จะบอกว่าถ้าไปไม่ได้ไปทำเหมือง บลาๆๆ นี่ผมไม่เชื่อเท่าไหร่ ที่มั่นใจแน่ๆคือน่าจะฟิตกันมาก

แต่ทีมอื่นในเอเชียที่เต็งๆก็น่าฟิตเช่นเดียวกัน นักบอลก้ไม่ได้ไปยุโรปเล่นแต่ในประเทศปิด เทคโนโลยี วิทย์กีฬาก็ไม่รุ้ขนาดไหน แถมปิดประเทศด้วย

ถ้าจะบอกไทย Japan way คือแบบนี้เลยอยากรุ้ถ้า North Korea Way จะแบบไหนครับ สมัยนั้นทำทีมไปบอลโลกได้ไง

ที่จำได้คือปีนั้น เกาหลีใต้-ญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพ โควต้าเอเชีย เลยได้เพิ่มเข้ามา สมัยนั้น ออสยังไม่มาคัดในเอเชีย
เกาหลีเหนือกับจีน เลยแทรกเข้าไปได้ครับ
edit
**** โอ้วผมจำผิด เกาหลีเหนือได้ไปปี 2010 *****
2002 มีจีน เจ้าภาพร่วม แล้วก็ ซาอุ

ใช่ครับ มีไปแค่ ออส สองเกาหลี และ ญี่ปุ่น ตะวันออกกลางร่วงหมด เลยแบบยิ่งงง ไปได้แบบมีเสือสิงห์กระทิงแรดครบทั้งนั้น

อันนี้มโนนะ เท่าที่ดูผ่าน ๆ
น่าจะรูปแบบคล้ายดรีมทีมบ้านเราสมัยก่อน คืออยู่กินในแคมป์กันไปเลย
แล้วก็ค่อยส่งทีมไปอุ่น ไปลงทัวร์นาเมนต์กระชับมิตรเรื่อย ๆ ต่อเนื่องทุกรุ่น
และด้วยร่างกาย ความฟิต ใจ ก็เลยยังเป็นท็อปเอเชียตะวันออกได้

สงสัยเหมือนกัน หลังจากนั้นผลงานตกฮวบเลย

คอมมิวนิสต์นักกีฬามีหน้ามีตาในสังคม รัฐส่งเสริม
เหมือนสมัยก่อนยุคที่บอลโซเวียต ยูโก บัลแกเรีย รุ่งเรือง

ลืมกันมามั่วๆทั้งนั้น รอบคัดเลือก 2010 เอเชียมีปัญหาเยอะครับ ทำให้คู่แข่งไม่แข็งเหมือนปกติ
ขนาดบาเรนยังได้ไปเพลออฟแต่แพ้เลยไม่ได้ไปบอลโลก ถ้าจำไม่ผิดปีนั้นไทยได้ดาวซัลโวรอบคัดเลือกด้วย
แล้วก็เกาหลีเหนือยุคนั้นก็ส่งนักเตะไปต่างชาตินี่แหละ ไม่ได้เน้นแค่ตัวในประเทศ

หลังจากนั้นพอเอเชียกลับมาปกติ เกาหลีเหนือก็ธรรมดาไปเลย

แต่ถ้าพูดถึงในอดีต คือเขาได้เทคจากกลุ่มโซเวียต เลยเจริญอยู่พักนึง
โดยเฉพาะเรื่องกีฬา

ปีนั้นหลีเหนือมีตัวนอกคือ จอง เต เซ เล่นที่บุนเดสเลยนะ แถมพวกที่เกิดที่เจแปนมาช่วยอีก จบปีนั้น รีกวางชอน กับ ปัค นัมโชล ยังมาเล่นที่ไทยเลย ส่วนคำถามที่ว่าทำไมถึงแกร่ง ผมว่าค่อนข้างยูนีค วันๆไม่ต้องทำไร
ลุยมันแบบนั้นแหละ แถมมีเรื่องปากท้องของครอบครัวมาเป็นแรงขับดัน

ถามมาให้ เพราะไม่ได้ตาม แต่ นักเตะที่ชื่อ จอง เต เซ เคยเห็นในรายการวาไรตี้ของเกาหลีใต้รึเปล่านะ ฉายารูนีย์เกาหลี ไรนี่แหละ

นี่คำตอบ Chatgpt

เกาหลีเหนือผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลก 2010 ได้ เพราะผลงานในรอบคัดเลือกเอเชีย (AFC) ที่ แข็งแกร่งและมีวินัยสูง

ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้โดดเด่นด้านทักษะ แต่ชนะด้วย “เกมรับเหนียว, วินัย, และเล่นตามแผนเป๊ะๆ”

สรุปเส้นทางเข้ารอบของเกาหลีเหนือ – ฟุตบอลโลก 2010
รอบคัดเลือก AFC (เอเชีย)

รอบสุดท้าย (Final Round) มี 5 ทีมในกลุ่ม:

เกาหลีใต้

เกาหลีเหนือ

ซาอุดิอาระเบีย

อิหร่าน

ยูเออี

ผลงานของเกาหลีเหนือ:

ชนะ 3

เสมอ 3

แพ้ 2

เสียประตูน้อยสุดในกลุ่ม (แค่ 5 ลูก)

จบอันดับ 2 ของกลุ่ม (รองจากเกาหลีใต้) = ผ่านเข้ารอบฟุตบอลโลกโดยอัตโนมัติ

จุดแข็งของเกาหลีเหนือในรอบคัดเลือก:
1. เกมรับเหนียวแน่น

เก็บคลีนชีตได้หลายเกม

เล่นแบบ “รถบัส” ปิดเกมแน่น ไม่เปิดหน้าแลก

2. วินัยและแท็กติกเป๊ะ

แม้ไม่มีดาราเด่น แต่เล่นเป็นทีม

เน้นสวนกลับเร็ว ใช้โอกาสน้อย ๆ ให้คุ้ม

3. ความไม่คาดคิดจากสไตล์การเล่น

ทีมในเอเชียไม่ค่อยรู้แนวทางของเกาหลีเหนือ

ไม่มีข้อมูลนักเตะมากนัก จึงตั้งรับยาก

แล้วพวกเขา “ไม่พัฒนา” จริงหรือ?

แม้จะดูเหมือนไม่พัฒนาในเชิงสโมสรหรือโครงสร้าง (เพราะประเทศปิด), แต่:

นักเตะบางคนไปค้าแข้งในต่างประเทศได้ เช่น:

จอง แต-เซ (Jong Tae-se) → เล่นในญี่ปุ่น, เยอรมัน

ฮอง ยง-โจ → เล่นในรัสเซีย

มีการเตรียมทีมแบบเข้มข้นในประเทศ แม้ไม่โปร่งใส แต่ก็มีการเก็บตัวและฝึกฝนอย่างหนัก



แล้วลองถามอีกคำถามนึงประมาณว่าแนวทางทำยังไงทั้งที่ภายนอกดูไม่พัฒนา
มีประโยคนึงที่ GPT ตอบมาน่าสนใจ

1. ระบบการแข่งขันเอื้อให้ “ทีมที่มีวินัย” ประสบความสำเร็จ

ฟุตบอลในระดับคัดเลือกรอบต้น ๆ หรือแม้แต่รอบสุดท้ายในโซนเอเชีย ไม่ได้ใช้ทักษะเฉพาะตัวเท่าฟุตบอลระดับโลก

ทีมที่มี วินัยในเกมรับ, วิ่งสู้ฟัด, แผนการเล่นรัดกุม มักทำผลงานได้ดีในระยะสั้น

2. เกาหลีเหนือมีการ “ลงทุน” อย่างเงียบ ๆ

ถึงจะไม่เปิดประเทศ แต่ พวกเขาส่งนักเตะไปเล่นในลีกต่างประเทศ บ้าง เช่น จีน, ญี่ปุ่น หรือแม้แต่ยุโรป (มีไม่กี่ราย)

โค้ชต่างชาติบางคนก็เคยถูกจ้างไปคุมทีมชาติเกาหลีเหนือแบบเงียบ ๆ

3. การคัดเลือกนักกีฬาในประเทศเน้นความทุ่มเทมากกว่าทักษะ

เกาหลีเหนือมีระบบคัดเลือกนักกีฬาแบบค่ายฝึกที่เข้มงวด

ผู้เล่นอาจไม่เก่งเท่าชาติอื่น แต่มีความอึด, มีวินัย และทำตามแผนเป๊ะ ๆ


ดูดีๆ นี่มัน ขั้นสุดของ เวียดนาม สไตล์ ช่วง ปาร์ค ฮัง ซอ ดีๆนี่แหละ ปิดลีค เตรียมตัว บอลวิ่งควาย วินัยเป๊ะ ไม่เป๊ะมึงโดน มีค่ายฝึกที่เข้มงวด

เหมาะกับบอลทัวร์มาก ที่ไม่ต้องใช้ความสม่ำเสมอ ใช้บัฟ พลังแฝงได้ด้วย

เก็บตัวซ้อม เก็บแผน แล้วอัดฉีดดี อาจจะให้สวัสดิการโน่นนี้นั้นกับครอบครัวในประเทศ

ไทยรุ่นดรีมทีมก็มีวิธีทำทีมแบบนี้แหละ แต่บอกตามตรงนะว่ามันไม่แฟร์กับคนอื่นในการคัดตัว เกาหลีเหนือมันทำอย่างนั้นได้เพราะปกครองแบบเผด็จการ

เกาหลีเหนือ มาเล่นในยุคนี้ ผมว่าเจอ ทีมในเอเชียอื่นๆก็ไม่ง่ายแล้วนะ

ชาติอื่นๆ ยังเจอนักบอลต่างชาติในลีค ให้ได้ลองของกันบ้าง

แต่เกาหลีเหนือ นี่เจอกันเองในลีค เตะอย่างกับบอลกองทัพ

ยุคนั้นเอเอฟซียังไม่มีเรื่องคลับไลเซ่น สโมสรฟุตบอลชายเกาหลีเหนือถ้ารัฐบาลหนุนก็ได้ออกมาเล่นบอลระดับทวีป ไม่โดนตัดขาดเตะแต่ในประเทศแบบทุกวันนี้ ทําให้นักบอลที่เล่นให้สโมสรในประเทศยังมีประสบการณ์เจอทีมชาติอื่นในทุกๆปีบ้าง เมื่อรวมพวกตัวเล่นลีกต่างชาติจากเจลีก 1 บุนเดสลีก้า ก็ติดปีก และชาติอื่นที่ไม่ใช่ชาติชั้นนําไม่มีลูกครึ่ง ตัวโอนแบบทุกวันนี้ด้วย

เกาหลีเหนือไปบอลโลกชายสองครั้ง คือปี 1966 และ 2010

ไปหนแรกคือปรากฏการณ์ สมัยนั้นเอเชียได้ไปที่เดียวยังอุตส่าห์ชิงตั๋วได้ และเป็นม้ามืดเข้ารอบแปดทีมสุดท้ายด้วย หนสองนี่น้อง ๆ ลงมาหน่อยแต่ก็ไม่ธรรมดาอยู่ดี
ช่วงนั้นเกาหลีเหนืออนุญาตให้นักเตะไปค้าแข้งต่างประเทศได้ รวมถึงดึงนักเตะเชื้อสายเกาหลีที่โตในญ๊่ปุ่นมาร่วมทีมด้วยครับ ปัจจุบันตั้งแต่ยุคโควิดแทบจะปิดประเทศแล้ว

และสำคัญสุดคือคว้าโอกาสได้เมื่อมาถึง

ส่วนเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬาก็ตามประสาคอมมิวนิสต์ อัดเต็มที่เท่าที่ทำได้ เคยมีช่วงหนึ่งลองจ้างโค้ชนอร์เวย์มาคุมทีมชาติมาแล้ว

จองแทเซ เป็นคนเชื้อสายเกาหลีที่เกิดและโตในญี่ปุ่นครับ ไม่ใชคนเกาหลีเหนือโดยกำเนิด ซึงญี่ปุ่นเองมีชุมชนคนเกาหลีขนาดใหญ่ไม่น้อย มีสำนักงานคล้ายสถานทูตเกาหลีเหนือ มีโรงเรียนสอนแบบเกาหลีเหนืออยู่ในญี่ปุ่น

ปัจจุบันแทบไม่เห็นแข้งเชื้อสายเกาหลีที่โตในต่างประเทศมาเล่นให้เกาหลีเหนือแล้ว