BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: อุตส่าห์ตามไลค์ให้เกือบปี ขอเลียหทีก็ไม่ได้
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1426
ที่อยู่: ทุ่งหญ้าสเต็บ ปลายฝนต้นหนาว เข้าสู่ฤดูเหงา~
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 21:49
[ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ


คิดว่าเราท่านทั้งหลายคงจะรู้จักประเทศเกาหลีในแง่ของประเทศอุตสาหกรรมที่มี ความสวยงามทางด้านวัฒนธรรม แต่น้อยคนนักที่จะรู้ว่าจริงๆแล้วเกาหลีเป็นประเทศที เคยตกอยู่ในสภาวะ สงครามมาอย่างยาวนาน และมีอดีตที่เลวร้ายขมขื่นมากที่สุดชาติหนึ่งของโลก เป็นดินแดนที่แทบจะไม่อาจจะแสวงหาสันติสุขอย่างแท้จริงมาเป็นเวลากว่า 100 ปีแล้วข้อมูลดูด้านล้าง

เดิมทีนั้นเกาหลีไม่ได้รวมเป็นแผ่นดินเดียวกันทั้งผืน แต่มีอยู่หลายชนเผ่าไม่ขึ้นแก่กัน จนกระทั่งราชวงศ์ฮั่นของจีนได้แผ่ขยายอำนาจมาในคาบสมุทรเกาหลีและได้ปกครอง เกาหลีประมาณ 400 ปี ต่อมาราชวงศ์ฮั่นล่มสลายลง แคว้นต่างในคาบสมุทรเกาหลีก็ทำสงครามแผ่ขยายอำนาจกัน จนกระทั่งเหลืออยู่เพียงสี่อาณาจักรใหญ่ คือ โคกูรยอ ซิลลา แพกแจ และกายา ต่อมาแคว้นซิลลาได้ยกกองทัพเข้ายึดอีกสามแคว้นรวมแผ่ นดินเป็นหนึ่งได้ในที่ สุด
ต่อมาอาณาจักรซิลลาก็ล้มเหลวทางด้านการปกครองจนถูกขุนนางคนหนึ่งยึด อำนาจและสถาปนาราชวงศ์โครยอปกครองคาบสมุทรเกาหลี(คำว ่าโครยอเป็นที่มาของคำ ว่าโคเรียในปัจจุบัน) หลังจากนั้น 200 ปีราชวงศ์โครยอก็ถูกแม่ทัพคนหนึ่งเข้าล้มล้างและสถาป นาราชวงศ์โชซอนแทน
จน กระทั่งโลกได้เข้าสู่ยุคล่าอาณานิคมในศตวรรษที่ 18 ญี่ปุ่นในฐานะประเทศมหาอำนาจชาติเดียวในเอเชียในสมัย นั้น ได้เข้ายึดครองคาบสมุทรเกาหลี(ยุ่นมันเลียนแบบฝรั่งน ั่นแหละ) ล้มราชวงศ์โชซอนลง ทำลายปราสาทราชวังบังคับให้เกาหลีส่งข้าวที่เก็บเกี่ยวได้ไปให้ญี่ปุ่น จนกระทั่งเกาหลีตกอยู่ในภาวะอดอยากผู้ใดต่อต้านก็จะถูกฆ่า รวมทั้งในตอนที่ญี่ปุ่นทำสงครามกับรัสเซียนั้น ชาวเกาหลีจำนวนมากก็ถูกบังคับให้ไปช่วยรบ
ความเจ็บปวดของเกาหลี ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
ต่อมาเมื่อญี่ปุ่นเข้าร่วมกับฝ่าย อักษะในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นก็พยายามกลืนชาติเกาหลีด้วยการเผยแพร่วัฒนธรร มของตนในเกาหลี การกระทำทุกอย่างที่เป็นการแสดงออกแบบเกาหลีถือเป็นส ิ่งผิดกฎหมาย ชาวเกาหลีจำนวนมากถูกเกณฑ์ไปทำสงครามในจีน สตรีกว่า 200000 คนถูกส่งตัวไปเป็นนางบำเรอของทหารญี่ปุ่น
การแบ่งแยกประเทศใน ช่วงสงครามเย็น
หลังจากที่อเมริกาทิ้งบอมบ์เมืองฮิโรชิม่าและนางาซากิของญี่ปุ่นจนญี่ปุ่นต้องยอมแพ้สงครามโลกครั้งท ี่ 2 อย่างไม่มีเงื่อนไขไป กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรก็เข้าปลดอาวุธทหารญี่ปุ่นในเก าหลี โดยสหภาพโซเวียตและจีนเข้าควบคุมภาคเหนือ อเมริกากับอังกฤษเข้าควบคุมภาคใต้ โดยใช้เส้นละติจูดที่ 38 เป็นหลัก ประเทศมหาอำนาจทั้งสี่ได้ประกาศให้เกาหลีเป็นเอกราชจ ากญี่ปุ่น ในตอนนั้นชาวเกาหลีต่างยินดีปรีดาที่จะได้รับสันติภา พกันเสียที
แต่ ทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อสหรัฐและโซเวียตตกลงกันไม่ได้ว่าจะจัดให้เกาหลี มีการเลือกตั้งแบบ ประชาธิปไตยหรือจะให้มีรัฐบาลแบบคอมมิวนิตส์ดี จนสุดท้ายก็ต้องมีการแบ่งเกาหลีออกเป็นสองชาติ คือ เกาหลีเหนือที่เป็นคอมมิวนิตส์และเกาหลีใต้ที่เป็นปร ะชาธิปไตย




สีแดงแทนฝ่ายคอมมิวนิตส์
แดงเข้มคือกลุ่มสนธิสัญญาวอร์ซอ แดงอ่อนคือประเทศคอมมิวนิตส์อื่นๆนอกวอร์ซอ
สีฟ้าแทนฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิตส์
ฟ้าเข้มคือกลุ่มสนธิสัญญานาโต้ ฟ้าอ่อนคือประเทศที่ต่อต้านคอมมิวนิตส์อื่นๆนอกนาโต้
สีเขียวแทนประเทศที่ยังเป็นอาณานิคมอยู่
ประเทศในกลุ่มนี้เคยถูกฝ่ายต่อต้านคอมมิวนิตส์กดขี่ข ่มเหง จึงตกเป็นเป้าหมายของฝ่ายคอมมิวนิตส์ที่จะดึงมาเป็นพ วก
สงครามเกาหลี เป็นสงครามตัวแทนของอเมริกากับโซเวียตในสมัยสงครามเย ็น (อเมริกากับโซเวียตจะไม่ทำสงครามกันโดยตรง แต่จะใช้พวกลูกมือมาสู้กัน สงครามตัวแทนมีอยู่ 4 ครั้ง คือ สงครามเกาหลี สงครามเวียดนาม สงครามอัฟกานิสถาน และวิกฤตการณ์นิวเคลียร์ในคิวบา) เป็นสงครามที่คนเกาหลีต้องมาทำสงครามกันเองโดยที่ตนเ องไม่ได้เป็นคนก่อ สงครามขึ้นแต่อย่างใด ซ้ำยังถูกประเทศต่างๆมาหาผลประโยชน์อีกต่างหาก
สงครามเกาหลีเป็นสงครามที่โหดร้ายและนองเลือดที่สุดค รั้งหนึ่งเท่าที่โลกนี้เคยประสบ เกาหลีในสมัยนั้นยังไม่ได้เป็นเมืองใหญ่เหมือนดังเช่ นทุกวันนี้ หากแต่เป็นป่าเขาทุรกันดาร พื้นโคลนตมแฉะๆ รวมไปถึงสภาพอากาศในฤดูหนาวอันเลวร้าย และอาวุธที่นำมาใช้ประหัตประหารกันนั้นมีความพลิกแพล งหลากหลายมากเพราะอยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างสมัยสงคราม โลกและสมัยปัจจุบัน ราวกับว่าอาวุธของทุกยุคสมัยจะมารวมกันในการต่อสู้คร ั้งนี้ กลยุทธ์ที่นำมาใช้นั้นก็เป็นการผสมผสานกันระหว่างสงค รามโลกครั้งที่ 1 และ 2คือมีการใช้ทั้งคลื่นทหารราบ การรบแบบสนามเพลาะ การชุมนุมรถถัง การทิ้งระเบิด การใช้จิตวิทยา รวมไปถึงการรบแบบกองโจร และยังมีการใช้เครื่องบินไอพ่นเป็นครั้งแรกของโลกอีก ด้วย แทบไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นในยุคที่โลกพึ่งผ่านพ ้นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดอย่างสงครามโลกครั้งที่ 2 มาหมาดๆ
สงคราม เกาหลีเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 25 มิ.ย. 1950 เมื่อเกาหลีเหนือนำกองทัพบุกเกาหลีใต้หมายจะรวมประเท ศให้เป็นหนึ่งอีกครั้ง จนกระทั่งมีการเจรจาหยุดยิงกันชั่วคราวในวันที่ 27 ก.ค. 1953 ในปัจจุบันนี้(ปี 2010)ก็ยังไม่ถือว่าสงครามจบ แต่เลิกยิงกันไปชั่วคราวเพราะมีสัญญาหยุดยิงกำกับไว้ อยู่ ซึ่งถ้าสัญญานี้หมดอายุเมื่อไรก็กลับมารบกันต่อเมื่อ นั้น(คิดว่าถ้ารบกันอีก ครั้งคงกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์และอาจลุกลามกลายเป็ นสงครามโลกครั้งที่ 3 ไปในที่สุด)
เริ่มสงคราม
- 18 มิ.ย. 1950 รัฐบาลเกาหลีเหนือภายใต้การนำของนายคิม อิล ซุง ได้สั่งระดมทหารจากภาคเหนือราว 260000 นาย และประกาศที่จะรวมประเทศเข้าเป็นหนึ่งอีกครั้ง
-19 มิ.ย.1950 โซเวียตเสริมกำลังทหารในเกาหลีเหนืออีก 20000 นายพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุน , จีนเสริมกำลังทหารในเกาหลีเหนืออีก 400000 นายพร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์สนับสนุน
-21 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์(เกาหลีเหนือ โซเวียต จีน) ยกพลเข้าประชิดชายแดนเกาหลีใต้ สหรัฐพยายามที่จะเข้าไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทนี้แต่ไม่เป ็นผล
-25 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ยกพลข้ามเส้นละติจูดที่ 38 เข้าสู่เกาหลีใต้ รัฐบาลเกาหลีใต้ที่นำโดยนาย ซิงมัน ลี ประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือทันที
-27 มิ.ย. 1950 กองทัพเกาหลีใต้เพลี่ยงพล้ำครั้งใหญ่ที่บินมุนจอมเพร าะฝ่ายคอมมิวนิตส์มี กำลังทหารและอาวุธที่เหนือกว่ามาก

เกาหลีใต้เข้าขั้นวิกฤต
- 30 มิ.ย. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์เข้าตีกรุงโซลแตก บุคคลสำคัญของเกาหลีใต้ต้องไปตั้งรัฐบาลผลัดถิ่นที่เ มืองปูซาน
-3 ก.ค. 1950 สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรประกาศให้ความช่วยเหลือแ ก่เกาหลีใต้ และส่งทหารมาช่วยเกาหลีใต้รบ แต่ก็ไม่ประสบผลเท่าใดนัก เพราะการวางแผนการรบที่ดีของฝ่ายคอมมิวนิตส์(เช่นการ เข้าตีตอนกลางคืน การปล้นสดมถ์ เผากองเสบียง) กองทัพพันธมิตรต้องเพลี่ยงพล้ำอย่างหนักที่เมืองจูโน ่(ใครเคยเล่นแรกนารอคจะ รู้จักดี)
-11 ก.ค. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ได้ชัยชนะอย่างต่อเนื่องจนขยายแนวร บไปถึงทะเลญี่ปุ่น บัดนี้เกาหลีใต้กำลังจะพ่ายแพ้อย่างราบคาบ นายโจเซฟ สตาลิน ผู้นำโซเวียตถึงกับออกมาประกาศกร้าวว่า ถ้ายึดเกาหลีใต้ได้เมื่อไรจะยกพลข้ามช่องแคบไปแก้แค้ นญี่ปุ่นอย่างสาสม!
จุด เปลี่ยนของสงคราม
- 20 ก.ค. 1950 รัฐบาลสหรัฐเกรงว่าถ้าฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกญี่ปุ่นได้เ มื่อไร สงครามนี้ก็จะบานปลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ได้อย่างไม่ต้องสงสัย จึงออกคำสั่งให้ จอมพลดักลาส แมกอาเธอร์ ผู้บัญชาการที่เก่งที่สุดในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นผู้ที่พิชิตญี่ปุ่นได้ ไปบัญชาการรบช่วยเหลือเกาหลีใต้เป็นการด่วน
-23 ก.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรสามารถยันกองทัพคอมมิวนิตส์ไว้ได้ที่เมื องเดกู ในสงครามครั้งนี้เป็นการสร้างชื่อให้กับกองทัพไทยอีก ด้วย(ในการรบครั้งนั้น ทหารไทยฆ่าทหารคอมมิวนิตส์ไป 500 นายโดยเสียทหารไทยไปเพียง 25 นายเท่านั้น)
-25 ก.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรได้รับกำลังเสริมจากสหประชาชาติ และสามารถยันทหารฝ่ายคอมมิวนิตส์ให้ถอยกลับไปที่จูโน ่ได้
- 31 ก.ค.1950 ฝ่ายพันธมิตรที่กำลังฮึกเหิมได้เข้ายึดเมืองจูโน่คืน มาได้
-9 ส.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดกรุงโซลคืนมาได้
- 15 ส.ค. 1950 ฝ่ายพันธมิตรสามารถขับไล่ฝ่ายคอมมิวนิตส์ให้พ้นกลับข ึ้นไปเหนือเส้นละติจูด ที่ 38 ได้เป็นผลสำเร็จ

ฝ่ายพันธมิตรโจมตีกลับ
- 20 ก.ย. 1950 ฝ่ายพันธมิตรบุกข้ามเส้นละติจูดที่ 38 เข้าสู่เกาหลีเหนือ
- 26 ก.ย. 1950 การต่อสู้ด้วยเครื่องบินเจ็ทครั้งแรกของโลกได้เริ่มต ้นขึ้น เมื่อฝ่ายพันธมิตรส่งเครื่องเซเบอร์ เครื่องบินเจ็ทรุ่นสุดของตนเข้าโจมตีพรมแดนระหว่างจี นกับเกาหลีเหนือ เพื่อตัดเส้นทางลำเลียงพลของทหารจีนที่จะเข้าสู่เกาห ลีเหนือ ในตอนนั้นกองทัพคอมมิวนิตส์ไม่เคยมีประสบการณ์ในการต ่อกรกับเครื่องบินเจ็ท เลย จึงเสียหายอย่างหนัก
-28 ก.ย. 1950 โซเวียตส่งฝูงบินมิก เครื่องบินเจ็ทรุ่นแรกสุดของตน เข้าจัดการกับฝูงบินเซเบอร์ของฝ่ายพันธมิตร ฝ่ายพันธมิตรที่ไม่คาดคิดมาก่อนว่าฝ่ายคอมมิวนิตส์จะ มีเครื่องบินเจ็ทเหมือน กันเสียฝูงบินเซเบอร์ไปเกือบทั้งหมด
-3 ต.ค. 1950 ในขณะที่กองทัพอากาศเสียหายอย่างหนัก กองทัพบกของฝ่ายพันธมิตรก็รุกคืบต่อไป ทหารฝ่ายคอมมิวนิตส์กว่า 15000 นายถูกต้อนไปจนมุมที่เมืองอินชอน และพ่ายแพ้ไปในที่สุด
-17 ต.ค. 1950 กองทัพพันธมิตรเข้ายึดกรุงเปียงยางได้สำเร็จ จากนี้ก็เหลือเพียงเก็บกวาดเกาหลีเหนือให้ราบคาบไป
-5 พ.ย. 1950 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดเมืองทกซินทางตอนเหนือของเกาหลีเ หนือ
-10 พ.ย. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ถูกฝ่ายพันธมิตรไล่บดขยี้อย่างหนักจน ถอยร่นขึ้นเหนือถึงชาย แดนจีน นายพลแมกอาเทอร์เสนอให้สหรัฐใช้อาวุธนิวเคลียร์ถล่มจ ีน แต่ข้อเสนอของเขาถูกต่อต้านอย่างรุนแรงจากรัฐบาลสหรั ฐ จนเขาถูกเรียกตัวกลับอเมริกาในที่สุด
เหตุการณ์ที่ผลิกผันอีก ครั้ง
- 1 ธ.ค. 1950 จีนส่งทหารกว่า 500000 นายเข้าสู่เกาหลีเหนือที่กำลังจะพ่ายแพ้ และนี่ก็คือจุดเปลี่ยนที่สำคัญอีกครั้ง
- 16 ธ.ค. 1950 กองทัพคอมมิวนิตส์ที่กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้งเข้าขับ ไล่ทหารพันธมิตรออกไป จากภาคเหนือของเกาหลีเหนือ
- 27 ธ.ค. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ยึดเปียงยางคืนมาได้
- 31 ธ.ค. 1950 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ขับไล่ทหารพันธมิตรให้พ้นไปจากเส้นขน านที่ 38 ได้สำเร็จ และเตรียมตัวบุกเกาหลีใต้อีกครั้ง

ฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกเกาหลีใต้ อีกครั้ง
- 12 ม.ค. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์บุกเกาหลีใต้อีกครั้ง และเข้าประชิดกรุงโซลอย่างรวดเร็ว
- 28 ม.ค. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์ยึดกรุงโซลได้ ฝ่ายพันธมิตรต้องถอยไปที่จูโน่
- 3 มิ.ย. 1951 ฝ่ายคอมมิวนิตส์เข้ายึดจูโน่ได้อีกครั้ง
- 4 มิ.ย.1951 ถึง 23 มี.ค. 1953 ฝ่ายคอมมิวนิตส์พยายามรุกคืบไปให้ถึงปูซาน แต่ฝ่ายพันธมิตรเข้าต่อต้านอย่างสุดสามารถ การรบติดพันกันที่ภาคกลางของเกาหลีใต้กว่า 1 ปี จนกระทั่งสหประชาชาติส่งกองหนุนเข้าไปในเกาหลีใต้อีก ครั้ง

การ เจรจาหยุดยิง
- 30 มี.ค. 1953 ฝ่ายพันธมิตรเข้าผลักดันฝ่ายคอมมิวนิตส์ขึ้นเหนือ
- 20 มิ.ย. 1953 ฝ่ายพันธมิตรเข้ายึดกรุงโซลคืนได้
- 2 ก.ค. 1953 ฝ่ายพันธมิตรขับไล่ทหารคอมมิวนิตส์ให้พ้นเส้นขนานที่ 38 ไปได้สำเร็จ
- 27 ก.ค. 1953 ทั้งสองฝ่ายเจรจาหยุดยิงกัน
สรุปความเสียหาย
ฝ่ายคอมมิวนิตส์
ทหารเกาหลี เหนือเสียชีวิต 215,000 นาย บาดเจ็บ 303,000 นาย สูญหาย 120000 นาย
ทหาร จีนเสียชีวิต 148000 นาย บาดเจ็บ 380000 นาย สาบสูญ 21400 นาย
ทหารรัส เซียเสียชีวิต 282 นาย
ฝ่ายพันธมิตร
ทหารเกาหลีใต้เสียชีวิต 137,899 นาย บาดเจ็บ 450,742 สาบสูญ 32,838
ทหารอเมริกันเสียชีวิต 36,516 นาย บาดเจ็บ 92,134 สาบสูญ 8,176
ทหารชาติอื่นๆเสียชีวิตรวม 200000 นาย
ยอดรวมพลเมืองที่เสียชีวิต/บาดเจ็บ: 2.5 ล้าน (ประมาณการ)
เกาหลีใต้: 990,968
373,599 เสียชีวิต
229,625 บาดเจ็บ
387,744 ถูกลักพาตัว/หายสาบสูญ
เกาหลีเหนือ: 1,550,000 (ประมาณการ)
ความ พยายามที่จะรวมประเทศกันอีกครั้ง

เกาหลีใต้มีความพยายามที่จะรวมประเทศอย่างสันติตั้งแ ต่ พ.ศ. 2513 โดยเปิดการเจรจากับเกาหลีเหนืออย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการเจรจาระหว่างสภากาชาดฝ่ายใต้และเหนือ เพื่อให้ครอบครัวที่พลัดพรากระหว่างสงครามได้พบหน้าก ัน มีการออกแถลงการณ์ระหว่างสองประเทศเมื่อ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2515 เพื่อยติการกล่าวร้ายระหว่างกัน แต่การเจรจาเพื่อรวมประเทศไม่ราบรื่น ที่ประสบผลมีเพียงการอนุญาตให้ชาวเกาหลีทั้งสองประเท ศข้ามเขตปลอดทหารไปมาหา สู่กันได้ในช่วง 20-23 กันยายน พ.ศ. 2528 และการเจรจาเกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิก พ.ศ. 2531 ที่กรุงโซล เท่านั้น การเจรจาเรื่องอื่นๆหยุดชะงักลงหลังพ.ศ. 2529 เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่พอใจเกี่ยวกับการซ้อมรบระหว่ างเกาหลีใต้กับสหรัฐ ซึ่งถือเป็นการขัดแย้งกับการรวมชาติ เกาหลีใต้พยายามประนีประนอมกับเกาหลีเหนือเพื่อการเจ รจาจนมีการประชุมระดับ ผู้นำครั้งแรกเมื่อ 4 กันยายน พ.ศ. 2533 จากนั้นมีการประชุมต่อมาอีกหลายครั้ง อย่างไรก็ตามการรวมชาติเกาหลียังเป็นสิ่งที่ต้องรอคอ ยต่อไปจนกระทั่ง ปัจจุบัน


credit คนบ้าสงคราม
แก้ไขล่าสุดโดย live3z เมื่อ Mon Sep 09, 2013 22:03, ทั้งหมด 3 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 4703
ที่อยู่: บนโลกแห่งความโหดร้าย เข้าร่วม: 25 May 2004
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 21:52
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
แบบย่อๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ผู้เยี่ยมชม
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 09 Oct 2010
ตอบ: 8616
ที่อยู่: Estadio Benito Villamarin
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 21:53
ถูกแบนแล้ว
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
ย่อ...?

ผมค่อยอ่านดีกว่า
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: อุตส่าห์ตามไลค์ให้เกือบปี ขอเลียหทีก็ไม่ได้
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1426
ที่อยู่: ทุ่งหญ้าสเต็บ ปลายฝนต้นหนาว เข้าสู่ฤดูเหงา~
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 21:53
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]


ตอน2 ลิตตเติ้ลไทเกอร์ทหารไทยในสงครามเกาหลี

หกโมงเย็นในสมรภูมิเกาหลี ทหารกล้าแห่งกองทัพไทยรับคำสั่งนำกำลังพลอีก 7 นาย บุกเข้าลำเลียงศพเพื่อนร่วมชาติยัง เนินพ็อคช็อป ตะวันตกเฉียงใต้เมืองชอร์วอน เนินที่การรบพุ่งรุนแรงและเลื่องลือถึงความโหดร้าย หากใครยึดครองได้หมายถึงความได้เปรียบในเชิงรบ แน่นอนว่าถ้าฝ่ายเกาหลีเหนือเข้าครองพื้นที่กำลังพลฝ่ายสหประชาชาติด้านหลังจะถูกตีโอบเพียงค่ำคืน เขาบรรจุกระสุนเต็มแม็กเพราะทุกฝีก้าวต่อจากนี้ถ้าพลาดมีเพียงความตายที่รออยู่ ราวตีห้าของการเดินทาง พิกัดเป้าหมายรออยู่ไม่ไกล แต่ชัยภูมิเบื้องหน้าขนาบสองข้างด้วยเขาสูง มีเพียงทางเดินแคบ ๆ ให้ผ่านช่องเขา ถ้าผลีผลามทุกอย่างอาจจบเร็วกว่าที่คิด เขาคิดอยู่นานก่อนสาวเท้าด้วยความระแวดระวัง

ปัง ปัง ปัง ๆ เสียงปืนหลายชุดเปิดฉากมาจากที่ซุ่มบนเขา ทหารไทย 7 นายวิ่งหาที่ซ่อน ข่มใจไม่ลั่นไกตอบด้วยคนที่น้อยกว่า ก่อนส่งสัญญาณไปยังหน่วยปืนใหญ่ยิงกระสุนควันอำพรางตัวเพื่อร่นถอยกลับที่หมาย ความมุ่งมั่นที่จะพาศพเพื่อนกลับบ้านพังทลาย แม้เวลาผันเปลี่ยนผู้บังคับหมู่ปืนเล็กวัย 24 ในอดีต ให้ย่างสู่วัย 83 แต่ความทรงจำของ พันเอกวิชัย กุลแก้ว ทหารไทยผลัดที่ 3 ซึ่งเข้ารบในสงครามเกาหลีเมื่อปี พ.ศ.2495 ยังไม่เคยลบเลือน

ลิตเติ้ลไทเกอร์ คือสมญานามของทหารไทยในสงครามเกาหลี เปรียบเสมือนเสือร่างเล็กรวดเร็วว่องไวในการรบ พันเอกวิชัย มีความสุขทุกครั้งที่ได้ยินคนพูดถึงฉายาที่แลกมาด้วยเลือดเนื้อ เพราะสมัยก่อนกว่าจะไปถึงสนามรบเกาหลีต้องเดินทางโดยเรือลำเลียงอเมริกันกว่าอาทิตย์ เนื่องจากต้องเดินเรืออ้อมในบางเส้นทางที่อยู่ใกล้กับประเทศที่เข้าร่วมกับเกาหลีเหนือ

ทหารไทยที่ไปรบในเกาหลีผลัดที่ 3 ถือว่าตายมากที่สุด เนื่องจากรุ่น 12 เป็นช่วงเวลาที่ทหารฝ่ายสหประชาชาติยึดพื้นที่ไปจนถึงเมืองหลวงกรุงเปียงยางของเกาหลีเหนือ ก่อนที่จีนจะส่งกำลังพลมาช่วยรบจนฝ่ายเกาหลีใต้อย่างเราต้องร่นถอยลงมาเรื่อย ๆ ซึ่งรุ่นที่ 3 จึงเป็นช่วงเวลาที่มีการรบอย่างดุเดือด พอทหารไทยรุ่นที่ 4 สถานการณ์เริ่มเบาลงและเจรจาหยุดยิง

เวลานั้นทหารที่ไปร่วมรบก่อนเดินทางออกจากประเทศมีการมอบนาฬิกาคนละเรือนเพื่อเป็นของคู่กายในการทำสงครามเช่นกำหนดเวลาการเข้าตี หรือบอกพิกัดยิงเช่นยิงที่สามนาฬิกา จึงมีสโลแกนที่ว่า นายทหารได้โรเล็กซ์ นายสิบได้ทูดอร์ ขณะเดียวกันยังมีแผ่นป้ายแขวนไว้ที่ข้อมือ 2 แผ่น ตีรหัสหน่วย โดยหากใครเสียชีวิตในสนามรบคนที่เจอศพจะดึงแผ่นป้ายอันหนึ่งออกเพื่อยืนยันกับหน่วยงาน

ก่อนไปผมผ่านศึกกบฏแมนฮัตตันในประเทศมาก่อน การไปรบที่เกาหลีมันต่างกัน ตอนรบกันในประเทศยังเป็นคนไทยเหมือนกันไม่กล้าฆ่ากัน แต่พอไปสนามรบเกาหลีไม่มีใครสนใจใครถ้าพลาดก็ตายอย่างเดียว แค่วันแรกที่ทหารไทยผลัด 3 เริ่มประจำการตายไปแล้ว 5 คน แต่ทหารไทยยังขวัญกำลังใจดี เพราะก่อนมาก็ทำใจไว้แล้ว

ในอดีตการสื่อสารยังลำบากกว่าปัจจุบัน พันเอก วิชัย ตกลงกับแม่ก่อนมาทำศึกว่าจะส่งจดหมายมาหาอาทิตย์ละฉบับ ถ้าผ่านอาทิตย์หนึ่งไปแล้วไม่มีจดหมายมาถึง นั่นหมายความว่าเขาตายไปแล้วในสนามรบ แต่ตอนกลับมาไทยไม่ได้บอกแม่ ผ่านไปอาทิตย์กว่าเขาก็นึกว่าตายไปแล้วพอเห็นเราเดินเข้าบ้านนึกว่าวิญญาณมาตกใจกันใหญ่

ทหารราบต้องเดินลาดตระเวนอยู่เป็นประจำซึ่งทุกวินาทีอาจเจอข้าศึกได้ตลอด หลายครั้งที่ลาดตระเวนต้องเดินในทางที่ลำบากเพราะถ้าหากเดินบนสะพานที่สร้างไว้ ไม่แน่เมื่อคืนข้าศึกอาจมาวางระเบิดตอนกำลังข้าม เราเองต้องพาลูกน้องเดินลุยน้ำเลี่ยงไม่ให้เกิดอันตรายถึงลำบากหน่อยแต่เพื่อความปลอดภัย

เวลาเฝ้ายามต้องช่วยกันนับต้นไม้โดยรอบข้างว่ามีกี่ต้น ถ้ากลับมาแล้วต้องเท่าเดิมหากเกินมาเริ่มไม่ค่อยดี เนื่องจากการรบตอนนั้นข้าศึกจะใช้ใบไม้อำพรางตัวในตอนมืด แล้วใช้ดาบปลายปืนแทงทหารที่นอนหลับเวรหรือเผลอ เพราะหากยิงปืนจะเสียงดังทำให้คนอื่นรู้ ทหารอเมริกันนอนหลับแล้วตายด้วยดาบปลายปืนก็มาก

เวลานอนถ้าอยู่ในแนวหลังจะนอนในเต็นท์มีเตาผิงภายในเพราะที่นั่นอากาศหนาวทีติดลบ 1520 องศาเซลเซียส แต่ถ้าอยู่ในแนวหน้าต้องอาศัยเสื้อกันหนาวและนอนในถุงนอน เพราะถ้าใช้เตาผิงไฟข้าศึกจะรู้ถึงพิกัดผ่านควันไฟ

ที่ขวัญกำลังใจทหารไทยดีเพราะอาวุธดีกว่าฝ่ายตรงข้ามมาก แต่ฝ่ายโน้นมีคนมากกว่าเราหนึ่งต่อสิบ โดยภารกิจของทหารไทยจะขึ้นตรงต่อทหารม้าอเมริกัน ซึ่งจะสั่งการให้เดินไปทำภารกิจต่าง ๆ เป็นวัน ๆ จะไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้ก่อน

คนเกาหลีชอบทหารไทยเพราะกินง่ายให้กินอะไรก็กิน แม้แต่ทหารในหลายประเทศก็ชอบเราตรงนี้ ยามนั้นคนเกาหลีน่าสงสารมาก ไม่ได้ปลูกข้าวหรือทำสวนทำไร่เพราะถูกทิ้งระเบิดหมด คนหนุ่มก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารเหลือแต่เด็ก คนแก่ กับผู้หญิงที่ต้องอดอยาก

อยากฝากถึงน้องทหารรุ่นใหม่ให้เข้มแข็งเวลาอยู่ในพื้นที่อันตรายอย่าประมาท เพราะเมื่อใดประมาทยากที่จะกลับมาแก้ไข ครอบครัวเองถือเป็นสิ่งที่ภาคภูมิใจในการเป็นรั้วของชาติ

ห้ามโลหิต ปิดบาดแผล แก้ช็อก วลีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ถึงจะเข้าสู่วัย 86 ของ พันโทฟู มาตรง อดีตนายสิบพยาบาล ในสงครามเกาหลีผลัดที่ 1 ยังจำถึงการปฏิบัติงานได้อย่างแม่นยำ การเดินทางของรุ่นแรกลำบากกว่ารุ่นหลัง ๆ ตอนไปนั่งเรือสินค้าเฮอต้าเมอรส์ ของญี่ปุ่นซึ่งมาส่งของที่ไทย ขากลับเลยนำทหารไทยไปด้วย ภายในไม่ค่อยมีสิ่งอำนวยความสะดวก ห้องน้ำทำขึ้นเองข้างเรือถ่ายเสร็จทิ้งลงทะเล ที่นอนใช้ปูเสื่อเรียงกัน ถึงจะมีกลิ่นไม่ดีบ้างจากสินค้าตกค้างก็ต้องทน นั่งไป 17 วัน/คืน โดยมีเรือคุ้มกันของไทยคือ รล.สีชัง อยู่ด้านหลัง ส่วนสองข้างขนาบด้วย รล.ประแสร์, รล.บางปะกง

ทหารไทยรุ่นแรกไปถึงยังไม่ได้ลงไปในสนามรบ อเมริกันให้ไปฝึกใช้อาวุธก่อนหนึ่งเดือน ตอนนั้นทหารไทยใช้ ปลย. (ปืนเล็กยาว) ลูกเลื่อนยิงทีละนัด แต่ฝ่ายสหประชาชาติใช้ปืนไรเฟิล, คาร์บิน ต้องไปฝึกกันใหม่ พอทหารไทยรุ่นถัดมาจะมีการฝึกใช้อาวุธชนิดใหม่มาตั้งแต่ประเทศไทยก่อนจะมารบจริง

ทหารไทยส่วนใหญ่ที่บาดเจ็บล้มตายเพราะโดนสะเก็ดระเบิดปืนใหญ่ เพราะไประยะแรกเราไม่รู้ว่าเสียงปืนใหญ่ที่ดังมาแต่ละอย่างมันใกล้เข้ามาหาตัวหรือข้ามเราไปแล้ว แต่พออยู่ไปสักพักเริ่มจับได้ว่าถ้าเสียงมาอย่างนี้แสดงว่าข้ามเราไปแล้ว แต่มีหลายรายที่ดวงไม่ดีจริง ๆ เพราะลูกปืนใหญ่ที่มาดันไปติดกิ่งไม้ทำให้ร่วงมาระเบิดใกล้ตัว ทหารไทยคนแรกที่ตายในสนามรบเกาหลีก็ตายด้วยเหตุนี้

การดูแลเรื่องกินอยู่อเมริกันเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด ถือว่าไม่อดอยากดูแลอย่างดี ถ้าวันไหนทหารไทยเข้าตียึดที่มั่นข้าศึกได้ จะให้คนเกาหลีแบกเบียร์กระป๋องขึ้นเขามาให้ถึงที่มั่น โดยจะให้ดื่มเพียงคนละกระป๋องเท่านั้น คนเกาหลียุคนั้นลำบากมาก เรานั่งรถไปประจำการที่กรุงเปียงยางสองข้างทางมีแต่ศพคนตัวดำเมี่ยมแยกเขี้ยวเห็นฟันขาว เพราะตอนนั้นการทิ้งระเบิดจากเครื่องบินปูพรมฝ่ายตรงข้ามได้จะได้เปรียบ แม้ปัญหาของเกาหลีเหนือกับเกาหลีใต้ยังไม่จบ แต่สงครามต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลานจะจบเร็วขึ้นด้วยอาวุธที่ทันสมัย แต่ชาวบ้านเองจะได้รับผลกระทบมากเช่นกัน

หลังจากกลับมาได้รับเหรียญกล้าหาญจากในหลวงรู้สึกดีใจที่ได้ทำหน้าที่ทหารอย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้สมัยนี้เด็กรุ่นใหม่หลายคนจะไม่รู้จัก แต่ทุกอย่างมันคือประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น จึงอยากฝากคนรุ่นใหม่ให้รักประเทศชาติและพระมหากษัตริย์ คนเกาหลีที่บ้านเมืองเจริญมาจนทุกวันนี้ได้เพราะอดทนและกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ถึงเวลาจะผ่านมายาวนานเขายังเข้ามาช่วยเหลือเมื่อเราลำบาก


credit คนบ้าสงคราม
4
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 25 Oct 2010
ตอบ: 2925
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 21:55
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
อ่านเพลินเลย ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ลายเซ็นไม่มี แจกเยอะแล้ว



ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: อุตส่าห์ตามไลค์ให้เกือบปี ขอเลียหทีก็ไม่ได้
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1426
ที่อยู่: ทุ่งหญ้าสเต็บ ปลายฝนต้นหนาว เข้าสู่ฤดูเหงา~
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 21:58
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
hotmail1172 พิมพ์ว่า:
ย่อ...?

ผมค่อยอ่านดีกว่า
 


ผมอ่านซ้ำ4-5รอบแล้วครัส แหม
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออนไลน์
หัวหน้าแมวมอง
Status: You only Live once
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 May 2011
ตอบ: 28431
ที่อยู่: Spion Kop
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:00
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
เปลี่ยนสีอักษรหน่อยก็ดีนะครับแสบตาชะมัด

แต่ขอบคุณครับ
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
I choose to live, not just exist.


ออนไลน์
นักเตะอบต.
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 07 Sep 2013
ตอบ: 1558
ที่อยู่: อยู่ที่
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:01
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
อุ๊บร๊ะ!!! ยังมีภาค 2 อีก

อย่าให้รู้น่ะ ว่ามี ภาคที่ 3

0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status: I hear you say.
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Sep 2013
ตอบ: 19055
ที่อยู่: อยู่ในใจเสมอ
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:03
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
อ่านในมือถือ แสบตามากครับ

เปลี่ยนเป้นสีน้ำเงิน ดำ ก็ได้นะ


เด่ว มาอ่าน ..
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน





ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 03 Oct 2007
ตอบ: 46864
ที่อยู่: แขนของทางช้างเผือก
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:07
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
เกาหลี บอบช้ำมาก จากสงครามยาวนานและประเทศมหาอำนาจล้อมรอบตั้งแต่สมัยก่อน แต่ทั้งๆที่เป็นแบบนั้น ตอนนี้ไปไกลกว่าไทยเยอะเลย
1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jun 2009
ตอบ: 13421
ที่อยู่: LONDON
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:11
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
บุกกันไปๆมาๆ ถ้าแมคอาร์เธอร์ไม่โดนเรียกกลับผมว่าอาจรวมได้แล้ว
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 368
ที่อยู่: สะแตมฟวดบิด
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:16
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
เพิมรอยหยักให้สมอง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: อุตส่าห์ตามไลค์ให้เกือบปี ขอเลียหทีก็ไม่ได้
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1426
ที่อยู่: ทุ่งหญ้าสเต็บ ปลายฝนต้นหนาว เข้าสู่ฤดูเหงา~
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:22
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
polza.bpy พิมพ์ว่า:
บุกกันไปๆมาๆ ถ้าแมคอาร์เธอร์ไม่โดนเรียกกลับผมว่าอาจรวมได้แล้ว  


ช่วงที่ทหารยูเอ็นบุกเกาหลีเหนือจนไปเกือบสุดประเทศ กำลังจะยึดและรวมได้อยู่แล้วแต่จีนกระโดดเข้าสู่สงครามส่งทหารมาช่วยรบ แมคอาเธอร์เลยเสนอให้ทิ้งนิวเคลียร์ถล่มจีน แต่ปธน.ทรูแมนกลัวว่าจะบานปลายเพราะตอนนั้นรัสเซียก็มีนิวเคลียร์อาจเกิดสงครามนิวเคลียร์จริงๆและแมคอาเธอร์คุมยากด้วยเพราะเพิ่งเป็นฮีโร่จากสงครามโลกครั้งที่2 หมาดๆ เลยปลดทิ้งซะกลางอากาศ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวเตะกัลโช่
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Jun 2009
ตอบ: 13421
ที่อยู่: LONDON
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:29
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
live3z พิมพ์ว่า:
polza.bpy พิมพ์ว่า:
บุกกันไปๆมาๆ ถ้าแมคอาร์เธอร์ไม่โดนเรียกกลับผมว่าอาจรวมได้แล้ว  


ช่วงที่ทหารยูเอ็นบุกเกาหลีเหนือจนไปเกือบสุดประเทศ กำลังจะยึดและรวมได้อยู่แล้วแต่จีนกระโดดเข้าสู่สงครามส่งทหารมาช่วยรบ แมคอาเธอร์เลยเสนอให้ทิ้งนิวเคลียร์ถล่มจีน แต่ปธน.ทรูแมนกลัวว่าจะบานปลายเพราะตอนนั้นรัสเซียก็มีนิวเคลียร์อาจเกิดสงครามนิวเคลียร์จริงๆและแมคอาเธอร์คุมยากด้วยเพราะเพิ่งเป็นฮีโร่จากสงครามโลกครั้งที่2 หมาดๆ เลยปลดทิ้งซะกลางอากาศ  



แต่ก็นะ ถ้าทิ้งนิวเคลียผมว่าคงเกิดสงครามโลกอีกรอบ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน

ออฟไลน์
นักเตะกลางซอย
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 13 Sep 2006
ตอบ: 1245
ที่อยู่: อพาร์ตเม้นคุณป้า
โพสเมื่อ: Mon Sep 09, 2013 22:36
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามเกาหลีแบบย่อๆ]
นั่งอ่านมาเกือบครึ่งชั่วโมง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน





ไปหน้าที่ 1, 2
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel