ผมไปไล่อ่านในกลุ่มต่าง ๆ เจอ คน โพสรูปรถจมน้ำ มีแต่คนบอกคืนทุนได้ครับ เคนทุนเลย ผมสงสัยว่ามันคืนให้ง่ายแบบนั้นจริง ๆ หลอ แบบ เคสนี้ที่ผมไปเจอ มา

HRV ผ่อนมา เกือบปีมั้ง ทุน 800K คนมาเม้นบอกคืนทุน คืนทุนเลย

ผมเลยสงสัยว่า มันจะคืนทุนในกรณีค่าซ่อมมันประเมิณแล้วว่าเกิน 800K ทีนี้ รถจมน้ำมันซ้อมถึง 800K จริงหลอ ผมว่า บริษัทประกันมันไม่ได้หมูแบบนั้นอะ ผมมองว่าพวกรถเก่าที่ทุนจดแบบ 300 - 400K อันนี้อาจจะคืนทุน แต่พวกรถใหม่เนี่ยผมว่ายากมากที่ บริษัทตะคืนทุน

ใครมีประสบการณ์ความรู้มาแชร์หน่อยผมอยากรู้มากเลย เคสพวกนี้ เพราะ มันมีพวก BM BENZ ทุนจดเป็นล้านอยู่เพียบเลย

คือผมเข้าใจประเด็นที่ซ้อมแล้วไม่เหมือนเดิม แต่ประกันมันมีหน้าที่ซ่อมให้ขับได้ ณ ตอนนั้นไม่ใช่ซ้อมให้เพื่อใช้งาน 2 - 3 ปีรึเปล่า

คืนหรือไม่คืน ประกันเป็นคนกำหนดแหละ ผู้เอาประกันไม่มีสิทธิ์ไประบุเอง

ไอ้ตัวยุคืนทุนๆเลย นี่คือไม่รู้เรื่องข้อกำหนด,เงื่อนไขอ่ะ ผมว่า

ถ้าค่าซ่อมถึง 70 %ของทุนประกัน ถ้าอยากคืนทุนก็คุยกับประกัน

จะคืนทุนประกันได้ก็ต่อเมื่อ อู่ ประเมิณราคาแล้วซ่อม เกิน 70% ของราคารถ

ทุนประกันรถยนต์ 

รถยนต์ใหม่ป้ายแดง จะอยู่ที่ประมาณ 80-85% ของราคารถ

รถยนต์เก่า ทุนประกันจะลดลงทุกปีตามค่าเสื่อมราคา ประมาณปีละ 10% หรือคำนวณจากราคาตลาดกลางในปัจจุบัน

ตัวอย่าง ถ้ารถราคา 1,000,000 บาท ทุนประกันปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 1,000,000 ทุน 80% = 800,000 บาท

แล้ว คิดว่า ประกันฯ จะเอาเข้ากรอบ คืนทุนประกันฯ ให้รึ ถ้ารถไม่เละ ยู่เป็นซากแบบรถชน แรงๆ แน่นอน ... ซ่อมดิ นานแค่ไหน ผู้เอาประกัน ก็ต้องรอ ยอดจ่ายค่าซ่อมอาจไม่ถึงทุนประกันฯ ก็ได้

มันก็ต้องให้ศูนย์ประเมิณค่าซ่อมแหละ

แต่เคสแบบนี้คงรู้กันว่ารถจมน้ำ ซ่อมยังไงก็ไม่คุ้ม ไม่คุ้มทั้งค่าซ่อมและเวลา
ศูนย์ก็คงตีค่าซ่อมสูงๆ เพื่อให้คืนทุนอยู่ละ

สมัยปี 43 รถบ้านผมก็จมมิดนะ บอกเลยซ่อมยังไงก็ไม่เหมือนเดิมถ้าไม่ยกใหม่

ตอนนั้นของบ้านผมซ่อมมาใช้ก่อน

จำได้ว่าแอร์เหม็น เบาะเหม็น เร่งแอร์ที่บางทีเศษแผ่นโคลนก็หลุดออกมาใส่

ไม่เคยเจอ แต่คิดว่าถ้ารถเก่า 5 ปีขึ้นไป คืนทุนได้อยู่ เพราะทุนมันไม่เยอะแล้ว ค่าซ่อมก็พอๆกัน
แต่รถใหม่ ยิ่งเพิ่งออกไม่ถึงปี ทุนมันสูง ยังไงต่อให้ตีค่าซ่อมสูงๆ มันก็ไม่เกินทุนอยู่ดีอะ

แต่ยังไงอู่ก็ตีราคาสูง ราคาเบิ้ลให้อยู่แล้ว

รถจมน้ำไม่มีใครอยากซ่อม

ช่วงหลังน้ำท่วมใหญ่ปี 54 อู่ญาติผมแกปกติจะจับรถมือ 2 มาปั้นขาย ช่วงนั้นโคตรลำบากในการหารถเพราะเจอรถน้ำท่วมมาปนกับมือสองเยอะมาก เคยมีหนักๆที่ขับรถไปดูทั้งวันตั้งแต่ 8 โมงกลับมา 2 ทุ่ม ไม่ได้สักคันเพราะจมน้ำมาทั้งนั้น

แล้วรถจมน้ำนี่ โอเคมันไม่ช็อตหรอกถ้าไม่ใช่รถยังเปียกไปสตาร์ท (อารมณ์แบบพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหลายที่ไม่ทะลึ่งไปกดเปิดตอนเครื่องเปียก) แต่ปัญหาคือพวกคราบโคลนในรถเนี่ย คลีนนิ่งรถหลายๆเจ้าไม่รับด้วยซ้ำเพราะล้างอ้วกแตกไม่คุ้มค่าเหนื่อย (ถ้าจมแค่พรมอะไรพวกนี้ยังพอไหว นี่จมทั้งคันอะ)
เครื่องนี่ตัวหนักเลย จมน้ำไป โคลนไปอุดตันในเครื่องต้องรื้อเครื่องแกะออกมาล้างมาประกอบ

อู่ส่วนมากเวลาให้ไปประเมินเขาไม่ได้ประเมินเว่อร์ช่วยลูกค้าหรอก ค่าอะไหล่บางทีไม่ถึงครึ่งราคารถหรอก แต่ค่าแรงในการจ้างคนมาทำอะ มันเกินไปกว่านั้นไกลมากแล้ว

จมน้ำใสๆยังก้ำกึ่งๆนะ แต่ไอจมน้ำจากธรรมชาติที่มีโคลนมีอะไรพวกนี้ = gg ตี total loss สถานเดียว

ปล. จำได้ว่า หลังจากน้ำท่วมหนัก 54 นี่ บางบริษัทประกันไปแก้ในเงื่อนไขในส่วนที่เป็นภัยธรรมชาติเลยนะ

รถจมน้ำมิดส่วนใหญ่ประกันจะให้คืนทุนหมดฮะ ค่าซ่อมเกิน 70% ซะส่วนใหญ่