ในปัจจุบันโลกฟุตบอลมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปพอสมควร เงินเข้ามามีบทบาทในส่วนของธุรกิจ อันเป็นหนึ่งในสาเหตุให้ราคาค่าตัวของนักเตะหลายๆคนถูกประเมินค่ามากกว่าที่ควรจะเป็น จากเงินปอนด์เพียงไม่กี่หมื่น ถูกปรับขึ้นไปกว่าสิบล้าน จนกระทั่งนักเตะได้รับทั้งความกดดันและความคาดหวังจากแฟนบอลของสโมสรใหม่ ในปี 2012 ก็เช่นเดียวกัน เอเด็น อาซาร์ คือเป้าหมายแรกของบรรดายักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป โดยภายหลังได้ย้ายมาร่วมทัพเชลซีด้วยค่าตัวประมาณ 40 ล้านยูโร ขณะที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำการคว้าตัวชินจิ คากาวะ มิดฟิลด์แดนปลาดิบด้วยวงเงินราว 16 ล้านยูโรจากอ้อมอกของโบรุสเซีย โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อันเป็นที่มาของคำถามจากหลายสำนักว่า ใครคือผู้ที่คุ้มค่ากว่ากัน?



จากสถิติพบว่านับตั้งแต่ย้ายมา เอเด็น อาซาร์ทำได้ดีกว่า โดยลงสนามไปทั้งสิ้น 96 นัด โดยเป็นตัวสำรอง 17 นัด อยู่ในสนามทั้งสิ้น 7,246 นาที ทำประตูได้ 27 ประตู แอสซิสต์ 32 ลูก ได้รับใบเหลืองเพียง 5 ใบ และใบแดงอีก 1 ใบ ขณะที่ชินจิ คากาวะ ลงสนามไปทั้งหมด 44 นัด เป็นตัวสำรอง 7 นัด อยู่ในสนามประมาณ 2,933 นาที ทำประตูได้ 6 ประตู แอสซิสต์ 7 ลูก ใบเหลือง 2 ใบ และไม่เคยได้รับใบแดง(ถ้าข้อมูลไม่ผิดพลาดนะครับ 6 ประตูของคากาวะมาจากพรีเมียร์ ลีคทั้งหมด)



เมื่อพูดถึงบทบาทภายในทีม เอเด็น อาซาร์ ยังคงทำได้ดีกว่า โดยมักจะได้ลงเล่นในตำแหน่งปีกขวาในยุคของโรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ้และราฟาเอล เบนิเตซ ก่อนจะพัฒนาฟอร์มการเล่นจนก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมในฝั่งกราบซ้ายของยุคนายใหม่ หน้าเก่า โจเซ่ มูรินโญ่ ที่ปัจจุบันไม่เพียงแต่เป็นปีกสไตล์ลากเลื้อยหรือจอมแอสซิสต์ดั่งสมัยอยู่ลีลล์แล้ว(สมัยอยู่ลีลล์ ลงสนาม 194 นัด ยิง 50 ประตู แอสซิสต์ 58 ลูก) แต่ยังทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ รวมทั้งประสานงานกับแนวรุกสายเลือดใหม่ของทีมได้เป็นอย่างดี หากกราฟเส้นทางลูกหนังปัจจุบันของอาซาร์เป็นบวกแล้ว คากาวะคงอยู่ในทิศทางตรงข้าม เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมปีศาจแดงดูเหมือนจะไม่ค่อยได้รับความไว้วางใจในตำแหน่งที่ตนเองถนัด โดยในยุคเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กุสัน บางนัดจะได้ลงในตำแหน่งกองกลางตัวรุกเหมือนช่วงก่อนย้ายมา แต่บางครั้งก็จำต้องถ่างออกไปเป็นปีก และยุคของเดวิด มอยส์ มักใช้บริการของนักเตะรายอื่นๆมากกว่า อาจด้วยส่วนของแท็คติกส์ที่เน้นเกมโจมตีกลางอากาศ เห็นได้จากลูกครอสของยูไนเต็ดในเกมกับฟูแล่มที่ 81 ครั้ง อันเป็นสถิติใหม่ที่มากที่สุดของพรีเมียร์ ลีค ขณะที่นัดดวลกับอาร์เซน่อล ได้ขึ้นเกมจากริมเส้นมากกว่าตรงกลางถึง 52 % (34-24-42 การขึ้นเกม ซ้าย-กลาง-ขวา)



ในเชิงธุรกิจ เรียกได้ว่าแมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะไปแบบขาดลอย เพราะสามารถเจาะตลาดของโซนเอเชียได้อีกหนึ่งประเทศ ต่อจากเกาหลีใต้ ด้วยพื้นฐานของทีมที่มีแฟนบอลมากที่สุดทีมหนึ่งทั่วโลกและคนญี่ปุ่นเองก็ค่อนข้างจะเห่อนักเตะชาติตนเอง ทำให้ยอดแฟนบอลของทีมมากขึ้นไปอีก แต่ดำอาจกลับเป็นขาวได้ หากคากาวะไม่สามารถสอดแทรกขึ้นเป็นกำลังสำคัญของทีมจนล้มเหลวต้องย้ายออกไป บางทีแฟนบอลเลือดซามูไรอาจเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
ส่วนในกรณีของเอเด็น อาซาร์เอง เนื่องด้วยสโมสรในลีคบ้านเกิดอย่างเบลเยี่ยม มีโอกาสได้สัมผัสถึงกลิ่นอายฟุตบอลยุโรปและมีสตาร์ดังมากมายหลากหลายสโมสรทั่วทวีป ทำให้พื้นฐานของแฟนบอลอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ค่าตัวปัจจุบันของอาซาร์เองก็ถูกถีบตัวขึ้นไปมาก แม้ในตลาดนักเตะหลักประเมินไว้เพียง 45 ล้านยูโร แต่เชื่อว่าแฟนบอลเชลซีคงไม่ได้ประเมินค่าตัวไว้แค่นี้แน่

----------------------------------------------------------------------------------------

สรุปได้ว่าทั้งเชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างประสบความสำเร็จเหมือนกัน แต่ต่างกันที่ผลงานในเกมส์ลูกหนังและธุรกิจของสโมสรนั่นเอง ซึ่งทั้งสองนักเตะนั้นจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กหนุ่มยุคต่อไปที่พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลในอนาคต เรื่องนี้อยู่ที่ว่าคุณชอบคนไหน เชียร์คนไหนมากกว่า และเชื่อว่าทั้งคู่ต่างเป็นที่รักของแฟนบอล ให้เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม จริงไหมครับ? วันนี้เขียนเท่านี้ ขอบคุณทุกท่านครับที่อ่านจนจบ

เสียดาย ..มอยส์ไม่ใช้

ใน FM อย่างเทพเลยคากาวะ ผมกำลังคิดว่าจะปล่อยรูนี่ดีไหม





พอมองของจิง ย้ายเถอะ ชินจิ

รูนีย์ใน FM ผมขายก่อนเลย ทับตำแหน่ง ไม่มีที่ให้ลงด้วย
คากวะคือหน้าต่ำแท้ๆของจริง ซึ่งในเกมส์นี่โคตรเทพ

ส่วนเรื่อง อาซาร์กับคากาวะ ผมว่าก็คุ้มหมดแหละ อยู่ที่ใช้เป็น หรือใช้ไม่เป็น
ณ ตอนนี้ผมเชื่อว่า ถ้าอาซาร์อยู่แมนยู ณ ตอนนี้ผมว่าไม่โหดเท่าอยู่เชลซีแน่
เพราะยุคมอยส์ อาซาร์จะทำได้แค่ เลี้ยงสุดเส้นแล้วก็เปิด แต่คงไม่เปิดติดเท่า เอวี
เพราะสกิลส่วนตัวสูงมากก สรุปคือมันอยู่ที่ คนใช้นั่นแหละ

อยู่ที่คนใช้จิงๆ

สงสารคากาวะ มอยส์ไม่ชอบ เห้ออ

รางวัลปลอบใจ

มอยส์ มึง

เจ้าของมู้ ชอบลายเซ็นท่านจัง

ในFMH ขายรูนนี่เหมือนกันเลย

ฤดูกาลต่อมา คากาวะคว้าบัลลงดอร์ ส่วนรูนนี่ที่ไปบาซ่าก็ยิงไม่ค่อย




พอเห็นของจริง

สงสารโคตรรร

ลงก็ไม่ให้ลง มอยส์แม่งอคติกับคนเอเชีย ชัดๆ

อยากให้มาอยู่หงส์ เก่งแถมตีตลาด เอชีย ได้ด้วย

แต่ผมว่าถ้าอาซาร์อยู่แมนยูตอนนี้จะโหดมากเลย เพราะมอยส์ก็พยายามให้ปีกตัดเข้ากลางอยุ่แล้ว แต่ที่มีมันทำไม่ค่อยเป็น
ถ้าเป็นอาซาร์ล่ะก็ ตัด ยิง ตัด ยิง

คากาวะ ถ้าได้เล่นในตำแหน่งที่ถนัด ผมมั่นใจไม่เป็นรอง

ถึงจะเป็นปีกตัดเข้าใน มันก็ต้องมีเพื่อนช่วยชงนะครับ ถ้าเลี้ยงๆไปคนเดียว คนอื่นเข้าเขตโทษ
เหลือ อาซาร์คนเดียว ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีอะครับ แต่ที่แน่ๆจังหวะสวนกลับ
น่าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ ถ้าอาซาร์อยู่แมนยูนะ เพราะตอนนี้แต่ละคน สวนอย่างกาก

คนจะดีได้ก็ต่อเมื่อ "อยู่ถูกที่ และ ถูกเวลา"

ลองให้ อาร์ซา มาอยู่แมนยู แล้ว กองกลางคนอื่น หรือ กองหลัง เอาแต่โยน อาร์ซา ก็คงปวดคออ่ะ