[RE: น้ำท่วม ปล้นของถือว่าผิดมั้ย]
Domeultra พิมพ์ว่า:
แมวมอง พิมพ์ว่า:
Domeultra พิมพ์ว่า:
เรามาว่ากันเรื่องความเป็นจริงกับภาพแล้วปรับเข้าข้อกฎหมายดีกว่าครับ
ประเด็นแรก จากสถานการณ์การช่วยเหลือไม่ทั่วถึง ชัดเจนมากว่ามีคนอดข้าว และมีคนที่กำลังหิวโหยเรื่องนี้ปฏิเสธไม่ได้ครับ
ประเด็นสอง จากภาพเราเห็นคนสองแบบ 1.คนที่เจตนาเอาเหล้า เอาเบียร์ ซึ่งไม่ใช่สิ่งของประทังชีวิต 2.คนที่เจตนาหยิบพวกขนมปัง ขนมใส่ถุงไปเยอะๆ (ซึ่งอาจจะเอาเพื่อตนเอง หรือไปแบ่งจ่ายคนในครอบครัว)
ประเด็นที่สาม ในหัวของพวกเค้าอาจจะคิดว่าดีกว่าขาด ดังนั้นโยนศีลธรรมทิ้งเอาตัวรอด
ปรับข้อกฎหมาย เรื่องนี้ผิดอยู่แล้ว เป็นความผิดฐานลักทรัพย์ตามมาตรา 334 วางหลักไว้ว่า "ผู้ใดเอาทรัพย์ของผู้อื่น หรือที่ผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยไปโดยทุจริต ผู้นั้นกระทำความผิดฐานลักทรัพย์.." และผิดตามหลักเจตนาตามปอ.มาตรา 59
แต่ตามสถานการณ์เป็นช่วงวิกฤตที่ไม่ปกติ เกิดพายุน้ำท่วม รัฐราชการล้มเหลวในการเอาอาหารมาแจกผู้คนหลายหมื่นคนหิวโหยและกำลังลำบาก ดังนั้นมันมีข้อยกเว้นทางกฎหมายอาญา
ปอ.มาตรา 67 ผู้ใดกระทําความผิดด้วยความจําเป็น
(1) เพราะอยู่ในที่บังคับ หรือภายใต้อํานาจซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงหรือขัดขืนได้ หรือ
(2) เพราะเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึงและไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ เมื่อภยันตรายนั้นตนมิได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะความผิดของตนถ้าการกระทํานั้นไม่เป็นการเกินสมควรแก่เหตุแล้ว ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ
เรื่องนี้อาจจะเข้าตามวงเล็บสอง เพราะถ้าตนเองหรือผู้อื่นไม่ได้อาหาร อาจจะอดตาย เป็นภัยอันตรายที่หลักเลี่ยงไม่ได้จริงๆ ถ้ามันไม่เกินสมควรแก่เหตุ ประเภทขโมยเงิน หรือของอื่น เอาไปเพียงแต่ของกิน ศาลอาจจะพิจารณาให้ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความเมตตาของคนในกระบวนการยุติธรรมครับ
เข้า อนุ 2 ยากมาก เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตราย
ที่ใกล้จะถึง และ
ไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้
คำว่า ใกล้จะถึง ตีความอย่างไร คือใกล้ระดับนาที วินาทีใช่หรือไม่ครับ หรือ ชั่วโมงหรือวัน หิวตายคือใกล้จะถึง ตีความตัวอักษรแบบไหน ถ้าตรงไปตรงมา เกิน 5 นาทีไม่น่าจะเรียกว่าใกล้นะ
คำว่า และ ไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ นอกจากจุดช่วยเหลือ ไม่มีวิธีอื่นจริงๆใช่ไหมครับ หรือขวนขวายไปจุดนั้นได้จริงๆใช่ไหมครับ
คือ ต้องกินทันทีไม่งั้นตาย และ ไปที่อื่นไม่ทัน หาวิธีอื่นไม่ได้
มันเกิดขึ้นได้จริงๆใช่ไหมครับ ที่จเข้าข้อยกเว้นให้ไม่ต้องรับโทษดังกล่าว ?
ปล.ผมก็ไม่รู้นะ เอาฎีกาที่ข้อเท็จจริงเหมือนกัน หรือใกล้เคียงกันมากประกอบได้ แต่ถ้าโดยหลักแล้ว ส่วนตัวผมว่าไม่น่าเข้าข้อยกเว้น มีแต่เข้าข้อ กระทำผิดฐานลักทรัพย์ด้วยเหตุฉกรรจ์ ม.335 แต่อาจเข้าเหตุลดโทษได้ตาม ม.335 วรรคท้าย
ผมใช้คำว่าอาจจะเข้า และลงท้ายว่าแล้วแต่ความเมตตา ใกล้จะถึงก็คือถ้าไม่ได้กิน อาจจะหิว หมดแรง ป่วย ตุย เพราะขาดอาหาร ขาดน้ำตาลหลายวัน คหสต.ผมใช้หลักความเมตตานำ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องใช้พฤติการณ์เป็นองค์ประกอบแห่งความผิด อยากให้มีฏักาเช่นกันครับ ใครสักคนลองไปฟ้องชาวบ้านดูครับ อยากเห็น
หลักความเมตตา คือหลักไหนครับ ปกติ อาญามีแต่หลักตีความตามตัวอักษร องค์ประกอบความผิด เจตนา เจตนาพิเศษ
ส่วนเงื่อนไข ยกเว้นโทษ ลดโทษ มีกำหนดไว้ชัดเจน
หากอยากจะอ้างหลักเมตตาจริงๆ ก็จะต้องมีเหตุตรงตามกฎหมายกำหนดชัดเจน ที่ให้อำนาจใช้ดุลพินิจ เช่น ...จะลงโทษน้อยกว่าที่กำหนดเพียงใดก็ได้ ตามมาตรา 69
แต่ถ้าข้อเท็จจริง ไม่ตรง และไม่เข้าเงื่อนไข จะใช้ดุลยพินิจ(จากหลักเมตตา?)นำข้อเท็จจริงให้เข้าข้อกฎหมายอื่นไม่ได้
ในกรณีนี้ ถ้าไม่กินจะอดตายทันที และไม่มีตัวเลือกอื่น ก็เข้าองค์ประกอบ แต่ที่ท่านบอกว่า อาจจะอดตาย ไม่มีทางเลือก ผมจึงบอกไปว่า มันเข้าเงื่อนไขยาก
ส่วนเงื่อนไขสมควรแก่เหตุ ดูจากรูปส่วนใหญ่แล้วน่าจะเกินสมควรทั้งนั้น เหลือคนที่ทำไปสมควรแก่เหตุ และจะตายจริงๆ ซึ่งก็น่าจะยากอย่างที่ผมบอกไป เลยแทบไม่มีความจำเป็นจะต้องยกมาตรา 67 เลย
ถึงบอกไงว่า การที่กฎหมายกำหนดไว้ว่า ใกล้จะถึง และไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นได้ ในกรณีเช่นนี้ มันทำได้ด้วยหลอ ถึงได้อ้างมา