ตัวอย่างสมมติสินค้า 1ชิ้น ซื้อขายเป็นทอดๆจนไปส่งออก

| บริษัท | ขาย | vat ขาย | vat ซื้อ |
| :--- | ----: | ------: | ------: |
| **A** | 100 | 7 | - |
| **B** | 150 | 10.5 | 7 |
| **C** | 200 | 14 | 10.5 |
| **บ.ส่งออก** | - | - | 14 |


vat ขาย กับ vat ซื้อ มันน่าจะเจ๊ากันพอดี มีใครคิดออกไหมคับ[/imgl]

https://www.facebook.com/share/p/1GbWbMWfAp/

สั้นๆเลย คือไม่ได้ยื่น VAT ทั้งหมด จริงบ้างหลอกบ้าง แต่ขอคืนทั้งหมดจริง

ตามนี้เลยครับ ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจอยู่ดี

https://www.facebook.com/photo/?fbid=1434255675373230&set=a.620491406749665

สรุปง่ายๆ คือ A ปลอมใบกำกับภาษีขาย หลังจากนั้นซื้อขายออกเอกสารกันจริงต่อไปจนถึง D แต่สรรพากรตรวจการขอคืนย้อนหลังไม่ถึง A

สรุปคือ A จะทำหน้าที่เป็นคนผิดเต็มๆ
B C เอาไว้ปั่นราคา
D เอาไว้ขอคืน vat ซื้อ

แบบนี้ถูกไหมครับ

ืื
ฺ
ฺ

ขอคืนเป็นเงินสดหรอ อาจจะโดนตรวจยับ

ปกติจะยกไปเป็นเครดิตภาษี

A เป็นบริษัทออกใบกำกับภาษีขายปลอม ไม่ได้เสียให้สรรพากรจริง = 21 บาท (ย้ำว่าตัวเลขปลอม)
B เอาใบกำกับปลอมมาเข้าระบบหักลบภาษีซื้อขายตามปกติ พอหักลบแล้วส่งต้องสรรพากร = 14 บาท
C เหมือน B พอหักลบแล้วส่งต้องสรรพากร = 7 บาท
D คือบริษัทส่งออก แต่ policy การส่งออกของไทยคือไม่เสียภาษีขาย ทำให้ D สามารถ claim ภาษีที่เสียให้ C ก่อนหน้านี้ได้ทั้งหมด 42 บาท

ลองคิดว่า 4 บริษัทนี้เป็นเครือเดียวกัน จะเห็นว่าได้ส่วนต่าง 21 บาทมาจากตัวเลขปลอมของบริษัท A

ปล1. ถ้าทุกอย่างเป็นตัวเลขจริงทั้งหมดมันจะ settle กันโดยไม่มีส่วนต่าง

ปล2. D ขอคืนเป็นเงินสดหรือ cheque เพราะ D ไม่มีภาษีขายให้ offset เลยไม่มีเครดิตภาษี

ใครเซียนภาษี ช่วยตอบที แนวคิดนี้ มันน่าจะดำใช่ไหม
แต่ถือว่าฉลาดเลยป่าวครับ แบบนี้ หรือว่ามันไม่ได้คิดยากอยู่แล้ว

สำหรับผม คือ คิดไม่ถึงจริงๆ (หรือกูไม่เซียนเองวะ)

สำหรับผมคือแค่สรรพากรตรวจสอบไม่ถึงบริษัทต้นทางที่ออกใบกำกับภาษีปลอมครับ คือก่อนหน้านี้ตรวจแค่เอกสารถูกต้อง ตัวเลขหักลบกันมีที่มาที่ไปปกติ

แล้วที่เจอรอบนี้ก็อาจจะไม่ได้เจอในแง่เอกสารด้วยนะ คืออาจจะสุ่มตรวจบริษัทแล้วเจอว่าสินค้าไม่มีการเคลื่อนไหวเลยตรวจสอบไปที่บริษัทที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกเลยเจอ

ดำ เพราะมันเริ่มที่ปลอม Vat
ฉ้อโกง ปลอมแปลง
ก็ต้องดูว่าทำเป็นกระบวนการมั้ย ก็ไล่ไป B,C รู้เห็นมั้ย ถ้าตั้งใจเอา Vat ปลอมมาใช้ ก็เรียบร้อย

อันนี้ น่าจะตรวจย้อนไปจนเจอ เพราะเวลาขอคืรภาษีต้องโดนเรียกตรวจเยอะ ละเอียดอยู่แล้ว
คราวนี้ ถ้าบ.มันใหญ่ มีหลายsuplier กว่าจะย้อนไปเจอ A มันก็นาน มีสิทธิ์หลุดได้

ไอ้รัฐเสียหายก็ไอ้บ.A มันไม่ได้จ่ายVat แต่มีใบออกมาให้บ.อื่นๆใช้หัก Vat รัฐไปเสียเงินตอนท้ายที่เป็นบ.ส่งออก เรียกคืน Vat ส่วนที่ไม้ได้จ่ายให้รัฐจริง

ดำ จริงๆมันไม่ซับซ้อนหรอก

คือ A ออกใบกำกับภาษีปลอมแค่นั้นเลย แต่มันขายต่อไปหลายทอด B C D E F G แบบออกใบกำกับภาษีจริง จ่ายภาษีจริง เพื่อให้สรรพากรตรวจสอบย้อนมาไม่ถึงบริษัท A

ปล. แต่ยังไงบริษัท B ก็ต้องยื่นงบของตัวเอง ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ตอนตรวจสอบบริษัท B ทำไมถึงไม่พบความผิดปกติว่าใช้ใบกำกับภาษีปลอม

ดำเต็มๆ ครับ ไม่ใช่เทาๆ หรือเลี่ยงภาษี
คือทำมาเพื่อหลอกเอาเงินสรรพากรตรงๆ บริษัทปลอม ซื้อขายทิพย์ ไม่มีสินค้า ออกใบกำกับภาษีปลอม

ถามว่าแนวคิดนี้ยากไหม ไม่ยากหรอก คนทำภาษี บัญชี มองเห็นแนวคิดนี้ได้ แต่เขาไม่ทำกัน เพราะมันคือโกงแบบผิดกฎหมายเต็มๆ แบบดำสนิทเลย

แนวคิดไม่ยาก แต่เวลาทำจริงๆ มันไม่ได้ทำง่ายขนาดนั้น มันซับซ้อนมากกว่านั้น
บางทีเปิดมาหลายบริษัท มีการขายไปขายมา ออกใบกำกับภาษีปลอมปะปนกัน อาจจะมีขายจริงด้วยผสมไป
ระหว่างทางก็มีการส่ง vat จริงด้วยผสมกัน กับไม่ส่ง vat
และบางทีอาจจะมีปิดบริษัท เปิดใหม่ก็มี
ไอ้ที่เขาสรุปมาให้ คือทำให้เห็นภาพง่ายๆ แต่ความจริง ในกระบวนการมีมากกว่า a b c d e f เยอะ
สรรพากรเลยไม่ได้ตรวจเจอง่ายๆ เสมอไป

A-B-C-บ.ส่งออกเป็นบริษัทเครือญาติกัน

A ได้คืน จาก B
B ได้คืน จาก C
C ได้คืนจาก บ.ส่งออก

บ.ส่งออกแจ้งขอคืนที่จ่ายให้C จากสรรพากร

ทำไมถึงกำไร เพราะราคาสุดท้าย ที่บริษัทส่งออกขอคืนคือราคามันอัพจาก 100 ไป 1000x7% แล้ว