ในอดีตพวกเราคงเคยคิดกันว่า การเมืองเป็นเรื่องไกลตัว เป็นเรื่องน่าเบื่อ ไม่ค่อยเปิดสมองรับฟังข่าวสารซักเท่าไหร่ แต่พอมีมีสถานการณ์หลายอย่างเกิดขึ้นกับบ้านเมือง พวกเราก็เริ่มที่จะสนใจรับฟังกันมากขึ้น บางคนติดตามมากกว่า ละคร เกมโชว์ หรือ วาไรตี้ ไปแล้ว(ฮา)

ถ้าทุกคนให้ความสนใจกันมากขึ้นแล้ว แล้วพอจะแยกแยะออก ไม่สนใจชีวิตของนักการเมืองมากเกินไป รักกันจนไม่ลืมหูลืมตา แล้วมาสนใจเนื้อหาของเรื่องการทำงานกันมากขึ้น ก็พอจะรับรู้ได้บ้างว่ามันเกี่ยวข้องกับการดำเนินชีวิตของคุณไปซะทุกอย่าง ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ สังคม ชีวิตความเป็นอยู่ทุกๆอย่าง ผมเริ่มมองเห็นสิ่งที่ดี(ในช่วงที่แย่)ของวิกฤติการเมืองขึ้นมาบ้าง ได้เห็นผู้คนเริ่มติดตามข่าวการเมืองอย่างใกล้ชิด จนทำให้นักการเมืองผลัดเปลี่ยนเก้าอี้กันบ่อยขึ้นแบบพลิกขั้ว ใครทำงานไม่ดีไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชนก็จะตกจากตำแหน่ง ไม่เหมือนในอดีตที่อยู่กันยาวนานกันไปถึงลูกถึงหลาน จะมีก็การเมืองใหญ่ที่ยังหลอกปั่นหัวสาวกทั้งหลายได้อยู่ แต่อีกไม่นานคงจะเริ่มรู้กัน คงต้องค่อยๆทีละนิด สิ่งนี้ได้แสดงให้เห็นว่าประชาชนเริ่มใส่ใจและละเอียดรอบคอบก่อนกาบัตรเลือกตั้ง ไม่ได้เป็นพวกมากลากไปหรือมีอะไรมาจับมือให้กาช่องที่เค้าไม่ต้องการ เมื่อเป็นอย่างนี้เราก็จะได้คนที่ใช่ มากกว่าคนที่ชอบ :) บ้านเมืองก็จะดีขึ้นตามลำดับความเก่งกาจของผู้แทนแต่ะคน

ผมได้แต่หวังว่า มันคงจะดีขึ้นจริงไม่ได้เป็นเพียงความหวังลมๆแล้งๆ อยากเห็นประเทศนี้เจริญไปในทางที่ถูกต้อง อยากเห็นประเทศเจริญปัญญามากกว่าจะเจริญวัตถุ อยากเห็นความร่วมมือกันมากกว่าแก่งแย่งชิงดี อยากเห็นลูกหลานอยู่ในสังคมที่ดีมีความสุข และเราก็ยังอาศัยอยู่ในประเทศนี้และอยากเห็นก่อนชีวิตจะดับสูญ