บรรลุข้อตกลงภาษีสหรัฐแล้ว
สหรัฐเปิด ดีลการค้า ไทยจัดให้แบบมหึมา ยกเลิกภาษีให้ 99% แถมแพคเกจนำเข้าสินค้า-พลังงาน ซื้อเครื่องบิน 80 ลำ รวมมูลค่ากว่า 8 แสนล้านบาท
วันที่ 26 ต.ค. ทำเนียบขาว ของสหรัฐอเมริกา เผยถ้อยแถลงร่วม ว่าด้วยกรอบความตกลงการค้าแบบต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย
โดยระบุว่า ทั้งไทยและสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงใน “กรอบความตกลงการค้าแบบต่างตอบแทน” เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างกัน ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกของทั้งสองประเทศสามารถเข้าถึงตลาดของอีกฝ่ายได้อย่างไม่เคยมีมาก่อน ความตกลงนี้จะต่อยอดจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มีมาอย่างยาวนาน
สาระสำคัญของกรอบความตกลงการค้าแบบต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐฯ และไทย ได้แก่ ไทยจะยกเลิกภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าประมาณร้อยละ 99 ครอบคลุมสินค้าทางอุตสาหกรรมและเกษตรของสหรัฐฯ ส่วนสหรัฐฯ จะคงอัตราภาษีตอบแทนไว้ที่ร้อยละ 19 ตามคำสั่งฝ่ายบริหารเลขที่ 14257 และจะระบุสินค้าบางรายการในบัญชีแนบท้ายคำสั่งฝ่ายบริหารเลขที่ 14346 ให้ได้รับอัตราภาษีศุลกากรแบบต่างตอบแทนในอัตราร้อยละ 0
ประเทศไทยตกลงที่จะแก้ไขอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-tariff Barriers) ต่อสินค้าสหรัฐฯ เช่น การยอมรับรถยนต์ที่ผลิตตามมาตรฐานความปลอดภัยของสหรัฐฯ การยอมรับใบรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) สำหรับเครื่องมือแพทย์และยา อนุญาตการนำเข้าเอทานอลสำหรับเชื้อเพลิง ยกเลิกระบบรางวัลทางศุลกากร และนำแนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบที่ดีมาใช้ ไทยยังตกลงที่จะเร่งรัดการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เช่น เนื้อสัตว์จากโรงงานที่ได้รับรองโดย FSIS รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรอื่น ๆ โดยยึดหลักวิทยาศาสตร์และการประเมินความเสี่ยง
ในด้านแรงงาน ไทยจะปรับปรุงกฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิแรงงานตามมาตรฐานสากล เช่น เสรีภาพในการรวมกลุ่มและการเจรจาต่อรองร่วม และเพิ่มการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน โดยเฉพาะในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงต่อการใช้แรงงานบังคับหรือแรงงานเด็ก ขณะเดียวกัน ไทยจะคงไว้ซึ่งมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในระดับสูง รวมถึงการต่อสู้กับการค้าผลิตภัณฑ์ไม้ผิดกฎหมาย การสนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน การปฏิบัติตามความตกลง WTO ว่าด้วยเงินอุดหนุนภาคประมง และการต่อต้านการทำประมงผิดกฎหมายและการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย
สองประเทศจะจัดทำข้อตกลงขั้นสุดท้ายเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา การค้าดิจิทัล และการลงทุน โดยไทยจะไม่เก็บภาษีบริการดิจิทัล ไม่เลือกปฏิบัติต่อสินค้าและบริการดิจิทัลของสหรัฐฯ ยกเลิกข้อจำกัดการถือหุ้นต่างชาติในภาคโทรคมนาคม และยกเลิกข้อบังคับให้ข้อมูลการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ต้องประมวลผลภายในประเทศ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศจะร่วมมือกันเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงควบคุมการส่งออก การตรวจสอบการลงทุน และป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากร
นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกาและประเทศไทยยังรับทราบถึงข้อตกลงทางการค้าระหว่างบริษัทของทั้งสองประเทศที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ในสามภาคส่วนหลัก ได้แก่
ภาคเกษตรกรรม ไทยจะมีการจัดซื้อสินค้าทางการเกษตรจากสหรัฐฯ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง และผลิตภัณฑ์แห้งจากการกลั่นเอทานอล (Distiller Dried Grains with Solubles) มูลค่าประมาณ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (85,000 ล้านบาท) ต่อปี
ภาคพลังงาน ไทยจะจัดซื้อผลิตภัณฑ์พลังงาน เช่น ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) น้ำมันดิบ และอีเทน มูลค่าประมาณ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (170,000 ล้านบาท) ต่อปี
ภาคการบิน ไทยจะจัดซื้อเครื่องบินจากสหรัฐฯ จำนวน 80 ลำ รวมมูลค่าประมาณ 18,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (610,000 ล้านบาท)
Credit :
https://www.facebook.com/share/p/1BGd1D7tVG/?mibextid=wwXIfr