สืบเนื่องจากเรื่องคุณดารา

ไม่รู้ว่าเพราะอายุมากขึ้นด้วยรึเปล่า แต่เริ่มรู้สึกเห็นเคสแบบนี้เยอะขึ้นนะครับ (คนใกล้ตัวก็มีที่ลงทุน เปิดร้านเยอะจนเป็นหนี้)

คหสต. ผมคือ การลงทุนมีความเสี่ยง เวลาลงทุนแล้วรวย ก็รวยคนเดียว แล้วฉไน เวลามีปัญหา มันมาเดือดร้อนตรูฟระ

ก็เข้าใจแหละว่า หนี้มันเกินตัว แต่...ตราบใดที่ยังมีทรัพย์สิน ก็ต้องหาทางเอาตัวรอดเองก่อนไหม

ไม่รู้ผมดูใจร้ายไปไหม กับความคิดแบบนี้ แต่มันคือปัญหาที่เขาสร้างมาเองเลย

แถมมีประเด็น มีไลฟ์ขายของ ก็เข้าอิหรอบ คนจนช่วยคนรวยอีกละ (หรือดาราแค่ไลฟ์เฉยๆ รึเปล่า ถ้าข้อมูลผิด ขอโทษด้วยครับ)

แล้วรถ บ้าน ของใช้ แต่ละอย่าง แพง ๆ ทั้งนั้นนะ

จะมีอีกเยอะ

เพราะตอนนี้ทุกคนเป็นศิลปินดาราได้ จาก social media platforms

หมดยุครุ่งเรืองของศิลปินดาราแล้ว

แล้วส่วนใหญ่ใช้หน้าตาทำมาหากินซะเป็นส่วนใหญ่

ไม่ได้มีชุดความรู้ในการทำธุรกิจในวันที่งานการแสดงโชว์ต่างๆลดลง

เจ๋งไม่ได้ซะด้วยนะหน้าตาทางสังคม

ผมทำงานแบงค์ด้านสินเชื่อโดยตรง เจอคนแบบนี้เป็นร้อยเป็นพันครับ

บางคนยอมกู้ sme เพื่อเบิก OD ไปซื้อ Benz และก็เจ๊งเพราะแบกดอกเบี้ยไม่ไหว

หรือบางคน ใช้กระเป๋าแบรนด์เนม เสื้อผ้าแบรนด์เนม หรูหรา แต่เป็นเงินกู้ ไม่ใช่เป็นเงินมาจากกำไรของธุรกิจตัวเอง

ช่วงต้นปี ผมไปแก้ไขหนี้ลูกค้าร้านขายอะไหล่รถยนต์ เหตุที่ล้ม คือ ทุกครั้งที่เบิก OD ดันเอาเงินไปเล่นแชร์เช๊ค แล้วสุดท้ายโดนโกง และสุดท้ายธุรกิจตัวเองก็ล้ม เพราะความโลภ

เคสของ นานา ไม่มีความน่าสงสารครับ ผมเห็นเค้าขับรถหรู เสื้อผ้ากระเป๋าอีก

จะบอกว่า นอนด้วยกัน สามีไม่รู้เลยว่า ภรรยาทำธุรกิจแล้วเจ๊งหรือไม่มีเงินหมุนเวียนเลย มันก็อ้างได้ครับ

แต่ คนที่ไปช่วยเค้าซื้อของหรือสงสาร นานา ผมว่าสงสารตัวเองก่อนนะ มีปัญญามีไอเทม บ้านรถเสื้อผ้าแบบเค้ามั้ย ก่อนจะไปช่วยเค้าน่ะครับ

เดือดร้อนเรายังไงถ้าเราไม่ให้นอกจากใจที่รู้สึกรำคาญ แต่กลับกันถ้าเราให้ยืมโดยมีการตกลงผลประโยชน์ที่พอใจแบบนี้เดือดร้อนหรือเปล่า

ภาพลักษณ์ทางสังคม พอคนเราไปอยู่จุดที่คนรอบตัว มีบ้านหลังใหญ่ รถหรูหลายคัน แบรนด์เนม การที่ยอมรับว่าธุรกิจล้มเหลว ต้องขายรถขายบ้าน จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ไหนจะเรื่องลูก ค่าเทอมปีละล้าน สังคมผู้ปกครองลูกอีก

จมไม่ลง จนต้องไปยืมเงินคนอื่น เราไม่เคยรวย ไม่เคยอยู่จุดนั้น ถ้าเราเป็นเขาก็อาจจะทำเหมือนกัน

เคสแบบนี้ มีเยอะจริงๆครับ แต่เคสนี้ เขาเป็นดารา มีชื่อเสียง ผมจึงไม่ค่อยสงสารเท่าไร เพราะเขารู้จักกับคนที่มีเงินก้อนใหญ่เยอะ จึงหยิบยืม ไปเรื่อยๆ จนความแตก คนที่จะต้องมาสงสารเค้าก็คือเพื่อนๆ แก๊งค์เค้า กับเพื่อนๆ ดารา ไฮโซด้วยกันนั่นแหละ ผมว่า ยังไว ก็ผ่านไปได้ มีคนซับพอร์ทเยอะ

ยกตัวอย่าง คุณเชน ธนา ก็คล้ายๆกัน ถ้า ไม่มีคนออกมาแฉ เจ้าตัวก็ยังคงยื้อต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้แก้ไขอะไร

ส่วน เจ้ปู เคสนี้ เค้าออกมาแฉ แต่เจ้าตัวกลับ ออกมาแถไปเรื่อย ก็ไม่รู้จะจบยังไง กับ เจ้าหนี้

เมียยผม ก็ คนหนึ่งครับ ดีที่ขาดทุนไม่เยอะ แต่ไม่ได้ไปยืมเงินคนอื่นนะ ยืมเงินผมนี้แหละ
ห้ามไม่เคยฟัง ด่าเราอีก ..พอสุดท้าย ตัดสินใจ คัท ขาดทุนไปครึ่งหนึ่ง
ดีที่ ก้อนใหญ่ ที่ลงไป 6 หลัก ถอนทุนได้มา ..

แต่ก็นะ เป็นบทเรียน ..ก็จับมือสู้กันไป ..

คนที่รวย ที่เขาใช้เท่าที่เหมาะสมรายได้ตนเอง ก็มีนะครับ แต่แน่นอนว่าอาจจะเป็นคนรวยระดับล่างๆในกลุ่ม

แต่ถ้าพวกนี้แยกแยะออก ยอมให้คนอื่นแซะ แต่ไม่เดือดร้อนใคร เพราะเวลาเป็นหนี้มันก็เรื่องเราคนเดียว ใครจะช่วยใช้หนี้ให้มั้ย ถ้ายึดข้อนี้ไว้ ยอมให้เขาแซะดีกว่า

ปท ส้นตีนนี่ แก้ปัญหาง่ายๆ ก็แค่ หลบหน้าไปเตรียมสคริปต์ 2-3 วัน

ออกมาไลฟ์ ร้องห่มร้องไห้ ผิดไปแล้ว

ปล.พูดถึงภาพรวมการทำผิด หลายๆกรณี

แต่บ้านนี้จากที่ดูรายการมา เวย์มันน่าจะไม่รุ้จริงๆแหละ

เพราะผญ อีโก้ เยอะมากกกกกกกก แต่ละอย่างที่พูดดูไม่ค่อยฉลาดอะเวลาเถียงกัน

เรื่องนี้สังคมได้อะไร แล้วพวกที่ไปช่วยเขาซื้อของอีก

ประเทศนี้แม่งอาการหนักละ

ยังมีลมหายใจอยู่ก็สู้กันไป
บทเรียนสำหรับคนยืมและคนให้ยืม
วันหลังมีใครมายืมก็จำกรณีนี้ละ