สมัยนั้น มีกองหน้าทั้ง สเตอริด ซัวเรส มีสเตอริ่ง แล้วมีคูยินโย่

จริงๆยุคนี้ผมว่าขึ้นเกมส์รุกสวยอยู่นะ ยิงได้เป็น 100 ลูก แต่แค่ไม่ได้แชมป์

ถ้าเทียบกับยุคนี้ยืนแบบนั้นได้มั้ย

เอาจริงๆ คูตินโญ่ กะ สเตอร์ริ่ง ไม่ได้ลงด้วยกันเป็นหลักเท่าไหร่นะ

ตอนนั้นกลางจะเน้นไปที่ เฮนโด้ ลูคัส เจอร์ราร์ด อัลเลน สลับกันลงเป็นหลัก คูตินโญ่นี่มาได้ลงจริงจังก็ตอนสเตอร์ลิ่งย้ายนี่แหละ

ฟอร์เมชั่นจะไม่ได้ตายตัว ตัวรุกสามตัว ฟรีสไตล์มาก ริ่งบางทีก็ไปริมเส้น บางทีก็อยู่ตรงกลาง ซัวเรซ กะหริด ก็เหมือนหน้าตัวฟรี ไม่ค่อยยืนค้ำ แต่มันโหดเพราะแนวรุกมันชงเองจบเองได้หมด กลางเน้นไปที่การเล่นเพรส เข้าบีบไว วิงแบคก็เติมสูงอยู่ ยุคร็อดเจอร์

ถ้าจะให้เล่นคล้ายๆกัน มันติดตรงซาล่าห์นี่แหละ คือแกต้องยืนหน้าขวาปักหลักเท่านั้น พลิกแพลงไม่ค่อยได้ อย่างสเตอร์ริดจ์นี่ เป็นกองหน้าที่เคลื่อนที่ได้กว้าง ออกขวา กับหน้าเป็นหลัก

ละหน้าเรา ในตอนนี้ก็ไม่มีใครครบเครื่องได้เท่าซัวเรซ ถ้าไม่มีองค์ประกอบนี้ เล่นแผนแบบนี้ก็ไม่น่ารอด

จำได้ว่ามีช่วงที่ได้เล่นกันเต็มๆ อยู่นะครับ ปีรองแชมป์

ริ่ง --- หริด --- ซัว
---------คูตี้ --------
--- เจิด --- เฮนโด้ --
เอนริเก้ -- agger -- skrtel -- johnson
-‐--------- ซิมง ----------


คูตี้ no.10 เต็มตัว เจิด holding ปั้นเกมเกมอยู่หลัง
เฮนโด้วิ่งเป็นม้า

เจิดก็ยับไงฮะ ช่วงนั้น 5555

นึกไปนึกมา ตอนนั้นคือเกมรุกโคตรคลาสจริงๆนะ ทั้งกลาง ทั้งตัวรุกคือพร้อมใส่ได้ทุกทีม

แต่เกมรับก็พร้อมแจกให้กับทุกทีมเช่นกัน

นำโดยซิมง ตรงเป็นตุง ท่านรองแอกเกอร์ ที่แม้จะชื่นชอบแค่ไหนแต่แกเจ็บบ่อยไป
และสเกอร์เทลที่พร้อมจะพรวดทุกจังหวะ 55555

ตอนนั้นทีมสมดุลที่สุดคือตอนที่ปีรโล่เวลส์ อัลเลน ลงตัวจริง

เพราะคูตี้เกมรับสู้ใครในแดนกลางไม่ไหวครับ ฟอร์มส่วนตัวก็สู้ริ่งร่างเด็กนรกไม่ได้เหมือนกัน

แต่จะบอกว่าตัวลิ้วพูล 2025 โคตรเหมาะกับแผนนี้เลย

ปัญหาคือไอโล้นมันบ้าลูกรักนี่แหละ ต้องปั้นลูกโปเดี๋ยวไม่มีตัวยิงตอนบอลโลก

ต้องให้ลูกกราฟเล่นเกมรุก จนกลางโบ๋ เดี๋ยวไม่ได้บัลลงดอร์

ไหนจะซีเนียร์เก่าอย่างบังโม แมคก้า ที่ไม่กล้าดรอป

ทำไม เฮนโด โดนแบนช่วงท้ายฤดูมีผลกับชีวิตมากหมดลุ้นเลยทีเดียว

เท่าที่จำได้คือ เสตอริดหน้าเป้า แล้ว ซัวกับริ่งเล่นด้านข้างกว่าหน่อย
แนวรุกสู้ยุคนี้ได้เลย แต่ตัวสำรองไม่มี อารมณ์ อาเซน่อลก่อนหน้านี้
และกองหลังพร้อมแจก ถ้าได้อลิซอนซักคนก็มีลุ้นแน่ ๆ

ผมว่าเอาตัวยุคนั้นช่วงเวลานั้นเลย มาเล่นยุคนี้ที่ทีมในพรีเมียร์แต่ละทีมบ้าเพรสแดนกลางก็ตายอยู่ดีแหละ..

กลาง 3 ยุครองแชมป์ คนที่ยืนพื้น 2 คนเลยคือกัปตันกับเฮนโด้ กัปตัน(อายุมากแล้ว)เล่น DeepLying วางบอลยาวจากแดนหลัง

มีเฮนโด้เล่น b2b เป็นลูกหาบ เป็นตัวสำคัญเลย เพราะช่วยวิ่งทั้งเกมส์แทนกัปตันที่วิ่งไม่ไหวแล้ว..ช่วงปลายที่แกโดนแบนทีมยวบเห็นๆ

ส่วนกลางอีกคนสลับๆกัน คูตี้,อัลเลน,ลูคัส ซึ่งก็ไม่ใช่ตัวที่ workrate ดีอะไร เพียงแต่มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน (คูตี้จะลงมากกว่าเพื่อน)

ซึ่งก็จะเห็นได้เลยว่าแดนกลางไม่ได้มีจุดเด่นในการครองเกมส์ ไล่ตัดบอลอะไร เพราะตัวพลังงานมีแค่ 1-2 คนแค่นั้นแหละ

ที่บอกแนวรับเวิร์ลแก๊ส (แนวรุกเวิร์ดคลาส) ไม่ใช่แค่เพราะหลัง,โกล์รั่ว แบ๊คเติมสูง..แต่จุดเริ่มต้นจากกลางก็ไม่ใช่แดนที่กดคู่แข่ง

ยิ่งมายุคนี้ที่แต่ละทีมเพรสดุเดือดเพื่อชิงบอลกันกลางสนาม ไม่เว้นแม้แต่ทีมโซนล่าง ผมว่าถ้าทีมเล่นกันแบบปีนั้นก็ไม่รอดอยู่ดี

เจิดรับบอลจากโกล์ ยังไม่ทันเปิดยาว เงยหน้ามาเจอคนวิ่งมาบีบละ..คู่แข่งเจาะมามีเฮนโด้วิ่งหอบแดรกอยู่คนเดียวจะไปตัดบอลใครได้

ผมว่าแผนตอนนี้ไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาคือแดนกลางต้องเป็น ball winner มากกว่านี้..ไม่ใช่เล่นไร้พลัง เป็นกรวยให้เค้าเลี้ยงผ่านง่ายๆ

ปีที่แล้วโซโบเบอร์ 10 แต่วิ่งทั้งเกมส์เป็น b2b, แมคครองบอลเหนียว ตัดบอลเด็ดขาด, กราฟรับดี แกะเพลสได้, ดิอาส F9 ช่วยไล่อีก

ปีนี้เวียร์ตเบอร์ 10 ดูอ่อนแรง, แมคฟอร์มตกครองบอลยังพอได้ แต่เกมส์รับเหมือนกรวย, กราฟทรงๆ, อิซัคเล่นหน้าไม่ค่อยช่วยไล่

ยังไม่นับแบค 2 ข้างที่เหมือนยังปรับตัวกันไม่ค่อยได้อีก..พอรวมกแดนกลางที่ดูดรอปไป ผลลัพธ์มันก็เลยเป็นอย่างที่เห็น

เจ็บเข่านะ ถ้าจำไม่ผิด ไม่ใช่โดนแบน นัดที่เจอเชลซีในตำนานอ่ะ เฮนโด้เจ็บไปก่อน ละก็ยาวเลย ไม่เฮนโด้ก็ลูคัสอ่ะ สักคนนึง