เวย์น รูนี่ย์ เชื่อว่าเขามีสิทธิ์ที่จะเล่นเป็นกองหน้าในฤดูกาลที่แล้ว แต่ถูก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันสั่งให้เล่นมิดฟิลด์ จึงเป็นสาเหตุที่เขาอยากจะออกจากสโมสร

การเปิดใจครั้งแรกของเวย์น รูนี่ย์ ถึงสาเหตุที่เขาบาดหมางกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน รูนี่ย์ยอมรับว่าเขาโตมาแบบไม่สนใจอะไร เมื่อมันมาถึงจุดหนึ่ง

แข้งดังของทีมชาติอังกฤษได้รับโอกาสจากเดวิด มอยส์ ผู้จัดการทีมคนใหม่ โดยเขาบอกว่า ตอนนี้มีความสุข ส่วนการพูดคุยเกี่ยวกับอนาคตของเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด รูนี่ย์ไม่ได้พูดออกมาโดยตรงถึงตอนที่ถูกปรับให้ไปเล่นมิดฟิลด์สมัยการคุมทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

"ที่จริงผมรู้สึกแย่ที่ต้องเล่นกองกลาง ผมก็โอเค แต่ผมไม่อยากเล่นตรงนั้น ผมเคยมีปัญหาเกี่ยวกับตำแหน่งการเล่น แต่ผมคิดว่าผมควรได้สิทธิ์ในการเล่นตำแหน่งตัวเองและมันไม่เกิดขึ้น"

"โดยธรรมชาติ ผมค่อนข้างผิดหวังและมันอาจจะส่งผลกระทบบางส่วนในนัดที่ผมลงเล่น ผมสามารถเล่นมิดฟิลด์ได้ แต่เมื่อผมเล่นแล้วผมจะสูญเสียการควบคุมขาของตัวเอง ผมควรกลับไปเล่นที่เดิม"

"ผมไม่ได้หมายความว่า ผมอยากจะเล่นหน้าต่ำ แต่ขอเป็น 1 ใน 2 ตรงนั้นดีกว่า (ในตำแหน่งกองหน้า)" รูนี่ย์กล่าว

ถามว่าเขาเคยบอกกับสโมสรหรือไม่ว่า เขาอยากเล่นกองหน้า รูนี่ย์ตอบว่า

"ใช่ และก็...." ก่อนที่จะยิ้ม

"ทุกคนที่สโมสรรู้ดีว่าผมอยากจะเล่น และนั่นคือเหตุผลที่ผมผิดหวัง ผมถามว่าเพราะอะไร เขาบอก ให้ผมเล่นกองหลางและผมไม่อยากเล่นเลย" รูนี่ย์กล่าวเพิ่ม

"ผมมักจะทำและพยายามช่วยทีม แต่ผมคิดว่ามันมีที่มาที่ไปในอาชีพของผม ผมคงเห็นแก่ตัวจริง ๆ "

รูนี่ย์ลงสนาม 22 นัดในฤดูกาลที่แล้วภายใต้การคุมทีมของเฟอร์กี้ ส่วนที่เหลือคือเขาได้รับบาดเจ็บ แต่ในความหลากหลายนั้นต้องยอมรับว่าโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ปรับตัวได้ไวสำหรับการเป็นนักเตะผู้นำของทีม

ซึ่ง "หมูรูน" ถูกถอดจากการเป็นนักเตะตัวจริงตั้งแต่นัดที่สองของการพบกับเรอัล มาดริด ในศึกฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พ่ายแพ้ไป

สำหรับหนังสือชีวประวัติของเฟอร์กูสันจะถูกเผยแพร่ปลายเดือนนี้ อดีตนายใหญ่ของยูไนเต็ดก็ได้ให้สัมภาษณ์กับ อเมริกา เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเกี่ยวกับกรณีที่รูนี่ย์ต้องการย้ายทีม

ศูนย์หน้าวัย 27 ปีรายนี้ยังกล่าวต่อว่า "เดวิด มอยส์ เข้ามาและให้ผมเล่นด้านหน้าและผมก็สนุกกับมัน"

"ผมจะไม่พูดว่าผมไม่อยากเล่น (ตำแหน่งมิดฟิลด์) ตัวอย่างเช่น ถ้าเหลือเวลา 10-15 นาทีของเกมนั้น ๆ เราก็จะมีการดึงเกมเล็กน้อย และผมคงต้องดร็อปลงหรือไปเล่นด้านซ้าย เพื่อช่วยในเรื่องของรูปเกม"

"ผมคงไม่ทำท่าไม่ยอมรับหรือไม่ทำมันหรอก คุณจะเห็นได้จากเวลาที่ผมลงเล่นและผมมีความสุขกับฟุตบอล ผมได้พูดคุยกับสโมสรมากขึ้น และเราจะเห็นอะไรมากมายจากที่นั่น"

"ความซื่อสัตย์ ผมได้มาตลอดซัมเมอร์"

"เห็นได้ชัดว่ามีอะไรเกิดขึ้นมากมาย และผู้คนก็รอผมอยู่ ไม่ว่าอะไรก็ตาม แต่ผมได้พูดคุยกับคนสำคัญของสโมสรและเราได้รู้จักตัวเอง รู้ว่าต้องทำอะไร" รูนี่ย์กล่าว

"ไม่อยากที่จะต้องออกมาพูดอะไร ผมอยากจะโฟกัสไปที่ฟุตบอลอย่างเดียว นั่นคือสิ่งที่ผมจะทำและจะทำต่อไป"

"ผมไม่ต้องไปประกาศให้ใครรู้ว่า ผมอยากอยู่ต่อหรืออยากออกไป ผมจะมุ่งมั่นในฟุตบอลของผม และคอยดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้นบ้าง"

ทั้งนี้เวย์ รูนี่ย์จะมีคิวฟาดแข้งร่วมกับทีมชาติอังกฤษ พบกับทีมชาติมอนเตเรโกร ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้

========================================

ได้อ่านข่าวนี้ทำให้ความคิดในแง่ลบกลับดีขึ้นกับรูนีย์ เพราะแกงอแงบ่อยเหลือเกิน
ถ้าเป็นผมโดนอย่างนี้บ้าง มันก็ต้องมีงอแงกันบ้าง

มีกองหน้าใหม่เข้ามา แล้วทำเหมือนกับตัวเขาเองไม่สำคัญ จับไปเล่นกองกลางซะงั้น! มันก็ไม่โอเคเท่าไร!

ผมขอมองเป็นกลางนะ ไม่เอียงไปฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ส่วนตัวผมคิดว่า ท่านเซอร์ทำเพื่อทีมมากกว่านะ เพราะกองกลางเรา มีคาร์ริคคนเดียวที่ยืนระยะได้ ทำให้ต้องถอยรูนี่ย์ลงมาช่วยบ่อยๆ อีกส่วนคือ การมาของ ฟาน เพอร์ซี่ ทำให้เกมรุกอันตรายมากขึ้น

อย่าว่าอย่างโน้นอย่างนี้เลย ผมเข้าใจความรู้สึกรูนี่ย์นะ ผมว่า ท่านเซอร์ทำเพื่อทีมนะ

เล่นหน้าตั้งหลายปีไม่เคยได้ดาวซัลโว โรบินมาปีเดียวได้เลย
มองดูตัวเองบ้างเหอะว่ะไอ้อ้วนเอ้ย ฟิตเนสก็ไม่เข้า

คิดซะว่าทำเพื่อทีมแล้วจะดีเอง

ฤดูกาลก่อนที่เพอร์ซี่มาคือ รองดาวซัลโวนะครับ และก่อนหน้านั้นก็ยืนตัวหลักมาตลอด แถม เป็นคนที่ทำให้ทีมได้แขมป์มากมายด้วย ผมว่ายิงเยอะแต่ไม่มีประโยชน์ต่อทีม เล่นเห็นแก่ตัวแบบซัวเรซปีที่แล้วคงไม่มีประโยชน์หรอกครับ

สถิติ ไม่เคยหลอกใครครับ

GOALS SCORED 202
GAMES PLAYED 411
ASSISTS 99


icon12 icon1

ตอนนี้ช่วยๆกันยิงหน่อยนะ

ป๋าทำเพื่อทีมครับ เพราะรูนี่ย์เก่งทุกตำแหน่ง ถ้าเป็นโกล์ได้ป๋าก็ให้เป็นละ