ย้ายไปปีแรกเป็นไงบ้างครับ ตึงขนาดไหน แล้วมาปรับตัวได้เมื่อไหร่ครับ

เล่า ปสก ที

นอกจาก coding อยากให้ศึกษาสิ่งที่อยู่เบื้องหลังพวก Algorithm, Object Oriented, Data Structure, Programming Langunage, Computer Architecture

หรือแม้แต่ SQL/Database Design (ถ้าจะไปทำ backend แต่จริงๆ front ก็ควรรู้เหมือนกัน เพราะ data model พวก entity มันก็มีหลักของ pk, fk เหมือนกันหรือการเขียน linq ก็ต้องเข้าใจ SQL ดั้งเดิมก่อน)

พวกนี้คือสิ่งที่คนเรียน Com-Sci, Com-Eng เรียนกันเยอะกว่า Coding อีก
ตอนผมเรียน ได้เรียนวิชา Programming แบบสอน Syntax กันเลยแค่ 2 วิชาตลอด 4 ปี
จากนั้นอ.แต่ละคนสั่งแบบคาดหวังว่า "มึงเขียนโค้ดเป็นแล้วทุกภาษา" กันหมด บางคนสั่งให้เขียน Java ส่ง บางคนสั่งให้เขียน .NET แล้วไอ้ที่เรียนมา 2 ตัวน่ะ เรียน C++
ส่วน front นี่ไม่มีสอนเลย CSS, JS ทั้งหลายคือไปดำน้ำกันเอง แต่ดำน้ำแบบเข้าใจหลักการแล้วนะว่าภาษา strong type/weak type คืออะไร ต่างกันยังไง

มันจะมีผลทำให้คุณยืดหยุ่นมากขึ้น จะเปลี่ยน Tools, เปลี่ยนภาษาเป็นอะไรก็ได้ เพราะพื้นฐานมันติดตัวมาแล้ว
ภาษาเป็นแค่เครื่องมือในการทำงานเฉยๆ ถ้าเจอภาษาใหม่ก็แค่ไปนั่งศึกษา Syntax นิดหน่อยแล้วไปต่อได้เลย

อีกอันก็คือ อย่ามุ่งแต่จะเขียนโค้ด แบ่งเวลามาศึกษา business ด้วยจะดีมากครับ
บางที BA/SA ทำ spec มาแบบภาษา business เยอะจะได้อ่านเข้าใจ
(อีกมุมนึงก็คือ BA/SA ไม่ได้มีหน้าที่จะต้องลงรายละเอียดขนาด pseudo code ทุกขั้นตอนให้เรา ดังนั้นการรู้ business แล้วอ่านภาษา business เข้าใจ และแปลมาเป็นโค้ดได้ก็จะทำให้เราทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพขึ้น)

ป.ล. ส่วนตัวผม ถ้าใครเข้าทีมมาบอกว่าเป็น dev ผมจะคาดหวังจากเขามากกว่าการเขียนโค้ดครับ
ถ้าเขียนโค้ดตาม spec ล้วนๆ โดยไม่เอ๊ะอ๊ะอะไรเลยเวลาเจอ spec ผิด หรือมองล่วงหน้าไม่ออกว่า impact อะไรบ้าง ผมเรียกว่า programmer/coder
dev สำหรับผมต้องรู้กว้างและครอบคลุมกว่านั้น จับผิด spec ของ BA/SA ในเชิง business ได้
เอ๊ะอ๊ะได้ว่า BA/SA สั่งแก้ตรงนี้มาจะมี impact กับอะไร (ทั้ง technical/business) ของโปรเจคนั้นได้

ตามครับ กำลังคิดจะย้ายไปเหมือนกันหรือใครมีคำแนะนำอะไร สามารถแชร์ได้เลยครับ ขอบคุณครับ

ย้ายจากอะไรมา dev ละ

ผมคับ
จากผู้จัดการฝ่ายผลิต
มาเป็นนักพัฒนา Ai

สนุกดี แต่หลักๆไม่เครียดเท่าตอนเป็นผู้จัดการฝ่ายผลิต
ที่ลูกน้องเยอะๆคับ

นอกจาก coding อยากให้ศึกษาสิ่งที่อยู่เบื้องหลังพวก Algorithm, Object Oriented, Data Structure, Programming Langunage, Computer Architecture

หรือแม้แต่ SQL/Database Design (ถ้าจะไปทำ backend แต่จริงๆ front ก็ควรรู้เหมือนกัน เพราะ data model พวก entity มันก็มีหลักของ pk, fk เหมือนกันหรือการเขียน linq ก็ต้องเข้าใจ SQL ดั้งเดิมก่อน)

พวกนี้คือสิ่งที่คนเรียน Com-Sci, Com-Eng เรียนกันเยอะกว่า Coding อีก
ตอนผมเรียน ได้เรียนวิชา Programming แบบสอน Syntax กันเลยแค่ 2 วิชาตลอด 4 ปี
จากนั้นอ.แต่ละคนสั่งแบบคาดหวังว่า "มึงเขียนโค้ดเป็นแล้วทุกภาษา" กันหมด บางคนสั่งให้เขียน Java ส่ง บางคนสั่งให้เขียน .NET แล้วไอ้ที่เรียนมา 2 ตัวน่ะ เรียน C++
ส่วน front นี่ไม่มีสอนเลย CSS, JS ทั้งหลายคือไปดำน้ำกันเอง แต่ดำน้ำแบบเข้าใจหลักการแล้วนะว่าภาษา strong type/weak type คืออะไร ต่างกันยังไง

มันจะมีผลทำให้คุณยืดหยุ่นมากขึ้น จะเปลี่ยน Tools, เปลี่ยนภาษาเป็นอะไรก็ได้ เพราะพื้นฐานมันติดตัวมาแล้ว
ภาษาเป็นแค่เครื่องมือในการทำงานเฉยๆ ถ้าเจอภาษาใหม่ก็แค่ไปนั่งศึกษา Syntax นิดหน่อยแล้วไปต่อได้เลย

อีกอันก็คือ อย่ามุ่งแต่จะเขียนโค้ด แบ่งเวลามาศึกษา business ด้วยจะดีมากครับ
บางที BA/SA ทำ spec มาแบบภาษา business เยอะจะได้อ่านเข้าใจ
(อีกมุมนึงก็คือ BA/SA ไม่ได้มีหน้าที่จะต้องลงรายละเอียดขนาด pseudo code ทุกขั้นตอนให้เรา ดังนั้นการรู้ business แล้วอ่านภาษา business เข้าใจ และแปลมาเป็นโค้ดได้ก็จะทำให้เราทำงานได้ง่ายและมีประสิทธิภาพขึ้น)

ป.ล. ส่วนตัวผม ถ้าใครเข้าทีมมาบอกว่าเป็น dev ผมจะคาดหวังจากเขามากกว่าการเขียนโค้ดครับ
ถ้าเขียนโค้ดตาม spec ล้วนๆ โดยไม่เอ๊ะอ๊ะอะไรเลยเวลาเจอ spec ผิด หรือมองล่วงหน้าไม่ออกว่า impact อะไรบ้าง ผมเรียกว่า programmer/coder
dev สำหรับผมต้องรู้กว้างและครอบคลุมกว่านั้น จับผิด spec ของ BA/SA ในเชิง business ได้
เอ๊ะอ๊ะได้ว่า BA/SA สั่งแก้ตรงนี้มาจะมี impact กับอะไร (ทั้ง technical/business) ของโปรเจคนั้นได้