หวัดดีครับ น้องใหม่ฝากตัวด้วยครับ ปกติไม่ค่อยจะแบ็กแพ็กไปไหนหรอกครับ แต่อยากได้แรงบันดาลใจ เลยมาเข้าชมรม  

สวัสดีชาว SS นะครับ

วันนี้ผมมาแบ่งปันเรื่องของ "วันนี้ เมื่อปีที่แล้ว" ที่อยู่ในความทรงจำของผม

[ขอโฆษณามาในตัวแทนของชมนมคนแบกกระเป๋าด้วยนะครับ http://www.soccersuck.com/clubs/detail/57]

ผมเป็นนักเดินทาง และเป็นแฟนบอลของทีม Liverpool ที่มีความฝันที่อยากจะไปเหยียบสนามเหย้าของทีมอันเป็นที่รัก แน่นอนว่า Anfield มันดึงดูดผมเสียเหลือเกิน


สภาพระหว่างการเดินทางทาง ทั้งตัวมีเป้ใบนึง กับอาหารยังชีพอีกถุงนึง ..

เพื่อทำตามความฝันในวัยเด็กของแฟนบอลคนนึงในการเดินทางไปอังกฤษ ผมต้องวางแผนล่วงหน้ากว่า 6 เดือน ทำ visa จองตั๋ว จองที่พัก จองรถไฟ บอกได้ว่าจองทุกอย่างที่ทำได้ ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกครับ เพราะราคามันถูกกว่า ผมได้ตั๋วไป-กลับ (จากฝรั่งเศส-อังกฤษ) ในราคาประมาณ 2700 บาท (90 ยูโร)


เมื่อทุกอย่างพร้อม ออกเดินทางได้ แน่นอน เพื่อนระหว่างทางหนีไม่พ้นเจ้าตุ๊กตาพวกนี้ (เอาจริงๆ นะ เวลาเบื่อ พวกนี้แหละเป็นเพื่อนคุย) ..


ตีตั๋วรถไฟนอนจากสนามบิน London Gatwick เข้าสู่มหานครที่ค่าครองชีพแพงที่สุดแห่งหนึ่งของโลกกันก่อน โดนไป 8.50 ปอนด์


จาก London ต่อไป Liverpool Lime Street 25 ปอนด์

ตอนลงรถไฟผมตื่นเต้นมาเลยนะ เมืองแสนสงบ อากาศเย็นสบาย
ผมรีบขึ้นรถเมล์ต่ไปยังที่พักทันที


เป็น Hostel เล็กๆ บนถนนที่จะมุ่งหน้าสู่ Anfield ที่มีชื่อว่า Everton Hostel

ขอแค่วางกระเป๋าเป็นพอ ผมไม่สนใจอะไรแล้ว Anfield อยู่ใกล้แค่ขอบกางเกงใน
ภาพแรกที่เห็นหน้าสนาม เหมือนเป็น Dejavu ฝันที่เป็นจริง น้ำตาไหลพราก


หน้าสนาม กับ Paisley Gate ..

15 ปีที่รอคอยจะได้มาสนามแห่งนี้ .. ผมมีความสุขมากอย่างแท้จริง
ผมรีบเอามือไปจับพื้น ลูบไล้ กลิ้งไปมา

ว่าแล้วก็เดินไปรับตั๋วกันเลยยย (เป็นตั๋วจองล่วงหน้า+Stadium Tour)


ผมได้ไปดูเกมพบกับ Reading ครับ (เกมที่ Stering ประเดิมประตูแรก)

แน่นอนว่ามาอังกฤษแล้วเรื่องนี้จะพลาดไม่ได้


ซักนิดจิตแจ่มใสกันไป ..

ทีนี้ก็ถึงเวลาที่จะได้เข้าไปในสนามแล้ว โอ่ว .. รับชมกันเลยครับ







และแน่นอน ต้องภาพนี้ .....


ผมมาถึงแล้ว ..

สมใจเลยล่ะครับ ได้มาดู มาเห็น ลูบๆ คลำๆ


บรรยากาศนอกสนาม ..






แวะจิบเบียร์ หม่ำ Hot Dog ที่ Twelfth Man Club อันลือชื่อซักนิด


หลังจากเดินเล่นจนจุใจแล้ว .. ผมก็ต่อรถไป Melwood หวังว่าจะได้พบเจอผู้เล่นทั้งหลาย เพื่อขอลายเซ็นต์ครับ



ไปยืนรอตอนประมาณบ่าย 3-4 โมง ก็เจอเฮียคนนี้โผล่ออกมา

ตื่นเต้นดีครับ แฟนๆ กรูกันเข้าไปอย่าสนุกสนานมาก ผมว่าเค้าค่อนข้างใจดีเลยนะ ขับมาจอด เปิดกระจกแจกลายเซ็นต์กันสนุกเลย

หลังจากความพยายามยืนรอ+ดวงนิดหน่อยๆ ..

ผมได้ขอฝากที่หาซื้อไม่ได้ในโลกมาจนได้

ภาพปิดกล่อง ... จังหวะดีใจหลังยิงประตูแรกในเสื้อทีม ต่อหน้าแฟนส์


จากวันนั้น หลังจากที่ได้เข้าไปร่วมชูผ้าพันคอ และร้องเพลง You'll never walk alone แล้ว เวลาผ่านไปรวดเร็วอย่างบอกไม่ถูก ผมกลับมานั่งอยู่บ้าน เปิดดูการแข่งขันของทีมรักต่อไป ร่วมเชียร์ และร้องเพลงอยู่กับหน้าจอ Laptop เครื่องเล็กๆ นั่งเขียนงาน ทำการบ้าน .. แพ้บ้าง เสมอบ้าง ชนะบ้าง ก็ยังร่วมยินดีกับทีม



หลายๆ ครั้งมักจะมองไปบนอัฒจันทร์ และย้อนนึกถึงตัวเองเมื่อครั้งได้ไปยืนอยู่ ณ จุดนั้น มันทำให้ผมสุขใจว่าครั้งหนึ่ง ผมได้ไปยืนอยู่ใน Anfield .. และแน่นอนว่า We will never walk alone ..


แล้วพบกันใหม่ครับ ..

ปล. สุขสันต์วันเกิดนายกฯ เบน ย้อนหลังนะครับ ..
 

http://www.soccersuck.com/clubs/detail/61
ลิงค์ชมรมนะครับ


ช่วงนี้ว่างๆ เลยอยากจะหากิจกรรมสำหรับชาว SS ที่ชื่นชอบในการถ่ายภาพ
โดยจะมีโจทย์จากแอดมินในชมรมให้สมาชิกได้นำภาพมาแข่งขันกัน
โดยที่รางวัลจะไม่มีอะไรมาก อาจจะเป็นแผล่บ เช่น ที่ 1 ได้รับ 50 แผล่บ
ที่สองได้รับ 30 แผล่บ ที่สาม 10 แผล่บตามลำดับ

โดยการประกวดจะมีผมและแอดมินคนอื่นๆ นำภาพมาให้เพื่อนสมาชิกร่วมโหวตกัน
ใครสนใจก็แอดไปในชมรมนะครับ การประกวดก็จะจัดในเร็วๆนี้ ขอบคุณครับ  

ผมเคยไปมา 2 ครั้งระยะห่างกัน 3 ปี ครั้งแรกไปตั้งแต่ยังไม่มี coffee in love
ไปพักที่พักของรุ่นพี่ที่มหาลัย ชื่อ สิบสองพันนา ที่พักน่ารักติดกับแม่น้ำปาย ด้านหลังเป็นไร่กระเทียม สวยงาม ประทับใจ

ไปครั้งที่สองกลับรู้สึกแตกต่างจากครั้งแรกพอสมควร อาจจะเป็นเพราะความศิวิไลซ์ เริ่มมาถึง มีเซเว่น มีอินเตอร์เนตคาเฟ่ มีที่พัก chic chic เลยทำให้คิดว่าคงพอแล้วกับการเที่ยวปาย เพราะเริ่มไม่ต่างจากข้าวสารเท่าไหร่แล้ว...  

ผมไปปายตั้งแต่สมัยหนังยังไม่ฉาย

เมื่อก่อนปายเป้นสถานที่ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติที่น่าไปที่สุด

เพราะคนยังไปไม่เยอะ เดินถนนคนเดินได้สบายๆ

สามารถนอนกางเต๊นท์ริมน้ำปายได้ ซึ่งตอนนี้ไม่มีแล้ว

ไปกับเพื่อนสิบกว่าคน สนุกมาก

นั่งกินเบียร์ริมน้ำปาย ปิ้งหมูกินกัน ก่อกองไฟอุ่นๆ

อากาศหนาวมาก นอนในเต้นท์ไม่ได้เลย ต้องไปนอนในรถ

คิดถึงความเป็นเมืองปายสมัยก่อนจริงๆ

แต่ตอนนี้เปลี่ยนไปเยอะ เที่ยวไม่หนุกละ

มีแต่นักท่องเที่ยวขี่มอไซเยอะแยะเต็มไปหมด

ดูวุ่นวายยังไงไม่รู้ ถ้าจะไปอีกคงไปดูคอนเสิร์ตอย่างเดียวละ

เที่ยวแนวธรรมชาติ ขอไปที่อื่นดีกว่า  

สำหรับตัวผมนะ ผมรู้สึกเฉยๆอ่ะครับที่ปาย ผมว่าปางอุ๋งเจ๋งกว่าเยอะเลย







Cr. Aoun Watthanapng(AounPhoto)

ปล.เจ้าของภาพเป็นเพื่อนผมเองครับ ไปเที่ยวกันมีมันนี่แหละเป็นหัวหน้าทริป  

ผมไม่ใช่สมาชิกชมรม แต่รบกวนถามหน่อยครับ
พอดีเปิดเทอมใหญ่นี้ช่วงเดือนเมษาผมกับเพื่อนวางแผนจะไปลาวกัน

มีใครเคยไปบ้างครับ อยากได้แบบราคาประหยัดๆ
อยากเที่ยวกันเองมากกว่า ขอคำแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ  

ประมาณนั้นแหละครับ แต่ผมเอารถไปเองนะ

ก็เลยไม่ได้ต้องไปนั่งอยู่กลางทุ่งทั้งวัน

 

โคตรเซง ลืมเอาเมมกล้องมา ใช้โทรศัพท์ถ่ายแทนม่างง
 

ผมกับเพื่อนอีก 5 คน มีเวลาประมาณ 4-5 วันอยากจะไปเที่ยว แม่ฮ่องสอน ปางอุ๋ง ปาย

พอจะแนะนำแพลนได้ป่าวครับ ว่า ควรเที่ยวไหนบ้าง ที่พักที่ไหนบ้าง

เดินทางโดย รถส่วนตัวดีป่าว หรือว่า รถทัวร์ หรือ รถไฟ

งบประมาณคนละ 5,0000 + - ครับ  

สวัสดีครับ ผมสมาชิกใหม่

เร็วๆนี้จะ แบ็คแพ็ค ไปญี่ปุ่น ไว้จะมาขอคำปรึกษา คำชี้แนะนำครับ  

สวัสดีชาวบอร์ด เหล่านักเดินทาง และ Backpacker ทุกท่านนะฮ้าฟ ..

ช่วงนี้ยังอยู่ที่อังกฤษกันอยู่ ..

...............

ความเดิมตอนเก่าๆ Liverpool >> http://www.soccersuck.com/boards/topic/922658

Manchester >> http://www.soccersuck.com/boards/topic/790315

จุดเริ่มต้น แห่งแรงบันดาลใจ >> http://www.soccersuck.com/boards/topic/915366

[ ขอโฆษณามาในตัวแทนของชมนมคนแบกกระเป๋าด้วยนะครับ http://www.soccersuck.com/clubs/detail/57 ]

...............

วันนี้ ผมขอพักเรื่องฟุตบอลไว้ก่อนก็แล้วกัน

แต่กะจะพาชาวบอร์ดไปดูสถานที่ถ่ายทำหนังที่สร้างขึ้นจากนิยาย และทำรายได้ตลอดกาลเรื่องหนึ่งของโลกกัน

ใช่แล้ว Harry Potter!!

เริ่มจากการเดินทางไปฮอกวอตส์ ต้องไปขึ้นรถไฟที่ชานชาลาที่ 9 3/4
แต่ .. ผมเข้าไม่ได้ เพราะเป็นมักเกิ้ล ..


ผมเลยไปติดต่อกระทรวงเวทมนต์เพื่อขอไปเยี่ยมชมฮอกวอตส์ซะหน่อย ..


เลยได้ขึ้นรถเมล์อัศวินราตรีไปแทน



อาส์ ผมเขียนเล่นขำๆ นะครับ
เข้าเรื่องกันดีกว่า .. การเดินทางจาก London เพื่อไปสตูดิโอของ Harry Potter มีทางเลือกง่ายๆ คือ ไปรถไฟ หรือรถทัวร์ของสตูดิโอ โดยจรถทัวร์จะมีจุดจอดรับ-ส่งใจกลาง London เลยทีเดียว

ที่ตั้งของสตูฯ จะอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ London ใกล้กับ Watford


สำหรับผู้สนใจทุกท่าน ควรจองตั๋วล่วงหน้านะครับ ไม่งั้นอาจไปเสียเที่ยวได้
ราคา 30 ปอนด์ครับ

เมื่อเข้ามาแล้ว จะได้พบกับห้องใต้บันไดของ Harry เหมือนกับจะบอกเราว่ายังไม่ได้ข้ามไปโลกแห่งเวทมนต์ ..


ผมมันพวกเด็กหลังห้อง มาสายประจำ การปีนรั้วโรงเรียนมันก็เหมือนกับงานอดิเรกอย่างนึง


สตูฯ แบ่งออกเป็น 3 โซนครับ ส่วนแรกจะเป็นส่วนที่แสดงฉาก และอุปกรณ์ต่างๆ
โซนที่สองจะอยู่ด้านนอก เป็นที่ตั้งแสดงของพวกยานพาหนะ และโซนสุดท้ายจะเป็นพวกทีมงานออกแบบ

ไปส่วนแรกกันเลยครับ ห้องโถง ..


โต๊ะประจำบ้าน


ผ้าคลุมล่องหง เอาไว้แอบย่องไปเดินเล่นตอนดึกๆ


ไปหาดัมเบิลดอร์ ห้องอาจารย์ใหญ่




ห้องเรียนปรุงยา


เบื้องหลังฉากที่รูปภาพวิ่งไปมาหากันได้


เฮ็ดวิก มีหลายตัวเลยทีเดียว สงสัยจะถ่ายกันหลายภาค ล้ม-หาย-ตาย-จาก กันไป


บ้านโพรงกระต่าย


ฝั่งของลอร์ดฯ


กระทรวงเวทมนต์




แผนผังบ้านตระกูลแบล๊ค


สตูฯ โซนแรกจบลงตรงนี้นะครับ
ผมว่าเจ๋งดีเลย ของต่างๆ ที่เห็นในหนัง หรือจินตนาการในหนังสือมีมากมายเต็มไปหมด

มาต่อที่โซนด้านนอก มีพวกรถเมล์ฯ บ้านซอยพรีเวต ฯลฯ
สุสาน Riddle


SpiderMan!!


ตรอกไดแอกอนนนน


และมีร้านขาย Butterbeer!!
อร่อยดีครับ หนาวๆ มาเจอเบียร์แก้วละ 5 ปอนด์
หนาวกว่าเดิมครับ


โซนด้านนอกผมจบลงด้วยความรวดเร็วเลย

ข้ามมาสตูฯ สุดท้าย เป็นพวกเบื้องหลังการออกแบบทั้งหลาย ทั้งปวง


มีการใช้ Comp เข้ามาช่วยในหลายส่วนทีเดียว




หมาป่า


หัวแฮกริด




ส่วนสุดท้ายของสตูฯ 3 นี้เป็นพวกภาพวาดต่างๆ ภาพร่าง ภาพ Sketch ทั้งหลาย











โมเดลจำลองปราสาท


และของจริง!!


ตอนจบก็จะเดินมาเจอร้านขายของที่ระลึก โผล่มาเจอร้านขายไม้กายสิทธิ์


และของที่ระลึกมากมายครับ




ราคา ไม่ต้องสืบครับ

แพงมาก ได้แต่ถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก

การเดินทางรอบนี้หมดลงตรงนี้นะครับ

วันหน้าฟ้าใหม่ แล้วพบกันครับ
 

น้องใหม่ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ ปกติไม่ค่อยได้เที่ยวไปไหนหรอกครับ แต่เผื่อวันหน้าจะได้ไป เลยหาข้อมูลเผื่อไว้ก่อน  

ยินดีครับ มีอะไรให้ช่วยบอกได้นะ

ลองเที่ยวสักครั้งแล้วท่านจะติดใจ : D