เรื่องมีอยู่ว่าแฟนกับน้องมแฟนเอารถเข้าเงินติดล้อ(รถเป็นชื่อแฟน ตอนเอาไปผมไม่รู้เรื่อง) แต่ไม่ส่งเงินใช้เขา แล้วทีนี้ปัญหาคือเขาจะมาเอารถแต่น้องแฟนเยืมรถไป4-5เดือน แล้วตอนนี้ติดต่อไม่ได้แต่รู้ว่าทำงานอยู่บางปูเป็นโรงงานเดียวกันกับผมและพี่สาวแต่คนละที่ตั้งโรงงานมันอยู่บางปู ผมอยู่บางปะกง พี่โทรไปก็ไม่รับสาย ที่พักก็ย้าย เขาจะมายึดรถก็ไม่ได้เพราะแบบนี้แหละ

คำถามคือแจ้งความดีไหมหรือไปทางไหนดี แม่มจังไรจัดทั้งสองคนโมโหชิบหาย

ประสานไปที่ทำงาน สอบถามเพื่อนร่วมงาน หรือ HR ว่ายังทำงานอยู่ไหม
ให้เขาติดต่อกลับมา ถ้าเขายังไม่ติดต่อกลับ ก็ตัวใครตัวมัน

ที่ทำงานไม่เปิดเผยที่อยู่ได้ครับ แล้วสงสัยคือตอนนี้รถก็ไม่น่าจะอยู่แล้ว

มันคือรถแฟนท่าน ที่น้องแฟนเอาไปใช้ รวมถึงเอาไปจำนำแต่ไม่จ่ายค่างวดใช่มั้ย

ก็คุยกันอ่ะ อย่ามาเดือดร้อนเงินท่าน ให้รับผิดชอบกันเอง เต็มที่แฟนท่านก็โดนฟ้องยักยอก

แล้วแฟนท่านก็ต้องไปแจ้งความน้องว่าลักทรัพย์เป็นอีกเรื่องนึง

ถ้าทำอะไรไม่ได้แล้วก็ผ่อนกุญแจกันไป ไม่ก็แยกย้ายกันอ่ะท่านจบทุกปัญหา

ใช่ครับจะไม่เดือดร้อนก็ไม่ได้กระเป๋าเงินอันเดียวกัน ชีวิตผมไม่เคยมีหนี้มีสินแบบมีคนมาเคาะหน้าห้องทวงขนาดนี้ เลยมีความคิดว่าจะไปแจ้งความดีไหม หรือมันมีทางเลือกอื่นอีก เพราะไม่เคยมีปัญหาแบบนี้

ตัวใครตัวมัน

คุยกับแฟน ใครเดือดร้อนเงิน ถึงเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ ถ้าตัวเขาเอง คุณเลิกเถอะ อนาคต ไม่จบแค่นี้แน่

ส่วนถ้าน้องมีปัญหา พี่ช่วยน้อง อันนี้คุยกับแฟนตรงไปตรงมาได้เลย เอาไง เอารถออก หรือ ให้ไฟแนนซ์ยึดรถ ส่วนต่างที่เกิน วงเงินใครรับผิดชอบ

ตอนนี้ต้องยืนยันสถานะของรถก่อนอ่ะอยู่ดีมั้ย

ถ้าตามน้องแฟนเองไม่ได้ ต้องแจ้งความให้คำรวจช่วยตามแหละ

เรื่องต่อมาถ้าแฟนท่านไม่อยากโดนฟ้องยักยอกทรัพย์ ต้องจูงมือไปคุยรายละเอียดกับไฟแนนซ์อ่ะ

พอช่วยบรรเทาอะไรได้บ้าง

สุดท้าย ถ้าทำอะไรไมไ่ด้ ก้ไปคุยกับพ่อแม่แฟน ว่ามีมรดกหรือสมบัติอะไรที่แบ่งให้น้องแฟนมั้ย เอาไปใช้หนี้

หน้างานก้ดูเอาอ่ะ ลักทรัพย์มันถอนแจ้งความไม่ได้ จะทำอะไรก่อนหลังว่ากัน

แฟนท่านมีความเห็นยังไงครับ อันนี้สำคัญมาก

ตัวน้องแฟน(เท่าๆที่ฟังมานะ) มีปัญหาเรื่องเงิน พี่ช่วยน้องหลายครั้งแล้ว แต่ครั้งนี้ผมรับไม่ได้เท่าไหร่ ตอนนี้กำลังรอยอดเงินฝากรวมว่าที่เอาไปฝากๆไว้ทุกเดือนว่ามียอดเงินจริงไหม

เอาจริงๆท่านไม่ต้องเดือดร้อนอะไรเลยก็ได้นะครับ สองคนเค้าทำแล้วก็ให้เค้าแก้กันเอง

เหตุการณ์สมมุติ

1. แฟนกับน้องแฟนไม่ผ่อน เค้าก็หาทางยึดรถ ขายทอดตลาด ได้น้อยกว่ายอดหนี้ ก็ติดหนี้ไฟแนนซ์ต่อ ผ่อนติ่งหนี้ไป

2. แฟนติดต่อน้องไม่ได้ ก็ต้องผ่อนไปเพราะเป็นชื่อแฟน

3. ถ้าจะไม่ผ่อนต่อ ก็ไปแจ้งความยักยอกทรัพย์ ถ้าไม่แจ้ง ก็ผ่อนเองไป

4. ถ้าน้องเอารถไปขายแล้ว ก็ตัดสินใจว่า จะผ่อนลม หรือ แจ้งความยักยอกทรัพย์

ท่านไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย ให้เค้าแก้ปัญหากันเอง ไฟแนนซ์มาก็บอกว่า ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน

ทีแรกมันไม่ยอมรับว่าพาไปเอาเข้า บอกว่าน้องเอาไปเข้าเองเพราะเอกสารอยู่ในรถหมด ทีแรกผมก็เอ๊ะเขาไม่ต้องเอาเจ้าของรถตัวจริงไปด้วยเหรอ สมมุติขโมยมาทำไง จนรอบหลังมันยอมรับ

คนที่เป็นหนี้แล้วไม่คิดจะจ่ายเค้าคิดอะไรของเค้าอยู่ และต้องเป็นคนแบบใดกัน

เอาจริงนะ ผมก็เคยมีแฟนแนวนี้

คือไม่ได้นิสัยไม่ดีอะไรหรอก แต่ติดกับดักสังคมไทยคือต้องช่วยเหลือญาติพี่น้อง ช่วยจนตัวเองลำบาก แรกๆอาจจะไม่เดือดร้อนท่าน แต่เชื่อเถอะ วันนั้นมาถึงแน่ วันที่คุณต้องติดร่างแหไปด้วย

คนไทยมันถึงโงหัวกันไม่ขึ้นเพราะ ใครหาเงินได้เยอะ จะโดนจ้องเอาเปรียบจากญาติพี่น้องพวกนี้แล่ะ ยิ่งสังคมE3แถวบ้านผมบอกเลยหนักจัด ได้ดีคนนึงเกาะกันทั้งโคตร

รถผมกับแฟนก็ส่งจนหมด อยู่ดีๆก็พากันเอาไปเข้าไม่บอก จนผมเพิ่งมารู้ตอนเขามาทวง ก่อนหน้าเคยยืมไปใช้ครั้งละ2-3อาทิตย์ก็เอามาคืน บางปู-บางปะกง จนมารอบนี้ยืมไป4-5เดือนละพี่สาวมันก็ติดต่อไม่ได้ ผมโคตรโมโหอ่ะอยู่ดีๆก็มีปัญหาเฉย จากความไว้ใจเรื่องเงินกับแฟนนี่ไม่เหลือละ