ย้อนอดีตทีมดัง # 2 - [ยูงทอง] ลีดส์ ยูไนเต็ด
สโมสรฟุตบอล ลีดส์ ยูไนเต็ด มีฉายาว่า ยูงทอง ก่อตั้งสโมสรขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1919 ตั้งอยู่ที่ บีสตัน เมืองลีดส์ มณฑลเวสต์ ยอร์คเชียร์ ประเทศอังกฤษ ลีดส์นับว่าเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในช่วงทศวรรษที่ 60-70 โดยในยุคนั้น ทีมยูงทอง ของดอน เรวี่ส์ สยายปีกคว้าแชมป์ในประเทศอย่างเป็นกอบเป็นกำ อีกทั้งยังเคยก้าวถึงนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในปัจจุบัน) ในปี 1975 แต่ต้องอกหัก พ่ายมหาอำนาจลูกหนังในยุคนั้น อย่างบาเยิร์น มิวนิค ไป 0-2 และยังได้เข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ ในปี 1973 แต่ต้องเป็นฝ่ายปราชัยให้กับเอซี มิลาน ไป 0-1 อย่างไรก็ดี ลีดส์ยังได้แชมป์ยูฟ่า คัพ 2 สมัย ในปี 1968 กับ 1971 และรองแชมป์ ในปี 1967 นอกจากนี้ ลีดส์ยังเป็นทีมสุดท้ายในประวัติศาสตร์ ที่คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 อังกฤษ ฤดูกาล 1991-92 เพราะในฤดูกาล 1992-93 ศึกดิวิชั่น 1 อังกฤษ ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นพรีเมียร์ ลีก มาจนถึงปัจจุบัน
นัดชิงยูโรเปี้ยน คัพ 1974-75
แชมป์ดิวิชั่น 1 อังกฤษ 1991-92
จนกระทั่งในปี 1998 ทีมยูงทอง ได้ทำการแต่งตั้งเดวิด โอเลียรี่ กุนซือหนุ่มไฟแรงขึ้นเป็นผู้จัดการทีม โดยที่โอเลียรี่นั้น ได้ยึดปรัขญาการทำทีม โดยใช้นักเตะอายุน้อยๆ เป็นแกนหลักของทีม นักเตะอย่างพอล โรบินสัน, ริโอ เฟอร์ดินานด์, แดนนี่ มิลส์, โจนาธาน วู้ดเกต, โอลิวิเย่ร์ ดาร์กูร์, โดมินิค มัตเตโอ, ลี โบว์เยอร์, แฮรี่ คีเวลล์, ร็อบบี้ คีน, มาร์ค วิดูก้า, อลัน สมิธ และไมเคิ่ล บริดเจส ถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ร่วมกับตัวหลักอย่าง ไนเจล มาร์ติน, แกรี่ เคลลี่, ลูคัส ราเดเบ้, เอียน ฮาร์ท, ไมเคิ่ล ดูเบอร์รี่ และเดวิด แบทตี้ ทำให้อายุเฉลี่ยของทีมในช่วงนั้น ถือว่าน้อยที่สุดในพรีเมียร์ ลีก เลยทีเดียว
แต่ทว่าความสามารถของนักเตะเหล่านี้นั้นไม่ได้น้อยไปตามอายุ นักเตะแต่ละคนโชว์ฟอร์มเหมือนกับผ่านประสบการณ์ลูกหนังมาอย่างโชกโชน แม้ว่าจะไม่สามารถขึ้นไปเบียดแย่งแชมป์พรีเมียร์ ลีก กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และอาร์เซน่อลได้ แต่ไม่ว่าทีมไหนที่ไปเยือนเอลแลนด์ โรด เป็นอันต้องพบกับความยากลำบากทุกครั้งไป ลีดส์ ยูไนเต็ด ในช่วงนั้นจึงจบไม่เคยต่ำกว่าอันดับที่ 5 ของตารางคะแนน ทำให้ได้เข้าร่วมแข่งขันในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า คัพ ทุกฤดูกาล
โดยในฤดูกาล 1999-2000 ทีมยูงทอง เข้าถึงรอบตัดเชือก ในรายการยูฟ่า คัพ แต่ต้องอกหัก แพ้ต่อกาลาตาซาราย แชมป์ในฤดูกาลนั้น แต่พวกเขายังไม่ถอดใจ ในฤดูกาลต่อมา ลีดส์ได้มีโอกาสลงเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และได้เจอกับทีมชั้นนำต่างๆ ในยุโรป โดยรอบแบ่งกลุ่มรอบแรก พวกเขาต้องอยู่ในกลุ่มแห่งความตาย ร่วมกับสองยักษ์ใหญ่ในยุโรป อย่างเอซี มิลาน และบาร์เซโลน่า และอีกทีมคือ เบซิคตัส เกจิชื่อดังต่างลงความเห็นว่า พวกเขาต้องจอดป้ายแค่รอบแรกแน่นอน แต่พลพรรคยูงทองได้หักปากกาเซียนทุกสำนัก เข้ารอบเป็นอันดับที่ 2 ของกลุ่ม ตามหลังเอซี มิลาน ปล่อยให้บาร์เซโลน่าเป็นที 3 ตกรอบไปเล่นยูฟ่า คัพ
ไม่เพียงแค่นั้น ในรอบแบ่งกลุ่มรอบที่สอง พวกเขาต้องอยู่ในกรุ๊ป ออฟ เดธ ไม่แพ้กัน เมื่อต้องมาจ๊ะเอ๋กับเรอัล มาดริด แชมป์เก่าในขณะนั้น พร้อมด้วยลาซิโอ้ ในยุครุ่งเรือง แชมป์เซเรีย อา ทีมล่าสุด และอันเดอร์เลชท์ แต่พวกเขาก็พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้ง ว่าที่ผ่านมามันไม่ได้ฟลุค ลีดส์จบอันดับที่สองของกลุ่ม ต่อจากทีมราชันชุดขาว เบียดอินทรีฟ้า-ขาว ลาซิโอ้ กระเด็นตกรอบไป
รอบ 8 ทีมสุดท้าย ลีดส์ต้องโคจรมาพบกับเดปอร์ติโบ ลา กอรุนญ่า แชมป์ลา ลีก้า ในขณะนั้น นัดแรก ลีดส์ถล่มลา กอรุนญ่า 3-0 โอกาสเข้ารอบสดใส แต่พวกเขาต้องเกือบตกรอบ เมื่อบุกไปแพ้ที่ขุมนรก ริอาร์ซอร์ 0-2 รวมผลสองนัด ลีดส์เข้ารอบ ด้วยประตูรวม 3-2
แต่แล้ว ความฝันของลีดส์ก็มีอันต้องพังทลายลงในรอบตัดเชือก เมื่อทีมยูงทองต้องดวลกับไอ้ค้างคาว บาเลนเซีย รองแชมป์เก่า และสู้ความเก๋าไม่ไหว พ่ายต่อบาเลนเซีย ที่เมสตาย่า 0-3 ตกรอบด้วยสกอร์รวม 0-3 จากการบรรเลงเพลงแข้งของ กาอิซก้า เมนดิเอต้า และฆวน ซานเชซ ของบาเลนเซีย
หลังจบฤดูกาล 2000-01 ลีดส์ได้ประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่างหนัก จนต้องขายผู้เล่นตัวหลักออกจากทีม ริโอ เฟอร์ดินานด์ ย้ายไปแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่วนตัวหลักคนอื่นๆ ก็กระจัดกระจายกันไป ฟอร์มการเล่นของทีมเริ่มย่ำแย่ จนในที่สุด เดวิด โอเลียรี่ โดนปลดออกจากตำแหน่ง จากนั้น สโมสรได้ทำการแต่งตั้งเทอร์รี่ เวนาเบิลส์ อดีตผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เข้ามารับตำแหน่ง แต่ฟอร์มยิ่งทรุดหนัก เวนาเบิลส์โดนปลด และปีเตอร์ รีด เข้ามาทำทีมแทน ซึ่งในขณะนั้นฟอร์มของทีมยูงทอง เข้าขั้นดิ่งลงเหว และในที่สุดก็ตกชั้นสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในปี 2004 ปิดตำนานทีมนักสู้พลังหนุ่มตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ยังไม่จบแค่นั้น เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด จากการที่ประสบปัญหาทางด้านการเงินอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับฟอร์มการเล่นที่ลุ่มๆ ดอนๆ ในฤดูกาล 2006-07 ลีดส์จบที่อันดับสุดท้าย ของตารางคะแนน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ทำให้ต้องร่วงตกชั้นสู่ลีก วัน อังกฤษ แต่อย่างไรก็ตาม อีก 3 ปี ต่อมา พวกเขาก็ได้เลื่อนชั้น กลับขึ้นมาสู่ เดอะ แชมเปี้ยนชิพ อีกครั้ง โดยมีเจ้าของสโมสรคนใหม่ที่ชื่อ เคน เบทส์ อดีตเจ้าของเชลซี
ในขณะนี้ ลีดส์อยู่อันดับที่ 10 ของตารางคะแนน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ บรรดาแฟนบอลของลีดส์ ยูไนเต็ด ยังคงร้องเพลงรอ ว่าเมื่อไหร่หนอ ที่เจ้ายูงทองตัวนี้ จะกลับมาบินสูง และสยายปีกให้เห็นอีกครั้ง แฟนบอลหลายคน คงอยากเห็นศึก War of Rose ระหว่างลีดส์ ยูไนเต็ด กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ ลีก อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งหวังว่าโอกาสนั้น จะมาถึงในเร็วๆ นี้ ...