(รีวิวหนัง)The Blind Side : แม่ผู้นี้มีเเต่รักเธอ

BLOG BOARD_B

ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com

ไว้คราวหน้า X

ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย

ไปหน้าที่ 1

ไปที่หน้า

ตั้งกระทู้ใหม่

ฝากรูป

หน้าแรกบอร์ด >> บอร์ดวาไรตี้

ผู้ตั้ง

ข้อความ

ออฟไลน์

ไนซ์คุง

ดาวซัลโวฟุตบอลโลก

Status: ขายวิญญาณให้ยูไนเต็ด

: 0 ใบ

เข้าร่วม: 20 Apr 2007

ตอบ: 12118

ที่อยู่: soccersuck.com

โพสเมื่อ: Sun Sep 15, 2013 15:59

(รีวิวหนัง)The Blind Side : แม่ผู้นี้มีเเต่รักเธอ

วันนี้ผมขอเบิ้ล ทำรีวิวหนังสองเรื่องเลยเเล้วกันครับ
มีคนเเนะนำผมมานานมากเเล้ว สำหรับภาพยนตร์เรื่องนี้
วันนี้ว่างๆเลยนั่งดู
พอดูจบ..ผมก็ตัดสินใจไม่รีรอ ที่จะตั้งกระทู้ทำรีวิว ให้ทุกๆท่านได้รับชมกันเลยครับ
เป็นอีก 1ภาพยนตร์ที่ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงครับ

จากเรื่องราว ชีวิตจริง ของนักอเมริกันฟุตบอลชื่อดัง ไมเคิล ออร์
ตีเเผ่ในหนังสือ ชื่อ The Blind Side: The Evolution of a Game โดย Michael Lewis
เมื่อปี 2006
เเละทำเป็นภาพยนตร์ในปี 2009

ไมเคิล ออร์ เด็กชายผิวสีกำพร้าพ่อ เเม่มีปัญหาด้านการติดยา
เขาไม่มีใครดูเเลเป็นเพียงเด็กบ้านเเตก ที่ไอคิวต่ำไม่มีใครเหลียวเเลคนนึงเท่านั้น
เเต่เเล้วโชคชะตากลับเล่นตลก ให้ออร์ได้เข้าเรียนที่โรงเรียน คริสต์แห่งหนึ่ง
เเละได้พบกับ ครอบครัวอุปถัมป์ โดย ลีแอน โทฮี ซ่งรับบทโดย เเซนดร้า บูลล็อค(ครอบครัวนี้ เป็นครอบครัวเศรษฐี เเละสมบรูณ์แบบเอามากๆ)
ซึ่งรับเลี้ยงเเละดูเเล ออร์เป็นอย่างดี เเละนั่นเองเป็นการเปิดโอกาสให้ ออร์ได้เล่น ฟุตบอล..
ไมเคิล เริ้มจะปรับตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จผลการเรียนดีเเละได้รับอณุญาตให้ลงเเข่งฟุตบอล
จนกระทั่ง ไมเคิ่ล เป็นที่ต้องการตัวของทีมฟุตบอล มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ..

เเละจากภาพยนตร์เรื่องนี้เอง ส่งผลให้ เเซนด้า บูลล็อค
คว้ารางวัลนักเเสดงนำหญิง ยอดเยี่ยม จากทั้งออสการ์ เเละ Golden Glove เมื่อปี 2010 มาครอง

เป็นภาพยนตร์ครอบครัวดูง่าย เเต่จบเรื่องด้วยหัวใจอันพองโตอีกเรื่องครับ
(อาจจะพิเศษหน่อยตรงที่มันเกิดในเท็นเนสซี รัฐทางใต้ที่ขึ้นชื่อว่าเหยียดผิว)
เรื่อยๆ เเต่ไม่น่าเบื่อ นักเเสดงที่เล่นเป็นไม่เคิ่ล ออร์ ก็ทำหน้าอมทุกข์ได้ถึงมากๆ
นอกจากนี้ยังสร้างมาจากเรื่องจริงด้วยครับ ซ้ำยังเป็นเรื่องจริงของนักอเมริกันฟุตบอลผู้โด่งดังอีกด้วย
นั่นทำให้การเข้าถึงเรื่องนี้ ง่ายขึ้นไปอีก
เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เเละดูพร้อมันทั้งครอบครัวเป็นอย่างยิ่งครับ
ใครจะคิดว่าความช่วยเหลือที่ครอบครัวหนึ่งมีให้เด็กคนหนึ่งจะเปลี่ยนแปลงชิวตเขาไปมากมายถึงขนาดนี้

สมควรแล้วที่หนังเขาโฆษณาว่า Based on the Extraordinary True Story