https://theqoo.net/square/3972335644
https://pantip.com/topic/43827581
ลิ้งต้นฉบับภาษาเกาหลี กับ กระทู้ที่มีคนแปลมาครับ ยาวมากครับ ผมเอามาแปะบางส่วน
ศาลตัดสินจากเนื้อหาในแชท KakaoTalk ที่ศาลยอมรับว่าสามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานได้
เริ่มจากศาลอธิบายว่า
ขั้นตอนการตรวจสอบและปลด มินฮีจิน ออกจากตำแหน่ง
(1) NewJeans อ้างว่า “ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม 2024 บิดามารดาของ NewJeans ได้ส่งอีเมลถึงมินฮีจิน เพื่อขอให้แก้ไขปัญหาการลอกเลียนแบบของ ILLIT และเมื่อมินฮีจินได้ส่งอีเมลถึง HYBE เมื่อวันที่ 3 เมษายน และ 16 เมษายน 2024 เพื่อเรียกร้องให้ HYBE แก้ไขการกระทำที่ไม่เป็นธรรมต่อ NewJeans แล้วนั้น ทาง HYBE ได้เริ่มการตรวจสอบมินฮีจิน ในลักษณะตอบโต้ (การตรวจสอบเชิงแก้แค้น) เพียงห้าวันก่อนการคัมแบ็คของ NewJeans และต่อมาได้เปลี่ยนแปลงคณะกรรมการของ ADOR”
(2) อย่างไรก็ดี จากเนื้อหาการสนทนาที่ปรากฏในหลักฐานหมายเลข กบ. 21, 22, 288, 289 แสดงให้เห็นว่า มินฮีจินมีความตั้งใจจะทำให้ ADOR (ซึ่งมี NewJeans รวมอยู่ด้วย) แยกตัวออกจาก HYBE
โดยได้มีการเตรียมการล่วงหน้าในลักษณะสงครามความคิดเห็น, การร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการดำเนินคดีทางกฎหมาย
ทั้งนี้ มินฮีจินได้วางแผนให้บิดามารดาของ NewJeans (มินจี, ฮันนิ, ดาเนียล, แฮริน, ฮเยอิน) ออกหน้าแทนตนเอง เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่า HYBE ปฏิบัติต่อ NewJeans อย่างไม่เป็นธรรม
พร้อมกันนั้น มินฮีจิน ยังได้พยายามติดต่อหานักลงทุนที่อาจเข้ามาซื้อกิจการ ADOR อีกด้วย
การกระทำดังกล่าวของ มินฮีจิน ไม่อาจตีความได้ว่าเป็นการกระทำเพื่อปกป้อง NewJeans จากการไม่ปฏิบัติตามสัญญาโดย ADOR ตามที่ NewJeans อ้าง
เนื่องจากจากบทสนทนาระหว่าง มินฮีจิน กับ รองประธาน และผู้อื่น ไม่มีข้อความใดที่แสดงถึงเจตนาเพื่อคุ้มครอง NewJeans แต่กลับแสดงให้เห็นว่า มินฮีจินมีเจตนาที่จะทำให้ ADOR เป็นอิสระจาก HYBE หรือแม้กระทั่งนำ NewJeans ออกจากADOR และ HYBE เพื่อดำเนินการอย่างอิสระด้วยตนเอง
เมื่อพิจารณาข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว การที่ ADOR และ HYBE ได้ดำเนินการตรวจสอบมินฮีจินจึงมิได้มีสาเหตุมาจากการที่ มินฮีจินได้ส่งอีเมลท้วงติงต่อ HYBE เมื่อวันที่ 3 และ 16 เมษายน 2024 แต่อย่างใด แต่เกิดจากแผนการดังกล่าวของมินฮีจินเอง
ดังนั้น จึงไม่อาจถือได้ว่า ADOR) และ HYBE ได้ดำเนินการตรวจสอบมินฮีจินอย่างไม่เป็นธรรม การอ้างของ NewJeans ในส่วนนี้จึงฟังไม่ขึ้น
รองประธาน ได้รับการว่าจ้างโดยมินฮีจิน ให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรองประธานของ ADOR และตั้งแต่ราวเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ได้มีข้อความสนทนาในห้องแชท KakaoTalk ว่า “ทำให้พวกนั้น (HYBE) ลำบาก แล้วเราจะได้อิสรภาพ นั่นคือแผนของผมใน ADOR”
ซึ่งมินฮีจินได้ตอบกลับว่า “นั่นก็ดีนะ” แสดงถึงการเห็นพ้องร่วมกัน
วันที่ 29 มีนาคม 2024
มินฮีจินได้กล่าวกับคิมเยมินและรองประธานว่า
“ส่งหนังสือออกไปเถอะ ที่นั่นอย่าพูดถึงสื่อใดๆ ส่วนเราจะเตรียมการทำสงครามความคิดเห็น และจากนั้นในวันจันทร์ที่ 8 หรือ 9 ของสัปดาห์ถัดไปน่าจะมีการติดต่อกลับมา แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะพยายามเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง และคงจะไม่ยอมเงียบหรือยอมรับแน่ๆ ดังนั้นตอนนั้นเราจะดำเนินทั้งการรณรงค์ทางความคิดเห็นและการฟ้องร้องไปพร้อมกัน ส่งคำตอบไปก่อน แล้วพอได้รับคำตอบกลับมาก็จะเปิดเผย (เรื่องทั้งหมด) หลังวันที่ 11 — เพื่อให้ลำดับเวลาดูสอดคล้องกัน”
โดยคำพูดดังกล่าวแสดงถึงเจตนาที่จะเร่งให้การเริ่มต้นของข้อพิพาทกับ HYBE เกิดขึ้นเร็วกว่าที่วางแผนไว้
วันที่ 30 มีนาคม 2024
มินฮีจิน กล่าวกับกรรมการภายใน 3 คนของ ADOR ว่า
“ฉันไม่ควรเป็นคนยื่นคัดค้าน ให้แม่ๆที่เป็นฝ่ายที่อิสระเคลื่อนไหวแทน”
ซึ่งเป็นการตกลงกันว่าจะให้บิดามารดาของ NewJeans เป็นผู้ยื่นข้อคัดค้านโดยตรงต่อ HYBE และต่อมาในวันที่ 3 เมษายน 2024 ได้ส่งอีเมลถึง HYBE โดยแนบข้อเรียกร้องของบิดามารดาของ NewJeans ซึ่งร้องเรียนเกี่ยวกับการลอกเลียนผลงานของ ILLIT เพื่อสื่อสารข้อกล่าวหาดังกล่าวไปยัง HYBE
-
ต่อมา วันที่ 8 เมษายน 2024
มินฮีจินได้ตรวจร่างจดหมายที่คิมเยมินจัดทำขึ้นเพื่อเตรียมส่งถึง HYBE แล้วกล่าวว่า
“ควรเขียนให้ชัดว่า NewJeans เป็นของ ***’ สิ ถ้าเขียนแค่ ‘*** มันไม่ชัด ประธานควรเป็น NewJeans ถึงจะดูเป็นจดหมายที่พูดในนามของศิลปินได้ จุดโฟกัสมันผิดนะ หัวข้อไม่ได้อยู่ที่ ‘ผลเสียของระบบหลายค่าย’ เราจะพูดเรื่องนั้นไปทำไม... ต้องไปในทิศทางของ ‘การขัดขวางการทำงานของ NewJeans’ และ ‘การขัดขวางทางธุรกิจ’ ฉันพูดเรื่องนี้ซ้ำแล้วตั้งแต่เมื่อวานว่าต้องจับประเด็นหลักซักหนึ่งหรือสองเรื่องเพื่อใช้ฟ้อง ส่วนเรื่องอื่นๆปล่อยให้เป็นส่วนของสงครามความคิดเห็น”
คำพูดดังกล่าวสะท้อนว่า มินฮีจินได้เตรียมการดำเนิน “สงครามความคิดเห็น” โดยมุ่งเน้นการสร้างภาพว่า HYBE ขัดขวางการทำงานของ NewJeans และในเวลาเดียวกันก็เตรียมการฟ้องร้องทางกฎหมายควบคู่ไปด้วย
-
วันที่ 16 เมษายน 2024
มินฮีจินกล่าวกับคิมเยมินและรองประธาน และทนายความของ ADOR เกี่ยวกับอีเมลที่ได้รับจากฝ่าย HYBE) ว่า
“คราวนี้ให้แม่ๆ (ของ NewJeans) เป็นคนส่งอีเมลตอบกลับโดยตรงถึง HYBE ดีไหม ฉันคิดว่าการตอบสนองด้วยข้อมูลเอกสารหรือหลักฐานพวกนั้นมันเปลืองแรงเปล่า ควรเตรียมเข้าสู่สงครามความคิดเห็นเลยจะเหมาะกว่า ระหว่างที่แม่ๆพูดคุยโดยตรงกับ HYBE ก็อาจจะเกิดประเด็นโจมตีใหม่ๆได้อีก”
จากนั้น มินฮีจินได้แชร์ลงในห้องแชท KakaoTalk ถึงเนื้อหาอีเมลที่ตนส่งถึง HYBE ซึ่งระบุว่า
“ฉันคือ มินฮีจิน เนื่องจากในอีเมลนี้มีบางส่วนที่เป็นจุดยืนของ ADOR ซึ่งไม่ได้แชร์กับผู้ปกครอง จึงไม่ได้ใส่ท่านไว้ในรายชื่อสำเนา แต่เมื่อพิจารณาตามความเห็นของคุณ พัคจีวอน (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ HYBE ในขณะนั้น) แล้วเห็นว่าควรมีการแชร์อีเมลนี้ให้กับทุกท่าน ฉันจึงจะส่งต่อให้บรรดาผู้ปกครองทั้งหมด และจะนัดหมายวันประชุมต่อไป”
จากนั้น มินฮีจินกล่าวเพิ่มเติมในห้องแชทว่า
“ตอนนี้ฉันตอบไปแบบนี้แล้ว ต่อไปให้แม่ๆของแต่ละคนตอบกลับไปเอง โดยบอกว่าไม่อยากเจอหรือนัดพบแบบนั้น ภาพลักษณ์แบบนี้จะดูดีกว่า”
ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า มินฮีจินได้เสนอแนวทางว่าจะใช้บิดามารดาของ NewJeans ในลักษณะใด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการข้อพิพาทระหว่าง ADOR กับ HYBE
ต่อจากการสนทนาข้างต้น มินฮีจินได้แชร์ร่างจดหมายที่มารดาบางคนของ NewJeans จัดทำขึ้นเพื่อส่งถึง HYBE ลงในห้องสนทนา KakaoTalk ของฝ่ายตน จากนั้นได้ร่วมกันพิจารณาว่าจะปรับแก้เนื้อหาจดหมายอย่างไร จะใส่เรื่องการดำเนินคดีไว้ด้วยหรือไม่ ฯลฯ (อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจดหมายฉบับดังกล่าวได้ถูกส่งออกไปยัง HYBE ตามร่างเดิม)
-
ในวันที่ 17 เมษายน 2024
มินฮีจินได้แชร์ร่างจดหมายคัดค้านที่ต้องการส่งถึง คิมแทโฮ ตัวแทนกรรมการผู้จัดการบริษัท BELIFT LAB ให้แก่รองประธาน พร้อมกล่าวว่า
“ลองแก้สำนวนให้เป็นสำนวนของคนอื่นหน่อย … อาจเขียนให้เหมือนเป็นสำนวนของผู้ชายวัยกลางคนก็ได้ เช่น ให้ความรู้สึกว่าเป็น ‘พ่อ’ ของ ○○ (หนึ่งใน NewJeans) … อาจเขียนให้เป็นสำเนียงตักเตือนหรือคำดุด่าได้ ไม่ต้องให้มีน้ำเสียงผู้หญิงในจดหมาย ตอนต้นจดหมายให้เขียนแบบก้าวร้าวขึ้น ทำให้เห็นว่าจดหมายของคิมแทโฮทำให้ความโกรธเพิ่มมากขึ้นและทำให้ HYBE ตระหนักถึงท่าทีที่ชัดเจน เขียนประโยคแรกให้แรงๆว่า ‘ถ้าเรายังนิ่งเฉย แล้วจะมีอะไรรับประกันได้ว่าครั้งหน้าคุณจะไม่ลอกเลียนอีกเหรอ’ ทำไมต้องให้พ่อแม่มาพูดเรื่องนี้ด้วย ฯลฯ ทำให้มีน้ำเสียงทั้งตำหนิและดุด่าหน่อย”
โดยคำพูดดังกล่าวชี้นำให้จัดรูปแบบจดหมายในลักษณะที่ทำให้ปรากฏเสมือนพ่อของ NewJeans คนหนึ่งเป็นผู้ร้องเรียนต่อ BELIFT LAB โดยตรงเกี่ยวกับข้อโต้แย้งเรื่องการลอกเลียนผลงานของ ILLIT
วันที่ 20 เมษายน 2024 มินฮีจินได้กล่าวกับคิมเยมินและรองประธาน
① เกี่ยวกับการ “ผลักดันอัลบั้ม” มินฮีจินได้กล่าวว่า
“ช่วยจัดทำรายการหัวข้อที่เราจะสามารถส่งสัญญาณให้คณะกรรมการการค้าที่ยุติธรรมดำเนินการตรวจสอบได้หน่อย ว่าควรตรวจสอบเรื่องอะไรบ้าง ตรวจจากจุดใดเป็นอันดับแรก เราต้องให้แนวทางเขาบ้าง ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องตรวจอะไรบ้าง ให้จัดทำรายการหัวข้อที่จะให้สืบสวน เช่น สำหรับการสืบสวนการผลักดันให้ตรวจอะไรบ้าง เริ่มจากตรงไหน ต้องบอกแนวทาง เพราะการผลักดันนั้นต้องเข้าใจสถานการณ์ภายใน เราต้องชี้จุดให้เขา ให้กำหนดหัวข้อสืบสวน ทั้งจนถึงจุดที่อาจใช้เป็นข้ออ้างได้ด้วย หากมีการอ้างแบบใดก็ให้ขุดประเด็นนั้นต่อ จนไปถึงขนาดนั้นเลย
โดยถ้อยคำดังกล่าว ปรากฏว่ามินฮีจินได้มีการเตรียมการล่วงหน้าเพื่อให้มีการร้องเรียนต่อคณะกรรมการการค้าที่ยุติธรรมเกี่ยวกับการกระทำของ HYBE และเพื่อให้สามารถแจ้งต่อคณะกรรมการฯ ได้ว่า “ควรตรวจสอบในประเด็นใด” เมื่อมีการสอบสวนเกิดขึ้นจริง
② ทันทีหลังการสนทนาดังกล่าว มินฮีจินกล่าวเพิ่มเติมว่า
“เมื่อวานฉันไม่ได้บอกหรอ? แผนนี้ฉันคุยไว้เฉพาะกับพวกแม่ๆแล้ว ยังไม่ได้บอกคนอื่น เดี๋ยวฉันจะแคปภาพหน้าจอให้ดู การร้องเรียนต่อคณะกรรมการการค้าที่ยุติธรรม ให้พวกแม่ๆเป็นคนร้องจะเหมาะกว่า เพราะถ้าบริษัทลูกเป็นคนร้องเองมันดูไม่เหมาะ … พวกแม่ๆจะตอบโต้ได้ดีกว่า เพราะเราได้รับอีเมลภายในทั้งหมดแล้ว การที่แม่ๆเป็นผู้ร้องจะช่วยแสดงความบริสุทธิ์ด้วย หากบริษัทลูกเป็นผู้ร้องเอง อาจเกิดปัญหา เช่นถูกกล่าวหาว่าเป็นการกระทำที่เป็นการเอาเปรียบหรือมีข้อพิพาทอื่นๆตามมาได้”
จากคำพูดนี้ แสดงให้เห็นว่า มินฮีจินได้วางแผนให้มารดาของ NewJeans เป็นผู้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการค้าที่ยุติธรรมแทนบริษัทลูก (ADOR) เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
③ ในการสนทนาเดียวกัน มินฮีจินยังได้กล่าวว่า
“เรื่องทั้งหมดนี้เป็นกลยุทธ์ คณะกรรมการการค้าที่ยุติธรรมเองก็อาจมองว่าประเด็นนี้คลุมเครือ เราไม่ได้ต้องการให้มีการแก้ไขอะไรจริงจัง เข้าใจที่ฉันหมายถึงไหม? เป้าหมายหลักของเราคือการ‘เปลี่ยนแปลง HYBE’เหรอ? การปรับปรุง HYBE น่ะเป็นแค่ผลพลอยได้ ส่วนเรื่องลงโทษหรือแก้ไขจริงๆน่ะ เราไม่ได้สนใจเลย... เป้าหมายจริงๆของเราคือการเผยแพร่เรื่องนี้ต่อสาธารณชน เราสามารถใช้เรื่องนี้ชะลอการประกาศได้ด้วยนะ อย่างเช่น ให้พวกแม่ๆเป็นคนยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการ ไม่ใช่แค่ยื่นแล้วรอ แต่ยื่นเสร็จแล้วประกาศเลย ว่าได้ยื่นเรื่องแล้ว แบบนั้นคณะกรรมการจะอยู่นิ่งได้ยังไง ในเมื่อมีการเปิดเผยจากภายในออกมาแล้ว”
จากคำพูดคำดังกล่าว มินฮีจินได้ย้ำต่อรองประธาน ซึ่งเห็นว่าการร้องเรียนต่อคณะกรรมการการค้าที่ยุติธรรมควรทำด้วยความระมัดระวังว่า การร้องเรียนมิได้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้คณะกรรมการฯ ดำเนินการแก้ไขการกระทำของ HYBE แต่เพื่อให้การกระทำดังกล่าวของ HYBE ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน
คำกล่าวนี้ แสดงให้เห็นโดยอ้อมว่า จุดประสงค์มิใช่เพื่อคุ้มครอง NewJeans จากการกระทำที่ไม่เป็นธรรมหรือการผลักดันยอดขายของ HYBE ซึ่งเป็นหนึ่งในประเด็นของคำขอให้มีการแก้ไขในคดีนี้ที่เกี่ยวกับ “การที่ HYBE ผลักยอดขายแผ่นเสียงของกลุ่มไอดอลอื่นๆจนทำให้ NewJeans ถูกประเมินค่าต่ำ” แต่แท้จริงแล้ว มินฮีจินมุ่งหมายให้เผยแพร่การกระทำของ HYBE ต่อสาธารณะ
④ ทั้งนี้ แม้ว่ารองประธานจะท้วงอีกครั้งว่า
“ความเสี่ยงที่จะถูกควบคุมให้อยู่ภายใต้คณะกรรมการตรวจสอบ อาจไม่ต่างจากความเสี่ยงที่เกิดจากการนำเรื่องไปร้องเรียนต่อคณะกรรมการการค้าที่ยุติธรรม ดังนั้นควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการการค้าที่ยุติธรรม”
มินฮีจิน กล่าวตอบว่า
“ความเสี่ยงไม่ได้อยู่ที่การถูกคณะกรรมการตรวจสอบควบคุมไว้ แต่คือการสูญเสียเหตุผลหรือความชอบธรรมที่จะประกาศต่อสาธารณะต่างหากที่เป็นความเสี่ยง”
(1) ต้องฟื้นฟูชื่อเสียง ทำลายความเข้าใจผิดของคนทั่วไปที่คิดว่า ILLIT ลอกเลียนผลงานของเราได้เพราะเราอนุญาต
(2) จากผลของข้อ (1) ให้ลดทอนความน่าเชื่อถือของ ILLIT และ HYBE
(3) ขีดเส้นแบ่งระหว่า ADOR กับ HYBE ให้ชัด ต้องให้สาธารณะเห็นถึงการกระทำที่ไม่เป็นธรรมบางส่วนของ HYBE ต่อ ADOR ปรากฏออกมา
“เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ จึงจำเป็นต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ การให้ขอโทษต่อสาธารณะก็เพื่อเหตุผลนี้เช่นกัน หากทำเช่นนั้นได้ การหาทางเลือกว่าจะขายหรือไม่ขาย ADOR ก็จะเป็นไปได้เร็วขึ้นมาก แต่หากไม่ประกาศต่อสาธารณะ ปล่อยให้มีการพูดคุยกันภายในอย่างเงียบๆเกี่ยวกับการขาย ADOR เราก็จะตกอยู่ในสถานะของฝ่ายถูกขาย และไม่สามารถเป็นผู้กำหนดทิศทางได้ ”
คำพูดดังกล่าวสะท้อนว่า มินฮีจินมีเจตนาเพื่อทำลายชื่อเสียงของ HYBE ต่อสาธารณะ และมุ่งหมายให้ HYBE ตัดสินใจขาย ADOR ออกไป
⑤ นอกจากนี้ มินฮีจินยังได้กล่าวกับรองประธานว่า
“ตอนนี้ เรื่องที่คุณจะไปพบนักลงทุน ○○ ก็เช่นกัน ถ้ามีแผนอยู่ในใจ ต้องระวังคำพูดให้ดี อย่าให้พวกเขาเข้าใจผิดว่าเราก่อเรื่องพวกนี้ขึ้นเพราะตั้งใจจะออกจากบริษัท เพราะถ้าพวกเขาข้าใจแบบนั้นจะไม่ดีเลย ยังไงถ้าข้อพิพาทมันใหญ่ขึ้น เดี๋ยวก็มีนักลงทุนมาติดต่อเราเองอยู่แล้ว”
ข้อความนี้ซึ่งสอดคล้องกับรายงานที่รองประธานคยแจ้งต่อมินฮีจิน เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2024 ว่า
“วันนี้ผมได้พูดคุยกับเพื่อนที่สนิทส่วนตัว และได้หารือกันว่า สถานที่ใดบ้างที่อาจเป็นแหล่งเงินทุนที่สามารถลงทุนได้ในระดับล้านล้านวอน... ○○○ ชื่อ ○○○○○○ ซึ่งมีความสนใจในวงการ K-entertainment... เขามีความเห็นว่า การหานักลงทุนประเภท FI จะง่ายกว่าและมีอิสระมากกว่าการหานักลงทุนประเภท SI เหตุผลคือ (1.) นักลงทุนเชิงกลยุทธ์ มักจะเข้าไปแทรกแซงเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของตนเอง (2.) นักลงทุนทางการเงิน สนใจเพียงการลงทุนและการได้ผลตอบแทนสูงเท่านั้น จึงไม่ยุ่งกับการบริหาร (3.) หากวาดภาพใหญ่ไว้ก่อน แล้วได้รับความเห็นชอบจาก FI เพื่อเติบโตโดยอิสระจากพวกเขา และต่อยอดบริษัทจนสามารถ exit หรือเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ จะเป็นภาพในอุดมคติ ซึ่งผมก็เห็นด้วยอย่างมาก เขายังเสริมด้วยว่า การออกจากบริษัทหรือการก่อตั้งบริษัทใหม่เป็นเรื่องที่น่าเสียดาย เพราะในตลาดทุนก็มีกรณีที่ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยซึ่งบริหารบริษัทจริง กลายเป็นเจ้าของที่แท้จริงของบริษัทได้ แม้จะต้องฝ่าการควบคุมของผู้ถือหุ้นรายใหญ่จากบริษัทแม่ก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือ ‘ความตั้งใจที่จะไม่ยอมถูกแย่งชิง’”
ข้อความนี้สอดคล้องกับรายงานของมินฮีจินที่เสนอแนวทางอย่างเป็นรูปธรรมเกี่ยวกับการแยก ADOR ออกจาก HYBE
⑥ มินฮีจินได้กล่าวกับรองประธานว่า
“ลองดูหน่อยสิ ว่าพอจะมีเหตุที่จะสามารถฟ้อง HYBE กับพวกผู้บริหาร HYBE ในข้อหาขัดขวางการทำงานได้ไหม เลิกหมกมุ่นกับคณะกรรมการการค้ายุติธรรมได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องคณะกรรมการฯ หรือการละเมิดตามกฎหมายบริษัท หรือจะเป็นการกระทำผิดหน้าที่อะไรก็ได้ อะไรก็แล้วแต่ แค่หามาให้เจอก็พอ... เก็บหลักฐานเพิ่มให้ได้มากที่สุด คุณแค่ทำเรื่องนี้ให้เต็มที่ก็พอ... เก็บหลักฐานมาเยอะๆ ยิ่งมากยิ่งดี คุณทำได้ดีแล้ว แต่ลองหาหลักฐานเด็ดๆแบบนั้นอีกนะ ยิ่งมีเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เห็นว่าใน Slack ยังหาได้ขนาดนั้น ก็น่าจะมีอะไรอีก ไม่ว่าจะเป็นของ LE SSERAFIM, ***, *** หรือ ILLIT เพราะยังไงก็ลบประวัติ Slack เก่าๆไม่ได้หรอก”
คำพูดนี้แสดงให้เห็นว่า มินฮีจินได้สั่งให้รองประธานค้นหาหลักฐานจากประเด็นดังกล่าวที่สามารถใช้กล่าวโทษฝ่าย HYBE ได้ โดยมีจุดประสงค์ไม่ใช่เพื่อปกป้อง NewJeans จากการถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจาก HYBE แต่เพื่อหาหลักฐานที่ทำให้ดูเหมือนว่า HYBE เป็นฝ่ายผิด เพื่อใช้เป็นเหตุผลในการผลักดันให้ ADOR แยกตัวออกจาก HYBE
(ศาลสรุปภาพรวมของคดีนี้)
(3) เหตุผลที่ NewJeans อ้างว่า ADOR ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ในคดีนี้ ดูเหมือนจะเป็นผลจากการเตรียมการล่วงหน้าของมินฮีจิน ซึ่งได้ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวข้องระหว่าง HYBE, ADOR และ NewJeans เพื่อค้นหาประเด็นต่างๆที่สามารถใช้สร้างกระแสความคิดเห็นในทางลบต่อ HYBE และใช้เป็นองค์ประกอบสำหรับการฟ้องร้อง
อย่างไรก็ดี แม้ลำดับเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดข้อกล่าวหาว่า ADOR ละเมิดหน้าที่จะเป็นไปตามที่กล่าวมาข้างต้น หากมีการละเมิดหน้าที่ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ผลทางกฎหมายของการบอกยกเลิกสัญญาผูกขาดพิเศษในคดีนี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาแยกต่างหาก ดังนั้น ศาลจึงจะพิจารณาเหตุผลที่ NewJeans อ้างถึงการละเมิดหน้าที่ของ ADOR และการแตกหักของความไว้วางใจต่อไป
"idea is the most resilient parasite"