เคร็ก เบอร์ลีย์ กูรูฝีปากกล้าออกโรงวิจารณ์ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค อย่างรุนแรง ว่าเป็นพวกขึ้ขลาด ไม่กล้าออกมายอมรับความผิดพลาดของตัวเอง

ผลงานของ ฟาน ไดจ์ค กลายเป็นที่วิจารณ์อย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา หลังความผิดพลาดชักเริ่มปรากฎให้เห็นบ่อยครั้งขึ้นทั้ง ลีลา “ฟาน ดั๊งค์” ในเกมพ่ายให้กับ พีเอสวี และล่าสุดกับ “ฟาน แดนซ์” ที่กัปตันทีมรายนี้มักถอยคุมเชิงจนเปิดช่องให้คู่ต่อสู้ได้ส่องอยู่บ่อยๆ

ทางด้าน เคร็ก เบอร์ลีย์ อดีตกองกลางเชลซี ไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ กล่าวว่า ฟาน ไดจ์ค นั้นเป็นพวก “ขี้ขลาด” และ "เล่นได้แย่พอๆ กับคนอื่นๆ" ในช่วงเวลาที่ยากลำบากของ ลิเวอร์พูล

เบอร์ลีย์ ให้สัมภาษณ์กับ ESPN ว่า “ผมเบื่อที่จะมานั่งฟังคนอื่นพูดว่า ‘โม ซาลาห์เล่นไม่ดี ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ปรับตัวไม่ได้, อเล็กซานเดอร์ อิซัค, เอกิติเก้, หรืออย่าง ไดนามิคในแดนกลางเปลี่ยนไปแล้ว”

“เขา (ฟาน ไดจ์ค) คือมาตรวัดชั้นดีที่บอกว่าอะไรผิดพลาดในปีนี้”

"เขาควรจะเป็นผู้นำ สิ่งที่เขาทำตลอดทั้งฤดูกาลคือโวยใส่แต่ เคอร์เคซ (และ) ชูแขนขึ้นโวยไปมา เขาเองก็ทำผิดพลาดมากพอๆ กับผู้เล่นคนอื่นๆ ทุกเกม คุณสามารถดูเขาแล้วคิดว่า... 'เล่นอะไรของเขานะ?'"

เกมล่าสุด ฟาน ไดจ์ค เสียบอลให้ ซันเดอร์แลนด์ จนเป็นที่มาการเสียประตูที่ แอนฟิลด์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยลูกยิงของ เชมส์ไดน์ ทัลบี แฉลบกัปตันทีมลิเวอร์พูลเข้าประตูไปแบบหมดจด

เบอร์ลีย์ ยังวิจารณ์ผลงานของ ฟาน ไดจ์ค อย่างรุนแรง โดยกล่าวว่า "เขาทำทุกอย่างผิดพลาดไปหมด จ่ายบอลพลาด ไม่บังเหลี่ยมประตู แถมยังหันหลังให้กับความผิดพลาดเหมือนคนขี้ขลาดอีกต่างหาก"

“มันบ้าไปแล้ว เขา (ฟาน ไดจ์ค) ดูเหมือนจะออกมาจากสถานการณ์นี้ได้โดยแทบไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ และกลายเป็นความผิดของทุกคน”

“แต่สำหรับผม ในตำแหน่งกองหลัง เขาเล่นได้แย่พอๆ กับคนอื่นๆ เลย ผมคิดว่าประตูนั้น วิธีที่เขาไม่ขยับเข้าไปบังทาง และความจริงที่ว่าเขาหันหลังให้กับความผิดพลาด คือตัวอย่างผลงานที่ดีที่สุดของเขาในฤดูกาลนี้”

เป็นนักเตะที่เวลาเล่นแย่ แฟนบอลมีข้ออ้างมาสนับสนุนเยอะที่สุดละคนนี้

-ไม่เอาจริง (ทำอย่างกับทีมตรงข้ามแข่งกับเด็กอนุบาล เล่นแค่ 80% งี้)
-กลัวเจ็บอดไปบอลโลก (แล้วนักเตะทีมอื่นเขาไม่ไปแข่งบอลโลกกันหรอ)

ไดจ์ ติด Top 3 บัลลงดอร์ = G.o.a.t. กองหลัง


Jorginho เชลซีมันก็เคยติดนะ แต่ไม่เห็นจะมีใครบอกว่ามันเป็น G.o.a.t กองกลางเลย

Slam Dijk กูโดนหนักเลยช่วงนี้

ผมไม่ว่าไรแกหรอก เพราะรู้นานละว่าแกไม่ได้เล่นบอล
แกแค่ aura farming ไปวันๆ 5555555555

เห็นด้วยทุกประการ ติดแอ็ค เข้าบอลหันหลังให้คู่แข่งอยู่นั่น เออ เจริญละ

เดือนก่อนที่แกล้งสัมภาษณ์เสียงดังในอุโมงค์ให้เพื่อนได้ยินนั่นก็ไม่เข้าท่าเลย อย่างกับจะบอกว่าพวกเอ็งทำงี้ไม่ได้นะโว้ย ทั้งที่ผลงานตัวเองก็รวมอยู่ในผลการแข่งขันนั้นด้วย

เปิดพรี่ มาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว แล้ว ช้าลง เซ้นส์ตัดสินใจก็ช้าลง แต่ก็โดนชาวบ้านผู้ปกป้อง บอก แค่ล้า !

ผมเริ่มเข้าใจเหตุผลที่นักเตะเก่งๆหลายคนตัดสินใจเลิกเล่น หรือ ลดระดับความเข้มข้นของทีมการเล่นลงเวลาเริ่มอายุเยอะละ ทั้งที่เราดูจากฟอร์มก็ยังคิดว่าเขายังระดับสูงได้อยู่เลยแต่อยู่ดีๆตัดสินใจเลิก หรือ ย้ายไปลีคที่อ่อนลง แบบคันโตน่า หรือ ล่าสุดก็โครส ที่อยากให้แฟนบอลจำภาพตอนพีคมากกว่า

แต่เค้าเป็น Goat กองหลังของชาว ss นะ

ขี้ขลาดจริง เรื่องสไลด์บล้อคไม่กลัวตาย แบบวิดิช เทอรี่สมัยก่อนไม่มีในหัวเลย

พวกทำทุกอย่างเพื่อป้องกันประตู ไม่กลัวเจ็บ ไม่ติดแอ้ค ไม่ติดหล่อ ไม่ติดกลัวโดนล้อคผ่าน

อย่างน้อยควรได้ชน รั้ง บี้ติด ดีเลย์เขาหน่อย อันนี้ถอยยเกิ้นน

แกก็ติดแอคจริงๆแหละ เอาจริงๆ โรเบิตสันเหมาะเป็นกัปตันมากกว่าอีก

แมร่งกากชิบหาย ถอยๆๆ นกกระยาง ช่วงนี้ 5555

เห็นด้วยและคิดแบบนี้มานานแล้ว แต่พอพูดก็โดนแฟนหงส์ด้วยกันใส่ยับๆ

สำหรับผมไดจ์ฟอร์มพีคจริงๆ แค่ก่อนเจ็บหนักอ่ะ หลังจากนั้นคือไม่มีทรงเดิมเลย แต่ยังมีไอคิวฟุตบอลอยู่ เลยดักบอลได้เยอะจริงๆ แต่ฟานไดจ์ก่อนเจ็บคือครบทุกมิติ คนอาจจะมองว่าเจ็บหนักมาเลยไม่กล้าเล่น แต่ผมมองว่าตั้งแต่แกได้รับการยกย่องเป็นกองหลังเบอร์1 แกเล่นแบบประคองทรงเกินเหมือนคนเล่นกลัวผิดพลาด พูดง่ายๆตอนแสงยังไม่ส่องแกกล้าเข้าบอลทุ่มสุดตัว พอมีแสงเท่านั้นแหละ แอ็คชิบหายเลย สรุปคือที่ฟอร์มไม่เหมือนเดิมหลักๆคือน่าจะมาจากติดแอ็คนั่นแหละ ถ้าเข้าบอลสุดตัวเหมือนเดิมแล้วเข้าบอลว่าวกลัวจะไม่เท่ไม่คูลมั้ง

แฟนหงส์โคตรขี้โม้บอกเป็นกองหลัง GOAT

ไม่รุใช้ตาดู หรือตูดดู ง่าวจัด

คิดว่าแกห่วงภาพลักษณ์เช่นกัน กลัวเสียสถิตินั่นนี่ จนมองว่าถ้าเข้าพรวดจะเสียภาพจำ กลายเป็นเล่นแค่ประคองสถิติส่วนตัว ไม่สนเรื่องทีมต้องเสียอะไรแล้ว