ถ้าประเมินหุ้นไม่ได้ อันตรายมากคับ

ลองแบบนี้ดูใหม่

ถ้ามีภาระมีหนี้ เอาเงินไปตรงนั้นก่อน

ถ้าหลุดภาระท่วมอะไรต่างๆยังไม่ต้องรีบลงทุนเก็บเงินสดให้ได้สัก 10,000 แรกก่อน

ลองเก็บเงินใส่บัญชีสำหรับฉุกเฉินและไม่ใช่บัญชีที่จะถอนมากินเที่ยวซื้อของ ตีสัก 100,000

ถ้าทำได้แล้วมาเริ่มเปิดบัญชีเก็บเงินให้ได้ไม้ละ 100,000 จะเดือนละ 2,000-5,000 ก็เเล้วแต่

แล้วเอาเงินแสนไปเล่นไปลงทุนจะทอง จะหุ้นนอก ก็จัดไปมันเริ่มมีวอลลุ่มเห็นลตอบแทนได้บ้าง
บริหารกองนั้น แล้วพอเงินสะสมกองใหม่ครบ 20,000 -50,000 ก็สลับมาเข้า port

- ตัวเราไม่เป็นเครื่องจักรผลิตเงินให้ธนาคารหรือเจ้าหนี้อื่นๆมากมาย
- มีเงินฉุกเฉิน 50,000 - 100,000 ไว้ดูแลตัวเองหรือคนที่เรารัก
- มี port ที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ตามที่เราไหว
- มีบ่อสะสมเงินก้อนเล็กๆรวมเป้นไม้ใหญ่เอาไปเติม port
- อย่าลืมแบ่งเงินสร้างสุขภาพ เสริมทักษะ แบ่งปันผู้คน และหาความสนุกในชีวิต

จากประสพการณ์ส่วนตัว แนะนำ ว่า ไป dca ทอง หรือ btc ดีกว่า หรือถ้าอยากเล่นหุ้น ไปของ อเมริกาดีกว่า

เพราะมันไม่ได้ดูดี เหมือนที่ใครๆแนะนำ ว่า อยากให้เงินงอกเงย อย่าเก็บเงินในธนาคาร ให้ไปลงในหุ้นดีกว่า

เพราะถึง ปันผลที่ได้มากกว่าก็จริง แต่ถ้าราคาหุ้นตก ก็เท่ากันทุนจมอยู่ตรงนั้น รออีก กี่สิบปีก็ไม่รู้ แล้ว เราก็ต้องเลือกหุ้นปันผลดีๆ ให้ได้ด้วย ถ้าพลาด ก็รอกินปันผลอย่างเดียว

scb ไปเลยครับ หุ้นละ 130 บาท แต่จะได้แค่ 15 หุ้นต่อเดือน


ปันผลตกปีละประมาณ 10 บาทต่อหุ้น ปีนึงคุณก็จะมี 180 หุ้น = ปันผล 1800 บาท/ปี

เค้าเรียกว่าการ dca นั้นแหละ

แตกต่างจากพวกนั่งดูกราฟ เข้าๆออกๆ นะ

เดาว่ายังไม่มีความรู้อะไรเลย

dca แนะนำดัชนีหุ้นโลก ผ่านกองทุนอะไรก็ได้ที่ค่าธรรมเนียมต่ำกว่า 1%

ตราสารหนี้ ทอง หุ้นปันผล มันสำหรับคนที่มีความรู้ประมาณนึงแล้ว

ไม่งั้นเดี๋ยวก็โดนภาษี/ดอกเบี้ย/ค่าธรรมเนียม/ความกลัว/ความโลภ กินหมด

ทำได้ แต่ตอนที่เงินยังน้อย หุ้นปันผลไม่ได้ทำให้รวย

แต่ข้อดีคือทำให้รู้จักเก็บออม

ถ้าไม่มีเวลา ไม่มีความรู้ ลงพวกกองทุนดัชนีไปก่อนก็ได้ เอาชัวร์ก็หุ้นเมกา NASDAQ S&P500 มันไม่น่าจะล้มหายตายจากไปไหนง่ายๆ

แล้วถ้ายังมีรายได้ ยังเติมเงินเข้าพอร์ทเรื่อยๆ ไม่ต้องซื้อหุ้นหรือกองทุนที่จ่ายปันผลให้เสียภาษีไปเปล่าๆ

หลายๆท่านแนะนำไว้ดีแล้ว ผมอยากเสริมเพิ่มนิดนึงครับ อย่าพึ่งใส่เงินลงไปในสิ่งที่เรายังไม่รู้ว่าคืออะไร ลองไปนั่งศึกษาตลาดสักนิดก่อนก็ได้ครับ แนะนำถาม ChatGPT ก็ได้ครับ
เช่น DCAคืออะไร , หุ้นรายตัวคืออะไร , ETF(กองทุน)คืออะไร , หุ้นปันผล , หุ้นเติบโต , Diversify Port , Asset allocate ต่างๆ ฯลฯ

จริงๆมีอีกเยอะ อยากให้ลองศึกษาตลาดก่อนจะเอาเงินลงไปเสี่ยงครับ จะได้รู้ความเสี่ยงของตัวเองได้ครับ เพราะทุกอย่างมีขึ้นและมีลงตลอดครับ

คุณต้องเข้าใจการลงทุนขั้นพื้นฐานก่อนครับ

การลงทุนมีได้หลายแบบ ซื้อหุ้นทิ้งไว้ จะซื้อหุ้นไทย หุ้นนอก อันนี้แล้วแต่เรา หุ้นไทย ขายเป็นจำนวนหุ้น เงินสองพันซื้อได้กี่หุ้นก็คิดไปตามราคาหุ้นตัวนั้นๆ จะลงหุ้นนอก ซื้อปลีกย่อยได้ ไม่ถึงหุ้นก็ได้ ดูเอาเอง หุ้นปันผล จ่ายปันผลตามจำนวนหุ้นที่มี สมมุติว่าจ่าย 0.10 บาทต่อหุ้น แต่จ่ายทุก 3 เดือน (พวก REIT ชอบจ่ายแบบนี้) ถ้าคุณมี 2000 หุ้น --> 2000*0.1 = 200 บาท/3 เดือน ก็คิดเอาว่าคุ้มมั้ย

ประเภทที่สอง ลงทุนกับทอง เดี๋ยวนี้มีการออมทอง ซื้อเท่าที่เงินเรามีไว้ก่อน เพราะครบบาทก็ไปเอาออกแท่งออกมาก็ได้ หรือเก็บไว้ก็ได้ ลองหาข้อมูลดูครับ มีหลายบริษัทที่ทำตรงนี้ครับ

ต่อมา ซื้อกองทุน อันนี้คล้ายๆกับแบบแรก เราแต่ไปซื้อกองทุนที่มีคนบริหาร แต่ละกองก็ลงทุนซื้อหุ้นที่ต่างกัน แต่ละตลาด บางกองลงหุ้นไทย บางกองลงหุ้นนอก บางกองลงแค่ทอง ฯลฯ อันนี้เลือกกองที่เหมาะสมได้เลย บางกองก็ใช้ลดหย่อนภาษีได้นะครับ พวก ESG, RMF อะไรแบบนี้ หาข้อมูลเพิ่มดูครับ กองที่จ่ายปันผลก็มีนะครับ

ต่อมา ลงทุนกับพวกตราสารหนี้หรือพันธบัตรหุ้นกู้ อะไรแบบนี้ก็ได้ กองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ก็มีครับ พวกนี้กำไรน้อย แต่ความเสี่ยงก็น้อยเช่นกัน

หรือจะไปซื้อพวก crypto เก็บไว้ก็ได้ครับ อันนี้ก็ซื้อปลีกย่อยได้ แล้วแต่ถนัด

เอาตรงนี้เป็นพื้นฐานก่อนครับ แล้วค่อยไปคิดว่าเราอยากจะทำอะไร น้องในทีมผมลงแต่ทอง น้องชายผมทอง+กองทุน+คริปโต ฯลฯ

ขอให้คำแนะนำแบบนี้แล้วกันครับ

1. เงินสำรอง 6-12 เดือน

2. ประกันสุขภาพ

3. ลงทุนแบบ DCA จัดพอร์ตการลงทุน (ผมขอแนะนำเป็นไอเดียแล้วกันครับ)

- S&P500 หรือ MSCI World (40%) // ถ้าลง NASDAQ เยอะแล้ว ลง MSCI แทน S&P500
- NASDAQ100 (30%) // เสี่ยงสูงหน่อยก็ปรับเป็น 40%-60%
- หุ้นปันผลไทย (30%) // จริงๆ ผมอยากแนะนำ ทอง 15% แล้วก็ BTC 15%

4. ระหว่างนี้ศึกษาแนวคิดหุ้นปันผลไปก่อน เน้นเป้นหุ้นปันผลตปทด้วยก็ได้ แต่ที่ระวังคือเราต้องมองภาพธุรกิจระยะยาวมากๆ เพราะปันผลเราอาจจะโดน capital gain ที่ควรเน้นเลยคือ ภาพรวมธุรกิจต้องมั่นคงมากๆ เพื่อที่จะได้มีโอกาสจ่ายปันผล **แต่ต้องดูว่าเค้าจ่ายสม่ำเสมอด้วยนะครับ** // หุ้นธนาคาร

ปล. อาจจะต้องสอบถามเพิ่มเติมถึงแนวคิดปันผล ถ้า Active income เยอะทำให้มีเงินเยอะ อนาคตอยากแค่กินปันผล PASSIVE INCOME มันทำได้นะ คิดง่ายสุดก็ลองคำนวณว่า เราอยากได้ปันผลเท่าไหร่ต่อปี ต้นใช้เงินต้นเท่าไหร่ ถ้าใช้เงินต้นมหาศาล มันจะไม่ค่อยเข้ากับเราครับ เน้นลงทุนตามการเติบโตของหุ้นดีกว่า สุดท้ายพอ พอร์ตเราเติบโต ค่อย Rebalance เรื่อยๆไปลงปันผลแทนครับ

ที่จะสื่อคือ เน้นหุ้น Growth ถ้าพอร์ตเล็ก ส่วนใหญ่หุ้นเติบโตจะไม่ค่อยปันผล เราจะได้กำไรส่วนต่างราคาหุ้นมาแทน แล้วพอพอร์ตเราโตจากการทบต้นด้วย อนาคตค่อยเปลี่ยนมาลงหุ้นปันผล แนวเชิงรับแทนครับ

BTC Only

อยากให้ลองเปลี่ยจากวิธี DCA มาใช้วิธีซื้อหนักในวันที่ตลาดติดลบหนักๆ ดูครับ เช่น จากเดิมจะลง 2k ทุกเดือน ก็เปลี่ยนเป็นเก็บสะสมไปเรื่อยๆ เดือนละ 2k เหมือนเดิม แล้วลงครั้งเดียวตอนตลาดลงหนักๆ โดยลงกับหุ้นที่มีปันผลเป็นหลัก เช่น ท่านจิ้มหุ้นปันผลใน set 50 มาสักตัว ถ้าวันไหนราคามันลงเยอะๆติดกันสัก 2-3 วัน ราคาหุ้นลดไปสัก 10-20% ก็อัดไปสักไม้ใหญ่เลยๆ ถ้าถามว่ามันจะลงไปอีกก็เป็นไปได้ แต่อย่างน้อยเราก็ค่อนข้างเซฟเพราะได้ราคาต่ำในหุ้นปันผลที่อัตราการเปลี่ยนแปลงของราคาข่อนค้างต่ำ

ซื้อหุ้นอย่าหวังปันผล หวังว่ามันจะโต จพมากจะน้อยก็ต้องหวังจะโต
เพราะหุ้นที่ๆม่โต ปั้นผล มันเทียบกับราคสหุ้นที่หายไปไม่ได้

มูลค่าหุ้นสุดท้าย ก็กลบปันผลหมดแหละ

หุ้นที่โตดีจริงๆ ไม่มีปันผล สองสามปี ได้เท่ากับมากกว่าหุ้นปันผล10ปีแล้ว
โอกาสขาดทุนก็น้อยกว่าเยอะด้วย

ถ้าจะเอาเก็บไปด้วย ลดหย่อยภาษีได้ด้วย ได้เงินปันผลด้วย และเป็นกองทุนดัชนี อเมริกา ก็มีของ SSF ของ SCB ที่อิงกับ S&P500 ด้วยนะครับ ผมก็มีซื้อไว้บ้าง

ส่วนหุ้นจะเอาสะสมปันผล นี่มีเล็งๆ ตัวไหนไว้บ้างหรือยังครับ หุ้นไทยหรือหุ้นเทศ