ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2587
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 18:34
ถูกแบนแล้ว
[GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน



รูปหายากมากเลยทีเดียวเลยหาได้เท่านี่ครัช



ต่อจากระทู้นี้เลยWww.ssballthai.in.th/boards/topic/1105925








เจ็ดราชอาณาจักร

-3000

ในช่วงหลายร้อยปีหลังจากรุกรานของชาวแอนดัล อาณาจักรทางตอนใต้ของปฐมบุรุษล้วนปราชัยต่อแอนดัล ชาวแอนดัลก่อตั้งอาณาจักรของตนขึ้นเป็นจำนวน 6 แห่ง

-3000
คนเถื่อนเข้าบุกรุก - เก็นเดลและกอร์เน็ล 2 พี่น้องดำรงตำแหน่งราชานอกกำแพง ทั้ง 2 ได้ผนึกกำลังคนเถื่อน ซึ่งเรียกตัวเองว่าผู้เป็นไทเข้าด้วยกัน และหลบเลี่ยงหน่วยพิทักษ์ราตรี ซุกซ่อนตัวผ่านกำแพงไปได้เป็นจำนวนมาก พวกเขาใช้ถ้ำใต้ดินอันสลับซับซ้อนซึ่งแผ่ขยายอยู่ใต้กำแพงเป็นช่องทางหลบหนี แต่เมื่อปะทะกับพระราชาสตาร์ค พวกเขาก็ต้องถอยหนีกลับไป

-700



หลังจากการรบพุ่งกันมาเป็นเวลานาน ตระกูลสตาร์คก็เอาชัยเหนือศัตรูคู่อาฆาต ตระกูลบอลตันได้เป็นผลสำเร็จ และขึ้นครองอำนาจในอาณาจักรเหนืออย่างสมบูรณ์ คาร์ลอน สตาร์ค ปราบปรามโจรสลัดในทะเลตะวันออกได้เป็นผลสำเร็จ และก่อตั้งตระกูลสาขา ตระกูลคาร์สตาร์คขึ้นเพื่อดูแลชายฝั่งทะเล

ในทางตะวันตก ชาวเกาะเหล็กไหลเริ่มก้าวขึ้นสู่ความมีอำนาจ ในยุครุ่งโรจน์พวกเขาครอบครองชายฝั่งทะเลตะวันตกแทบทั้งหมด ตั้งแต่เมืองโอล์ดทาวน์และเมืองอาร์เบอร์ในตอนใต้ ไปจนถึงเกาะหมีในตอนเหนือ

ชาวรอยนาร์อพยพลี้ภัยจากการรุกรานของวาเลียร์เรียเข้ามาสู่ดินแดนดอร์น เป็นการอพยย้ายถิ่นครั้งใหญ่ครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ของเวสเทอรอส

-400






ตระกูลบอลตันก่อกบฏต่อต้านตระกูลสตาร์ค หลังจากรบกันอยู่ 4 ปีพวกเขาก็ถูกตระกูลสตาร์คปราบปรามอีกครั้ง

-350

พระราชาแห่งอาณาจักรวายุขยายอิทธิพลสู่อาณาจักรตะวันตกและขยายขึ้นเหนือ รวมเอาดินแดนลุ่มน้ำและดินแดนคอขวดเข้าในอาณาเขตการปกครอง

ชาวเกาะเหล็กไหล ค่อยๆ สูญเสียดินแดนของตนไปทีละน้อย ก่อนจะยึดดินแดนลุ่มน้ำคืนมาได้ ราชาเหล็กไหล ฮาร์เรน ฮอร์ สร้างปราสาทฮาร์เรนฮอลขึ้น และได้ครอบครองอยู่เป็นเวลา 3 ชั่วอายุคนก่อนที่เอกอนจะยกพลขึ้นฝั่ง

ราชวงศ์ทาร์แกร์เรียน

ศ.อ. 1





สงครามพิชิตดินแดน - เอกอนผู้พิขิต เข้ารุกรานเวสเทอรอส ปราบปรามอาณาจักรทั้ง 6 เอาไว้ใต้อาณัติ และก่อตั้งเมืองหลวงขึ้นที่คิงส์แลนดิง แต่พระองค์ไม่อาจเอาชัยเหนืออาณาจักรดอร์นได้ จึงต้องจำยอมให้อาณาจักรดอร์นปกครองตนเอง เมื่อพระราชาแห่งอาณาจักรวายุและอาณาจักรเทียมฟ้าต่าง

สวรรคตสิ้น ปราสาทวายุสลายจึงถูกมอบให้กับโอริส บะราธเธียนผู้เป็นน้องชายนอกสมรสของเอกอน, สวนที่ราบสูงถูกมอบให้กับฮาร์เลน ไทเร็ล, เอ็ดมิน ทัลลี ผู้ครองริเวอร์รัน ได้รับการแต่งตั้งเป็นจ้าวแห่งแคว้นลุ่มน้ำ, และวิคคอน เกรย์จอยผู้ครองไพค์ได้ขึ้นเป็นจ้าวแห่งหมู่เกาะเหล็กไหล

ศ.อ. 37- 48

การลุกฮือของศาสนจักร - หลังการสวรรคตของเอกอน เอนิสที่หนึ่งผู้เป็นโอรสนอกสมรสของเอกอนก็ได้ขึ้นครองราชย์ ศาสนจักรแห่งศรัททธาทั้งเจ็ดปฏิเสธการครองราชย์ดังกล่าวและนำประชาชนลุกฮือขึ้นต่อต้าน เอนิสมีจิตใจอ่อนแอและไม่กล้าตัดสินใจ จึงแต่งตั้งพี่ชายต่างแม่ เมกอร์ เป็นพระหัตถ์ของพระราชาและมอบอำนาจสิทธิ์ขาดในการรับมือวิกฤตการณ์





ดังกล่าวให้ เมกอร์ต่อกรกับศาสนจักรอย่างโหดร้ายและเลือดเย็น เขาใช้ไฟมังกรเผาสังหารผู้ก่อกบฏไปหลายพันคน การเข่นฆ่าสังหารดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ตลอดการครองราชย์ของเอนิส จนถึงรัชสมัยของเมกอร์ผู้รับสืบทอดราชบัลลังก์ต่อมา

ศ.อ. 48

เจเฮริสผู้ประนีประนอม - พระราชาเจเฮริสที่หนึ่งขึ้นครองราชย์ต่อจากพระราชาเมกอร์ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในยุคนั้นว่า เมกอร์ผู้โหดร้าย เจเฮริสออกแถลงราชโองการว่าพระองค์จะหยุดการเข่นฆ่าสังหาร โดยมีข้อแลกเปลี่ยนว่าฝ่ายศาสนจักรต้องสลายตัวและยอมรับการปกครองของตระกูลทาร์แกร์เรียน พระองค์จึงถูกขนานนามว่า ผู้ประนีประนอม รัชสมัยของเจเฮริสมีความสงบร่มเย็น และบ้านเมืองค้าขายเฟื่องฟู

ศ.อ. 129- 137




การร่ายรำของมังกร - สงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของเจ็ดราชอาณาจักร คือสงครามแย่งชิงบัลลังก์ของราชบิดา ระหว่างเอกอนที่สอง และน้องสาวต่างแม่ เรเนียรา ทาร์แกร์เรียน สงครามครั้งนั้นพรากชีวิตของคนทั้ง 2, มังกรเกือบทุกตัว และพระบรมวงศ์สานุวงศ์ตระกูลทาร์แกร์เรียนแทบทุกชีวิต สงครามสิ้นสุดลงเมื่อเอกอนที่สาม ผู้เป็นบุตรของเรเนียราขึ้นครองราชย์

มังกรตัวสุดท้ายเสียชีวิต - พระราชาเอกอนที่สามพยายามอย่างมากที่จะสืบพันธุ์มังกร แต่มังกรทุกตัวที่เกิดในรัชสมัยของพระองค์ ล้วนแล้วแต่บิดเบี้ยวและอ่อนแอ พระองค์ไม่สามารถรักษาชีวิตของมังกรตัวสุดท้ายเอาไว้ได้ จึงถูกขนานนามว่า "ผู้พิฆาตมังกร" มังกรตัวสุดท้ายเหลือไข่เอาไว้จำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีทาร์แกร์เรียนคนใดฟักมันออกมาเป็นตัวได้เลย ไข่เหล่านี้ถูกทำลายและสูญหายไปในภายหลัง มังกรจึงถูกตัดสินว่าสูญพันธุ์ไปหมดสิ้นแล้ว

ศ.อ. 157- 161




เดร็อนพิชิตอาณาจักรดอร์น - พระราชาเดร็อนที่หนึ่งขึ้นครองราชย์เมื่อมีพระชนมายุได้ 14 พรรษา พระองค์ตัดสินพระทัยสานต่อสิ่งที่สิ่งที่เอกอนผู้พิชิตทำค้างเอาไว้ และกรีฑาทัพเข้าจู่โจมดอร์นจนได้รับชัยชนะ แต่พระองค์ตัดสินพระทัยผิดพลาดเมื่อแต่งตั้งตระกูลไทเร็ลเป็นผู้ดูแลดอร์น ตระกูลไทเร็ลมีความแค้นกับตระกูลมาร์เท็ลมาแต่ก่อนเก่าหลังจากรบพุ่งกันมาเป็น

เวลาหลายพันปี จึงปกครองอย่างโหดเหี้ยมทารุณ และนำไปสู่การลุกฮือขึ้นก่อกบฏ เมื่อเดร็อนยกทัพกลับไปปราบปราม พระองค์ก็พ่ายแพ้และถูกปลงพระชนม์ อัศวินมังกรเอมอนผู้เป็นญาติถูกจับเป็นตัวประกัน และทัพ 40,000 ถูกสังหารสิ้น

ศ.อ. 161- 171

รัชสมัยของเบเลอร์ผู้ศักดิ์สิทธิ์ หรือเป็นที่รู้จักกันว่า พระราชาบาทหลวง เบเลอร์ทำสัญญาสงบศึกกับดอร์นได้เป็นผลสำเร็จ ว่ากันว่าเป็นผลจากการที่พระองค์เดินเท้าเปล่า ผ่านเส้นทางกระดูก เพื่อช่วยหลานของพระองค์ อัศวินมังกร เอมอน จากหลุมงูพิษ พระองค์สร้างมหาวิหารแห่งคิงส์แลนดิง ซึ่งได้ถูกเปลี่ยนชื่อในภายหลังเป็นมหาวิหารแห่งเบเลอร์

เบเลอร์กักบริเวณพระขนิษฐภคินีของพระองค์ไว้ในท้องพระโรงหญิงพรหมจรรย์ของปราการแดง เพื่อไม่ให้ภาพของพวกนางทำให้พระองค์เกิดจิตอกุศล ถึงกระนั้น พระขนิษฐภคินีนางหนึ่ง เดนาผู้แข็งขืนก็ลอบมีสัมพันธ์กับหลานของพระองค์ เอกอน (ในภายหลังขึ้นครองราชย์เป็น เอกอนที่สี่) และให้กำเนิดลูกนอกสมรส เดมอน แบล็คไฟร์

ก่อน ศ.อ. 170

เจ้าชายเดร็อน หลานชายคนรองของเบเลอร์ที่หนึ่ง และเจ้าหญิงไมเรีย มาร์เท็ลแห่งดอร์นเข้าพิธีสมรสและให้กำเนิดบุตรคนแรก เจ้าชายเบเลอร์

ศ.อ. 171- 172

รัชสมัยของพระราชาวิแซร์ริสที่สอง

ศ.อ. 172- 184

รัชสมัยของพระราชาเอกอนที่สี่ เอกอนผู้ไม่คู่ควร ถูกมองว่าเป็นพระราชาที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเวสเทอรอส เอกอนที่สี่แต่งตั้งลูกนอกสมรสของตนให้มีสิทธิ์ถูกต้องตามกฏหมายเทียบเท่าบุตรจริงๆ ได้แก่ เดมอน แบล็กไฟร์, เอกอร์ ริเวอร์, บรินเด็น ริเวอร์ และ เชียร์รา ซีสตาร์ เดร็อนที่สองสืบราชสมบัติต่อจากพระบิดา แต่มีผู้คนมากมายที่กังขาว่าพระองค์เป็นรัชทายาทโดยชอบธรรมจริงหรือไม่ เพราะพระมารดาของพระองค์มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นกับ อัศวินมังกร เอมอน

ศ.อ. 184

นอกกำแพง - ชนเผ่าผู้เป็นไทรวมตัวกันภายใต้การนำของพระราชานอกกำแพง เรย์มัน เคราแดง พวกเขาบุกฝ่ากำแพงโดยที่หน่วยพิทักษ์ราตรีไม่ทันได้ตั้งตัว และเข้ารุกรานแคว้นเหนือ จนกระทั่งถูกกองทัพตระกูลสตาร์ค ซึ่งนำทัพโดยวิลเล็ม สตาร์คปราบปรามเอาไว้ได้ในศึกทะเลสาบยาว

ศ.อ. 184- 209

รัชสมัยของเดร็อนที่สอง

ศ.อ. 195- 196





การก่อกบฏของแบล็กไฟร์ - สงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ครั้งที่สอง อุบัติขึ้นเมื่อเดมอน แบล็กไฟร์ลุกขึ้นอ้างสิทธิ์ชิงบัลลังก์ โดยอาศัยความไม่โปร่งใสของชาติกำเนิดของเดร็อนที่สองเป็นชนวน ขุนนางมากมายประกาศตัวอยู่ฝ่ายเดมอน เขากรีฑาทัพเข้าจู่โจมคิงส์แลนดิง แต่ถูกปราบปรามเอาไว้ได้ในศึกท้องทุ่งสีแดง เขาถูกสังหารโดยน้ำมือของน้องชายต่างมารดา บรินเด็น ริเวอร์ ผู้มีฉายาว่าเรเวนโลหิต ทว่าลูกๆ ของแบล็กไฟร์บางคนได้หลบหนีกับเหล็กกล้าผู้อาฆาตไปยังเมืองอิสระ

ศ.อ. 197

ดอร์นเข้าร่วมเป็นแคว้นหนึ่งของเจ็ดราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ เมื่อพระขนิษฐภคินีของเดร็อนที่สอง เดเนอริส สมรสกับเจ้าชายมาร์รอน มาร์เท็ล.

ศ.อ. 209




เริ่มเรื่องราวในนิยาย The Hedge Knight (อัศวินพุ่มไม้) เจ้าชายเบเลอร์ 'เบรกสเปียร์' ทาร์แกร์เรียนผู้เป็นรัชทายาท ถูกสังหารในงานประลอง ไม่กี่เดือนต่อมา พระราชาเดร็อนที่สองและบุตรชาย 2 คนของเบเลอร์ก็ได้เสียชีวิตไปเพราะโรคระบาด โอรสคนรองของเดร็อนที่สอง เอริสที่หนึ่ง ขึ้นสืบราชสมบัติ

เอกอน ลูกพี่ลูกน้องของเจ้าชายเบเลอร์ หวังจะฝึกฝนให้ตนเองมีความกล้าหาญมากขึ้น ตัดสินใจออกเดินทางติดตามอัศวินพุ่มไม้นายหนึ่ง นามว่าดันแคน ร่างสูง ในฐานะอัศวินฝึกหัด

ศ.อ. 209- 211

รัชสมัยของพระราชาเอริสที่หนึ่ง

ก่อน ศ.อ. 211




เริ่มเรื่องราวในนิยาย The Sworn Sword (นักดาบร่วมสาบาน) ตระกูลเว็บเบอร์และตระกูลออสเกรย์ได้จับมือเป็นพันธมิตรกัน เรเวนโลหิตเข้ารับตำแหน่งพระหัตถ์ของพระราชา เป็นเหตุให้เจ้าชายเมคาร์โกรธเกรี้ยวเป็นอันมาก
ก่อน

ศ.อ. 212




การก่อกบฏครั้งที่สองของแบล็กไฟร์ - ผู้ติดตามหลายต่อหลายคนที่ยังคงภักดีต่อแบล็กไฟร์ได้ร่วมมือกันวางแผนก่อกบฏ ทว่า แผนการณ์ของพวกเขาถูกเรเวนโลหิตเปิดโปงเสียก่อนที่จะทันได้ดำเนินการณ์ เป็นเหตุให้บุตรชายคนหนึ่งของเดมอน แบล็กไฟร์ถูกจับ และผู้สมรู้ร่วมคิดจำนวนมากมายถูกประหาร

ศ.อ. 221- 233

รัชสมัยของพระราชาเมคาร์ที่หนึ่ง ราชโอรสองค์โตของพระองค์ เดร็อน สิ้นพระชนม์ด้วยโรคซิฟิลิส โอรสคนรอง เอเรียน "อัคคีโชติช่วง" สิ้นพระชนม์หลังจากดื่มสารไวด์ไฟร์เข้าไป ส่วนโอรสองค์ที่ 3 เอมอน ออกเดินทางไปร่วมศึกษาเล่าเรียนเป็นเมสเตอร์ที่เมืองโอล์ดทาวน์ ต่อมา เมคอร์สวรรคตระหว่างรบกับพระราชานอกกฏหมาย เอมอนปฏิเสธไม่ยอมสืบราชสมบัติและหนีไปยังกำแพง เจ้าชายเอกอนจึงได้สืบราชสมบัติ เป็นพระราชาเอกอนที่ห้า ได้รับสมญานามว่า "ผู้น่าเหลือเชื่อ" เพราะพระองค์เป็นโอรสคนที่สี่ พระองค์เนรเทศเรเวนโลหิตไปยังกำแพง เขาไต่เต้าขึ้นเป็นลอร์ดผู้บัญชาการในเวลาต่อมา

ก่อน ศ.อ. 255- 260

สงครามพระราชาเก้าสลึง - สงครามเกิดขึ้นเมื่อสมาพันธ์เก้าทำการพิชิตเมืองอิสระไทรอชและหมู่เกาะสเต็ปสโตน โดยมีเมลิส แบล็กไฟร์เป็นสมาชิกคนหนึ่งด้วย หลังจากนั้นสมาพันธ์เก้าก็วางแผนจะเข้ารุกรานเจ็ดราชอาณาจักร บาร์ริสตัน เซลมี และบรินเดน ทัลลี ต่างก็มีชื่อเสียงขึ้นมาจากศึกครั้งนี้

ศ.อ. 259

โศกนาฏกรรมคฤหาสน์ฤดูร้อน - พระราชาเอกอนที่ห้าและรัชทายาท เจ้าชายดันแคน สวรรคตในเหตุการณ์ไฟไหม้ใหญ่ในคฤหาสน์ฤดูร้อนของตระกูลทาร์แกร์เรียน ไฟไหม้ครั้งนั้นเกิดจากการพยายามฟักไข่มังกร 3 ใบสุดท้าย เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่เรการ์ ทาร์แกร์เรียนถือกำเนิดขึ้น

ศ.อ. 259- 262



รัชสมัยของเจเฮริสที่สอง โอรสคนรองของเอกอน

ศ.อ. 262- 283

รัชสมัยของเอริสที่สอง ราชาวิกลจริต แต่งตั้งไทวิน แลนนิสเตอร์ลอร์ดหนุ่มผู้โหดเหี้ยมเป็นพระหัตถ์ประจำพระองค์

ก่อน ศ.อ. 270

พระราชาเอริสปฏิเสธข้อเสนอของไทวิน แลนนิสเตอร์ ที่เสนอธิดาของตน เซอร์ซี แลนนิสเตอร์ ให้แต่งงานกับเจ้าชายเรการ์ พระองค์ให้ราชโอรสแต่งงานกับเจ้าหญิงเอเลียแห่งแคว้นดอร์นแทน

การต่อต้านของดัสเค็นเดล - ตระกูลดาร์คลินปฏิเสธไม่ยอมจ่ายภาษีให้กับราชบัลลังก์เหล็ก เอริสต้องการคลี่คลายเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างรวดเร็ว จึงดำเนินการด้วยตัวเองและถูกจับเป็นนักโทษ หลังจากนั้นดัสเค็นเดลก็ถูกทหารของทาร์แกร์เรียนเข้าล้อมตีอยู่นานถึง 6 เดือน จนกระทั้งบาร์ริสตัน เซลมี สามารถช่วยเหลือพระราชาออกมาได้ ตระกูลดาร์คลินถูกทำลายล้างสิ้น ตระกูลริคเคอร์เข้าครอบครองเมืองแทน

กล่าวกันว่าเป็นเหตุการณ์นี้เองที่ทำให้เอริสเริ่มมีอาการวิกลจริต ในช่วงนี้เองที่เจ้าชายเรการ์เริ่มศึกษาประวัติศาสตร์กับเมสเตอร์เอมอน และเริ่มสงสัยว่าตนอาจเป็นเจ้าชายแห่งพันธะสัญญาผู้กลับชาติมาเกิดใหม่เพื่อต่อสู้กับความมืดมิดครั้งใหญ่ที่กำลังจะมาเยือน ในภายหลัง พวกเขาสรุปกันว่าเจ้าชายแห่งพันธะสัญญานั้น แท้จริงแล้วคือทารกของเรการ์ เจ้าชายเอกอน

การปฏิวัติของโรเบิร์ต

ศ.อ. 281

ฤดูใบไม้ผลิลวง - ลอร์ดเวนท์จัดงานประลองครั้งใหญ่ขึ้นที่ฮาร์เรนฮอล เจ้าชายเรการ์เข้าร่วมแข่งขันและคว้าตำแหน่งผู้ชนะเลิศเอาไว้ได้ เขาเมินเฉยต่อภรรยาของตัวเอง เจ้าหญิงเอเลีย มาร์เทล แล้วมอบมาลัยให้กับลีอานนา สตาร์คแห่งวินเทอร์เฟล คู่หมั้นของโรเบิร์ต บะราธเธียน เป็นราชินีแห่งความรักและความงามแทน ในช่วงนี้เอง ที่เอ็ดดาร์ด สตาร์คได้รู้จักกับฮาวแลนด์ รีด ผู้ครองป้อมเทาธารา

อาเธอร์ เดย์นนำกองกำลังส่วนพระองค์เข้าปราบปรามกลุ่มโจร พี่น้องร่วมสาบานแห่งป่าราชันย์ ในศึกนี้เอง เจมี แลนนิสเตอร์ ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในฐานะอัศวินฝึกหัดของอาเธอร์ และนำไปสู่การอวยยศอัศวิน และการได้รับแต่งตั้งเป็นหนึ่งในราชองครักษ์ในภายหลัง ยศดังกล่าวทำให้เจมีหมดสิทธิ์สืบทอดยศฐาบรรดาศักดิ์ทั้งหมดของตระกูลแลนนิสเตอร์ เป็นเหตุให้ไทวิน แลนนิสเตอร์เดือดดาลมาก ถึงกับสละตำแหน่งพระหัตถ์ของพระราชาและเดินทางกลับปราการหินคาสเทอร์ลี

ศ.อ. 282- 283

การปฏิวัติของโรเบิร์ต - ชนวนการก่อปฏิวัติเริ่มต้นขึ้นเมื่อเรการ์ ทาร์แกร์เรียนลักพาตัวลีอานนา สตาร์ค บิดาและพี่ชายของลีอานนาเรียกร้องให้พระราชาเอริสสั่งสอนราชโอรสของตน แต่กลับถูกพระองค์ประหารชีวิตทั้งคู่ เอริสสั่งจอน อาร์รินให้มอบศีรษะของโรเบิร์ต บะราธเธียน และเอ็ดดาร์ด สตาร์ค





ให้พระองค์ เป็นผลให้ตระกูลอาร์ริน, ตระกูลสตาร์ค, และตระกูลบะราธเธียน ร่วมมือกันลุกฮือขึ้นก่อปฏิวัติ โรเบิร์ตประกาศว่าตนมีสิทธิ์ครอบครองราชบัลลังก์ เพราะเขามีสายเลือดของพระราชาเอกอนที่ห้ามาตั้งแต่รุ่นทวด และนั่นถือเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามก่อปฏิวัติของโรเบิร์ต หรืออีกชื่อหนึ่ง คือ สงครามของผู้ช่วงชิง

ฮอสเตอร์ ทัลลีตกลงใจเข้าร่วมสงครามฝ่ายกบฏ ตระกูลไทเรลเข้าร่วมสงครามฝ่ายพระราชาและนำทัพเข้าล้อมจู่โจมปราสาทวายุสลายของโรเบิร์ตซึ่งอยู่ในการดูแลของแสตนนิส บะราธเธียน จอน คอนนิงตัน พระหัตถ์ของพระราชาพ่ายแพ้ในศึกเมืองระฆังและถูกเนรเทศไปยังเมืองอิสระ






กองทัพฝ่ายกบฏบดขยี้กองทัพหลวงในศึกแม่น้ำหอกสามง่ามซึ่งเจ้าชายเรการ์ถูกโรเบิร์ตสังหาร ตระกูลแลนนิสเตอร์ยกทัพทำทีเป็นช่วยเหลือพระราชาเอริส แต่ทันทีที่เข้าคิงส์แลนดิงก็ทำการหักหลังและยึดคิงส์แลนดิงเอาไว้ได้ พระราชาเอริสถูกปลงพระชนม์โดยน้ำมือของเจมี แลนนิสเตอร์ เจ้าหญิงเอเลีย มาร์เทลถูกผู้ชูธงของแลนนิสเตอร์สังหารอย่างทารุณพร้อมลูกๆ เอกอน และเรนิส เป็นชนวนความผิดใจกันระหว่างเอ็ด




ดาร์ด สตาร์ค และโรเบิร์ต บะราธเธียน
เอ็ดดาร์ดพร้อมด้วยผู้ติดตามทั้ง 7 ออกช่วยเหลือลีอานนาที่หอคอยเริงรมย์ ที่นั่น พวกเขาต้องต่อสู้กับราชองค์รักษ์ 3 นาย ในตอนท้าย มีเพียงเอ็ดดาร์ดและฮาวแลนด์ รีด เท่านั้นที่รอดชีวิต



โรเบิร์ตสถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระราชาแห่งเจ็ดราชอาณาจักรและอภิเษกสมรสกับเซอร์ซี แลนนิสเตอร์ เอ็ดดาร์ดเดินทางกลับวินเทอร์เฟลพร้อมลูกนอกสมรส จอน สโนว์ ผู้ติดตามที่จงรักภักดีต่อทาร์แกร์เรียนพาเจ้าชายวิแซร์ริส และเจ้าหญิงเดเนอริส ลูกวัยเด็กของพระราชาเอริสหลบหนีไปยังเมืองอิสระได้อย่างปลอดภัย

รัชสมัยของพระราชาโรเบิร์ต

ศ.อ. 289




การก่อกบฏของเกรย์จอย - เบลอน เกรย์จอยสถาปนาตนเองขึ้นเป็นพระราชาแห่งหมู่เกาะเหล็กไหล เขาปราชัยในการรบและสูญเสียบุตรชายไป 2 คน เขายอมจำนนต่อพระราชาโรเบิร์ต ธีออน เกรย์จอย ลูกชายเพียงคนเดียวที่เหลือรอดของเบลอนถูกรับตัวไปเป็นเด็กรับใช้และตัวประกันของเอ็ดดาร์ด สตาร์ค

ศ.อ. 297

บัณฑิตอิลเลียริโอ โมพาทิสแห่งเมืองอิสระเพนทอสเชื้อเชิญวิแซร์ริสและเดเนอริสเข้าพักอาศัยในคฤหาสน์ของเขา และเสนอจะช่วยช่วงชิงบัลลังก์เหล็กคืนให้วิแซร์ริส
จอน อาร์รินผู้ดำรงตำแหน่งพระหัตถ์ของพระราชาถูกสังหารด้วยยาพิษ


Game of Thrones

ศ.อ. 298 เริ่มเรื่องราวในนวนิยาย A Song of Ice and Fire หนังสือ 5 เล่มแรกกินเวลาราว 3 ปี และจบลงในปี

ศ.อ. 300


อมนุษย์ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในแคว้นเหนือหลังจากไม่เคยปรากฏตัวเลยมาหลายพันปี พวกมันเข้าจู่โจมหน่วยลาดตระเวนของหน่วยพิทักษ์ราตรีและสังหารคนเถื่อนไปกลุ่มหนึ่ง
หลังการสวรรคตของพระราชาโรเบิร์ต เจ็ดราชอาณาจักรก็ตกอยู่ในสงครามห้าราชันย์ เป็นความขัดแย้งครั้งใหญ่ที่ดำเนินอยู่ตลอดหนังสือ 5 เล่ม

เดเนอริส ทาร์แกร์เรียนฟักไข่มังกรออกมา 3 ตัวบนทวีปตะวันออก หลังจากมังกรหายสาบสูญไปหลายร้อยปี

ศ.อ. 299





เรื่องราวความขัดแย้งนอกกำแพงคุกรุ่นขึ้นเรื่อยๆ หน่วยพิทักษ์ราตรีจึงตัดสินใจกรีฑาทัพออกรับมือปัญหาในทางเหนือ
บนทวีปตะวันออก เดเนอริส ทาร์แกร์เรียนทำการปราบปรามและยึดเมืองน้อยใหญ่ตามอ่าวค้าทาส เธอปลดปล่อยทาสให้เป็นไท และก่อให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ในภูมิภาคนั้น

ศ.อ. 300

หลังจากฤดูร้อนดำเนินอยู่ถึง 10 ปี ฤดูหนาวก็ได้มาเยือนดินแดนเวสเทอรอสในที่สุด







เรื่องราวก่อนยุค7อาณาจักร :www.ssballthai.in.th/boards/topic/1105925


แก้ไขล่าสุดโดย bpanya2010 เมื่อ Tue Sep 02, 2014 08:59, ทั้งหมด 5 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Sep 2009
ตอบ: 10191
ที่อยู่: Online 24 hr.
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 18:43
ถูกแบนแล้ว
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
ดูถึงตอนที่ จอน สโนว ปีนไปบนกำแพงน้ำแข็ง แล้วไม่ได้ดูต่อเลย



ดูมาถึงช่วงนี้ รุ้สึกมันไม่ค่อยน่าติดตามไงไม่รุ้ ไว้เบื่อๆค่อยดูต่อ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 05 Sep 2013
ตอบ: 1939
ที่อยู่: -
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 18:43
ถูกแบนแล้ว
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
คนแต่งนี่สุดยอดจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: "ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน"
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 12 Aug 2014
ตอบ: 25936
ที่อยู่: รับบูชาพระเครื่อง วัตถุโบราณ ของแปลก PM
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 18:47
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
สังคม ม. อะไรเนี่ย เนื้อหาอย่างแน่นเลย แต่เหมือมไม่เคยเรียนเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน






ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: Don't worry be happy
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Mar 2009
ตอบ: 20690
ที่อยู่: reykjavik , Iceland
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 19:05
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
อ่านเพลินเลย ตอนนี้กำลังอ่าน 4.1 อยู่ ชอบพวกงูทรายจริงๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ฟุตบอลโลก
Status: My Biggest Failures are knowing I never tried
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 15 Jan 2011
ตอบ: 12143
ที่อยู่: -__________-
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 19:09
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน



ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 30 Aug 2008
ตอบ: 2308
ที่อยู่: Small Room!
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 19:30
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
อ่านจบเว้ยเห้ย หนังสือเรียนยังไม่าขยันอย่างนี้ เมื่อไหร่ ss5 จะมาใครรู้บ้าง ผมจะลงแดงตายแล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ManUน่ะยิงประตู แต่Youน่ะยิงธนูมาปักกลางใจ
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 2587
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 19:55
ถูกแบนแล้ว
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
โอเว่น ฮากรีฟ พิมพ์ว่า:
อ่านจบเว้ยเห้ย หนังสือเรียนยังไม่าขยันอย่างนี้ เมื่อไหร่ ss5 จะมาใครรู้บ้าง ผมจะลงแดงตายแล้ว  



ปะมาน ก.พ. ปีหน้า
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Jul 2009
ตอบ: 125
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 20:17
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
แผลบก่อนอ่านทีหลัง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status: no sun today...
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Oct 2010
ตอบ: 380
ที่อยู่: ไม่มี
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 20:22
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
เพิ่งอ่านถึง 3.1 เองครับ ขออนุญาติเม้นก่อนแล้วมาอ่านอีกทีทีหลัง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะพรีเมียร์ลีก
Status: Don't worry be happy
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 24 Mar 2009
ตอบ: 20690
ที่อยู่: reykjavik , Iceland
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 20:39
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
โอเว่น ฮากรีฟ พิมพ์ว่า:
อ่านจบเว้ยเห้ย หนังสือเรียนยังไม่าขยันอย่างนี้ เมื่อไหร่ ss5 จะมาใครรู้บ้าง ผมจะลงแดงตายแล้ว  

ต้นปีหน้าประมาณนั้นครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ง.
Status: แผลบมา แผลบกลับ ไม่โกง
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 6080
ที่อยู่: เอ็งจะรู้ไปทำไม
โพสเมื่อ: Mon Sep 01, 2014 20:41
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ณ.เชียงดาว






ออฟไลน์
ซุปตาร์โอลิมปิก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Jun 2008
ตอบ: 4462
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Wed Sep 03, 2014 13:37
[RE: [GOT]เรื่องราวยุค7อาณาจักรถึงยุคปัจจุบัน]
เข้ามานึกว่าท่าน Call ซะอีก

กระทุ้แบบนี้แผลบเดียวไม่เคยพอ อยากให้สัก7แผลบจิงๆให้ตายเถอะ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel