ถ้าเราบอกว่า ลีกอังกฤษมีพฤติกรรมการเหยีดผิวที่ไม่ค่อยจะแรงเมื่อเทียบกับรัสเซีย หรืออิตาลี ก็คงจริงอย่างไม่เต็มปาก เราเห็นนักเตะผิวสี นักเตะชาวเอเชีย นักเตะต่างชาติเตะบอลกันเกร่อไปหมดจนแทบจะเดินชนกัน แต่สังเกตไหมว่าไม่มีผู้จัดการทีมผิวสี หรือชาวเอเชียเลย โซล แคมป์เบล อดีตยอดปราการหลังของอาร์เซนอลจะแสดงทรรศนะในฐานะคนในถึงพฤติกรรมการเหยียดผิวในวงการฟุตบอลอังกฤษว่าความเชื่อและอคติโบร่ำโบราณมันยังมีอยู่

"บิ๊กโซล" บอกผ่านหนังสือพิมพ์ "เดอะ ซัน" ในเรื่องของการเริ่มต้นชีวิตในฐานะโค้ชว่าเขาไม่อภิรมย์กับการเหยียดผิวที่อังกฤษและนั่นมันเป็นการบังคับแบบอ้อมๆให้เขาหาลู่ทางในการเริ่มต้นชีวิตโค้ชของเขาที่ต่างประเทศ

"ที่นี่ไม่มีที่ว่างให้ผมจนกว่าทัศนคติเกี่ยวกับเรื่องนี้(เหยียดผิว)จะเปลี่ยนไป จากนี้ไปทุกคนควรตั้งคำถามว่า ทำไมในประเทศนี้มันไม่มีผู้จัดการทีมผิวสีขึ้นมาเฉิดฉายบ้าง..."

"ผมเคยคุยกับพวกนักเตะผิวสีที่อยากเป็นผู้จัดการทีมในอนาคตอยู่บ้าง และพวกเขารู้สึกเช่นเดียวกันกับผม เรื่องการเหยียดผิวในประเทศนี้มันยังเป็นอคติดึกดำบรรพ์ที่ถูกปลูกฝังและผลิดซ้ำมาจนถึงทุกวันนี้ ผมหวังว่าในอนาคตอะไรๆมันจะดีขึ้นสำหรับพวกเรา"

ปัจจุบันมีผู้จัดการทีมผิวสีเพียง4คนจาก92คนในลีกอาชีพของอังกฤษ ได้แก่ คริส ฮิวจ์ตันของนอริช ซิตี้ คริส พาวเวลล์ของชาร์ลตัน พอล อินช์ของแบล็กพูลและ คริส คิววอมยาจากนอตส์ เคาน์ตี้ ซึ่งเป็นอัตราส่วนที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับจำนวนนักเตะผิวสีในลีก โดยเฉพาะในรายของ ฮิวจ์ตัน เป็นผู้จัดการทีมผิวสีเพียงคนเดียวที่ทำงานอยู่ในลีกสูงสุดในลีกใหญ่5ลีกของยุโรป (พรีเมียร์ลีก,ลา ลีกา,กัลโช ซีรี เอ, บุนเดสลีกาและ ลิกเอิง)

แคมป์เบลยังได้วิพากษ์วิจารณ์เอฟเอในประเด็นของการปฏิเสธเขาในการร่วมงานในทีมชาติอังกฤษกับ รอย ฮอดจ์สัน แล้วไปดึงเอา แกรี่ เนวิลล์ อดีตปราการหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาแทนโดยกล่าวว่า "ผมให้ทีมชาติได้ทั้งกายและหัวใจของผม แต่เอฟเอไม่ได้ให้อะไรผมเลยในวันที่ผมมีปัญหา พวกเขาบอกผมว่าเขาสนใจในตัวผมนะ แต่หลังจากนั้นทุกอย่างก็เงียบหายไปจนกระทั่ง แกรี่ เนวิลล์เข้ามารับงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีม" นอกจากนั้นอดีตปราการหลังทีมชาติอังกฤษยังตัดพ้อทิ้งท้ายว่า "ผมผิดหวังนะที่เขาปฏิเสธการเสนอตัวของผม แต่อย่างไรก็ตามผมก็พร้อมแล้วที่จะก้าวต่อไป"

ผมคนหนึ่งแหล่ะที่ไม่อยากให้เรื่องแบบนี้มาปิดกั้นความหลากหลายที่ผมเชื่อว่ามันจะสร้างสีสันและมอบความสนุกสนานให้กับเราๆที่นั่งดูฟุตบอลและติดตามข่าวสารจากที่นี้ ขอเป็นกำลังใจให้ "บิ๊กโซล" ต่อสู้และก้าวข้ามพฤติกรรมการเหยียดผิวครับ

บทความแปลนี้แปล และขัดเกลาภาษาจาก Eurosport เจ้าเก่า :
http://asia.eurosport.com/football/world-cup/2014/campbell-racial-prejudice-forcing-me-out-of-england_sto3941654/story.shtml สืบค้นเมื่อวันที่ 29/9/2556 ขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ครับ

เลิกเถอะครับ เหยียดผิว คนเหมือนกัน

พวกฝรั่งแม่งคิดว่าตัวเองเหนือเต็มประดา นิวเจงกิสข่านกลับมาแล้วจะหนาว

โลกจะหมุนไป เวลาจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ผมว่ามันก็เป็นอะไรที่แปลกตาดีนะครับ คือเรื่องนี้มันมีมานานมากเลย ก่อนจะมีประเทศก่อนสังคมจะสร้างระบบจนมาถึงวันนี้ก็น่าจะพันปีแล้วนะครับ แต่เรายังเห็นมันอยู่ ผมว่ามันเหมือนเราเห็นฟอสซิลที่มีชีวิตอ่ะนะ แต่ฟอสซิลแบบนี้ควรจะตายๆไปได้ละ

ผมตามเชียร์ฮิวจ์ตันอยู่นะ เพราะแกเป็นตำนานนักเตะของไก่ เป็นผู้ช่วยผจกทีมไก่อยู่หลายปี


บิ๊กโซลความจริงก็ยังรักนายนะ เพราะผมโตมากับการดูฟุตบอลอังกฤษ เชียร์สเปอร์สก็มีบิ๊กโซลนี่แหระ ที่แฟนๆไก่ก่อนหน้านั้นให้ความยกย่อง ให้เป็นกัปตันทีมไก่

มาเป็นโค้ชให้ปืนไหมบิ๊กโซล