ก็พวกมันทำกันเอง มีเอี่ยวอยู่แล้วตัวบนๆ

ผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งนักการเมือง ข้าราชการ ตำรวจ
แทบไม่มีใคคtake action จริงจังแบบฝ่ายส้ม แม้แต่เพื่อไทยก็เงียบ

ดูสภาพนักการเมือง กับ ตำรวจ สิครับ
มันมีผลประโยชน์มหาศาล ยาวนาน คนเกี่ยวข้องมาก
มันไม่มีใครลากออกมาตบกลางเเจ้งได้หรอกครับ โดนกันหมด
มันได้เเค่พูด ทำเเบบเสียไปที จับตัวเล็กตัวน้อย
เเล้วก็กลับไปเเบบเดิมครับ รอกระเเสเงียบ
พวกนี้มันถึงหัวเด็ดตีนขาดยังไง ก็ไม่ให้ฝั่งตรงข้ามที่คุยตกลงไม่ได้ ขึ้นมามีอำนาจครับ
รักษาผลประโยชน์ตัวเองล้วนๆ

ผลประโยชน์มหาศาล

ธุรกิจสีเทา ดำ ไทยไม่เคยปราบปรามอย่างจริงจัง หรือทำได้แค่ชั่วคราวเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นครับ

ผมว่าก็บนสุดของห่วงโซ่อาหาร และมีมานาน ตั้งแต่ปลายยุคพ่อ

1. คนที่อยากจัดการ ทำไม่ได้ไม่มีพลังพอ
2. คนที่มีพลังพอ ไม่อยากจัดการ ทำแล้วจะได้อะไร
3. ก็ฉันนี่ล่ะประธานบริษัท

ยังต้องใช้เงิน เลือกตั้งใหญ่ใกล้เข้ามา ไม่กล้าแตะอู่ข้าวอู่น้ำ ปกติใกล้เลือกตั้งใหญ่มันจะมีข่าวป่าแหว่ง พวกแอบตัดไม้ทางภาคเหนือและแถวๆตะวันตกของไทย

ก ร ะ จ อ ก แค่นั้นแหล่ะ

เงินตรงเข้าบัญชี ผบตร. ด.ตำรวจตัวถือเงินโอนชิ่งไปแล้ว หลักฐานที่ดูที่สื่อให้ดูคร่าวๆ คือโอนตรงเลยนะ ยังไม่ทำไรเลย 555555+ แล้วตาสีตาสาใครจะไปปราบให้ ถ้าคนใหญ๋สุดยังมีผลประโยชน์ยิงตรง

ไทย เคยจริงจังด้วยหรอ

ขอแค่มีเงินก็จบ และก็วนเวียนอยู่แบบนี้ตลอด

ถึงได้ตามหลังประเทศอื่น ๆ ไปอีกเยอะ


คนทั่ว ๆ ไป ก็ใช้ชีวิตระมัดระวังกันต่อไป

ผมก็คิดอยู่นะว่า ถ้านายกเป็นคุณเท้ง ผลลัพธ์มันจะต่างออกไปไหม
มันเป็นที่รากความเป็นไทยหรือไม่ แล้วเราสามารถเปลี่ยนมันได้แบบผลิกฝ่ามือหรือเปล่า

ปราบก็เสียรายได้สิ

เอาจริงๆผมว่า ปปง หรือ หน่วยงานพวกตำรวจไซเบอร์มีความสามารถในการตรวจสอบเส้นเงินง่ายๆอยู่แล้วแหละ

ที่ไม่มีใครกล้าออกมาพูดอะไร ก็เพราะเส้นเงินนั้นดันไปถึงตอที่ทำให้พูดอะไรไม่ได้

และผมก็เชื่อว่าส้มรู้แล้วว่าเส้นเงินนั้นไปถึงไหน ไม่งั้นไม่เปิดขนาดนี้หรอก

ผมว่าตอที่ว่านั้น มันแรงถึงขนาดทำให้รังสิมันต์ โรม ยังไม่กล้าพูดอ่ะ

จัดสักทีเหอะะะ

แล้วก็หายเงียบไปเหมือนฝุ่นละอองเมื่อฝนใหญ่มา