แขวนสตั๊ด
Status:

: 1 ใบ

: 0 ใบ
เข้าร่วม: 02 Dec 2009
ตอบ: 9359
ที่อยู่: Bangkok
โพสเมื่อ: Sun Oct 12, 2025 12:42
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยังคงเป็นประเด็นข่าวต่อเนื่อง
วันก่อนผมเขียนลงเพจเรื่อง "ลือเจรจาขายทีม"
โพสต์นั้นจากระดับคีย์แมนของประเทศซาอุ
เชื่อหรือไม่อีกเรื่องหนึ่ง....ฟังหูไว้หูพอได้
เพราะเราปิดประตูเรื่อง "ซื้อและขาย" ไม่ได้
ต้องแง้มๆเอาไว้บ้าง เผื่อหาทางออก
วันสองวันที่ผ่านมาสื่ออังกฤษตามมอนิเต้อเรื่องนี้
แล้วพบว่า....มันมีอะไรในกอไผ่จริงๆ
เจรจาซื้อขายหรือไม่....อีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่มั่นใจได้
คือว่า...บ้านเกลเซอร์ รอวันขายแมนฯยูฯ จริง
นี่อาจเป็นข่าวดีของแฟนผีที่ทนมา 20 ปี
นับจากบ้านเกลเซอร์ เข้ามาเป็นเจ้าของทีม
2005-2013 อาศัยบารมี เซอร์ อเลกส์ เฟอร์กูสัน
ความสำเร็จยังคงมีต่อเนื่อง
พอท่านเซอร์ วางมือเท่านั้นแหละ
12 ปี ผ่านไปใช้โค้ชไป6 คน ไม่นับรักษาการ
แฟนผีที่โน่นก็ก่นด่าทุกเกม Glazers out
ทุกครั้งมีข่าวเรื่องการซื้อขายสโมสรดังขึ้น
แฟนบอลก็เตรียมเฮ แม้รู้ว่ามันไม่ง่าย
ดีลที่ใกล้เคียงที่สุดคือเมื่อปี2023 หลายกลุ่มทุน
ทั้งกาตาร์, อเมริกัน และเซอร์ จิม แรทคลิฟฟ์
ก่อนจบที่เซอร์จิม ซื้อหุ้น27.7% ตอนนี้เพิ่ม29.8%
ได้ดูแลงานส่วนฟุตบอลทั้งในและนอกสนาม (การเงิน)
ตัดมาที่....โพสต์ของตูร์กี อัลชีค
ปธ.บริหารอุตสาหกรรมบันเทิงซาอุ
ผู้มีความใกล้ชิดกับเจ้าชายซาอุ โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน
ดูเหมือนสื่ออังกฤษขุดคุ้ยแล้วพบว่ามันมีอะไรแปลกๆ
นั่นคือ "สัญญา" ที่บ้านเกลเซอร์ ทำไว้กับเซอร์จิม
"Drag along rights clause"
ผมถามผู้รู้รุ่นน้องในวงการตลาดหุ้นแล้วได้ความว่า...
"Drag along rights clause" (สิทธิ์การลากพา)
คือข้อกำหนดในสัญญาผู้ถือหุ้นที่..
ให้อำนาจผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่บังคับให้..
ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยขายหุ้นของตนไปด้วย
เมื่อผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ต้องการขายกิจการทั้งหมด
สัญญานี้แนบรายละเอียด สิทธิ์ลากพา ให้กับตลาดหุ้นนิวยอร์ค
เริ่มมีผล ส.ค.2025 หมดอายุ ก.พ. 2027
หรืออีก18 เดือนนับจากนี้
รายละเอียดสัญญานี้ทำให้สื่ออังกฤษนำมาขยายผล
หลังจาก อัลชีค ผู้บริหารใหญ่โพสต์...
ตีความง่ายๆเลยนะครับว่า....
18 เดือนนี้ถ้าบ้านเกลเซอร์ ขายสโมสรในฐานะหุ้นใหญ่
หุ้นส่วนน้อยของเซอร์ จิม ต้องขายหุ้นทั้งหมดด้วย
โครงสร้างบริหารทีมตอนนี้
หุ้นแมนฯยูฯมี 2 คลาส A และ B
คลาสA อยู่ในตลาดหุ้นนิวยอร์ค คนทั่วไปซื้อได้
มีจำนวน 56.1 ล้านหุ้น บ้านเกลเซอร์ถือ 3.04%
ส่วนคลาส B จำนวน 116.3 ล้านหุ้น
อยู่ในมือบ้านเกลเซอร์ และเซอร์ จิม
(ตอนเซอร์ จิม ซื้อ...ให้ราคา $33 เหรียญต่อหุ้น
ราคาตลาดตอนนั้น 13-15 $ ต่อหุ้น)
หุ้นคลาสบีนั้น บ้านเกลเซอร์ 71.04% รวมกัน 6 พี่น้อง
โจ, ดาร์ซีย์,ไบรอัน, อฟราม, เควิน,เอ็ดเวิร์ด
โจ กับ ดาร์ซีย์ เยอะหน่อย 14 %+
ส่วนบริหารหลักๆนั้น โจ กับ อฟราม ทำ
คนอื่นมีชื่อในบอร์ดบริหาร
ที่น่าสนใจหลังข่าวจากโพสต์ของ อัล ชีค นั้น
มันมีคำถามที่นักข่าวถามเรื่องความสัมพันธ์
ระหว่างบ้านเกลเซอร์ กับเซอร์ จิม
ถ้าบ้านเกลเซอร์ จะปลด รูเบน อโมริม ละ
แล้วถ้าบ้านเกลเซอร์ จะแอบเจรจาขายทีมละ
เซอร์ จิม ยืนยันว่า "ความสัมพันธ์สองกลุ่มทุนเหนียวแน่น"
เขาไม่คิดว่า บ้านเกลเซอร์ จะสั่งปลด อโมริม
เขาไม่คิดว่า บ้านเกลเซอร์ จะแอบเจรจาขายทีมลับหลัง
(ซึ่งทำได้ตามสัญญา)
นี่แหละน่าคิด....เพราะบ้านเกลเซอร์คุมทุกอย่าง
ดังนั้นประเด็นข่าวจากซาอุและสัญญาสิทธิ์ลากพา
สรุปง่ายๆว่า....
1 ถ้าบ้านเกลเซอร์ หุ้นใหญ่ขายกิจการ
หุ้นน้อยอย่างเซอร์ จิม ต้องขายตามสัญญา18 เดือน
โดยไม่ต้องปรึกษาหรือบอกเซอร์ จิม
2 ถ้าขายช่วงนี้และอยากได้กำไร
ราคาต่อหุ้นต้องได้ $33 ขึ้นไป ตามที่เซอร์จิมซื้อ
แต่ถ้าหลัง18 เดือนแล้วเซอร์ จิม จะเสียเปรียบ
หากขายราคาต่ำกว่า $33
โดยราคาหุ้นแมนฯยูฯ ล่าสุด $15.96ต่อหุ้น
(12 ต.ค. ขณะที่ผมเขียนบทความนี้)
3 เซอร์ จิม คงไม่อ่อนด้อยในเรื่องธุรกิจแน่ๆ
การทำสัญญาสิทธิ์ลากพา เป็นหนึ่งในเงื่อนไข
แล้วเซอร์ จิมต้องรู้ว่า บ้านเกลเซอร์ รอขายทีม
มองกันแบบไม่ต้องซับซ้อนเลยนะครับ
ถ้าคุณเป็นนักลงทุน คุณจะซื้อช่วงนี้มั้ย
บ้านเกลเซอร์ ต้องบวกราคาจาก $15.96 ไปเท่าไหร่
หากพวกเขาหวังฟันกำไรมหาศาล
อีกทั้งต้องนำเงินจ่ายเซอร์ จิม $33 ต่อหุ้นด้วย
แบบนี้สู้นักลงทุนรอให้พ้นระยะสัญญา 18 เดือน
แล้วซื้อราคาถูกกว่า $33 มิดีกว่าหรือ....
หลายคนบอกว่าเซอร์ จิม เขี้ยวน้อยกว่า
แต่มันมีสัญญา drag along right clause
เท่ากับในระยะเวลา 18 เดือน เซอร์ จิม ไม่เสียเปรียบ
บ้านเกลเซอร์ขายเท่าไหร่
คุณก็ต้องจ่ายเซอร์จิม $33 ต่อหุ้นอยู่ดี
คุณขายได้มากกว่าตัวเลขนี้ก็เป็นกำไรของคุณ
นั่นแหละ...ที่มีคำถามตามมาว่าใน 18 เดือนนี้
นักลงทุนจะซื้อหุ้นแมนฯยูฯ มากกว่า $33 มั้ยละ
(ต่อให้ตกลงกันนอกตลาดหุ้นก็เถอะครับ)
รอ...หลังก.พ. 2027 ยังไงก็ไม่น่าถึงตัวเลขนั้น
คิดง่ายๆว่าอีก18 เดือนข้างหน้านั้น...
ราคาต่อหุ้นแมนฯยูฯ จะสูงกว่า $15.96ไปเท่าไหร่
มันขึ้นกับปัจจัยหลายอย่าง....
หนึ่งในนั้นคือ "ผลงาน" ในสนาม
ที่ส่งผลต่อมูลค่าหุ้นแน่นอน....
ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่.....
ถึงวันนี้ภาพชัดเจนแล้วนะครับว่า
บ้านเกลเซอร์ รอวันขาย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ด้วยปัจจัยเดียวคือ "มูลค่า" สโมสรนั้นไปถึงตัวเลขไหน
ถ้าวัดราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ £2-3พันล้าน
ถ้าตีมูลค่าให้มันสูงกว่านี้ก็ต้องไปถึง £4 พันล้าน
แหม....ปี2005กู้เงินมาซื้อแมนฯยูไนเต็ด £790 ล้าน
ตอนนี้ยังผ่อนต้นและดอกเบี้ยอยู่เลย
ข่าวว่าจะรีไฟแน้นส์ อีกรอบ
ขายราคาไหนบวกอัตราเงินเฟ้อ...ไปด้วย
บ้านเกลเซอร์ ยังกำไรหลายเท่า
กระนั้น....มิให้เสียยี่ห้อ ยิวเกลเซอร์
จะขายแมนฯยูไนเต็ด ทั้งที ต้องเอาให้กำไรสุดๆ
ขายแล้วร่ำรวยมหาศาล รับเละๆ กันทั้งครอบครัว
ผมคิดเล่นๆนะครับ ระดับ£4 ถึง5 พันล้าน
เป็นสถิติโลกทีมบอลราคาแพงที่สุด
ส่วนเมื่อไหร่นั้น....
เชื่อว่า คงไม่นานหลังจากนี้
JACKIE
โหวตเป็นกระทู้แนะนำ