เวียร์ตซ์จ่าย 2! 'อินทรี' อย่างโหด 6-0 ถล่มสโลวักไปบอลโลก
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email:
sale@soccersuck.com
โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)
อินทรีเหล็ก เยอรมนี ฟอร์มอย่างโหด เปิดบ้านไล่ถล่มคู่แข่งแย่งแชมป์กลุ่มอย่าง สโลวาเกีย แบบเอาท์คลาส 6-0 การันตีโควตาฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย โดยเกมนี้ บรรดาแนวรุกทีมเบียร์ต่างพากันระเบิดฟอร์มโดดเด่น ลีรอย ซาเน่ ยิง 2 จ่าย 1, แซร์ก นาบรี้ ยิง1 จ่าย 1, นิค โวลเทอมาเดอ กับลูกโหม่งของเชา และ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ จ่ายสวยๆ ให้เพื่อนยิง 2 ประตู ไปจนถึงเหล่าสายเลือดใหม่อย่าง รีดเล่ บากู หรือ อัสซาน อูเอเดราโก้ ที่ลงสนามมาเล่นได้อย่างเนียนตา
เยอรมนี
Starting Formation: 4-2-3-1
15.
นิโก้ ชลอตเตอร์เบค

64'
7
22.
ดาวิด เราม์

72'
8
6.
โยชัว คิมมิช

64'
8
5.
อเล็กซานดาร์ พาฟโลวิช

46'
7
17.
ฟลอเรียน เวียร์ตซ์

77'
9
ตัวสำรอง
13.
เฟลิกซ์ เมช่า

46'
6.5
2.
มาลิค เชา

64'
6
23.
รีดเล่ บากู

64'
7.5
9.
อัสซาน อูเอเดราโก้

77'
7
18.
นาธาเนียล บราวน์

72'
6
ฟุตบอลโลก 2026 คัดเลือกโซนยุโรป กลุ่มเอ
สนาม เร้ด บูลล์ อารีน่า
วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568
กรรมการ ฟรองคอยซ์ เลเตซิเยร์
เยอรมนี
6
0
สโลวาเกีย
1-0 โวลเทอมาเดอ 18'
2-0 นาบรี้ 29'
3-0 ซาเน่ 36'
4-0 ซาเน่ 41'
5-0 บากู 67'
6-0 อูเอเดราโก้ 79'
เกมสุดท้ายของกลุ่มเอ เป็นแมตช์ตัดสินแชมป์กลุ่ม เมื่อเยอรมนี จ่าฝูง จะเล่นในบ้านรับการมาเยือนของสโลวาเกีย บนเงื่อนไขที่พวกเขาจอแค่รอดพ้นจากความปราชัยก็จะการันตีตั๋วไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้ายทันที ขณะที่ทีมเยือน ถ้าชนะไม่ได้ พวกเขาจะการันตีจบอันดับสอง ต้องไปเพลย์ออฟตามหาโควตาต่อไป
ทัพอินทรีเหล็ก จะประมาทสโลวาเกียไม่ได้ เพราะนัดแรกที่เจอกันมา พวกเขาเคยบุกไปปราชัยมาก่อนแล้ว
สโลวาเกียพยายามเล่นเกมรุก
เกมช่วง 10 นาที แรก สโลวาเกีย ชัดเจนว่าพยายามเล่นเกมรุกเพื่อหวังเป็นผู้ชนะของกลุ่ม ขณะที่เยอรมนี เล่นเกมรัดกุม ไล่เพรสสูงไม่เปิดโอกาสให้ทีมเยือนได้ตั้งเกมง่ายๆ
เบียร์เริ่มกดดันทีมเยือนมากขึ้น
เยอรมนี ยกระดับเกมขึ้นมา เริ่มกดดันใส่สโลวาเกียได้มากขึ้นเรื่อยๆ และมีลุ้นจาก เวียร์ตซ์ แต่งบอลหน้าเขตโทษก่อนซัดข้ามคาน
น้องนิคกับลูกโหม่งของเขา เบียร์นำแล้ว 1-0
เยอรมนี โหมบุกหนักและมาได้ประตูขึ้นนำจากทีเด็ดคนดีคนเดิม น้องนิค โวลเทอมาเดอ ได้เทคตัวโขกคนเดียวโล่งๆ หน้าประตู 1-0
เบามันน์ซูเปอร์เซฟ เบียร์รอดหวุดหวิด
เยอรมนี รอดพ้นจกการเล่นประตูหวุดหวิด เมื่อเบามันน์ พุ่งตามไปเซฟลูกยิงจ่อๆ ไม่กี่หลาของ ดูริส ได้ทัน เสียแค่เตะมุม
เบโร่เจ็บต้องเปลี่ยนตัวออก
สโลวาเกีย ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก เมื่อ เบโร่ เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ต้องส่ง ริโก้ ลงมาทำหน้าที่แทน
นาบรี้หลุดเดี่ยวยิงติดดูบราฟก้า
เยอรมนี น่าได้อีกประตูอย่างที่สุดเมื่อ โวลเทอมาเดอ จ่ายให้ นาบรี้ หลุดเดี่ยวยิงติดเซฟดูบราฟก้า
นาบรี้แก้ตัว หลดคราวนี้ 2-0
สกอร์ขยับเป็น 2-0 จาก โกเรตซ์ก้า ไหลบอลตามช่องให้ นาบรี้ หลุดเข้าไปเช็คบิลไม่พลาดแล้ว
ซาเน่ดึงบอลลงพร้อมจบ 3-0
สโลวาเกียยับแล้ว เมื่อโดนเยอรมนียิงขาด 3-0 จาก เวียร์ตซ์ วางยาวข้ามไลน์ให้ ซาเน่ ดึงบอลแรกลงแล้วเล่นต่อได้ทันที หลุดเดี่ยวยิงเล่นทางผ่านมือดูบราฟก้า เข้าไปอย่างยอดเยี่ยม
นาบรี้วอลเล่ย์โล่งๆ วืดทำเสียของ
เยอรมนี พลาดโอกาสได้ลูกที่ 4 น่าเสียดาย เมื่อ นาบรี้ ได้วอลเล่ย์คนเดียวหน้าประตูสโลวาเกีย แต่หวดวืดอดเพิ่มสถิติให้ตัวเอง
ไม่รอดอยู่ดี เวียร์ตซ์จ่ายให้ซาเน่ยิง 4-0
แต่สกอร์ 4-0 ก็ตามมาอยู่ดี จากเวียร์ตซ์ ได้บอลโต้กลับทางซ้าย ก่อนบรรจงจ่ายให้ ซาเน่ ที่ใส่ตีนผีควบตามขึ้นมาทางขวา เข้าฮอสจ่อๆ ที่เสาไกลไม่พลาด
ครึ่งหลัง ทั้งสองทีมมีเปลี่ยนตัว
ทั้งสองทีมทีมการเปลี่ยนแปลงผู้เล่น
เยอรมนีส่ง เมช่า เล่นแทน พาฟโลวิช
สโลวาเกีย ปรับ 2 ตำแหน่ง ซัตก้า กับ ชรันซ์ เล่นแทน ดูด้า และ กียอมเบอร์
เบียร์ครองบอลบุกอยู่ข้างเดียว
เกมยังเป็นของเยอรมนีแทบจะได้บุกอยู่ฝ่ายเดียว
เบียร์เริ่มทยอยพักตัวหลัก
เกมมันขาดแล้ว เยอรมนีครองบอลบุกอยู่ฝ่ายเดียว ก่อนเริ่มทยอยให้ตัวหลักออกไปพัก ให้โอกาสสายเลือดใหม่ได้ลงสะสมประสบการณ์บ้าง
เบียร์โชว์เหนือ บากูยิง 5-0
สกอร์ 5-0 ก็มาจากจังหวะที่แนวรับสโลวาเกียเอาโวลเทอมาเดอและนาบรี้ไม่อยู่ บอลถูกถ่ายออกขวาให้ บากู ตะบันเน้นๆ ปิดงานเป็นคนสุดท้าย
โกเรตซ์ก้าได้ง้างไกเกือบได้อีกลูก
สนุกอยู่ข้างเดีว เยอรมันเกือบได้อีกลูกยิงซิกเนเจอร์ของโกเรตซ์ก้า แต่ดูบราฟก้าก็ยังยอดเยี่ยมพุ่งตามไปปัดทิ้งได้ทัน
อูเอเดราโก้อยู่ในสนาม 2 นาทียิงเลย 6-0
เจ้าหนู อูเอเดราโก้ ลงสนามมาแค่ 2 นาทีก็ยิงให้ทีมได้ทันที 6-0
หมดเวลาการแข่งขัน เยอรมนี ตีตั๋วผ่านเข้ารอบสุดท้ายบอลโลกด้วยฟอร์มสุดโหดถล่มทีมแกร่งอย่างสโลวาเกียไป 6-0
สโลวาเกีย
Starting Formation: 4-3-3
6.
นอร์เบิร์ต กียอมเบอร์

46'
5.5
8.
ออนเดรย์ ดูด้า

46'
6
21.
มาตุส เบโร่

24'
6
15.
ดาวิด สเตรเลช

67'
5.5
20.
ดาวิด ดูริส

67'
5.5
ตัวสำรอง
19.
โทมัส ริโก้

24'
6
11.
โทมัส บอบเชค

67'
6
5.
ลูโบเมียร์ ซัตก้า

46'
6
2.
ปีเตอร์ เพการิค

67'
6
18.
อิวาน ชรันซ์

46'
6.5
404: Not Found
แก้ไขล่าสุดโดย iPanic เมื่อ Tue Nov 18, 2025 05:15, ทั้งหมด 13 ครั้ง
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ