BLOG BOARD_B
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com
ไว้คราวหน้า X
ไว้คราวหน้า X
ไม่ต้องแสดงข้อความนี้อีกเลย
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
ฝากรูป
01 November 2025 12:04 by Asarinho10
ราชันไร้ 'การ์บาฆาล', ตราหมีขาด 'บาร์ริออส', บิลเบาฉะโซเซียดาด...ปรีวิว ลาลีกา
BLOG TOPIC_A
ติดต่อรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Email: sale@soccersuck.com โปรโมชั่นลดจากเดิม 30% (ไม่รับโฆษณาผิดกฏหมายทุกประเภท)




วันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2568

บีญาร์เรอัล - ราโย บาเญกาโน่ (20:00 น.)

ความพร้อมก่อนเกม บีญาร์เรอัล จะยังไม่มี โลแกน คอสต้า, วิลลี่ คัมบวาล่า และ เปา กาบาเนส ที่ยังเจ็บทั้งหมด ขณะที่ ตานิโตลูวา โอลูวาเซยี่ ที่เพิ่งกดแฮตทริกในโกปา เดล เรย์ มีแนวโน้มจะกลับไปนั่งสำรองในเกมลีก

ส่วนแนวรุกตัวจริงคาดว่าจะเป็น เคราร์ด โมเรโน่ ที่เพิ่งยิงได้ในเกมชนะ บาเลนเซีย โดยมี อโยเซ่ เปเรซ เป็นตัวสแตนด์บายบนม้านั่งสำรอง

ฝั่ง ราโย จะขาด อับดุล มูมิน ที่เจ็บแน่นอน และต้องรอลุ้นความฟิตของ ลุยซ์ เฟลิเป้ อีกหนึ่งราย อัลบาโร่ การ์เซีย ยังคงเป็นความหวังสูงสุดของทีม หลังยิงไปแล้ว 7 ประตูจาก 14 นัด และจะได้ออกสตาร์ตแน่นอน

ขณะที่ตำแหน่งหน้าเป้าน่าจะเป็นของ อเลเมา ส่วน ฟราน เปเรซ ที่เพิ่งยิงแฮตทริกในบอลถ้วย อาจต้องกลับไปนั่งสำรองในเกมนี้

สถิติที่น่าสนใจ

• สถิติพบกันก่อนหน้านี้ บีญาร์เรอัล ชนะ ราโย บาเญกาโน่ ได้ 17 จาก 33 นัดรวมทุกรายการ
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (ราโย บาเญกาโน่ 0-1 บีญาร์เรอัล)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

แอตเลติโก้ มาดริด - เซบีญ่า (22:15 น.)

แอตเลติโก้ มาดริด จะไม่มี ปาโบล บาร์ริออส ที่บาดเจ็บ แต่ที่เหลือพร้อมลุย โดย ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ อาจปรับทีมแค่จุดเดียว คือส่ง คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ลงมาแทน บาร์ริออส

ส่วน อเล็กซ์ บาเอน่า ที่ยิงได้ในเกมล่าสุดจะลงยืนตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ ด้าน ฮูเลียน อัลบาเรซ ยังคงยืนหน้าเป้า แม้จะมีข่าวย้ายทีมก็ตาม

ขณะที่ เซบีญ่า ต้องขาด ลูเซียง อากูเม่ ที่ติดโทษแบน รวมถึง บาติสต้า เมนดี้, เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า และ อเล็กซิส ซานเชซ ที่บาดเจ็บ

นอกจากนี้ โฆอัน ฆอร์ดาน กับ ต็องกีย์ เนียงซู ยังต้องรอเช็กความฟิตอีกที โดยมี ไอแซค โรเมโร่ ดาวซัลโวของทีมที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู จะยืนล่าตาข่าย

สถิติที่น่าสนใจ

• แอตเลติโก้ มาดริด ยังไม่แพ้ใครในลีกเลยนับตั้งแต่เกมเปิดฤดูกาลที่พ่ายให้ เอสปันญอล
• สถิติการพบกันระหว่างสองทีมที่ผ่านมา แอตเลติโก้ มาดริด ชนะไปถึง 77 จาก 194 นัดในทุกรายการ
• ขณะที่ เซบีญ่า ไม่เคยบุกมาชนะที่บ้าน แอตเลติโก้ มาดริด ได้เลยตั้งแต่เดือนมกราคม 2018 และถ้านับเฉพาะเกมลีก ต้องย้อนกลับไปถึงกันยายน 2008 เลยทีเดียว
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (แอตเลติโก้ มาดริด 1-0 เซบีญ่า)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เรอัล โซเซียดาด - แอธเลติก บิลเบา (00:30 น.)

ส่วนความพร้อมก่อนเกมนี้ เรอัล โซเซียดาด จะไม่มี ออร์รี ออสการ์สสัน, ฆอน คาร์ริคาบูรู และ ยานเกล เอร์เรร่า ที่ยังเจ็บ ขณะที่ อินญากี้ รูเปเรซ ยังต้องรอเช็กความฟิต

เกมนี้กุนซือ เซร์คิโอ ฟรานซิสโก้ จะกลับมาใช้ผู้เล่นตัวหลักอีกครั้งหลังพักหลายคนในเกมบอลถ้วย โดยมี มิเกล โอยาร์ซาบัล เป็นตัวความหวังในแนวรุก ซึ่งตอนนี้เป็นนักเตะคนเดียวของทีมที่ยิงได้มากกว่า 1 ประตูในฤดูกาลนี้ (ยิงไป 4 ลูก)

ด้าน แอธเลติก บิลเบา จะขาด เยราย อัลบาเรซ และ อินญิโก้ เลกูเอ้ ที่ติดโทษแบน โดย เยราย จะโดนแบนยาวถึงเดือนเมษายนหลังตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่าน

ส่วน เบนญัต ปราโดส, อูไน เอกิลุซ และ อินญากี้ วิลเลี่ยมส์ ก็ยังเจ็บลงไม่ได้ ขณะที่ อายเมอริก ลาปอร์กต์ ต้องรอเช็กความฟิตก่อนเกม

อย่างไรก็ตาม คาดว่าแผนการเล่นของ บิลเบา จะไม่มีอะไรเปลี่ยนมากนัก โดย กอร์กา กูรูเซต้า จะยืนหน้าเป้า และ นิโก้ วิลเลี่ยมส์ จะทำเกมริมเส้นตามเดิม

สถิติที่น่าสนใจ

• สถิติที่เจอกันก่อนหน้านี้ 171 ครั้ง แอธเลติก บิลเบา ชนะ 68, เรอัล โซเซียดาด ชนะ 59
• 5 นัดหลังสุดที่เจอกัน เรอัล โซเซียดาด ชนะได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
• จุดอ่อนของ แอธเลติก บิลเบา ช่วงนี้คือเกมรุกที่ฝืด ยิงได้เพียง 9 ประตูจาก 10 นัด แต่แนวรับถือว่าทำได้ดี เพราะเสียแค่ 10 ประตูเท่านั้น
• แอธเลติก บิลเบา ทำได้ดีเวลาเล่นในบ้าน โดยชนะ เรอัล โซเซียดาด ได้ 2 จาก 3 เกมลีกหลังสุดในถิ่นตัวเอง แต่พวกเขายังไม่สามารถบุกไปชนะ เรอัล โซเซียดาด ได้เลยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2017
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (แอธเลติก บิลเบา 2-0 เรอัล โซเซียดาด)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

เรอัล มาดริด - บาเลนเซีย (03:00 น.)

เรอัล มาดริด มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน ดานี่ การ์บาฆาล ต้องพักต่อหลังผ่าตัดหัวเข่า อันโตนิโอ รูดิเกอร์ ยังเจ็บกล้ามเนื้อ ขณะที่ ดาวิด อลาบา ต้องรอเช็กความฟิต ส่วน อันเดรย์ ลูนิน นายประตูมือสองจะพลาดลงสนามแน่นอนเพราะโดนใบแดงจากเกมกับ บาร์เซโลน่า

ข่าวดีคือ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรองตั้งแต่เกมที่แล้ว เพราะงั้นอาจได้รับโอกาสเล่นแบ็คขวา แม้ว่าแมตช์ก่อน เฟเดริโก้ วัลเวร์เด้ ลงเล่นแบ็คขวาก็ตาม

วินิซิอุส จูเนียร์ ออกมาขอโทษแล้วหลังแสดงอาการไม่พอใจตอนถูกเปลี่ยนตัวในเกมเอล กลาซิโก้ และคาดว่าจะได้ลงตัวจริงร่วมกับ จู๊ด เบลลิงแฮม และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ในแนวรุก

ส่วน บาเลนเซีย จะขาด มูคตาร์ เดียคาบี้, ลาร์จี้ รามาซานี่ และ ดิมิทรี ฟูลกิเย่ร์ ที่เจ็บ ขณะที่ ลูคัส เบลตราน กับ ฟิลิป อูกรินิช ต้องรอประเมินสภาพร่างกายก่อนเกม

แนวรุกคาดว่า อาร์เนาต์ ดันยูม่า กับ อูโก้ ดูโร่ ที่ยิงไปแล้วคนละ 4 ประตู จะยืนล่าตาข่าย ส่วนกลางสนามมี บัปติสต์ ซานตามาเรีย คุมจังหวะเกม และแนวรับจะมี โฆเซ่ กาย่า กัปตันทีมคนเก่งเป็นตัวหลัก

สถิติที่น่าสนใจ

• เรอัล มาดริด กำลังฟอร์มดีเมื่อชนะ 5 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ
• สถิติการเจอกันก่อนหน้านี้ เรอัล มาดริด ชนะ บาเลนเซีย 111 จาก 213 นัด
• ผลการเจอกันครั้งล่าสุด (เรอัล มาดริด 1-2 บาเลนเซีย)

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


แก้ไขล่าสุดโดย Asarinho10 เมื่อ Sat Nov 01, 2025 12:05, ทั้งหมด 1 ครั้ง
0
0
หากโดน 40 เรื้อน จะถูกแบน
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ
ไปหน้าที่ 1
ไปที่หน้า
GO
ตั้งกระทู้ใหม่
กรุณาระบุเหตุผลที่จะแจ้งความ
ผู้ต้องหา:
ข้อความ:
Submit
Cancel
กรุณาเลือก Forum และ ประเภทกระทู้
Forum:

ประเภท:
Submit
Cancel