ผมไม่ทันยุคนั้นจริงๆ คือคาเฟ่ ในยุคสมัยนั้นมันคืออะไร ผับหรือ หรือ โรงเหล้าปกติธรรมดา แบบแสงจันทร์ ตะวันแดง v.หรูขึ้นไปอีกระดับ หรือเล้า นึกภาพไม่ออกว่ามันคือสถานที่แบบไหนเรตไหน คนมาเที่ยว ระดับไหน แต่ที่ผมเห็นจาก vdo ตลกก็เหมือนจะเป็นแค่ คนมากินข้าวกินเหล้าทั่วๆไปเอง
ใครทันยุคนั้นเล่าให้ฟังเป็นวิทยาทานหน่อยครับ

ผมเกิดทันเห็น บรรยากาศเฉยๆนะคับด้วยความเด็กมาก(ให้ผู้รู้เล่าให้ฟัง)
คือผมทันได้เข้าไปดูจริงๆ คือ คาราโอเกะ แบบเราร้องเพลงได้เองวนๆกันไปซึ่งถือว่าเป็นของหรู
และยุคที่ร้านต่างๆ เปิดจนเกือบเช้า

แต่ว่าเห็นตามสื่อต่างๆ และรายการใหญ่ๆ
ก็จะมีคณะตลกมาออกรายการ

คาเฟ่ คือ มีโต๊ะและสั่งข้าว อาหารมากิน
มีเพลงฟัง บางทีนักร้องดัง และมีโชว์ เช่น มายากล แต่หลักๆเลยต้องมี คือตลก
ตลกคณะต่างๆ นี่ บางทีถูกกัน อยู่ด้วยกัน บางทีแยกวงไปตั้งใหม่ก็มี

แล้วก็วนกันขึ้นไปเล่นเป็นรอบๆ คงสัก 1 ชั่วโมง 1 คณะ
เคยเห็นสัมภาษณ์ ว่าไมไ่ด้เรียงความดัง (ตอนแรกผมนึกว่าช่วงเด็ดคือ 21.00 -0.00 มารู้ทีหลังว่า พอๆกัน มันต่างแค่คิว)
รายชื่อคณะก็ประมาณนี้ คณะเชิญยิ้ม คณะหม่ำ จ๊กมก จตุรงค์ ซูเปอร์บอย คณะเทพโพธิ์งาม คณะเอ็ดดี้ผีน่ารัก คณะชวนชื่น คณะรวมเพื่อน ไรงิ (ซูเปอร์บอยผมจำได้ทีหลัง พี่โหน่งมา โห ผมแบบอย่างไม่ฮาแก พอมาชิงร้อย มีคนป้อนของให้ ร่างทองออกเว่ย ผมรอดูทุกพุธ)

แล้วก็มีคาเฟ่ 2 เจ้าดัง ได้ออกโฆษณาทีวีด้วยนะ โดยเฉพาะรายการมวยพิเศษๆ จะมีโฆษณา
ตอนนั้นเฟื่องฟูมาก อีกอาชีพคือ วิศวกร คือไทยกำลังพัฒนาแบบ ต่อให้ระบบการเมืองล้ม ก็ฟื้นคืนได้เร็ว
คือใครๆก็อยากลงทุนในไทย (เพราะรอบประเทศมันไม่ปลอดภัย มีสงครามเล็กๆตลอด พวกญี่ปุ่น เกาหลี จีน อเมริกา เลยชอบมาทำโรงงาน)
ก็พวก วิศวกร และเสี่ยนี่แหละ ได้เข้าไปเปย์สาวๆ และดูตลก จ่ายเงินเยอะๆกันให้เป็นของรางวัล
จนฟองสบู่แตก 2540 เริ่มซาๆ เลยพร้อมกับการมาของ วีดีโอและ วีซีดี ไว้ดูที่บ้าน(วีดีโอมานานแล้ว)

แล้วก็ เสี่ยเจ้าของคาเฟ่ใหญ่ เสียชีวิต ด้วยอาวุธปืน 2 คน แต่ห่างช่วงเวลากัน
เลยแบบคาเฟ่ไม่บูมเลย

ทีนี้ตลกก็มาอยู่บนจอทีวี ด้วยรูปแบบของ 1 พิธีกรหล่อ + 1 ตลกไว้แบบแซวแขก
เช่น ชิงร้อย เวทีทอง อื่นๆ เยอะนะ แต่จำไม่ได้จริงๆ ตลกอยากไปรายการหนึ่งมาก มันชื่อ twilight show คือใครได้ไปคือ เบอร์ใหญ่ไพ่ใหญ่อ่ะ และผมรอดูช่วงนี้มากๆ เอาไว้ไปเล่นมุขที่โรงเรียนต่อ

นั่นแหละ ประมาณปี 2542 คณะตลก คาเฟ่ ก็เริ่มยุบๆไป

ปัจจุบัน ตลกมาในรูปแบบของ รายการทีวีชัดๆ เป็นรายการ
และ tiktok facebook content รายวัน และพวกภาพนิ่งแซว นั่นก็คือตลกนะ
เพื่อความบันเทิง ล้วนๆ กับพวก influencer สายฮา

ปล.สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ คนที่ทำให้คนอื่นหัวเราะ ตลกได้ คือ IQ ต้องสูงมากๆ
และ ในความตลก มันมีความ real ความเศร้า ความจริงอยู่ แต่ว่าต้องอยู่กับมันจนขำ ให้ได้

ร้านหมูกะทะ ก็ยังมีเลย ข้อดีคือแสดงสดๆ และบางทีก็เล่นกับลูกค้า


รถทัวร์ไปตจว.ยุคนั้น ก็เปิดแต่เทปวีดีโอตลกคาเฟ่

ผมเกิดทันเห็น บรรยากาศเฉยๆนะคับด้วยความเด็กมาก(ให้ผู้รู้เล่าให้ฟัง)
คือผมทันได้เข้าไปดูจริงๆ คือ คาราโอเกะ แบบเราร้องเพลงได้เองวนๆกันไปซึ่งถือว่าเป็นของหรู
และยุคที่ร้านต่างๆ เปิดจนเกือบเช้า

แต่ว่าเห็นตามสื่อต่างๆ และรายการใหญ่ๆ
ก็จะมีคณะตลกมาออกรายการ

คาเฟ่ คือ มีโต๊ะและสั่งข้าว อาหารมากิน
มีเพลงฟัง บางทีนักร้องดัง และมีโชว์ เช่น มายากล แต่หลักๆเลยต้องมี คือตลก
ตลกคณะต่างๆ นี่ บางทีถูกกัน อยู่ด้วยกัน บางทีแยกวงไปตั้งใหม่ก็มี

แล้วก็วนกันขึ้นไปเล่นเป็นรอบๆ คงสัก 1 ชั่วโมง 1 คณะ
เคยเห็นสัมภาษณ์ ว่าไมไ่ด้เรียงความดัง (ตอนแรกผมนึกว่าช่วงเด็ดคือ 21.00 -0.00 มารู้ทีหลังว่า พอๆกัน มันต่างแค่คิว)
รายชื่อคณะก็ประมาณนี้ คณะเชิญยิ้ม คณะหม่ำ จ๊กมก จตุรงค์ ซูเปอร์บอย คณะเทพโพธิ์งาม คณะเอ็ดดี้ผีน่ารัก คณะชวนชื่น คณะรวมเพื่อน ไรงิ (ซูเปอร์บอยผมจำได้ทีหลัง พี่โหน่งมา โห ผมแบบอย่างไม่ฮาแก พอมาชิงร้อย มีคนป้อนของให้ ร่างทองออกเว่ย ผมรอดูทุกพุธ)

แล้วก็มีคาเฟ่ 2 เจ้าดัง ได้ออกโฆษณาทีวีด้วยนะ โดยเฉพาะรายการมวยพิเศษๆ จะมีโฆษณา
ตอนนั้นเฟื่องฟูมาก อีกอาชีพคือ วิศวกร คือไทยกำลังพัฒนาแบบ ต่อให้ระบบการเมืองล้ม ก็ฟื้นคืนได้เร็ว
คือใครๆก็อยากลงทุนในไทย (เพราะรอบประเทศมันไม่ปลอดภัย มีสงครามเล็กๆตลอด พวกญี่ปุ่น เกาหลี จีน อเมริกา เลยชอบมาทำโรงงาน)
ก็พวก วิศวกร และเสี่ยนี่แหละ ได้เข้าไปเปย์สาวๆ และดูตลก จ่ายเงินเยอะๆกันให้เป็นของรางวัล
จนฟองสบู่แตก 2540 เริ่มซาๆ เลยพร้อมกับการมาของ วีดีโอและ วีซีดี ไว้ดูที่บ้าน(วีดีโอมานานแล้ว)

แล้วก็ เสี่ยเจ้าของคาเฟ่ใหญ่ เสียชีวิต ด้วยอาวุธปืน 2 คน แต่ห่างช่วงเวลากัน
เลยแบบคาเฟ่ไม่บูมเลย

ทีนี้ตลกก็มาอยู่บนจอทีวี ด้วยรูปแบบของ 1 พิธีกรหล่อ + 1 ตลกไว้แบบแซวแขก
เช่น ชิงร้อย เวทีทอง อื่นๆ เยอะนะ แต่จำไม่ได้จริงๆ ตลกอยากไปรายการหนึ่งมาก มันชื่อ twilight show คือใครได้ไปคือ เบอร์ใหญ่ไพ่ใหญ่อ่ะ และผมรอดูช่วงนี้มากๆ เอาไว้ไปเล่นมุขที่โรงเรียนต่อ

นั่นแหละ ประมาณปี 2542 คณะตลก คาเฟ่ ก็เริ่มยุบๆไป

ปัจจุบัน ตลกมาในรูปแบบของ รายการทีวีชัดๆ เป็นรายการ
และ tiktok facebook content รายวัน และพวกภาพนิ่งแซว นั่นก็คือตลกนะ
เพื่อความบันเทิง ล้วนๆ กับพวก influencer สายฮา

ปล.สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ คนที่ทำให้คนอื่นหัวเราะ ตลกได้ คือ IQ ต้องสูงมากๆ
และ ในความตลก มันมีความ real ความเศร้า ความจริงอยู่ แต่ว่าต้องอยู่กับมันจนขำ ให้ได้

เหมือนโรงเหล้า ในเวอร์ชั่่น เน้นการกินอาหาร(เหมือนโต๊ะจีนแบบกินไปคุยกันไป)
วงตลก มากกว่าวงดนตรี แบบตลกคณะนี้เล่นจบ ก็มีอีกวงมาเล่นต่อ เวียนๆไป คืนนึงน่าจะหลายคณะ
ยุคเฟื่องฟูของตลกคาเฟ่ บางคนคิวทองต้องแย่งคิวกันไปเล่นก็มี(แบบใช้ปืนขู่ด้วยตามข่าวที่ลือกันๆ)

ยุคนั้นผมยังเด็กอยู่ น่าจะวัยมัธยมต้น (ประมาณ 30 ปีที่แล้ว )
ที่รู้เพราะ เคยเห็นผ่านการดูวีดีโอเทป กับ ฟังเทปคาสเซ็ท ครับ

ปล.ผมสายตลกชอบตลกคาเฟ่ ตอนนั้นชอบคณะสีหนุ่มมาก

ตอนเด็กๆไปกับพ่อบ่อย คาเฟ่ตลกดังสมัยนั้น บรรยากาศในคาเฟ่ก็จะเหมือนงานเลี้ยงโต๊ะจีน ที่มีโต๊ะหลายร้อยที่นั่ง คนก็เข้ามากินข้าวกินเหล้ากินเบียร์ ดูการแสดงก็แค่นั้น ชาวออฟฟิสก็มักจะนิยมไปใช้บริการหลังเลิกงาน กินข้าวดูตลกคลายเคลียด จนกลายเป็นจุดนัดเจอของกลุ่มสังคม

เทียบกับสมัยนี้ก็เหมือนกับนัดไปกินเหล้าตามเล้าตามบาร์นั้นแหละ แค่เปลี่ยนจากแดนเซอร์ เป็นโชว์ตลก

บรรยากาศสมัยนี้ใกล้เคียงหน่อยก็พวก โรงเบียร์เยอรมันตะวันแดง

ที่มี ร้องเพลงมีแดนเซอร์ ตลก มายากล อะไรก็วนไป

ซื้อพวงมาลัยให้รางวัลได้ เรียกเด็กมานั่งได้

พ่อเป็นผู้รับเหมา พาไปบ่อยเวลาจบงานพาลูกน้องไปทีเป็นสิบ มันก็คือเอนเตอร์เทนเมนคอมเพลกเลย คือมันมีครบ นั่งกินดื่ม มีตลกให้ดู มีนักร้องขึ้นไปร้องเพลง ใครชอบร้องเพลงก็มีห้องคาราโอเกะ ใครจะตีหรี่ก็มีอาบอบนวด ครบจบในที่เดียว ละไม่จำกัดอายุด้วยนะ รู้สึกยุคนั้นมันยังไม่มี พรบ อะไรพวกนี้ คือเป็นสถานที่อโคจร แต่เด็กเข้าไปนั่งกินด้วยได้แบบร้านอาหารทั่วไปอะ ตอนนั้นยังเด็กแต่ก็พอจำอะไรได้แล้ว ที่จำได้แม่นเลยคือทุกที่ เหม็นบุหรี่ชิบหาย บางที่ให้สูบข้างในได้ นึกสภาพไปเที่ยวพวก ตะวันแดง ร้านชิวแบบทุกวันนี้แต่ให้สูบบุหรี่มวนในร้านได้อะ

สรุปเลยคือ ถ้าเป็นวัยรุ่นเขาก็ไปเที่ยวแนว ผับ เธค ส่วนคาเฟ่มันจะเป็นแนวๆอาเสี่ย พวกวัยทำงานหน่อย

มันก็ร้านอาหารนั้นแหละครับ แต่เป็นร้านที่มีเวทีการแสดง คนมาเที่ยวก็ครอบครัวปกติที่จะมาหาอะไรกินและมาดูการแสดงนั้นแหละ

แต่ก่อนมีหมดทั้งร้านอาหาร ร้านหมูทะ แม้กระทั่งในสนามบอลไทยลีคยุคตั้งไข่
บรรยากาศก็จะต่างจากวิดีโอที่เช่าดูหย่อยๆ เพราะมุกใต้สะดือเยอะกว่า

ใครทันยุคนี้คือ30จะ40แล้วอะ ผมทันตอนชวนชื่นคาเฟ่ฉายทางitv

ไม่รู้ตลกกลางแปลงนับเป็นคาเฟ่มั้ย
ตอนเด็กๆแม่พาไปดูคณะเสียงอีสานของนกน้อย จัดเวทีขึ้นมากลางทุ่งเลย ตอนเด็กดูไม่เข้าใจหรอก แต่โตมาย้อนดู youtube แล้วขำ ขำปอยฝ้ายมาลัยพร ตอนเด็กชอบปอยฝ้ายมาก ภาพจำของผมคือเป็นตลก ไม่ใช่นักร้อง


ร้านหมูกระทะแถวนวมินเมื่อ20ปีก่อน จำได้ที่บ้านพาไปกินแล้วมีตลกให้ดู วันนั้นมี โยกเยก โน้ตเชิญยิ้ม ตอนเด็กรู้จักแค่นั้น

มันก็ร้านอาหาร ที่มีตลกมาเล่นนี้แหละ แต่สถานที่เป็นแบบปิด มีขายเหล้า ขายเบียร์ทั่วไป. ตลกแดกก็มาจากยุคนั้น นามสกุลเชิญยิ้มทั้งหลายก็มาจากคาเฟ่ ตัวอย่างเช่น เจี๊ยบ เชิญยิ้ม หรือที่ใครหลายคนรู้จักในนาม พี่ยม เป็นต่อ นั้นก็ตลกครอบครัว คำพูดของวงก็อวยลูกชายผมทุกเทป. หม่ำเท้งโหน่งก็มาจากคาเฟ่.

ความดังของตลกคาเฟ่ มันน่าสนใจขนาดต้องเชิญมาเล่นมาแสดงสด ในรายการฟุตบอลไทย เพื่อดึงดูดคนมาดูบอลในยุคหนึ่ง.

ก็เหมือนร้านนั่งดื่ม สมัยนี้แหละ เย็นๆ ค่ำๆ วงเพลงเพื่อชีวิต สักสามทุ่มขึ้นเป็นแนววัยรุ่นแล้ว เปรียบกับเมื่อก่อนหัวค่ำก็ วงตลก ดึกหน่อยก็นักร้องลูกทุ่ง สตริง

มันบูมขนาดว่า ตอนเด็กช่วงปิดเทอม ยังไปเช่าวีดีโอมาดู ตลกคาเฟ่พวกนี้อะ
เคยได้ยินแต่ชื่อ ไม่เคยเข้า ดังๆก็ พระราม9คาเฟ่ กับ วิลล่่ คาเฟ่

ป้า เคยพาไป ตอนเด็กๆ ธนบุรี คาเฟ่ / กรุงธน ตรง ท่าพระ

จำไม่ได้กี่ ขวบ เพราะบ้านอยู่ ฝั่งธน

1.อารมณ์แบบผับ + ร้านอาหาร ทั่งวไป มีโต๊ะ สั่งอาหารมากิน

2.มีตลก เล่น แทบจะตลอดตั้งแต่ เย็น-ตี2 ตี 3

สลับกะนักร้อง มาร้องเพลง

3.นอกเหนือจากตรงนั้น มีโต๊ะ สนุกเกอร์ คาราโอเกะ แยก

เป็น โซนออกไป

เท่าที่จำได้คร่าวๆ ตอนนี้ผมอายุ 37 น่าจะยุคปลายๆของ

คาเฟ่ละ ตอนผม เด้กๆ

ปล.แต่ละโต๊ะ บ่งบอก ฐานะ ในการแจกเงิน ทิป คล้องมาลัย เรียกนักร้องลงมาที่โต๊ะ สูบบุหรี่ ในร้านได้ด้วย ปิด กันยันเช้า