัวช่วยกันปราบมัน

"ไอ้นี่อีกแล้วเหรอเนี่ย"

"เพื่อนนายเหรอไง"

"หึ เหมือนเป็นแฟนเก่ามากกว่า เป็นพวกติดหนึบไม่ยอมเลิกราน่ะ"

"งั้นก็ขอต้อนรับเข้าสู้ชมรมคนดวงซวย"

"เดี๋ยวนายก็ชิน"



หลังจากสู้กับUstanak หอคอยจะถล่มลงมาพังทางเชื่อมระหว่างคู่หูทั้งสองคู่ เชอร์รี่จึงตะโกนบอกลีออนว่าจุดนับพบกับซิมมอนส์นั้นอยู่ที่ไหน ขณะที่ลีออนกำลังจะเตือนให้เชอร์รี่ระวังตัวด้วย ถังน้ำมันแถวนั้นก็เกิดระเบิดขึ้นทำให้ต้องแยกย้ายกันกลางคัน

เมื่อเดินทางมาถึงริมแม่น้ำ เจคก็สังเกตเห็นว่าเชอร์รี่กลุ้มใจเรื่องของซิมมอนส์ เธอสับสนว่าซิมมอนส์เป็นคนเลวจริงหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง การที่เธอจะนำตัวเจคไปมอบให้เขาก็จะกลายเป็นการส่งความหวังเดียวที่มีให้กับคนร้าย แต่เจคก็ให้กำลังใจเธอว่าอย่าคิดมากเลย ตอนนั้นเองจาโวมือเลื่อยวิปริต(ภาคนี้ทำหน้าตา+การเคลื่อนไหวมือเลื่อยได้ทุเรศดีมาก)ก็โผล่ขึ้นมา ทำให้ทั้งคู่ต้องวิ่งหนีลงเรือ ส่วนมือเลื่อยที่กำลังจะโดดตามขึ้นมากลับโดนผู้ช่วยเหลือปริศนาเอาสไนเปอร์ส่องหัวซะนี่



ขณะที่เจคขับเรือออกไป มันก็ฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้ง และโดดลงน้ำว่ายตามมา ทำให้เราต้องสู้ไปด้วยขับเรือไปด้วยจนถึงจุดหมายปลายทางแล้ว ขณะที่เจคโดดขึ้นฝั่งเรียบร้อย มือเลื่อยกลับโดดมาขวางเชอร์รี่เอาไว้ ในขณะที่เรือถอยไปสู่ใบพัดขนาดยักษ์ ก็มีสไปเดอร์แมน(เหมือนมาก)โหนสลิงมาช่วยเชอร์รี่เอาไว้แล้วส่งต่อให้เจค ส่วนมือเลื่อยก็โดนใบพัดสับเละเป็นอุนจิไป ทั้งคู่มองตามผู้ช่วยเหลือปริศนาคนนั้น แต่'เธอ'ก็จากไปซะแล้ว



ในที่สุดทั้งคู่ก็เดินทางมาถึงจุดนัดพบ แต่ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไป เชอร์รี่ก็ขอร้องเจค

"ถ้าลีออนพูดถูกเรื่องซิมมอนส์"

"หนีไปเลยนะ"

เจคหัวเราะอย่างไม่เชื่อฟัง แต่เชอร์รี่ก็ไม่ยอมแพ้



"ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น"

"สัญญาสิ"



หลังจากนิ่งเงียบไปสักพักเจคก็ตอบตกลง เชอร์รี่จึงเปิดประตูเข้ามาเจอกับลีออนและเฮเลน่าที่ประจันหน้ากับซิมมอนส์อยู่ก่อนแล้ว



เชอร์รี่เข้าไปขวางตรงกลางพร้อมห้ามปรามซิมมอนส์เอาไว้ และถามว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายจริงหรือเปล่า(แหมมม มันคงจะยอมรับเนอะะะ) แต่ซิมมอนส์ก็บอกว่าทั้งหมดก็เพื่อความแข็งแกร่งของสหรัฐและความปลอดภัยของทั้งโลก และยังใส่ความลีออนอีกว่าเป็นคนฆ่าประธานาธิปดี จากนั้นซิมมอนส์ก็สั่งให้ลูกน้องโจมตีพวกเราซะ



ในขณะที่หลบกระสุน ลีออนจะบอกให้ทั้งสองคนหนีออกไปทางประตูข้างๆ เชอร์รี่จึงส่งไฟล์ข้อมูลของเจคที่เป็นรายละเะอียดในการใช้สร้างวัคซีนให้กับลีออน





เมื่อแยกทางกับลีออน เชอร์รี่ก็สั่งให้เจคหนี

"หนีไปสิเจค"

"ไม่อ่ะ"



"สัญญาแล้วนะ!"

"ชั้นโกหกไง"



เจคไม่ยอมทิ้งเชอร์รี่หนีไป แต่ขณะที่กำลังสู้มะรุมมะตุ้มเชอร์รี่กลับเป็นฝ่ายโดนจับ



เจคเสียสมาธิและโดนจับตัวไปด้วย จนเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าเขาถูกขังพร้อมกับเชอร์รี่อยู่ในห้องขังแห่งนึง...

"ขอโทษนะ ถ้าชั้นรู้ตัวเร็วกกว่านี้ว่าซิมมอนส์โกหก..."

"ไม่ใช่ความผิดเธอหรอก"

"ก็เธอคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ถูกนี่นา หาวัคซีน...เพื่อช่วยโลก ใช่มั้ยล่ะ"





แล้วจู่ๆก็มีสัญญาณเตือนพร้อมกับที่ทั้งสองคนถูกปลดล็อค ราวกับว่ามีคนกดยกเลิกปุ่มควบคุม เมื่อออกมาจากห้องขังแล้วก็พบว่าที่นี่เป็นเหมือนสถานทดลองอะไรบางอย่าง แต่กลับไม่มีคนอยู่เลย เมื่อเดินไปเรื่อยๆก็จะพบกับลาวาด้วย เท่ากับว่าที่นี่ตั้งอยู่ใต้ดิน

หนีการโจมตีของศัตรูยึกยือไม่มีวันตายที่เป็นจาโวอีกประเภทหนึ่งมาได้ก็จะพบกับคริสและเพียรส์ ทำให้รู้ว่าพวกเขาเป็นคนช่วยปลดล็อคเครื่องควบคุมเมื่อกี้นั่นเอง ทั้งสองคนมาเพื่อช่วยเจคและเชอร์รี่ออกไปจากที่นี่ตามคำขอร้องของลีออน แล้วคริสก็ตัดสินใจพูดกับเจค



นายคล้ายพ่อนายนะ"

"เดี๋ยวคริส คุณรู้ได้ยังไง.."

"นายรู้จักเขางั้นสิ"

"ใช่ ชั้นรู้จัก"

"และชั้นก็เป็นคนฆ่าเขาเอง"



เจคหันไปมองหน้าเชอร์รี่ แต่เชอร์รี่ก็หลบสายตา ทำให้เขารู้ว่าเธอรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ด้วยความโกรธและสับสน เจคหยิบปืนขึ้นมาจ่อหน้าคริส ทันทีกับที่เพียรส์ก็เล็งไปที่เจคเช่นกัน



นายเองสินะ"

"ใช่แล้ว"

"หัวหน้า!" เพียรส์ร่ำๆจะเหนี่ยวไกยิงเจค

"สั่งให้เจ้าลูกหมานั่นเชื่องๆหน่อยจะดีกว่ามั้ง" เจคพูดถึงเพียรส์ คริสจึงยกมือห้ามและสั่งเพียรส์ให้ลดปืนลง

"ยิงเลยถ้านายต้องการ นายมีสิทธิ์จะทำแบบนั้นทุกอย่าง"

"แต่นายต้องสัญญาว่าจะรอดไปให้ได้ โลกทั้งใบขึ้นอยู่กับนาย"

"แกเป็นใครมาจากไหนถึงจะมาสั่งให้ชั้นทำนู่นทำนี่!" เจคจ่อปืนเข้าไปใกล้มาขึ้น

เชอร์รี่พยายามห้ามเจค ส่วนเพียรส์ก็ทนไม่ไหวต้องยกปืนขึ้นมาอีกครั้งพร้อมตะคอกให้เจคลดปืนลง



"นายทำเพราะหน้าที่ หรือเพราะการตัดสินใจของนายเอง"

"ทั้งสองอย่าง"



คำตอบนั้นทำให้เจคทนไม่ได้ และตะโกนออกมาพร้อมกับนิ้วที่ลั่นไกท่ามกลางเสียงห้ามของเชอร์รี่และเพียรส์







"ตอนนี้..."

"มีเรื่องที่สำคัญกว่าเรื่องระหว่างนายและชั้น"

ในที่สุดเจคก็ตัดสินใจที่จะปล่อยมันไป ให้กระสุนนัดนั้นฝังที่อยู่ผนังแทน...
สิ่งที่จำเป็นกว่าตอนนี้คือการหยุดยั้งสถานการณ์แพร่เชื้อของซี-ไวรัส เจคเริ่มเข้าใจว่าตัวเองมีความสำคัญต่อโลกมากเกินกว่าจะให้เรื่องส่วนตัวของเขามาสร้างปัญหาได้

เมื่อความขัดแย้งสงบลง ทุกคนก็สังเกตเห็นดักแด้ขนาดใหญ่มีลักษณะคล้ายเปลือกของจาโวที่เคยเห็น ถ้าหากตัวข้างในฟักออกมาก็คงจะงานเข้า ทุกคนเลยพยายามหาทางขัดขวางมันพร้อมๆกับขึ้นไปยังด้านบนเพื่อหาทางออก ระหว่างทางก็จะได้ยินบทสนทนาระหว่างคริสเพียรส์ โดยเพียรส์บอกว่าคริสไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ เวสเกอร์นั้นสมควรตายแล้ว แต่คริสก็บอกว่าเป็นสิทธิ์ของเจคที่จะรู้ความจริง และถึงยังไง เวสเกอร์ก็เป็นพ่อของเจค ส่วนเชอร์รี่ก็บอกเจคว่าหลังจบเรื่องนี้แล้วให้ไปคุยทำความเข้าใจกับคริสดีๆ แต่เจคที่ยังไม่หายเคืองก็ยังไม่อยากรับปาก



จนเมื่อลิฟต์เลื่อนมาถึงด้านบน ตัวอ่อนในเปลือกดักแด้ก็แตกออกมาเป็นB.O.W.ขนาดยักษ์ คริสบอกให้เจคและเชอร์รี่รีบไปซะ เขาจะจัดการเอง เชอร์รี่ลังเล แต่เจคก็กระตุ้นมาว่ามีเรื่องสำคัญที่พวกเราต้องทำให้สำเร็จ เมื่อเจคมองหน้าคริส คริสก็พยักหน้ากำชับ





พอแยกตัวจากมาเชอร์รี่ก็ยังคงอยากจะกลับไปช่วยคริส



"พวกเขาจัดการมันไม่ไหวหรอก เขาอาจจะตายนะ!"

"งั้นนั่นก็เป็นเรื่องที่เขาตัดสินใจเอง!"

"ถ้าเขาตัดสินใจเสียสละแบบนั้น เราก็ไปห้ามอะไรเขาไม่ได้"

"เจค..."



"รู้อะไรไหม"

"ชั้นก็คือชั้น..."

"ไม่ใช่พ่อ"

"และมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไปอย่างแน่นอน"

"รีบออกไปจากที่นี่"

"แล้วก็ไปช่วยโลกอย่างที่เธอต้องการกัน"

"...อื้อ"

เจคตัดสินใจว่าเค้าจะไม่มีวันเดินตามรอยพ่อ แม้จะสายเลือดเดียวกันแต่เขาก็จะใช้ความสามารถนี้เพื่อช่วยคนอื่น ไม่ว่าพ่อของเค้าจะเคยทำเรื่องเลวร้ายเพียงไหน แต่การกระทำของเค้าจะเป็นสิ่งที่เค้าเลือกเองและจะรับผิดชอบมัน

มาถึงด่านสุดท้าย Ustanak จะก็ยืนรออยู่แล้ว พอกันทีกับการไล่ล่าที่ยืดเยื้อยาวนาน เปิดฉากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกลางลาวา





ร่วมแรงร่วมใจโจมตีใส่มันจนใกล้ตาย สุดท้ายเจคจะได้ต่อยกับมันแบบตัวต่อตัว เมื่อระดมต่อยไปทั่วตัวของมันแล้ว เจคก็จะฝังหมัดลงทีใบหน้าเป็นการทิ้งท้ายจนมันตกลาวาไป





เมื่อหนีออกมาด้วยลิฟต์ความเร็วสูง ในขณะที่คิดว่าหลุดพ้นแล้ว Ustanak ก็กระโดดตามมาด้วยลิฟต์อีกอันหนึ่ง

"ไอ้บ้าเอ้ย! เมื่อไหร่จะเลิกตามซะทีวะ"

ทันใดนั้นเชอร์รี่ก็สังเกตเห็นปืนอันหนึ่ง

"เจค ปืน!"

"เยี่ยม"



เชอร์รี่หยิบปืนขึ้นมา แต่มือเธอก็สั่นเกินไปจนเล็งไม่ได้ เจคเอื้อมมือมาช่วยจับไว้อีกแรง

"ให้เรื่องบ้าๆนี่มันจบไปได้แล้ว"





แล้วทั้งคู่ก็จะรวมพลัง ฝังกระสุนแมกนั่มเข้ากลางอกUstanak
ส่งมันไปยังนรกเบื้องล่างเป็นครั้งสุดท้ายจริงๆซะที



ในขณะที่ลิฟต์พุ่งตัวออกมาจากฐานทัพ เจคนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาแล้วเค้าก็ต้องขอบคุณคนๆนึงที่ช่วยฝ่าฟันอุปสรรคทั้งหมดร่วมกันมาโดยตลอด...



"เธอช่วยชั้นเอาไว้..."

"เธอรู้ใช่มั้ย"

"ขอบคุณนะ"







เชอร์รี่พูดอะไรไม่ออก เธอได้แต่เอื้อมมือมาจับมือเจคไว้อย่างอ่อนโยน ณ เบื้องหน้า แสงสว่างส่องเข้ามาจากทางออก การผจญภัยของทั้งคู่จบลงแล้ว...









----------------------------

บทส่งท้าย...

บนเครื่องบินลำหนึ่ง เชอร์รี่กำลังพิมพ์รายงานของเรื่องราวที่เกิดขึ้น ข้อมูลของเลือดของเจคที่ได้มาจากนีโออัมเบรลล่านั้นถูกส่งต่อให้กับหน่วยวิจัยของยูเอ็น เมื่อข้อมูลอยู่ในมือขององค์กรที่ถูกต้องแล้ว วัคซีนถูกผลิตขึ้น เรื่องราววุ่นๆทั้งหมดก็คลี่คลายลง ประวัติของเจคถูกเก็บเป็นความลับสุดยอด หน้าที่ในภารกิจครั้งนี้ของเธอเสร็จสิ้นเสียที





แล้วก็มีข้อความใหม่เข้ามาในมือถือของเชอร์รี่ อ่านจบแล้วก็ทำให้เชอร์รี่ต้องยิ้มออกมา และมองไปนอกหน้าต่าง...



"จาก เจค
ถึง เชอร์รี่

ลดราคาให้...เหลือ50เหรียญละกันนะ"





ณ พื้นดินเบื้องล่าง เจคมองส่งเครื่องบินที่เชอร์รี่นั่งบินผ่านไปจนลับตา ก่อนจะส่งยิ้มออกมาพร้อมสวมแว่นกันแดดและสตาร์ทมอไซค์









กว่าหกเดือนที่ผ่านมาการผจญภัยครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง

ได้รู้จักผู้คนต่างๆมากมาย ได้เพื่อนรู้ใจคนสำคัญ ได้เข้าใจชาติกำเนิดและพลังของตัวเอง

ได้เข้าใจว่าหลายๆครั้งก็มีบางสิ่งที่สำคัญมากกว่าทรัพย์สินเงินทอง

เข้าใจถึงความสำคัญในการช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

เจคขับมอไซค์พุ่งไปตามถนนที่ทอดยาว

เขาพร้อมจะดำเนินชีวิตต่อไปด้วยทัศนคติใหม่ที่ได้รับมาจากเดินทางครั้งนี้แล้ว...







THE END.
----------------------------

Cedit : http://taepoppuri.exteen.com/


*************************************************************************************
ติดตามย้อนหลังได้ตาม Link ด้านล่างนะครับ

Resident Evil ตอนที่ 1 ประวัติ Umbrella Coporation
Resident Evil ตอนที่ 2 จุดเริ่มต้นความหลอนบนรถไฟสายสยอง
Resident Evil ตอนที่ 3 ปฐมบทความหลอนในคฤหาสน์ลึกลับ
Resident Evil ตอนที่ 4 มหันตภัยที่คืบคลานสู่เมืองแรคคูน
Resident Evil ตอนที่ 5 อวสานเมืองสวรรค์ Raccoon City
Resident Evil ตอนที่ 6 บันทึกความทรางจำ เมืองแห่งความเศร้า
Resident Evil ตอนที่ 7 ตระกูลแอชฟอร์ดและการกลับมาของเวสเกอร์
Resident Evil ตอนที่ 8 ปลุกชีพราชินี 'อเล็กเซีย'
Resident Evil ตอนที่ 9 โศกนาฏกรรมส่งท้ายแด่ตระกูลแอชฟอร์ด
Resident Evil ตอนที่ 10 'ยุทธการจาเวียร์ !' (ตอนพิเศษ)
Resident Evil ตอนที่ 11 'พลาก้า ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ !'
Resident Evil ตอนที่ 12 'แผนร้ายของ ออสมุน แซด
Resident Evil ตอนที่ 13 'ชะตากรรมของ หลุยส์ เซร่า
Resident Evil ตอนที่ 14 ''เพื่อนรัก หักเหลี่ยมโหด"
Resident Evil ตอนที่ 15 'กลับสู่อเมริกา'
Resident Evil ตอนที่ 16 '' ใจกลางมหาสมุทร "
Resident Evil ตอนที่ 17 '' ปริศนาทั้งสอง "
Resident Evil ตอนที่ 18 '' ปริศนาซ่อนเร้น "
Resident Evil ตอนที่ 19 '' ทุกสิ่งแขวนอยู่บนเส้นด้าย "
Resident Evil ตอนที่ 20 '' ไร้ซึ่งทางหนี "
Resident Evil ตอนที่ 21 '' จุดจบของราชินี "
Resident Evil ตอนที่ 22 " Uroboros Part 1 "
Resident Evil ตอนที่ 23 " Uroboros Part 2 "
Resident Evil ตอนที่ 24 “Terra – Save”
Resident Evil ตอนที่ 25 “Contemplation”
Resident Evil ตอนที่ 26 “Judgment”
Resident Evil ตอนที่ 27 “Metamorphosis”
Resident Evil ตอนที่ 28 “ ประวัติ Virus of Resident Evil part 1 ”
Resident Evil ตอนที่ 29 “ ประวัติ Virus of Resident Evil part 2 ”
เข้าร่วม: 18 Oct 2007
ตอบ: 1836
ที่อยู่: ห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ
โพสเมื่อ: Tue Aug 18, 2015 9:38 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”]
Chapter แจ๊ค เนี้ย สงสารเพียสที่สุด
เข้าร่วม: 21 Sep 2009
ตอบ: 4959
ที่อยู่: บอร์ดฟุตบอลไทย
โพสเมื่อ: Tue Aug 18, 2015 9:52 pm
[RE: Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”]
บอกตามตรงครับ

ตั้งแต่เล่นเกมส์ RE1-6 มาเนี่ย

ภาค 5-6 นี่เริ่มไม่ใช่ละ

ปกติต้องเดินเองทำไรเอง

พอมาภาค 6 นี่ กด Q เหมือนมี GPS สบายเลย

แทบไม่ต้องคิดอะไรเลยอ่ะ มีหน้าที่ กดยิง กับ เปิดประตู

ความขลังหายหมดเลยอ่า ผมเป็นแฟน เกมส์นี้ด้วยอ่ะ เฟล มาก

ภาค 4 ยังพอทนเพราะยังเดินได้อิสระ ถึงจะมี ปาราซิสก็เถอะนะ

ถอนหายใจยาวๆ

อ่อ ลืม

การแก้ ปริศนา สืบหาความจริง หายเกลี้ยง ไอ้แสสส

ภาคก่อนๆ ผสม นั่น ผสมนี้ เดินไปเอาไขควง เปิดก๊อก ดับไฟ

ใส่รหัส บลาๆ ถึงจะเดินไปกลับเหนื่อยหน่อย แต่แบบ โคตรสนุกอ่ะ

เดี๋ยวนี้ อะไร๊ ของเมิ๊งงง

ปล. ขอโทษครับ ขอระบายหน่อย
Game Over !!!!
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 1915
ที่อยู่: ตามบ้านเพื่อน
โพสเมื่อ: Wed Aug 19, 2015 1:02 am
[RE: Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”]
gwangbaa พิมพ์ว่า:
บอกตามตรงครับ

ตั้งแต่เล่นเกมส์ RE1-6 มาเนี่ย

ภาค 5-6 นี่เริ่มไม่ใช่ละ

ปกติต้องเดินเองทำไรเอง

พอมาภาค 6 นี่ กด Q เหมือนมี GPS สบายเลย

แทบไม่ต้องคิดอะไรเลยอ่ะ มีหน้าที่ กดยิง กับ เปิดประตู

ความขลังหายหมดเลยอ่า ผมเป็นแฟน เกมส์นี้ด้วยอ่ะ เฟล มาก

ภาค 4 ยังพอทนเพราะยังเดินได้อิสระ ถึงจะมี ปาราซิสก็เถอะนะ

ถอนหายใจยาวๆ

อ่อ ลืม

การแก้ ปริศนา สืบหาความจริง หายเกลี้ยง ไอ้แสสส

ภาคก่อนๆ ผสม นั่น ผสมนี้ เดินไปเอาไขควง เปิดก๊อก ดับไฟ

ใส่รหัส บลาๆ ถึงจะเดินไปกลับเหนื่อยหน่อย แต่แบบ โคตรสนุกอ่ะ

เดี๋ยวนี้ อะไร๊ ของเมิ๊งงง

ปล. ขอโทษครับ ขอระบายหน่อย  


ภาค 5-6 เกมมันพาจบเองเลยครับ ไม่ต้องแก้ปริศนาอะไรมาก
1-3 วนไปวนมาตั้งนาน กว่าจะไปต่อได้ คิดถึง re แบบเก่าๆจริงๆ
0
0
อุตรดิตถ์ เอฟซี & เชียงใหม่ เอฟซี
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1248
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Aug 19, 2015 7:22 am
[RE: Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”]
Backstreet Boy พิมพ์ว่า:
gwangbaa พิมพ์ว่า:
บอกตามตรงครับ

ตั้งแต่เล่นเกมส์ RE1-6 มาเนี่ย

ภาค 5-6 นี่เริ่มไม่ใช่ละ

ปกติต้องเดินเองทำไรเอง

พอมาภาค 6 นี่ กด Q เหมือนมี GPS สบายเลย

แทบไม่ต้องคิดอะไรเลยอ่ะ มีหน้าที่ กดยิง กับ เปิดประตู

ความขลังหายหมดเลยอ่า ผมเป็นแฟน เกมส์นี้ด้วยอ่ะ เฟล มาก

ภาค 4 ยังพอทนเพราะยังเดินได้อิสระ ถึงจะมี ปาราซิสก็เถอะนะ

ถอนหายใจยาวๆ

อ่อ ลืม

การแก้ ปริศนา สืบหาความจริง หายเกลี้ยง ไอ้แสสส

ภาคก่อนๆ ผสม นั่น ผสมนี้ เดินไปเอาไขควง เปิดก๊อก ดับไฟ

ใส่รหัส บลาๆ ถึงจะเดินไปกลับเหนื่อยหน่อย แต่แบบ โคตรสนุกอ่ะ

เดี๋ยวนี้ อะไร๊ ของเมิ๊งงง

ปล. ขอโทษครับ ขอระบายหน่อย  


ภาค 5-6 เกมมันพาจบเองเลยครับ ไม่ต้องแก้ปริศนาอะไรมาก
1-3 วนไปวนมาตั้งนาน กว่าจะไปต่อได้ คิดถึง re แบบเก่าๆจริงๆ
 


ภาค 6 เนื้อเรื่อง Ada พอมีปริศนาให้แก้นะครับ ถึงจะไม่เยอะเท่าภาค 1-3 ก็เหอะ
อย่างตรงที่ต้องเลื่อนแท่นไปแล้วยิงศพให้ตกลงมาโดนคันโยกนี่งงตั้งนาน ต้องอ่านบทสรุปถึงจะรู้ หรือผมโง่เองวะ
0
0
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 1248
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Aug 19, 2015 7:26 am
[RE: Resident Evil ตอนที่ 30 “ บุรุษแห่งความหวังมวลมนุษยชาติ Jake Muller ”]
satawatba พิมพ์ว่า:
Chapter แจ๊ค เนี้ย สงสารเพียสที่สุด  


กำลังเล่นเนื้อเรื่อง Piers ระดับ Professional อยู่ครับ (ไม่กล้าเล่น No Hope)
งานอดิเรกคือนอนให้ Chris มาหิ้ว -*-
แอบหวังลึกๆให้อนาคต Capcom เฉลยว่า Piers ไม่น่าตาย แล้วออกภาคเสริมมา ฮ่าาาา
แต่ดูทรงแล้วผมว่ายากแหละ ไวรัสลามไปขนาดนั้น สติยังแทบจะคุมไม่อยู่เลย
0
0