ผู้ทรงธรรม
Status:
: 0 ใบ
: 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Jul 2008
ตอบ: 33
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Feb 10, 2014 14:27
เข้าใจธรรมะ[คำถาม๑๐๓๒-จะอยู่อย่างไรเมื่อโดนข่มขืน]
เป็นธรรมะ กับเรื่องใกล้ตัวดีครับ น่าจะนำไปใช้ และเข้าใจกันได้ง่าย
หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกท่านครับ
อนุโมทนาบุญแก่ผู้ที่สนใจทุกท่าน และ ขอให้บุญรักษาครับ
-โทษคนอื่นได้กิเลส โทษตนเองได้ปัญญา
-กิเลสไหลท่วมท้นใจทั้งคืนวัน คิดว่าปัญญาเพียงน้อยนิดจะเอาชนะกิเลสได้
*ควรใช้ปัญญาพิจารณาทุกครั้งในการรับข้อมูล ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณโทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อครับ
ขอบคุณ เวป raksa-dhamma ครับ
--------------------------------------------------------------------------
คำถาม
กราบเรียนคนเดินทาง และท่านอาจาย์ที่ปรึกษาทุกท่าน ตอนนนี้ดิฉันรู้สึกเหมือนจิตตก ดิฉันเคยถูกข่มขื่นจากเพื่อนร่วมงานที่ทำงานเก่า ก็รู้สึกอาย รู้สึกว่าตัวเองสกปรก บอกเลิกกันแฟน(ปัจจุบันแฟนแต่งงานไปแล้ว) เพราะเขาเอาเรื่องดังกล่าวไปบอกแฟนดิฉันที่เรากำลังจะแต่งงานกัน แฟนก็รับเรื่องนี้ไม่ได้ เรื่องนี้ดิฉันไม่กล้าแจ้งความเพราะอาย และเจ้านายเก่าของดิฉันเป็นญาติผู้ใหญ่ของคนเลวนั้น ดิฉันได้ลาออกจากที่ทำงานเก่า หางาน ตกงานเกือบปี แต่ได้แต่รับจ้างพิมพ์งาน รับสอนพิเศษเด็กเล็กตามบ้านตอนเย็น พออยู่ได้ในแต่ละเดือน ทางทีบ้านไม่เข้าใจคิดว่าเราอยากทำงานอิสระ ไม่อดทนงานประจำ ตอนนี้พึ่งมาได้งาน แต่เงินเดือนไม่เยอะเท่าที่เก่า เพราะใช้วุฒิที่ต่ำกว่า ที่นี้เพื่อนๆที่ทำงานเก่านัดเจอทานข้าวกัน ดิฉันไม่อยากไปพบเจอ คนเลวคนนั้น.....แต่ไม่อยากโกหกว่ามีงานต้องทำด่วน ไม่อยากผิดศีล คนเลวคนนั้นดิฉันเดิมได้แช่งเขา ขอให้คนในครอบครัวเขาเจอทุกข์แบบที่ดิฉันเจออย่ามีความสุข โดยเฉพาะถ้ามีญาติๆที่เป็นผู้หญิง เขายังไม่สน บอกว่าที่บ้านเขาไม่มีน้องสาวหรือพี่สาว เรื่องชาตินี้ชาติหน้าไม่มีจริง เรื่องกรรมหรือ ไร้สาระ ดิฉันได้แต่ปลง คิดว่าเป็นกรรมของเรา โชคร้ายที่ต้องมาเรื่องแบบนี้ พอมาได้อ่านเว็บ นี้ที่เพื่อนแนะนำ ได้อ่านหนังสือที่รับ หยุดแช่งเขา ทำใจบ้าง หันมาเริ่มสวดมนต์ แต่ก็ยังรู้สึกว่าจิตเรายังตกอยู่ดี บางครั้งที่ได้ยินเรื่องแฟนเก่าจากเพื่อน ก็ร้องไห้ (แอบร้องไห้คนเดียว) คิดเสียว่าไมใช่คู่จึงมีอันต้องจาก อยากทราบว่าเลวคนนี้เขาจะได้รับผลกรรมหรือไม่ ดิฉันควรทำอย่างไรต่อไปดี แต่เดือนหน้าก็จะได้ไปเข้าค่ายธรรมะที่วัดอัมพวัน จ. สิงห์บุรี กับที่ทำงานใหม่ อยากจะชำระสิ่งที่ไม่เป็นสุขอกจากชีวิต
คำตอบ
ก่อนอื่น คนเดินทางขอให้กำลังใจท่านผู้ถามมากค่ะ และพึงทราบว่า แม้ในโลกนี้ คนที่กำลังได้รับความทุกข์มากมายกว่าท่านผู้ถาม ยังมีอีกมาก
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่า นี่ผลกำลังฟ้องเหตุที่ท่านเองอาจจะพลัดหลงทางกิเลสให้กระทำกรรมอันหยาบคายอย่างนี้ แต่ครั้งหนหลังอันยาวนาน
เศษกรรมแห่งกาเมสุมิจฉาจารนั้น ย่อมเบียดเบียนกรรมดีที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ให้ได้เกิดเป็นบุคคลในอัตภาพต่างๆดังนี้
แม้เกิดเป็นหญิง ก็เป็นหญิงผิดเพศ
แม้เกิดเป็นหญิงที่ไม่ผิดเพศ แต่ก็ต้องถูกข่มขืน ถูกกระทำชำเรา ทำอนาจาร
แม้เกิดเป็นหญิงไม่ได้ถูกทำร้าย ก็ไม่สมรัก ถูกหลอกลวงจากชายชั่วแล้วทอดทิ้งไปให้เสียใจเป็นอันมาก
แม้ไม่ได้ถูกหลอกลวงทอดทิ้ง ก็พึงเห็นผู้หญิงหลายคน รูปสวยเป็นอันมาก ก็ได้แต่งงานกับชายที่เจ้าชู้ เดือดร้อนมาก หรือต้องแต่งงานกับผู้ชายเกย์ ในที่สุดก็รักลาจาก
ให้ได้เกิดเป็นชายผิดเพศ ฯลฯ
ผลเหล่านี้ ย่อมเป็นไปตามเจตนาเดิมที่เคยทำไว้แต่หนหลัง ตามอาการต่างๆ และความหนักเบาของเศษกรรมที่กำลังมาส่งผลนั่นเอง
ดังนั้น ที่สาธยายมาทั้งหมด ก็เพื่อกำจัดความ "อาฆาต" ของตัวท่านผู้ถามเองที่มีต่อชายผู้กำลังถูกพิษกิเลสแสดงมายา แล้วผลักใสให้กระทำกรรมอันลามกผู้นั้น
ข้อนั้นเพราะเหตุใด?
ตอบว่า คนเดินทางเห็นว่า วิบากอันหยาบช้านี้สมควรจะปิดตนเองไปแล้ว เพราะวิบากนั้น ชื่อว่า ส่งผลแล้วหมดอำนาจลงไป
ดังนั้น ท่านผู้ถามได้รับผลกรรมแล้ว วิบากกรรมไม่ดีก็ย่อมหมดอำนาจลงไป
แต่ทว่า ใจที่พยาบาทนั้นกลับไม่ยอมหมด ดังนั้นเวรจึงไม่ได้ระงับด้วยการไม่จองเวร กลับมีการผูกโกรธสาบแช่งต่อไป จึงทำให้ทุกข์แห่งวิบากเหล่าอื่นเข้าเบียดเบียนติดตามท่านผู้ถามมาอย่างต่อเนื่องเพราะได้ปัจจัย
เหมือนบุคคลผู้เพียรสุมเชื้อไฟในกองไฟที่กำลังจะมอดหมดกำลัง เพราะอาการที่พยายามผิดๆอย่างนั้น ไฟย่อมโหมขึ้นใหม่ไม่หยุดหย่อนได้เลย
ดังนั้น สถานการณ์ที่ท่านผู้ถามเป็นไปอยู่ คนเดินทางเห็นว่า เป็นเรื่องดีที่สุดแล้ว
เพราะเหตุที่เป็นปัจจัยให้ท่านผู้ถามหันกลับมารักษาศีลอย่างเคร่งครัด
เพราะเหตุที่ว่า เรื่องแฟนเก่าเขาก็แสดงความรักที่เขามีต่อท่านผู้ถามในอาการฉาบฉวย ในยามที่ท่านกำลังเดือดร้อนแสนสาหัสเพราะความใจร้ายจากคนอื่น เขาก็กลับทิ้งไป ท่านจงอย่าเสียใจเลย เพราะถ้าหากแต่งงานกันแล้ว มีลูกแล้ว เขามาทราบทีหลัง เขาย่อมทิ้งขว้าง ถากถาง รังเกียจและหันไปมีใหม่ก็ได้ ถึงตรงนั้นความทุกข์ของท่านย่อมสาหัสกว่านี้นัก
ดังนั้น แม้บัดนี้ ท่านผู้ถามยังเป็นหญิงตัวคนเดียว ไม่ต้องมีภาระคือลูกมาเป็นความเศร้าหมองเพิ่มขึ้น
กรรมนั้นเที่ยงธรรม ยุติธรรมที่สุดค่ะ
ดังนั้นแม้แต่ท่านผู้ถามเองยังต้องเสวยผลอันแสบร้อนอย่างนี้...แล้วชายผู้นั้น ผู้ลามกกระทำบาปทั้งทางกาย และกระทำบาปทางวาจาทำให้ท่านผู้ถามเสียหายเป็นอันมาก ผลแห่งกรรมชั่วของเขาย่อมไม่น้อยเลย ยิ่งท่านผู้ถามเป็นคนมีศีลมาก ผลแห่งกรรมชั่วของเขาก็ยิ่งรุนแรง
ในสมัยพุทธกาล แม้พระภิกษุณีผู้เป็นพระอรหันต์ผู้มากด้วยฤทธิ์ ยังถูกกรรมชั่วอย่างนี้ตามส่งผลให้ถูกข่มขืน หลังจากได้เป็นพระอรหันต์เลย ประสาอะไรกับพวกเราๆเล่า?
กรรมนั้นจึงชื่อว่า ไม่เลือกวรรณะ ไม่เลือกชนชั้น ไม่มีคอรับชั่น ไม่เลือกที่รักมักที่ชังเลย
ให้พิจารณาว่า แม้บัดนี้ กายของเราก็ถูกน้ำชำระสะอาดแล้ว แต่มลทินในใจที่ถูกกระทำนั้นไม่สมควรจะเป็นมลทิน เลยเพราะท่านผู้ถามไม่ได้ทำชั่ว ชายชั่วผู้กระทำต่างหากที่เกิดมลทินแห่งบาปของเขา
วาจาของท่านผู้ถามเล่า ? ก็สงบรำงับไปแล้วด้วยศีล การให้อภัย ยุติการสาบแช่งด้วยความพยาบาทลงไปแล้ว
จิตใจเล่า ท่านก็นำศีลและปัญญามาชำระล้างใจจนสะอาดเพราะรู้เหตุผลเรื่องกรรมเรื่องผลของกรรม...
ก็ความเศร้าหมองใดๆ ก็สมควรยุติได้แล้ว ทุกข์ของวันไหน ก็สมควรเกิดเฉพาะวันนั้นเถิด... ไม่ควรนำมากลับมาคิดนึกให้เศร้าหมองสืบไปอย่างนี้เลย
นับวันต่อแต่นี้ สังคมยิ่งจะเลวร้าย ไม่มีใครจะต้านทานภัยทั้งหลายได้ ...ก็เห็นมีแต่ศีลของตนเท่านั้น ย่อมกั้นภัยทั้งหลายได้..
ขอท่านผู้ถามจงนำวิบากอันแสบร้อนนี้ กลับมาเป็นแรงบันดาลใจให้ท่านมั่นคงในศีลให้ยิ่งๆขึ้นเถิด
คราวใด จิตตกไป ก็จงกลับมารู้สึกตัว เหมือนพาใจกลับบ้านนั่นเอง...เพราะคิดถึง เพราะใจนั้นปรุงแต่งนี่เอง ใจจึงเป็นทุกข์เดือดร้อนนักหนา หันหลับมาใส่ใจในอาการที่กำลังนั่ง กำลังนอน กำลังยืน กำลังเดิน กำลังทำการงานใดๆ
โทสะนั้นเกิดแล้วเพราะได้ปัจจัยที่ไม่แยบคาย หลงไปครุ่นคิดเรื่องเก่าๆขึ้นมา.... ใจจึงเสียเพราะความเสียใจ จึงให้รู้ว่า นามคือจิตใจที่กำลังคิดนึกไปนั้นคือ ต้นเหตุ เมื่อรู้ตัวกลับมาอย่างนี้ ใจที่ไปคิดนึกก็ย่อมระงับลงไป รู้บ่อยๆ ความหลงก็ขาดไปบ่อยๆ กลับมาเป็นความสงบเพราะการรู้ตัวนั้น
ชีวิตต่อแต่นี้ ยังมีความดีที่จะเกิดขึ้นได้ ยังปลูกสร้างสิ่งใหม่ที่ดีได้ ควรหรือ ที่จะหลงไปแลหาอาลัยในซากปรักหักพังไปใยเล่า?
หมั่นขวนขวายในบุญมีประการต่างๆ และหมั่นเจริญปัญญาให้มากนะคะ เพราะปัญญานั่นแหละจะพาท่านผู้ถามให้ข้ามผ่านความทุกข์ที่ผ่านมาได้โดยสวัสดิภาพค่ะ
ให้หมั่นฟังธรรมที่ประกอบเหตุผล พระธรรมนั่นแหละย่อมชุ่มชื่นดุจน้ำฝนชะโลมจิตใจที่แห้งผากแตกร้าวไปได้ คราวใดจิตตก ก็หาอารมณ์กุศลทำไปนะคะ
ท่านผู้ถามจงอย่าอายที่ถูกกระทำ เพราะเป็นผลของกรรม..แต่สมควรอาย หากเราจะทำความผิดค่ะ เพราะนั่นเป็นการสาบแช่งตนเองให้ได้รับทุกข์สืบต่อไปเบื้องหน้าค่ะ
ค่อยๆติดตามเว็บนี้ไป ถือว่าเป็นเพื่อน เป็นที่พักใจจนกว่าท่านผู้ถามจะแข็งแรง ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ดีนะคะ
หากแม้การอ่านข้อความทั้งหมดนี้แล้ว จิตใจเกิดกำลังใจขึ้นมา ท่านผู้ถามก็จงปริ๊นคำตอบเก็บไว้ คราวใดที่ใจหมอง ก็นำกลับมาอ่านใหม่ ปัญญาก็จะได้ปัจจัย ศรัทธาเชื่อเรื่องกรรม เชื่อผลของกรรมก็จะมั่นคงขึ้น อีกไม่นาน แผลนี้ก็จะหายระบม เหลือเพียงริ้วรอยที่ลูบคลำเพียงเป็นแค่เครื่องระลึกเตือนใจเท่านั้นเอง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
My Locker