สปอย พลอต Avatar น่าเกลียดเกิ๊น+รีวิวโรงหนัง Dolby
วันนี้ได้ไปดูโรงดอลบี้ที่เค้าเคลมว่ามี 1 เดียวใน SEA มา เป็นภาพและเสียงแบบ Dolby vision+atmos ที่เคลมว่าเหมือนไปดูจอ OLED ไซส์จอภาพยนต์ในโรงหนัง เดี๋ยวรีวิวตัวโรงหนังด้วยเลย
ในส่วนตัวหนังผมว่าพลอตแม่งน่าเกลียดเกินอะ ถามว่ามันสนุกมั้ย เอาจริงมันถูกกลบด้วยฉากแอคชั่น ฉากสู้กันแบบตื่นตา อลังการ ทั้งภาพและเสียง มันสวยงามสมจริงแบบตลอด 3 ชั่วโมง ไม่มีอะไรดูปลอมเลย ไม่มีตรงไหนลอยแม้แต่ฉากเดียว ไม่ว่าจะสัตว์ต่างๆ ตัวเล็กตัวน้อย ชาวนาวีทุกเผ่า ซีนหาดทราย ใต้ทะเล มันดูจริงไปทุกอย่าง อันนี้สุดจริงๆ คือไม่มีลวกเลย ยิ่งพวกปลาตัวใหญ่ๆนี่คือ คิดว่ามีชีวิตอยู่ในโลกนี้จริงๆอะ มันจริงไปหมดทุกอย่าง
กลับมาในส่วนของพลอต แม่มคือซ้ำกับภาค 2 แบบน่าเกลียดแบบไม่น่าให้อภัย คือถ้าเคยดูภาค 2 มาแล้ว มันคือการเอาเรื่องเดิมกลับมาทำซ้ำ เปลี่ยนสถานที่ เปลี่ยนบทพูด มันคือภาคสองที่ตัดฉากว่ายน้ำกับปลาออก + ขยายเรื่องราวของสไปเดอร์เข้ามา เท่านั้นเลยยยยยย
ที่เหลือคือเหมือนเดิมหมด มีการถูกจับ มีการหนีออกมาได้ มีการกลับมารวมทุกเผ่าไปสู้กันใหม่ สถานที่สู้แม่งก็สู้ในทะเลแล้วขึ้นมาจบบนเรือเหมือนภาคที่แล้วเด้ะๆ อาศัยจังหวะตัวร้ายบ้าน้ำลาย ลูกๆบุกมาช่วย โดดน้ำหนีมาได้ ตัวเล็กโดนจับเป็นตัวประกันเหมียนเดิม
ลูก เจค ก็เหมือนเดิม พูดห่าไรไปก็ไม่ฟัง ดื้อ เถียงแม่งทุกอย่าง แล้วเรื่องราวมันต่อกันเลยอะจากภาค 2 มา ประมาณว่าครอบครัวมึงพึ่งจะเจอเหตุการณ์สำคัญมา ทำศึกกับคนบนฟ้า เสียลูกชายคนโตไป ใช้ชีวิตอยู่ต่อมาได้พักเดียว กลับเข้าลูปเดิม เจอคนบนฟ้าล่า หนีหัวซุกหัวซุน ทำสงครามครั้งใหญ่อีกละะ
มันซ้ำแบบน่าเกลียดเกิน สมมุติถ้าคนพึ่งดูภาค 2 มาแล้วมาดูภาคนี้ต่อเลยในโรง คงจะอ้วกออกมาเลยมั้ง
ถามว่ามันสนุกมั้ย อย่างที่บอกว่ามันก็สนุกในเรื่องราวของมัน ในการหนีแต่ละครั้ง การสู้แต่ละที มันเป็นอะไรที่เดิมๆแต่มันก็ดูได้อะ ขี่อีกรานยิงธนูใส่เครื่องบินระเบิด เนทีรี่ ตกจากอีกรานลงไปในป่า ปลายักษ์โดดทับเรือพัง
มีครบทุกอย่างที่เคยมีมาแล้ว ไม่มีอะไรใหม่เลยแม้แต่นิดเดียว ไม่มีอะไรคืบหน้าไปไหนเลย สู้สงคราม แพ้ ขอร้องให้เอวาช่วย เอวาเอาพวกสัตว์มาช่วย จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง
ตัวร้ายใหม่ที่เปิดมาเผ่าไฟ ก็ไม่ได้มีอะไร โผล่มามีซีนอยู่นิดนึง แล้วตอนท้ายๆก็มาเป็นลูกกะจ้อกให้นายพล บทเด่นก็กลับไปอยู่ที่นายพลเหมือนเดิม ทั้งๆที่ภาคนี้เป็นชื่อภาคของเผ่านางแท้ๆ
ดูสามชั่วโมงมีความคืบหน้าไปนิดเดียวคือความสัมพันธ์ระหว่าง เจค กับ นายพล เหมือนจะดีขึ้นโดยมีเรื่องราวในการต้องช่วยกันปกป้องสไปเดอร์เข้ามาเป็นตัวเชื่อม ที่ทำให้ต้องจำใจร่วมมือกันในบางสถานการณ์ ฟิลเหมือน โกคู กับ พิคโกโร่ แค้นกันจะตายห่า สู้กันจบไม่ฆ่ากันปล่อยให้รอดไปได้
ใครคาดหวังเนื้อเรื่องนี่ แนะนำอย่าไปดูเลย ไม่มีอะไรเลยครับ ไม่มีอะไรเลยยยยย
แต่ภาคนี้ดีกว่าภาคที่แล้วหน่อยนึงตรงที่ไม่ค่อยมีอะไรยืดเยื้อ ไม่มีซีนสารคดีสัตว์น้ำแบบภาคที่แล้ว ตัวหนังผมว่ามีปัญหาในการตัดต่อ คือมันไวไปหมดชึบชับๆ หลายๆอย่างที่เป็นมิสชั่นต้องไปทำในหนัง ก็ง่ายชิบหาย ง่ายแบบไม่มีอะไรน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นการไปปลุกปลาให้มาช่วยรบ เจคโดนจับอยู่ในค่ายทหาร แบบตอนดูยังคิดว่า มึงจะออกมาจากที่นี่ได้ยังไง โดนขังไว้กลางคอกที่ไม่มีทางย่องมาช่วยได้เลย สุดท้าย เนทีรี่บุกมาคนเดียว ช่วยได้ทั้งสไปเดอร์และเจค ที่โดนจับมา แล้วบินหนีออกมาชิลๆแบบไม่มีใครตามมาเลย
หนังจะเป็นฟิลนี้ไปทั้งเรื่อง ผสมความน่ารำคาญของพวกเด็กๆซัลลี่ที่แม่งดื้อ ไม่ฟัง เถียงทุกเรื่อง ไม่ว่าจะ ผญ ผช สิ่งที่ประคองให้รู้สึกไม่น่าเบื่อตลอดทั้งเรื่อง คือความอลังการณ์ของภาพ ความสวยของภาพซึ่งส่วนตัวผมเพลินกับสิ่งนี้นะ ถ้าใครไม่ได้เสพย์งานภาพซีจีสวยๆ ไม่ได้อินกับแสงสีในโลกของอวตาร ผมว่าน่าจะไม่เอ็นจอยกับสามชั่วโมงที่แม่งไม่มีอะไรใหม่เลยแหงๆ
ส่วนรีวิวโรงหนังดอลบี้ ความรู้สึกส่วนตัวนะครับ
เรื่องเสียงก่อนเลย ลำโพงดอลบี้ที่รายล้อมอยู่ทั่วทุกทิศ ซ้ายขวาหน้าหลังบนหัว ไม่ได้ทำงานขนาดนั้น ไม่มีซีนที่รู้สึกว่าเสียงมาจากบนหัว หรือเราไปอยู่ท่ามกลางป่ากับครอบครัวซัลลี่อะไรเลย คือเฉยมากๆกับความ Atmos ไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนั้นเลย แทบไม่ต่างจากโรงทั่วไป เอาเป็นว่าจับต้องไม่ได้ ใช้คำนี้ได้เลยครับ
เรื่องภาพที่เคลมว่าเหมือนดู OLED อันนี้ก็ต้องบอกว่าไม่จริง แสงไฟในเรื่องไม่ได้พุ่งสว่างเท่าจอ OLED ที่บ้าน ความดำสนิท ไม่ได้ดำสนิทเหมือน OLED อย่างที่เคลม เรื่องภาพนี่คือธรรมดาสุดๆในแง่ของสีสันกับความดำ ผมลองเอาแว่น 3D ออก รู้สึกว่าภาพมันสีสดอยู่นะ แต่พอดูผ่านแว่น สีมันก็ดรอปลงมาอยู่ดี ความรู้สึกคือค่อนข้างธรรมดา
สรุปว่า เฟลทั้ง Atmos+Vision เลย แทบไม่ต่างอะไรกับโรงหนัง 3D ปกติ
เรื่องภาพ 3D+HFR ตัว HFR เนี่ย ตามหลักแล้วมันควรจะไม่มีอะไรที่ต้องให้พูดถึง เพราะมันก็แค่เฟรมสูงกว่าทั่วไปแค่นั้น แต่ดั้นนนน HFR บางฉาก บางฉากก็ไม่ใช่มันซะงั้น งงมาก กลายเป็นว่าเราต้องดูหนังสลับกัน ซีนติดๆกัน ซีนนึงภาพลื่นไหล ตัดมาอีกมุมกลายเป็นกระตุก สลับแบบนี้ทั้งเรื่อง แล้วซีนไหนที่ไม่ใช่ภาพเฟรมสูงๆคือแทบอ้วก ภาพสั่นดูแทบไม่รู้เรื่องเลย ุถ้าเป็นฉากที่มีการเคลื่อนไหวเร็วๆ แต่ซีนไหนที่เป็นซีนเฟรมลื่นไหลภาพจะสวยมากๆ รวมกับความ 3D ที่ผมรู้สึกว่า ตัวหนังมันไม่ได้ทำมาอวยเรื่อง 3D ไม่ได้มีซีนปาหอกทะลุจอออกมาอะไรแบบนั้น แต่มันก็ยังทำได้สวยมากๆ มันไม่ใช่แค่ลึกลงไป แต่มันมีพุ่งออกมานอกจอได้ด้วย
พวกออปเจคที่อยู่ชิดจอความรู้สึกมันคือมันออกมาอยู่นอกจอได้เลย พวกฝุ่น สเก็ดไฟ หรือน้ำที่สาดกระจาย เรื่องการทำมิติของภาพในมุมลึกก็ดีมากๆ ได้มิติภาพที่ดูเพลินได้ตลอดทั้งเรื่องอันนี้ผมชอบสุดในโรงนี้ เพราะรู้สึกมันจะมีทั้งความลึกความนูนเยอะกว่าโรง 3D ก่อนหน้าที่เคยดูมาซึ่งจะเน้นหนักไปทางลึกอย่างเดียว มิตินูนออกมาใกล้สายตาเราจะไม่ค่อยมี แต่อันนี้คือเหมือนว่า ฝุ่นต่างๆในฉาก มันลอยออกมาข้างนอกจอได้จริงๆเลย
สรุปว่ามันไม่ได้ว้าวอะไรขนาดนั้นนะ ใครที่อยู่ไกลไม่แนะนำให้ถ่อเดินทางไปหรอกครับ หาโรง 3D แถวบ้านดูก็ได้ ข้อดีคือค่าตั๋วไม่ได้แพงเวอร์วังแบบ IMAX ถ้าใครอยุ่ใกล้ๆแถวๆโรงเดินทางไม่ลำบาก ก็ลองไปดูก็ไม่เสียหาย ผมชอบความ 3D ของมันนะ ตลอดสามชั่วโมง มีทั้งว้าวและไม่ว้าวได้ทั้งเรื่องเลย
ส่วนสรุปทั้งหมดก็ถือว่าไม่แย่ครับ รับได้ทุกอย่าง ยกเว้นพลอตของเรื่องโดยรวมเนี่ย มันซ้ำซากสุดๆ อารมณ์เหมือนดูเป็นต่ออะ บทเดิมๆเปลี่ยนตัวละครมาวนๆทำกันไป แต่อันนี้หนักกว่าหน่อยนึง ตรงบทเดิม ตัวละครเดิมแอคชั่นเดิม จบแบบเดิมๆอีกตะหาก ตัวละครที่คาดหวังว่าจะเข้ามาเพิ่มสีสันให้เรื่องเพราะเป็นชื่อภาคของเผ่าเค้า แม่งก็ไม่ได้มีอะไรเลย ไม่ได้มีฉากให้เห็นวัฒณธรรมของเผ่าไฟ แบบที่เราได้รับเต็มๆของเผ่าน้ำ ไม่ได้โชว์ให้เห็นว่าเผ่านี้ต่างจากเผ่าอื่นยังไงทั้งๆที่เอามาตั้งเป็นชื่อภาค สุดท้ายฉากไคลแมกซ์ ก็สู้กันในน้ำทะเล+บนเรือ เหมือนภาค 2 อยู่ดี