BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ออฟไลน์
นักบอล ดิวิชั่น 1
Status: อุตส่าห์ตามไลค์ให้เกือบปี ขอเลียหทีก็ไม่ได้
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Oct 2009
ตอบ: 1426
ที่อยู่: ทุ่งหญ้าสเต็บ ปลายฝนต้นหนาว เข้าสู่ฤดูเหงา~
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 06:08
[ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์


หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ อยู่บริเวณตอนใต้ของมหาสมุทรแอตแลนติกและอยู่ทางตะวันออกของอาร์เจนตินา ประกอบไปด้วยพื้นที่ที่เป็นเกาะใหญ่ 2 เกาะ คือ
เกาะฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยหมู่เกาะเล็กๆอีกราว 700 เกาะ

การอ้างสิทธิ์ครอบครองหมู่เกาะฟอล์กแลนด์เกิดขึ้นนับตั้งแต่มีการค้นพบดินแดนแห่งนี้ตั้งแต่ในช่วงปี 1600 กันเลยทีเดียว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าในช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงเวลา
ที่ชาวยุโรปส่วนใหญ่กำลังเสาะแสวงหาดินแดนใหม่ๆ หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ก็เป็นหนึ่งในดินแดนใหม่ที่ชาวยุโรปค้นพบและอ้างสิทธิ์ครอบครอง แต่เป็นที่น่าตกใจว่าประเทศที่ได้อ้างสิทธิ์
บนหมู่เกาะแห่งนี้มีถึง 4ประเทศด้วยกันนั่นคือ ฝรั่งเศส สเปน อาร์เจนตินาและอังกฤษ

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงเวลาผ่านไปหลายปี ฝรั่งเศสกับสเปนเริ่มที่จะห่างเหินและเมินพื้นที่แห่งนี้ในที่สุด เหลือแต่เพียงอาร์เจนตินากับอังกฤษที่ยังคงแสดงความเป็นเจ้าของ
โดยเฉพาะอาร์เจนตินาที่นอกจากจะขอจองหมู่เกาะนี้ต่อไปแล้วยังได้เข้าไปจับจองดินแดนอื่นๆที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษด้วย

สัญญาณแห่งการเกิดสงครามแย่งชิงดินแดนจึงได้เริ่มส่อเค้ามาตั้งแต่ในช่วงนั้น แต่มาปะทุรุนแรงขึ้นจากการที่อาร์เจนตินาภายใต้การนำของประธานาธิบดีลีโอโปลโด กัลเทียรี
ตัดสินใจทำสงครามที่คิดว่าจะทำให้สามารถยึดดินแดนบนหมู่เกาะฟอล์กแลนด์ได้อย่างง่ายและรวดเร็ว

โดยเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 1982 นายพลกัลทีเรีย ส่งทหารไปยังจอร์เจียใต้ซึ่งเป็นดินแดนในความครอบครองของอังกฤษ และได้นำธงชาติของตนไปปักบนพื้นที่แห่งนี้
สงครามแย่งชิงดินแดนระหว่างอังกฤษกับอาร์เจนตินาจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นับตั้งแต่นั้นมา


เมื่อนางมาร์กาเร็ต แทตเชอร์ นายกรัฐมนตรีของอังกฤษในขณะนั้น ทราบเรื่องจึงมีคำสั่งให้กองเรือรบเฉพาะกิจมุ่งหน้าสู่ หมู่เกาะฟอล์กแลนด์ ทันทีเพื่อชิงหมู่เกาะฟอล์กแลนด์คืนมาอย่างเดิม
กองเรือรบเฉพาะกิจของอังกฤษต้องใช้ระยะเวลาเดินทางกว่า 20 วันจึงจะถึงหมู่เกาะฟอล์กแลนด์
ช่วงแรกของสงครามอาร์เจนติน่าเป็นฝ่ายได้เปรียบเนื่องจากในตอนแรกเรือของอังกฤษที่เฝ้าอยู่ในหมู่เกาะฟอร์คแลนด์มีประสิทธิภาพต่ำกว่าของอาร์เจนติน่า อังกฤษสูญเสียเรือรบเป็นจำนวนมาก
จากการโจมตีด้วยอาวุธปล่อยอากาศ-สู่-พื้น จรวดExocet ซึ่งเป็นจรวดที่ฝรั่งเศษขายให้แก่อาเจนติน่าก่อนสงครามเริ่มขึ้น

แต่เมื่อกองเรือรบหลักมาถึงอังกฤษกลับมาเป็นต่อและสามารถยึดครองน่านฟ้าได้

การยึดครองน่านฟ้า dog fightกลางอากาศนั้นกลยุทธได้เปลี่ยนไปเครื่องบิน Harrierของอังกฤษได้เปรียบเครื่องบินรบของอาร์เจนติน่า เมื่อเผชิญหน้ากันเครื่อง Harrierของอังกฤษจะเป็นฝ่ายหลอกอาร์เจนติน่าให้ตามหลังไป
พอได้ระยะ Harrierก็จะหยุดกลางอากาศเฉยเตรียมเล็งยิงได้เลย เครื่องบินรบของอาร์เจนติน่าบินผ่านไปก็จะตกเป็นเป้าจรวดของ Harrier ทุกครั้ง เรียกได้ว่านักบินอังกฤษเล็งยิงได้ตามใจชอบ จึงมีเสียงกันว่าเครื่องบินรบอาร์เจนติน่าแทบจะถูกยิงตกหมดทั้งกองทัพ

ในการศึกครั้งนี้แม้แต่เจ้าฟ้าชายชาร์ลยังเข้าร่วมรบด้วย ในฐานะนักบินเฮลิคอปเตอร์ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน และได้ขึ้นบินตรวจการณ์รอบๆเรือลำดังกล่าวด้วย

กองทัพอาร์เจนติน่ารู้ว่าสู้กองกำลังทางอากาศของอังกฤษไม่ได้จึงส่งกองเรือรบ หมายจะทำลายเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือพิฆาตของอังกฤษ แต่นับเป็นความโชคดีของฝ่ายอังกฤษที่เรือดำน้ำสามารถตรวจพบเรือรบที่ชื่อเบวกราโนของอาร์เจนติน่าได้
ปัญหาเพียงประการเดียวก็คือจุดที่ตรวจพบดันอยู่นอกรัศมี 200 ไมล์ที่กำหนดให้เปิดฉากยิง สถานการณ์ตึงเครียดมากเพราะถ้าเรือรบเบวกราโนเกิดเข้าไปถึงจุดที่กองเรืออังกฤษตั้งอยู่ ก็จะเป็นการยากที่จะหยุดยั้งการทำลายของมัน

เรื่องนี้ถูกนำไปให้นางแทชเชอร์ตัดสินใจ และนางได้เปิดไฟเขียวให้เรือดำน้ำยิงตอร์ปิโดใส่เรือรบอาร์เจนติน่าลำนี้ ภายในเวลาไม่ถึง 45 นาทีเรือรบเบวกราโนก็ได้จมลงสู่ก้นมหาสมุทรพร้อมกับลูกเรืออีกกว่า 323 ชีวิต
เรือรบอาร์เจนติน่าลำอื่นพอทราบข่าวนี้ต่างก็หันหัวเรือกลับ ไม่กล้าเข้าใกล้หมู่เกาะฟอล์กแลนด์อีกเลย

อาร์เจนติน่าจึงตัดสินใจที่จะแก้แค้นโดยยิงขีปันอาวุธเอ็กโซเซ่ห์ ซึ่งเป็นขีปันอาวุธที่ผลิตโดยประเทศฝรั่งเศ เข้าใส่เรือรบอังกฤษ มีทหารเสียชีวิตจากการโจมตีครั้งนี้ 20 นาย ถึงตอนนี้เวลาได้ล่วงข้าสู่กลางเดือนพฤษภาคม
และเป็นธรรมดาของมหาสมุทรแอตแลนติกที่จะเกิดพายุใหญ่ สภาพอากาศจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่บีบให้อังกฤษต้องตัดสินใจด้านยุทธวิธีอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเร็ว ท้ายที่สุดผู้นำทางทหารจึงตัดสินใจให้ยกพลขึ้นบก

การยกพลขึ้นบก เริ่มขึ้นเมื่อคืนของวันที่ 21 พฤษภาคม จุดที่ยกพลขึ้นบกมีชื่อว่า ซาน คาลอส ตั้งอยู่ห่างจากสแตนเล่ย์ เมืองหลวงของเกาะฟอล์กแลนด์ราว 50 ไมล์ เป้าหมายหลักของกองทัพอังกฤษ
ก็คือเมืองหลวงโดยจะใช้เฮลิคอปเตอร์เป็นพาหนะ คอยเคลื่อนย้ายทหารตลอดระยะทาง 50 ไมล์ นาวิกโยธินอังกฤษสามารถยึดหัวหาดไว้ได้อย่างรวดเร็วโดยแทบจะปราศจากการต่อต้าน แต่ความสงบก็ดำรงอยู่ได้ไม่นาน
เพราะอาร์เจนติน่าได้ส่งเครื่องบินรบมาทำลายกองเรืออังกฤษที่ทอดสมออยู่นอกชายฝั่ง การโจมตีเป็นไปอย่างดุเดือดมีการปะทะกันตลอด 4 วัน 4 คืน ถึงแม้ว่าอังกฤษจะสามารถรักษาฐานที่มั่นเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องพบกับความสูญเสียอย่างหนัก

กองทัพอากาศอาร์เจนติน่ายังได้ปล่อยขีปปันอาวุธเอ็กโซเซ่ห์ใส่เรือรบอังกฤษอีก แต่คราวนี้เรือรบอังกฤษตรวจจับได้ทันจึงจัดการปล่อยแผ่นฟอยโลหะขึ้นบนอากาศ หมายจะให้ขีปปันอาวุธเลี้ยวเบนไปทางอื่น
ขีปปันอาวุธเอ็กโซเซ่ห์หันทิศทางไปด้านอื่นก็จริง และเหยื่อตัวใหม่ของมันก็คือเรือคอนเทนเนอร์ซึ่งบรรทุกเฮลิคอปเตอร์เพื่อใช้ในการเคลื่อนย้ายทหาร ขีปปันอาวุธได้ทำลายเฮลิคอปเตอร์ทั้งหมดซึ่งก็แปลว่า
ทหารอังกฤษจะต้องเดินเป็นระยะทาง 50 ไมล์เพื่อถึงเมืองสแตนเล่ย์ พร้อมกับสู้กับทหารอาร์เจนติน่าในเวลาเดียวกัน ขวัญกำลังใจที่เสียไปของอังกฤษทำให้กองทัพต้องรีบดำเนินกลยุทธ์เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับคืนมาโดยเร็ว

ชุมชนกรู สกรีนซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหัวหาดประมาณ 50 ไมล์ จึงถูกเลือกให้เป็นสมรภูมิทางบกแห่งแรก กรู สกรีมีลักษณะเป็นช่องแคบเล็ก ๆกว้างเพียง 5 ไมล์ ทหารอาร์เจนติน่าได้ตั้งค่ายอยู่บริเวณนี้ราว 1000 นาย พร้อมกับมีหน่วยปืนใหญ่คอยสนับสนุนอยู่แนวหลัง

พื้นที่ส่วนใหญ่บนเกาะฟอล์กแลนด์เป็นพื้นที่เปิด สภาพทางธรรมชาติข้อนี้ทำให้กองทัพอังกฤษตัดสินใจที่จะทำการรบในเวลากลางคืนเท่านั้น สมรภูมิ กรู สกรีนเปิดฉากขึ้นหลังจากพระอาทิตย์ตกดินของวันที่ 28 พฤษภาคม
ทหารอังกฤษพยายามเจาะแนวป้องกันของฝ่ายศัตรูแต่ก็ต้องพบกับการต่อต้านอย่างหนัก ทั้งจากปืนกลหนักและปืนใหญ่ที่ยิงมาจากแนวหลังของอาร์เจนติน่า การรบกินเวลาไปถึงเช้าวันต่อมาอังกฤษก็ยังไม่สามารถเอาชนะได้
สถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตเมื่อแสงสว่างทำให้ทหารอังกฤษตกเป็นเป้าของศัตรูได้ง่ายขึ้น ฝ่ายอังกฤษจึงตัดสินใจแบ่งกองทัพตนออกเป็น 2 กองแล้วจัดการตีขนาบใส่แนวป้องกัน ทั้งยังส่งเครื่องแฮริเออร์
ทิ้งระเบิดใส่ปืนใหญ่ของอาร์เจนติน่าจนราบคาบ ทหารอาร์เจนติน่าไม่สามารถต้านทานการโจมตีได้อีกต่อไปจึงประกาศยอมแพ้

ชัยชนะของอังกฤษที่ กรู สกรีนสามารถเรียกขวัญกำลังใจของทหารกลับคืนมาได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความสูญเสียอย่างหนักของทั้ง 2 ฝ่าย ที่สำคัญคือแรงกดดันข้อนี้ยังไม่สามารถทำให้ทหารอาร์เจนติน่า
หน่วยอื่น ๆ ยอมแพ้ต่อฝ่ายอังกฤษได้สงครามจึงต้องดำเนินต่อไป ตามที่ได้เล่าไว้ว่า ขีปันอาวุธเอ็กโซเซ่ห์ได้ทำลายเฮลิคอปเตอร์ของอังกฤษเกือบทั้งหมด ทหารอังกฤษจึงเหลือแค่การเดินเป็นวิธีการเดียวในการไปให้ถึงสแตนเล่ย์
เมืองหลวงของเกาะฟอล์กแลนด์ ปัญหานี้ทำให้ทหารเกิดความเหนื่อยล้าและสงครามเกิดความยืดเยื้อออกไปโดยไม่จำเป็น

ระยะทางระหว่างหัวหาดกับสแตนเล่ย์ประกอบไปด้วยภูเขาหลัก ๆ ทั้งหมด 5 ลูก กองทัพอังกฤษตั้งใจที่จะยึดภูเขา 3ลูกแรกให้ได้ในการรบระลอกแรก และยึดภูเขาลูกที่เหลือในการรบระลอก 2 การปะทะระหว่าง
ทหาร 2ฝ่ายเพื่อยึดภูเขา 3ลูกแรกเกิดขึ้นหลังจากสมรภูมิ กรู สกรีนเกือบ 2อาทิตย์ การรบเป็นไปอย่างดุเดือดมีการใช้ปืนเล็กยาว ปืนกลหนัก ปืนใหญ่ ยิงเข้าใส่กันแบบไม่ยั้ง ผลก็คืออังกฤษสามารถยึดภูเขาทั้ง 3 ลูกได้

ถึงตอนนี้อาร์เจนติน่าก็เหลือฐานที่มั่นเพียง 2 ที่ โดยมีฐานที่มั่นที่เข้มแข็งที่สุดอยู่ที่ภูเขาทัมเบวเดาว์น ๆเป็นหนึ่งในจุดที่มีความสูงมากที่สุดบนเกาะฟอล์กแลนด์จึงเปรียบเสมือนป้อมปราการขนาดใหญ่
เมเนนเดซเล็งเห็นถึงข้อได้เปรียบข้อนี้จึงเกณฑ์ทหารที่มีฝีมือดีที่สุดไว้ที่ค่ายแห่งนี้

การที่อังกฤษจะเอาชนะอาร์เจนติน่าในสงครามฟอล์กแลนด์ก็ต้องยึดภูเขาลูกนี้ให้ได้ อาร์เจนติน่าจะสามารถต้านทานการรุกของฝ่ายอังกฤษก็ต้องรักษาฐานที่มั่นแห่งนี้เอาไว้ให้ได้ เดิมพันของทั้งคู่จึงสูงยิ่งทันที
ที่ความมืดเข้าปกคลุมการปะทะก็เริ่มขึ้น ทหารอังกฤษพบกับการระดมยิงมาจากฝั่งอาร์เจนติน่าจนการรุกแทบจะหยุดชงักนับเป็นเรื่องยากที่ทหารอังกฤษจะปีนขึ้นเขาและต่อสู้ในเวลาเดียวกัน ในขณะที่การรบกำลัง
ดำเนินไปอย่างรุนแรง ทหารอังกฤษกว่า 30 นาย สามารถหาทางเลาะขึ้นเขาจนขึ้นไปถึงยอด ๆหนึ่งซึ่งไม่มีใครอยู่ ตอนนั้นเป็นเวลากลางคืนและทหารอาร์เจนติน่าก็ไม่ได้สังเกตเห็น กองทหารกองนี้จึงจัดการระดมยิงปืนกล
ใส่ค่ายทหารอาร์เจนติน่า ทหารอังกฤษกองอื่นเห็นฝ่ายตรงข้ามกำลังเพี่ยงพล้ำจึงช่วยกันเข้าตะลุมตุมบอน ทหารอังกฤษได้เข้าโอบล้อมทหารอาร์เจนติน่าที่หลบเข้าไปรวมกำลังกันในโรงนาแห่งหนึ่ง
ทหารอังกฤษต้องใช้จรวดฟอสฟอรัสยิงเข้าใส่ทหารอาร์เจนติน่าสูญเสียทั้งกอง ทหารอังกฤษที่โอบล้อมและโจมตีนั้นออกมาแถลงข่าวในภายหลังว่ารู้สึกเสียใจที่เห็นทหารอาร์เจนติน่า ถูกระเบิดเพลิงฟอสฟอรัสทำลาย
ไหม้ไปทั้งกองและยอมรับว่าเป็นการโหดร้ายมาก การสู้รบดำเนินไปถึงช่วงเช้าในที่สุด ทหารอาร์เจนติน่าก็แตกพ่ายไป

อาร์เจนติน่าไม่สามารถรักษาฐานที่มั่นบนภูเขาทั้ง 5 ลูกได้ ถึงตอนนี้ก็ไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดยั้งการรุกของฝ่ายอังกฤษที่จะเข้าไปยังเมืองสแตนเล่ย์ กองทัพอังกฤษยังได้ระดมยิงปืนใหญ่ทั้งวันทั้งคืนเพื่อ
เป็นการกดดันและทำลายขวัญกำลังใจฝ่ายตรงข้าม เมเนนเดซรู้ว่ายืนหยัดสู้ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์จึงยกธงขาวขึ้นเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน นับเป็นการปิดฉากสงครามฟอล์กแลนด์ที่กินเวลานานถึง 74 วัน
สงครามฟอล์กแลนด์กลืนชีวิตทหารอังกฤษไป 258นาย ชีวิตทหารอาร์เจนติน่าไป 649นาย ประธานาธิปดี กัลติเอรี ของอาร์เจนติน่าลาออกจากตำแหน่งหลังจาก
สงครามสงบเพียง 4วันและเป็นจุดเริ่มต้นของการล่มสลายของรัฐบาลเผด็จการอาร์เจนติน่า

credit คนบ้าสงคราม

แก้ไขล่าสุดโดย live3z เมื่อ Sat Sep 07, 2013 06:09, ทั้งหมด 1 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ออนไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status: ขายวิญญาณให้ยูไนเต็ด
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 20 Apr 2007
ตอบ: 12072
ที่อยู่: soccersuck.com
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 06:14
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
ชอบสาระอย่างนี้มากครับ
ว่างๆสรรหามาเเบ่งปันอีกนะครับ

1
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ดาวซัลโวฟุตบอลโลก
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 17 Feb 2009
ตอบ: 22619
ที่อยู่: อมตะนคร ชลบุรี
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 06:17
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
และนี่คือแผลที่ตามมาในวงการฟุตบอลที่เมื่อสองชาตินี้ปะทะกันเมื่อไร มันส์หยดทุกครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
จะไม่เสียเวลาทำอะไรที่ไม่ได้เงินอีก
ออฟไลน์
ดาวซัลโวยุโรป
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 01 Feb 2009
ตอบ: 17330
ที่อยู่: on board
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 06:28
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
อีกเหตุผลว่าทำไมลูกยิง hand of god จึงมีแต่ชาวอาเจนไตน์สรรเสริญ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Feb 2008
ตอบ: 958
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 07:34
ถูกแบนแล้ว
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
ชอบมากครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
นักบอลถ้วย ข.
Status: เชื่อผู้นำชาติพ้นภัย ...
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 04 Nov 2009
ตอบ: 3712
ที่อยู่: หมู่เกาะกาลาปากอส
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 07:41
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
เล่นกับใครไม่เล่น


เล่นกัทัพเรืออังกฤษ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
แขวนสตั๊ด
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 17803
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 08:08
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
นี่สิสาระ SS มันต้องอย่างนี้
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
TXI
ปลายอาชีพค้าแข้ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 22 Oct 2010
ตอบ: 5225
ที่อยู่: Stamford Bridge
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 09:15
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
ความรู้ดีๆ
ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ออฟไลน์
ซุปตาร์ยูโร
Status: Hungry For Glory
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 27 May 2010
ตอบ: 21846
ที่อยู่: ฺฺ [ stadio olimpico ]
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 09:46
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
สาระเน้นๆ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 21 Feb 2011
ตอบ: 326
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 12:09
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
ขอบคุนสำหรับบทความคับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน


ออฟไลน์
กำเนิดดาวรุ่ง
Status:
: 0 ใบ : 0 ใบ
เข้าร่วม: 14 Aug 2012
ตอบ: 56
ที่อยู่:
โพสเมื่อ: Sat Sep 07, 2013 19:36
[RE: [ประวัติศาสตร์] สงครามชิงเกาะฟอล์กแลนด์]
สาระ ขอบคุณครับ
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel