เดอะ เทเลกราฟ รายงานว่า เชลซี ไม่เป็นกังวลกับอนาคตของ มอยเซส ไคเซโด้ แม้นักเตะตัดสินใจแยกทางกับเอเยนต์ของเขา

ไคเซโด้ ประกาศผ่านทางโซเชียล มีเดียของเขาว่า มานูเอล เซียร์ร่า จะไม่ได้เป็นเอเยนต์ให้กับเขาอีกต่อไป รวมถึงคอนเฟิร์มว่า อาลี บารัท ไม่ใช่เอเยนต์ของเขาเช่นกัน

ที่ผ่านมา บารัท ไม่เคยเป็นเอเยนต์ของดาวเตะวัย 23 ปีเลย เป็นเพียงแค่คนที่คอยให้คำแนะนำกับเขาในเรื่องเส้นทางอาชีพเท่านั้น

นอกเหนือจากนี้ในคำประกาศของ ไคเซโด้ ยังบอกว่าตอนนี้เขาว่าจ้างคนที่เขาไว้ใจได้ กระนั้นเขาตัดสินใจลบโพสต์ดังกล่าวทิ้งเพราะไม่อยากให้เกิดการเข้าใจผิดว่าไม่ไว้วางใจ บารัท หรือ Epic Sports บริษัทของบารัท

แล้วจากที่ "สิงห์บลูส์" เซ็นสัญญา ไคเซโด เอาไว้จนถึงปี 2031 พ่วงด้วยอ็อปชั่นสำหรับการขยายเพิ่มอีกปี พวกเขาเลยไม่กังวลว่าการตัดสินใจเปลี่ยนเอเยนต์ของนักเตะจะส่งผลกระทบต่ออนาคต

คาดหมายกันว่า ไคเซโด้ จะได้รับรางวัลจาก เชลซี ด้วยการเพิ่มค่าเหนื่อยเพื่อตอบแทนฟอร์มที่ยอดเยี่ยมของเขา แต่สโมสรไม่ได้พบกับความกดดันให้ต้องเร่งเจรจาสัญญาใหม่

ซัมเมอร์ที่แล้วพวกเขาต่อสัญญา โคล พัลเมอร์ กับ นิโคลัส แจ๊คสัน แต่ทีมดังแห่งลอนดอนมองว่าสถานการณ์ของ ไคเซโด้ แตกต่างออกไปเพราะย้ายมาร่วมทีมด้วยค่าเหนื่อยที่มากกว่าทั้งสองคนนั้นเยอะ

การมอบรางวัลให้ ไคเซโด้ ยังเป็นไปได้ทั้งการปรับค่าเหนื่อยในสัญญาที่มีอยู่ตอนนี้ หรือผ่านทางโบนัสตามผลงานการเล่น

200k/w ยังไม่น่าเกลียด แบกจัดๆ

เอเยนต์บางคนนี่ต้นเหตุทำโค้ชปวดหัวด้วย

เคยไปฟัง podcast ของมิเกลที่มูมา บอกหัวหงอกไปปื้นนึงเพราะมิเกลกะเอเยนต์

แต่หัวอีกข้างหงอกทั้งข้างเพราะลาสซาน่าดิยาร่า

เคสมูน่าจะเป็น extreme case ของเอเยนต์คือ

- นักเตะลงเต็มเกมฟอร์มดี วันต่อมาเอเยนต์เข้ามาวอแวจะขอขึ้นค่าเหนื่อย
- จับนั่งสำรองหนึ่งเกม อาทิตย์ต่อมาเอเยนต์เข้ามาวอแวจะขอให้ขายนักเตะไปทีมอื่น

หวังว่าจะเลือกเอเยนต์ดีๆ เบื้องหลังนี่เอเยนต์คนไหนสร้างปัญหานี่น่าจะทำให้ปวดหัวพอสมควร ยิ่งบางคนเอาคนในครอบครัวมาเป็นตัวแทนอีกนี่หนักเลยนักเตะกะสโมสรเข้าสู่สถาวะ deadlock