[RE: ใครเรียนนิติหรือเป็นทนาย มาดูวิเคราะห์คดีจิรัฏนี้หน่อย]
TakeoKikuchi พิมพ์ว่า:
gagigunggai พิมพ์ว่า:
TakeoKikuchi พิมพ์ว่า:
เอางี้ก่อน สรุปคือศาลยกฟ้องเรื่องจิรัฏทำเอกสารปลอม
แปลว่าศาลบอกจิรัฏไม่ได้ปลอมขึ้นมา แต่ผิดที่เอาของปลอมมาใช้
ประเด็นคือ วัตถุพยานสำคัญคือใบสด. (ซึ่งตามหลักการควรจะมีน้ำหนักมากกว่าคำพูดจากพยาน) ไม่ได้ถูกพิสูจน์เลยว่าเป็นเอกสารปลอมด้วยวิธีที่เป็นวิทยาศาสตร์ เช่น การเทียบลายเซ็น หรือการเช็คต้นขั้ว
ทั้งๆ ที่ลายเซ็นก็มีแต่ไม่เช็ค ต้นขั้วก็ไม่เช็ค (กดดูรูปนะ จะเห็นว่ามีลายเซ็น)
https://www.facebook.com/photo?fbid=1348040147122444
แต่ดันใช้การยืนยันจากโจทย์ว่าถ้าออกถูกต้อง ต้องได้ตาม process นี้ๆๆๆ (ซึ่งมันเป็น manual process ที่มี exceptional case อาจจะเกิดขึ้นได้) แล้วพอจิรัฏไม่ได้ทำตาม process ก็คือผิดเลย ตัดสินเลยว่าเป็นเอกสารปลอม ตลกดี
คนที่เกลียดจิรัฏแล้วโอเคกับเรื่องนี้ ก็จะคิดไว้เลยว่ามันผิด คุณไม่พยายามจะทำความเข้าใจด้วยซ้ำ แบบนี้ถ้าวันนึงคุณใช้เอกสารที่ราชการให้มา (ซึ่งคุณไม่มีวันรู้ว่ามันจริงหรือปลอม) แล้วมาโดนเล่นทีหลังบ้างแล้วจะรู้สึก
เรื่องนี้มันชัดอยู่แล้วว่าเป็นการเล่นงานเพื่อปิดปากและสั่งสอน ถ้าคุณเห็นดีเห็นงามด้วย ต่อไปอาจจะไม่มีใครกล้ามาสู้ผู้มีอำนาจแทนพวกคุณอีกต่อไป เพราะเวลาสู้แทนแล้วโดนเค้าเล่นงาน พวกคุณแม่มซ้ำเติมเขาเลย ตอนแกนนำม๊อบก็ทีละ ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วเราควรไปยืนหน้าเรือนจำให้ปล่อยอานนท์กันเป็นแสนๆคน
ฝั่งโจทก์เขาบอกว่าเอกสารนี้ (สด.ของจิรัฏ) ไม่มีอยู่จริง โดยก็จะนำสืบว่า กระบวนการออกนี้ๆมันต้องทำนี้ๆ
ทีนี้เอกสารมันอยู่ที่จิรัฏไง ซึ่งวันที่มาออกรายการก็ถืออยู่กับมือ คนทั้งโลกก็ต้องเข้าใจได้ว่าจิรัฏครอบครองอยู่และเอามาแสดงได้
ทีนี้ การที่จะไปบอกจะพิสูจน์จริงปลอมด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น ก็เอกสารมันอยู่ที่ สส. ถ้าเขาไม่เอามาจะพิสูจน์ยังไง
งั้นมันจะแปลกมากกว่า ถ้าศาลจะตัดสินว่าไม่ผิดเพราะหาเอกสารไม่ได้ งั้นคดีปลอมเอกสารใครโดนก็ทำลายทิ้งก็จบแล้ว
เดิมที่ นำสืบเรื่องขั้นตอนก็ไม่ได้น้ำหนักมากขนาดนั้น แต่ต้องเข้าใจว่าโจทก์ทำได้แค่นั้น เพราะจำเลยไม่ได้เอาเอกสารจริงมาให้พิสูจน์
แล้วจำเลยก็อ้างลอยๆว่า ก็รับมาจากสัสดี(พยานคือตัวเอง) ลายเซ็นตรงกับต้นขั้วแล้ว(แต่ไม่เอาเอกสารตัวเองมาเทียบว่าตรงยังไง)
ถ้าเอาจากที่จิรัฏโพส ไม่ได้เอาจากที่ข่าวอื่นๆ ลงก่อนหน้านะ
คือจิรัฏนำเอกสารไปใช้แสดงแล้ว และลายเซ็นเจ้าหน้าที่ในใบสด43 ของเขาก็เป็นลายเซ็นเดียวกันกับในเอกสารต้นขั้วที่กองทัพนำมาแสดงเอง ศาลก็ตัดสินว่าจิรัฏไม่ได้เป็นคนปลอมเอกสาร
แต่ดันบอกว่าจิรัฏเอาเอกสารปลอมมาใช้ โดยตัดสินว่าเป็นเอกสารปลอมจากการเล่าขั้นตอนของฝั่งทหาร ผมเลยงงว่าทำไมเชื่อพยานโจทย์ มากกว่าหลักฐานที่เป็นเอกสาร ก็ในเมื่อลายเซ็นและเลขตรงกับต้นขั้ว แล้วมันจะปลอมได้ไง
ผมว่าตอนนี้ข่าวหลายที่มันแอบมั่วๆ อยู่ ดูขัดแย้งกัน น่าจะต้องให้จิรัฏไปโดนสรยุทธ์ซัก พร้อมทหารสักทีครับ จะได้เคลียร์ๆ
คดีเดียวกันครับ ปลอมหรือใช้เอกสารปลอม โครงสร้างความผิดเป็นแบบนี้
- ปลอม ก็คือผู้ต้องหาปลอม
- ใช้เอกสารปลอม ก็คือไม่รู้แหละว่าใครปลอม แต่ผู้ต้องหาเอาเอกสารนั้นมาใช้ โทษเท่ากับปลอม
- ปลอมและใช้ ผู้ทั้งหาทั้งปลอมทั้งใช้เลย แต่จะลงโทษข้อหาใช้อย่างเดียว
โครงสร้างเลย ปลอม - ใช้ - ปลอมและใช้ โทษเท่ากันหมด เวลาแจ้งข้อหาเขาเลยแจ้ง ปลอม/ใช้เอกสารพ่วงกันเลย
เพื่อที่เวลาแจ้งข้อหาไปแล้วไปสืบข้อเท็จจริงได้ว่าคนนี้ ปลอม หรือแค่ใช้ หรือทั้งปลอมทั้งใช้เลย
ที่นี้เวลาให้สัมภาษณ์ จิรัฏเขาก็พูดเชิงป้องกันตัวเองว่า เขาไม่ได้เป็นคนปลอมนะ แค่ศาลตัดสินลงโทษเรื่องใช้
แต่จริงๆในขั้นตอนสืบ ฝั่งอัยการเขาก็มาเน้นเรื่องใช้อยู่แล้ว คือ ใครจะทำปลอมไม่รู้แหละ แต่จิรัฐเอาไปใช้ก็ผิดอยู่ดี
ที่มันเป็นอย่างนั้น เพราะหลักฐานมันประจักษ์ว่าจิรัฏเอาไปใช้ ไม่ใช่ว่าจับได้ว่าจิรัฏไปแอบปลอมลายเซ็นขึ้นมาเอง
เพราะงั้น จิรัฏไม่ได้เอา สด.43 เข้ามาในศาลในคดีใดๆเลย ไม่งั้นฝ่ายโจทก์เขาหมายเรียกหลักฐาน(สด.43)คดีอื่นเข้ามาพิสูจน์ได้แล้ว
ส่วนที่ว่าลายเซ็นตรงกับต้นขั้ว คือ พยานปากจิรัฏเบิกความเองว่า ตรงกัน แต่ไม่ได้เอาเอกสารมาเทียบให้ศาลเห็นครับ