โลกดิจิตอล น่าสนใจตรงนี้แหละ
Wealth มองไม่เห็นด้วย ตาเปล่า

ดูจาก ระดับมันสมอง
ทั้ง ท๊อป ทั้ง ซีเค

จะมีหมื่น แสนล้าน ผมก็ไม่สงสัยนะ
ฟังคน สมองหมื่น แสนล้าน
ฟังคนสมอง 10 บาท

ฟังดีๆ จะรับรู้ได้ถึง ศักยภาพในการโอบกอดเงิน หมื่นล้าน

พวกสมอง 10 บาท ก็ดูง่าย ไม่ต่างกัน

หมายถึงคริปโตทั้งหมดที่ฝากไว้กับ bitkub รึเปล่าครับ

พวกซื้อ BTC ใน bitkub รวมๆกันไรแบบนี้ พอดีไม่ได้เข้าไปฟัง เห็นหัวข้อบอก "แบกเงินแสนล้าน"

เค้าหมายถึงถือเงินลูกค้าบิทคับรวมๆเป็นแสนล้านหรือเปล่า ไม่ใช่เงินส่วนตัว

เงินคนที่เอาไปลงใน Bitkub ครับ

สู้ๆนะครับ แสนล้านเลยนะ

เก่งจริงครับ พูดเก่ง แต่การทำงานจริงมันไม่ใช่แค่พูด ความรู้ส่วนใหญ่ที่พูดมามันไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่อะไรเลย คนที่พออ่านหนังสือบ้างจะรู้ว่ามันโคตรเบสิค

เงินลูกค้าทั้งนั้นหรือเปล่า

ขนาดผมสมอง50บาทอ่านละยังสะดุ้งเลย

พวก นี่ไม่ใช่แค่พูดอะสิ ทำจริงด้วย ลงมือทำด้วย
ต่อให้กี่ตำรากี่หนังสือก็ไม่เกิดขึ้นถ้าไม่ลงมือทำ

ต้องดูว่า ในตอนสุดท้ายสังคมจะตัดสินเอง
ถ้ายังเป็นคนที่ ถูกเชิญไปนู่น นี่นั้นตลอดเวลา
มีสิ่งที่สังคมจับต้องได้ให้ประโยชน์แก่สังคม

คนกลุ่มนี้ไปอยู่ตามงานแสดงต่างๆ
ที่ผู้คนระดับประเทศไปรวมตัวกัน
และสังคมยังให้การยอมรับ

ต้องถามว่าทำไมสังคม ธุรกิจ การเงิน รายการต่างๆ
ถึงให้คุณค่ากับคนกลุ่มนี้

แสดงว่าเค้าต้องมีอะไรที่สังคม ส่วนน้อยที่ประสบความสำเร็จยอมรับ

กลับกันสังคมส่วนใหญ่ที่ไม่ประสบความสำเร็จอาจจะแอนตี้

คนที่ประสบความสำเร็จเป็นส่วนน้อยอยู่แล้ว

โลกมันก็น่าจะแฟร์อยู่

ในทางกลับกันผมก็เป็นคนที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จอะไร
แต่ก็อยากจะไปถึงในจุดจุดนั้นบ้าง ก็เลยคิดอีกวิธีเหมือนคนที่พวกนี้คิดกัน

ซึ่งอาจจะผิดผมไม่รู้

เอามูลค่าเหรียญมารวมเป็นสินทรัพย์ด้วยไหมเช่น เหรียญตอนนี้ 100 บาท มี 1000 ล้านเหรียญก็มีแสนล้านบาท แต่เอาจริงๆ ถ้า rug pull มูลค่าอาจจะมีแค่ ล้านเดียว เหมือนกรณีพี่แซม แบ้งแมนฟรี

เรื่องความสามารถในการหาเงิน ความพยายามจนประสบความสำเร็จ ความเห็นคุณก็ไม่ได้ผิดอะไร ที่จะวัดความสำเร็จเป็นเงิน+การยอมรับจากสังคม โดยเฉพาะในโลกทุนนิยม+วัตถุนิยม

แต่ที่ผิดคือคุณเอาไปเทียบเป็นเรื่องสมอง ว่า สมองแสนล้าน vs สมอง 10 บาท มันเหมือนบอกว่า คนฉลาดจะรวย และ สังคมยอมรับ เพราะคนฉลาดหลายๆคนไม่สนที่จะหาเงินมากๆก็มี แต่คนฉลาดคงไม่ทำให้ตัวเองลำบากเรื่องเงิน เพราะความฉลาดมันทำให้หาเลี้ยงตัวเองได้สบาย(แต่ไม่จำเป็นต้องล้น)

ยิ่งถ้าคนที่ฉลาดมากๆ จนหลุดจากกรอบของสังคมได้ก็จะคิดไปอีกแบบ(ซึ่งจะไม่ใช่ความคิดที่คิดได้โดยคนส่วนใหญ่ในสังคมตอนนั้นๆแน่ เพราะมันมนุษย์มีความคิดอิงเผ่า) เค้าอาจจะไม่ได้อยากออกงานอะไรเลย หรือไม่ได้อยากครอบครองทรัพย์เยอะๆเลยก็ได้ เพราะมันไม่ได้ทำให้เกิดความสุขสงบ(อยากได้ serotonin มากกว่า dopamine)

เป็นไปได้นะ พวกที่เทรดตั้งแต่สมัย bx.in.th

นึกถึงสมัยนั่งดู what the coin เมื่อก่อนสนุกดี

สมอง 20 บาทแบบผม เข้ามาอ่านแล้วก็ออกไปเงียบๆ ละกัน